บทที่ 36
รับพิธีการและพรของพระวิหาร
พระนิเวศน์ของพระเจ้าคือสถานที่ซึ่งพระองค์จะทรง “เปีดเผยแก่ผู้คนของพระองค์ถึงพิธีการแห่งพระนิเวศน์ของพระองค์รัศมีภาพแห่งอาฌาจักรของพระองค์ และทรงสอนผู้คนถึงทนทางสู่ความรอด”
จากชีวิตฃองโจเซฟ ลมิธ
จากยุคแรกของการฟื้นฟู พระเจ้าทรงสอนศาสดาโจเซฟ สมิธถึงความสำคัญ ของการสร้างพระวิหาร ถึงแม้ศาสดาจะถูกบังคับให้ย้ายหลายครั้งอีกทั้งต้อง เผชิญกับความจำเปีนเร่งด่วนที่เรียกร้องเวลาและความเอาใจใส่จากท่านอย่าง ต่อเนื่อง แต่ท่านก็ไม่เคยลืมความจำเปีนในการสร้างพระนิเวศน์ของพระเจ้า ที่ดินสำหรับก่อสร้างพระ วิหารไต้รับการอุทิศในอินดิเพ็นเด็นซ์ มิสซู่รี พระวิหาร ที่สวยงามเสร็จสมบูรณ์และไต้รับการอุทิศในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอ ที่ฟาร์เวสน์ มิสซู่รี มีศิลามุมเอกวางไว้เพียงเพื่อจะถูกละทิ้ง ปัจจุบันขณะที่สมาชิกศาสนา จักรเริ่มสร้างชีวิตใหม่ในนอวู—หลายคนขาดแคลนอาหาร ที่พักอาศัย หรืองาน อาชีพ—โจเซฟ สมิธ รู้ว่างานที่สำคัญที่สุดของสิทธิชนคือการสร้างพระวิหาร อีกครั้ง
เพื่อตอบรับพระบัญชาของพระเจ้า (ดู ค.พ. 124:25–28) ศาสดาและสิทธิชนเดินหม้าอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำไต้เพื่อเริ่มสร้างพระนิเวศน์ของพระเจ้า แต่ศาสดาตระหนักว่าการก่อสร้างจะใช้เวลาหลายปี และท่านรู้ว่าสิทธิชนต้องการ พรที่สมบูรณ์ของพระวิหาร ต้วยเหตุนี้ในวันที่ 4 พฤษภาคม ค.ศ. 1842 แม้ว่า พระวิหารจะ ยังไม่สมบูรณ์ แต่ศาสดาก็ไต้ปฎิบัติเอ็นดาวเม้นท์ให้พื่ม้องชายที่ซื่อสัตย์กลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่ง
พื่ม้องชายกลุ่มนี้ประชุมกันในห้องชั้นบนขนาดใหญ่ที่ร้านอิฐแดงของศาสดา ซึ่งไต้ “จัดขึ้นแทนห้องภายในพระวิหารตราบเท่าที่สภาพการณ์เอื้ออำนวย”1 แฟรงคสิน ดี. ริชาร์ดส์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเขียนว่า “เมื่อพระวิญญาณกระตุ้นเตือน [โจเซฟ สมิธ] ว่างานในชีวิตท่านใกล้ถึงจุดสิ้นสุด และ เมื่อท่านเห็นว่าวันเวลาของท่านบนแผ่นดินโลกจะสิ้นสุดก่อนที่พระวิหารจะเสร็จ สมบูรณ์ ท่านเรียกผู้ที่ได้รับเลือกไม่กี่คนและประสาทพิธีการเอ็นดาวเน้นท์อัน ศักคิ์สิทธี้แก่พวกเขา เพื่อว่าทรัพย์สมบัติจากสวรรค์ในความคิดของท่านจะไม่ถูกทำลายไปจากโลกพร้อมกับความตายของท่าน”2
ประวัติของศาสดาบันทึกไว้ว่า “ข้าพเจ้าขลุกอยู่ที่ชั้นบนของร้าน … ประชุมกับท่านนายพลเจมส์ แอดับ จากสปริงทีเลด์ ไฮรัม สมิธ ผู้ประสาทพร อธิการนิวเวล เค. วิทนีย์ จอร์จ บิลเลอร์ ประธานบริกัม ยังก์ เอ็ลเดอร์ฮีเบอร์ ซี. คิมบัลล์ และวิลลาร์ด ริชาร์ดส์ เพื่อใน้คำแนะนำแก่พวกเขาในเรื่องหลัก ธรรมและระเบียบของฐานะปุโรหิต การประกอบพิธีการชำระและชโลม เอ็นดาวเน้นท์ การสื่อสารของกุญแจเกี่ยวกับฐานะปุโรหิตแห่งแอรันและอื่นๆ จนถึงระเบียบที่สูงกว่าของฐานะปุโรหิตแห่งเม็ลคิเซเด็ค อธิบายถึงระเบียบของ เมธีโบราณ แผนและหลักธรรมทั้งปวงเหล่านั้นที่ทำให้ทุกคนสามารถได้รับพรอัน สมบรณ์ซึ่งเตรียมไว้สำหรับศาสนาจักรของพระบตรบัวปี เพื่อมาอยู่ในสถานที่ ประทับฃอืโลฮิมในโลกแห่งนิรันคร์ สฦานี้้ไค้รับการสฤาปนาระเบียบต่างๆ ใน สมัยโบราณขึ้นเปีนครั้งแรกในวันเวลาสุดทึายเหล่านี้
“การสื่อสารของข้าพเจ้ากับสภานี้เปีนเรื่องทางวิญญาณ และจะรับได้อ็เฉพาะ ผู้ใสไจเรื่องทางวิญญาณเท่านั้น ชายเหล่านี้ไม่ได้รู้สื่งใดเว้นแต่สื่งที่จะทำให้เปีน ที่รู้แก่สิทธิชนทั้งปวงในวันเวลาสุดท่าย ไม่นานหลังจากที่พวกเขาพร้อมจะรับ สิ่งเหล่านี้และเตรียมสถานที่เหมาะสมเพื่อสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ แท่กับคน อ่อนแอที่สุดในสิทธิชน ดังนั้นขอให้สิทธิชนจงพากเพียรในการสร้างพระวิหาร และพระนิเวศน์ทั้งปวงทุกหนแห่งที่พวกเขาไป หรือที่จะสร้างต่อไปในอนาคต ตามพระบัญชาจากพระผู้เปีนเจ้า”3
ขณะที่สิทธิชนส่วนใหญ่จะได้รับเอ็นดาวเน้นท่พระวิหารหลังจากพระวิหาร นอวูสร้างเสร็จ บุรุษและสตรีจำนวนจำกัดได้รับพรนี้ไม่กี่เดือนหลังจากการประชุมในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1842 เมอร์ซี พีลติง ธอมบีสัน เปีนคนหนึ่งใน บรรดาคนเหล่านี้ ในเวลาที่เธอรับเอ็นดาวเน้นท่ของเธอ ศาสดากล่าวกับเธอว่า “สิ่งนี้จะนำคุณออกจากความมืดเข้าไปสู่ความสว่างอันน่ามหัศจรรย์”4
คำลโอนฃองโจเซฟ สมิธ
สิทธิชนได้รับบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าให้สร้างพระวิหาร
ในดือนมกราคม ค.ศ. 1833 ในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอ ศาสดาเขียนว่า: “พระเจ้าทรงบัญชาให้เราที่อยู่ในเคิร์ทแลนด์สร้างพระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้า … นี่คือพระคำที่พระเจ้าตรัสกับเราและเราจะต้องทำตาม แท้จริงแล้วพระเจ้า จะทรงช่วยเรา เราจะเชื่อฟ้ง เพราะเมื่อเราเชื่อฟ้งพระองค์ทรงสัญญาว่าจะมีสิ่ง ใหญ่ยิ่งให้เรา แท้การมาเยือนจากสวรรค์เพื่อประทานเกียรติแก่เรา ต้วยการ ประทับอยู่ของพระองค์เราหวาดกลัวอย่างยิ่งต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าเกลือก เราจะไม่คู่ควรต่อเกียรติอันสูงส่งบื้ที่พระอาจารย์ตั้งพระทัยจะมอบให้เรา เรา แสวงหาความนอบน์อม และศรัทธากันแรงกล้าเพื่อมิให้เราต้องอับอายในที่ ประทับของพระองค์”5
ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1840 ศาสดาและที่ปรึกษาของผ่านในฝายประธาน สูงสุดประกาศว่าถึงเวลาสร้างพระวิหารนอวูแล้ว: “เพื่อทำให้ [การสร้างพระวิหาร] เสร็จสมบูรณ์ จะต้องมีความพยายามอย่างยิ่งยวดและจะต้องเรียกร้อง ทรัพย์สินจำนวนมาก—และเนื่องจากงานจะต้องเร่งรีบในความชอบธรรมจึงเป็น การสมควรที่สิทธิชนประเมินความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ ในความคิด ในทุกสิ่ง ที่เกี่ยวข้อง และจากนั้นทำขั้นตอนที่จำเป็นซึ่งพาไปสู่ขั้นตอนปฏิบัติการ สร้าง ขวัญและกำลังใจให้ตนเอง ลงมือทำทุกอย่างที่ทำไต้ และทุ่มเทความเอาใจใส่ เสมือนหนึ่งว่างานทั้งหมดจะสำเร็จไต้ต้วยตนเองลำพัง โดยการทำเช่นนี้พวก เขาจะไต้ชื่อว่าดำเนินตามการกระทำอันน่าสรรเสริญของบรรพบุรุษ รับพรจาก สวรรค์มาสู่ตนเองและลูกหลานตราบจนอนุชนรุ่นสูดท้าย”6
ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1841 ศาสดาและที่ปรึกษาของท่านในผ่ายประธาน สูงสูด เขียนว่า: พระวิหารของพระเจ้าอยู่ในขั้นตอนการปลูกสร้างที่นี่ [ในนอวู] ซึ่งสิทธิชนจะมานบัสการพระผู้เป็นเจ้าแห่งบรรพบุรุษพวกเขา ตามระเบียบของ พระนิเวศน์และอำนาจฐานะปุโรหิตอันศักดสิทธี้ และจะสร้างขึ้นเพื่อให้สามารถ ใช้ฐานะปุโรหิตทุกหน์าที่ไต้อย่างเหมาะสม เป็นสถานที่ซึ่งจะไต้รับคำแนะนำ จากพระผู้สูงสูด และจากสถานที่นี้ไปสู่ดินแดนห่างไกล ขอให้เราทุ่มเทพลัง ทั้งหมดของเรา… พยายามทำตามการกระทำของบรรพบุรุษ และปีตุแห่งพันธสัญญาโบราณในสิ่งที่สำคัญอย่างอเนกอนันต์ต่อคนรุ่นนี้และอนุชนรุ่นหลังทุกๆ รุ่น”7
ในต้นปีค.ศ. 1841 ศาสดาสอนเรื่องต่อไปนี้ตามที่วิลเลียม พี. แมคอินไทร์ บันทึกไว้: “โจเซฟพูดว่าพระเจ้าตรัสว่าเราควรสร้างท้านของเราแต่พระนามของ พระองค์ เพื่อเราจะได้บัพติศมาให้ผู้ล่วงลับ แต่ก้าเราไม่ทำ เราจะถูกปฏิเสธ พร้อมด้วยคนตายของเรา และศาสนาจักรนี้จะไม่เปีนที่ยอมรับ [ดู ค.พ. 124:32]”8
ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1842 ศาสดากล่าวว่า: “ศาสนาจักรยังจัดตั้งไม่สมบูรณ์ ตามระเบียบที่ถูกด้อง และไม่สามารถเปีนสถานที่ซึ่งจัดเตรียมไว้ปฏิบีติพิธีการ ฐานะปุโรหิตได้จนกว่าจะสร้างพระวิหารให้เสร็จสมบูรณ์”9
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1842 ศาสดาประกาศว่า: “พระเจ้าทรงบอกให้เรา สร้างพระวิหาร [นอวู] … และพระบัญชานั้นผูกบัดอยู่กับเราเช่นเดียวกับพระบัญชาอื่น และห้าผู้ใดไม่เข้ามาบีส่วนร่วมในสิ่งเหล่านี้ถือเปีนการล่วงละเมิด เทียบเท่าลับการไม่รักษาพระบัญญติข้ออื่น เขาไมไช่ผู้ที่ทำตามพระประสงค์ของ พระผู้เปีนเจ้า ไมไช่ผู้ที่ทำให้กฎของพระองค์บีลัมฤทธิผล”10
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1843 ศาสดาตักเดือนสิทธิชนว่า: “จงรีบทำงานใน พระวิหาร จงพยายามอีกครั้งเพื่อทำให้งานทุกอย่างในยุคสุดห้ายรุดหห้าไป และ จงดำเนินชีวิตต่อเบื้องพระพักตร์ของพระเจ้าด้วยสติและความชอบธรรม”11
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1844 ศาสดาประชุมกับอัครสาวสิบสองและคณะ กรรมการพระวิหารนอวูเพื่อสนทนาว่าจะจัดสรรทรัพยากรเพียงห้อยนิดของศาสนาจักรได้อย่างไร ในการปร ะชุมนี้ศาสดาพูดว่า “เราด้องการพระวิหารมากกว่า สิ่งอื่นทั้งหมด”12
ในพระวิหารเราเรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เปีนนิรันดรและรับพิธีการ แห่งความรอดเพื่อตัวเราและบรรพชนของเรา
“จุดประสงค์ของการรวม…ผู้คนของพระผู้เปีนเจ้าในทุกยุคทุกสมัยของ โลกคืออะไร…จุดประสงค์หลักคือเพื่อสร้างพระนิเวศน์แต่พระเจ้าซึ่งที่นั่น พระองค์ทรงสามารถเปีดเผยแก่ผู้คนของพระองค์ถึงพิธีการแห่งพระนิเวศน์ของ พระองค์และรัศมีภาพแห่งอาณาจักรพระองค์ และทรงสอนผู้คนถึงหนทางสู่ ความรอดเพราะบีพิธีการและหลักธรรมบางอย่างซึ่งเมื่อสอนและปฏิบัติจะด้อง ทำในสถานที่หรือพระนิเวศน์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์นั้น
“… พิธีการสถาปนาขึ้นในสวรรค์ก่อนการวางรากฐานของโลก ด้วยอำนาจ ฐานะปุโรหิต เพื่อความรอดของมนุษย์ ซึ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแห้ไข ทุกคนจะด้องได้รับความรอดด้วยหลักธรรมเดียวกัน
“สิ่งนี้มีจุดประสงค์เดียวทับที่พระผู้เปีนเจ้าทรงรวบรวมผู้คนของพระองค์ใน วันเวลาสุดท้ายให้สร้างพระนิเวศน์แต่พระเจ้าเพื่อเตรียมพวกเขาสำหรับพิธีการ ต่างๆ และเอ็นดาวเบ้นท์ การชำระและการชโลม เปีนท้น พิธีการหนึ่งใน พระนิเวศน์ของพระเจ้าคือบัพติศมาแทนคนตาย พระผู้เปีนเจ้าทรงประกาศิต ก่อนการวางรากฐานของโลกว่าพิธีการควรปฏิบัติในอ่างบัพติศมาที่เตรียมไว้ สำหรับจุดประสงค์นั้นในพระนิเวศน์ของพระเจ้า …
“หลักคำสอนเรื่องบัพติศมาแทนคนตายแสดงไว้อย่างชัดเจนในพันธสัญญา ใหม่… นั่นคือสาเหตุที่พระเยซูตรัสกับชาวยิวว่า ‘เราใคร่จะรวบรวมลูกของเจ้า ไว้เนืองๆ เหมือนแม่ไก่กกลูกอยู่ใต้ปีกของมัน แต่เจ้าไม่ยอมเลยหนอ’ [มัทธิว 23:37]—เพื่อพวกเขาจะเข้าร่วมในพิธีการบัพติศมาแทนคนตายเช่นเดียวกับพิธี การฐานะปุโรหิต และรับการเปีดเผยจากสวรรค์ เปีนผู้ที่เพียบพร้อมในเรื่อง ต่างๆ ที่เกี่ยวกับอาณาจักรของพระผู้เปีนเจ้า—แต่พวกเขาจะไม่ถูกรวบรวม นึ่คือกรณีที่เกิดขึ้นในวันเพ็นเทคอสต์ พรเหล่านั้นหลั่งรินมาบนสานุศิษย์ใน โอกาสนั้น พระผู้เปีนเจ้าทรงกำหนดว่าพระองค์จะทรงช่วยคนตายใท้รอดและ จะทรงทำโดยการรวบรวมผู้คนของพระองค์ …
“… เหตุใดพระผู้เปีนเจ้าจึงทรงรวบรวมผู้คนไว้ในสถานที่นี้ เพราะทรงนืจุด ประสงค์เดียวกับที่พระเยซูทรงท้องการรวบรวมชาวยิว—เพื่อใท้รับพิธีการ พร และรัศมีภาพที่พระผู้เปีนเจ้าทรงนืไว้ใท้สิทธิชนของพระองค์ บัดนี้ข้าพเจ้าจะ ถามผู้ที่เข้าร่วมประชุมนี้และสิทธิชนทุกคนว่าท่านจะสร้างพระนิเวศน์นี้พร้อม ทั้งรับพิธีการและพรซึ่งพระเจ้าทรงนืไว้ใท้ท่านหรือไม่ หรือท่านจะไม่สร้างพระนิเวศน์นี้ถวายแต่พระเจ้า และใท้พระองค์เสด็จผ่านไปและประทานพรเหล่านี้ แก่คนอื่น”13
“ทันทีที่จัดเตรียมพระวิหาร [นอวู] และอ่างบัพติศมา เราคะเนว่าจะใท้ เอ็สเตอร์แห่งอิสราเอลรับการชำระและการชโลม พร้อมทั้งเข้าร่วมพิธีการ สุดท้ายซึ่งน่าประทับใจกว่าและท้าปราศจากพิธีการนี้เราจะไม่ไต้รับบัลลังก์แห่ง อาณาจักรชั้นสูง แต่จะต้องมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เตรียมไว้เพื่อจุดประสงค์นั้น มี การประกาศท้อยแถลงระหว่างการวางรากฐานของพระวิหารเพื่อทำใท้เกิดผลนั้น และมีการกำหนดสิ่งต่างๆ จนกระทั่งงานสำเร็จ ต้วยเหตุนี้ผู้คนจึงไท้รับเอ็นดาวเบ้นท้และเปีนราชาและปุโรหิตของพระผู้เปีนเจ้าสูงสุด…อย่างไรก็ตามจะ ต้องมีสถานที่สร้างขึ้นเปีนพิเศษเพื่อจุดประสงค์นั้น และเพื่อมนุษย์จะไท้รับบัพ ติศมาแทนคนตาย…
“พระเจ้าทรงมีกฎที่สถาปนาไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นคือต้องมีสถานที่เฉพาะ เพื่อความรอดของคนตาย ข้าพเจ้าเชื่ออย่างยิ่งว่าจะมีสถานที่นั้น และจากนี้ไป คนที่ต้องการช่วยผู้วายชนม์ของพวกเขาให้รอดสามารถพาครอบครัวของพวกเขามาทำงานโดยรับบัพติศมาและประกอบพิธีการอื่นๆ ให้ผู้วายชนม์ของพวก เจา”14
“คำถามที่ถามบ่อยๆ คือ ‘เราจะรอดไม่ไต้ถ้าปราศจากการประกอบพิธีการ เหล่านั้นทั้งหมดหรือ’ ข้าพเจ้าขอตอบว่า ไม่ จะไม่ไต้รับความรอดที่สมบูรณ์ พระเยซูตรัสว่า ‘ในพระนิเวศน์ของพระบิดาเรามีที่อยู่เปีนกันมาก เราจะไปจัด เตรียมที่ไว้สำหรับท่านทั้งหลาย’ [ดู ยอห์น 14:2] พระนิเวคม์ไนที่นี้ควรแปล ว่าอาณาจักร และบุคคลใดก็ตามที่สูงส่งถึงที่อยู่สูงสุดต้องปฏิบัติตามกฎของ อาณาจักรชั้นสูง และกฎทั้งหมดต้วย”15
“ถ้าชายใดไต้รับความสมบูรณ์แห่งฐานะปุโรหิตของพระผู้เปีนเจ้า เขาจะต้อง ไต้รับต้วยวิธีเดียวกับที่พระเยซูคริสต์ทรงไต้รับความสมบูรณ์นี้ นั่นคือการรักษา พระบัญญัติทั้งหมดและปฏิบัติตามพิธีการทั้งหมดในพระนิเวศน์ของพระเจ้า …
“มนุษย์ทุกคนที่เป็นทายาทของพระผู้เปีนเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระเยซูคริสต์ จะได้รับความสมบูรณ์ของพิธีการแห่งอาณาจักรของพระองค์ และผู้ที่ไม่รับพิธีการทั้งหมดจะขาดความสมบูรณ์ของรัศมีภาพนั้น”16
“หากเราสามารถอ่านและเข้าใจสิ่งทั้งหมดที่เขียนไว้นับจากสมัยของแอดัม เกี่ยวกับสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์กับพระผู้เป็นเจ้าและเหล่าเทพในสภาพการณ์ของอนาคต เราก็จะรู้เกี่ยวกับสิ่งนี้เพียงเล็กนัอย การอ่านประสบการณ์ ของผู้อื่นหรือการเปีดเผยที่ประทานให้พวกเขา ไม่สามารถทำให้เราเห็นภาพที่ สมบูรณ์ของสภาพการณ์และความสัมพันธ์อันแห้จริงของเรากับพระผู้เป็นเจ้า ความรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้จะมีได้จากประสบการณ์โดยผ่านพิธีการต่างๆ ของพระผู้เป็นเจ้าที่กำหนดไว้เพื่อจุดประสงค์นี้เท่านั้น หากท่านจ้องมองขึ้นไปบนห้องฟ้า สักห้านาทีท่านจะรู้มากกว่าที่ท่านได้อ่านจากเรื่องที่เขียนไว้ทั้งหมดนี้… ข้าพเจ้ายืนยันกับสิทธิชนว่าความจริงนั้น… สามารถและอาจจะเป็นที่รู้ผ่านการเปีด เผยของพระผู้เป็นเจ้าในรูปแบบพิธีการของพระองค์ และในกำตอบของการ สวดอ้อนวอน”17
“ระเบียบแห่งพระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้าเป็นเช่นนั้น และจะเป็นอยู่อย่างนี้ เหมือนเดิมตลอดไป แห้หลังจากที่พระคริสต์เสด็จมา และหลังจากหนึ่งพันปี สิ้นสุดระเมียบนี้ก็จะยังเหมือนเดิม ในที่สูดเราจะเข้าลู่อาณาจักรชั้นสูงของพระผู้เป็นเจ้า และมีปีดิจากสิ่งทั้งหมดนี้ตลอดไป”18
พระวิหารคือสถานที่ศักดิ์สิทธิิ์ซึ่งเราจะได้รับพรอันประเสริฐ ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีไว้สำหรับลูกๆ ของพระองค์
ดังที่เปีนส่วนหนึ่งในคำสวดอ้อนวอนอุทิศพระวิหารเคิร์ทแลนด์ที่ประทาน แก่ศาสดาโจเซฟ สนิธ โดยการเปีดเผยและต่อมาบันทึกในคำสอนและพันธสัญญา 109 ศาสดาสวดอ้อนวอนว่า “และนัดนี้พระบิดาผู้บริสูทธิิ์ พวกข้าพระองค์ทูลขอ… เพื่อรัศมีภาพของพระองค์จะลงมาพำนักบนผู้คนของพระองค์ และบนพระนิเวศน์แห่งนี้ของพระองค์ ซึ่งนัดนี้พวกข้าพระองค์อุทิศถวาย พระองค์เพื่อที่นี้จะถูกชำระให้บริสุทธิ์และถูกตั้งไว้ให้สักดิ์สิทธิ์ และเพื่อการ ประทับอยู่อันสักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จะมีอยู่ตลอดไปในพระนิเวศน์แห่งนี้ และ เพื่อผู้คนทั้งปวงผู้จะเข้าลู่ทางเข้าของพระนิเวศน์ของพระเจ้าจะรู้สึกถึงอำนาจ ของพระองค์ และรู้สึกด้องยอมรับว่า พระองค์ทรงชำระให้ที่นี้บริสูทธิ์ และว่า ที่นี้เปีนพระนิเวศน์ของพระองค์ สถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
“และขอพระองค์ประทาน พระบิดาผู้บริสุทธี้ เพื่อคนทั้งหมดนั้นผู้ที่จะนมัสการในพระนิเวศน์แห่งนี้จะได้รับการสอนคำแห่งปัญญาจากหนังสือดีที่สุดและ เพื่อเขาจะแสวงหาการเรียนรู้ แม้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย ดังที่พระองค์ตรัสไว้ และเพื่อเขาจะเจริญขึ้นในพระองค์และได้รับความบริบูรณ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และมีระเบียบตามกฎของพระองค์ และเตรียมพร้อมที่จะ รับทุกสิ่งที่จำเปีน และเพื่อนิเวศน์แห่งนี้จะเปีนม้านแห่งการสวดอ้อนวอน ม้าน แห่งการอดอาหาร ม้านแห่งศรัทธา ม้านแห่งรัศมีภาพและม้านของพระผู้เปีน เจ้า แม้พระนิเวศน์ของพระองค์ …
“และพวกข้าพระองค์ทูลขอพระองค์ พระบิดาผู้บริสุทธิ์ เพื่อผู้รับใช้ของ พระองค์จะออกไปจากพระนิเวศน์แห่งนี้ด้วยมีอำนาจของพระองค์เปีนอาวุธ และเพื่อพระนามของพระองค์จะอยู่กับเขา และรัศมีภาพของพระองค์อยู่รอบเขา และเทพของพระองค์มีความรับผิดชอบดูแลพวกเขา และจากที่แห่งนี้พวกเขา จะนำข่าวใหญ่ยิ่งและประเสริฐมักในความจริงไปยังที่สุดของแผ่นดินโลกเพื่อ คนทั้งหลายจะรู้ว่านี่คืองานของพระองค์ และว่าพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์ของ พระองค์ออกมา เพื่อทำใม้สิ่งซึ่งพระองค์รับสั่งไว้โดยปากของศาสดาสัมฤทธิ์ เกี่ยวกับวันเวลาสุดท้าย
“พวกข้าพระองค์ ทูลขอพระองค์ พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ทรงโปรดสถาปนาผู้คน ที่จะนมัสการและมีชื่อและฐานะอย่างมีเกียรติในพระนิเวศน์แห่งนี้แก่คนทุกชั่ว อายุและเพื่อนิรันดร เพื่ออาวุธที่สร้างไว้รุกรานเขาจะไม่เจริญ เพื่อคนที่ขุดหลุม ดักเขาจะตกหลุมนั้นเอง เพื่อการมั่วสุมแห่งความชั่วร้ายจะไม่มีอำนาจลุกขึ้น และชนะผู้คนของพระองค์ ผู้ที่รับพระนามของพระองค์ในพระนิเวศน์แห่งนี้”19
ข้อเลนอแนะสำหรับศึกษาและลอน
พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะศึกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเดิมได้ที่หน้า ⅶ–ⅸ
-
ทบทวนสองย่อหน์าสุดม้ายในหน์า 446 งานพระวิหาร “นำ[เรา] ออกจาก ความมีดเข้าสู่ความสว่างอันมหัศจรรย์” ได้อย่างไร ท่านคิดว่าการเปีน “ผู้ ใสไจเรื่องทางวิญญาณ” มีความหมายว่าอย่างไร ทำไมเราจะด้องเปีน “ผู้ใส่ ใจเรื่องทางวิญญาณ” เพื่อรับความสว่างที่มีใม้เราในพระวิหาร
-
เมื่อสิทธิชนในนอวู กำลังทำงานสร้างพระวิหาร ศาสดาโจเซฟ สบิธบอกพวก เขาว่า “เราด้องการพระวิหารมากกว่าสิ่งอื่นทั้งหมด” (หน้า 448) ทบทวน หน้า 445–448 เพื่อหาเหตุผลว่าเหตุใดคำพูดนี้จึงถูกต้อง คำพูดของศาสดา ถูกต้องอย่างไรในชีวิตท่าน
-
ศึกษาคำสอนของใจเซฟ สมิธ เกี่ยวกับพระบัญชาให้สร้างพระวิหาร (หน้า 447–448) ท่านคิดว่าเหตุใดศาสนาจักรจึง “จัดตั้งไม่สมบูรณ์” ถ้าไม่มีพระวิหารและพิธีการพระวิหาร ปัจจุบันเราท่าอะไรไต้ห้างเพื่อ ‘‘รีบทำงานในพระวิหาร” เหตุใดเราจึงต้อง “ประเมินความสำคัญ” ของงานพระวิหาร
-
ทบทวนคำสอนของศาสดาเกี่ยวกับพิธีการพระวิหารกันศักดิ์สิทธี้ และสิ่งที่ เราเรียนรู้จากพิธีการเหล่านั้น (หน้า 448–451) จากคำสอนเหล่านี้ คำสอน ใดช่วยท่านเปีนพิเศษให้เข้าใจถึงความสำคัญของพิธีการพระวิหาร?
-
อ่านย่อหน้าที่สองทั้งย่อหน้าในหน้า 451 ถ้าท่านไต้รับพิธีการพระวิหาร เล่า ประสบการณ์ที่เคยสอนท่านเกี่ยวกับ “สภาพการณ์และความสัมพันธ์อันแห้ จริงกับพระผู้เปีนเจ้า” ถ้าท่านไม่เคยไปพระวิหารหรือถ้าท่านไม่ไต้กลับไป พระวิหารเปีนเวลานาน ขอให้ท่านนึกถึงวิธีที่ท่านจะเตรียมตัวเข้าพระวิหาร
-
พรใดห้างที่เราจะไต้รับเมื่อเราเข้าพระวิหาร (ดูตัวอย่างที่หน้า 451–452) จาก สิ่งที่ท่านไต้อ่านในบทนี้ ท่านสามารถทำให้การเข้าพระวิหารของท่านมีความ หมายมากขึ้นไต้อย่างไร
ข้อพระคัมภีร์ที่เคี่ยวข้อง: เพลงสดุดี 24:3–5; อิสยาห์ 2:2–3; ค.พ. 124:25–28, 39–41