คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 13: การเตรียมตัวเพื่อ ความก้าวหน้านิรันดร


บทที่ 13

การเตรียมตัวเพื่อ ความก้าวหน้านิรันดร

ประธานบริคัม ยัง เป็นนักเรียนรู้ ท่านเริ่มจากการเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์ และต่อมา พัฒนาทักษะที่จำเป็นในการเป็นผู้สอนศาสนา ผู้สร้างอาณานิคม ผู้ว่าการ และศาสดา ท่านเห็นว่าชีวิตนี้เป็นช่วงเวลาที่จะดำเนินชีวิตอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เติบโตและเตรียม ตัวไว้สำหรับนิรันดร ไม่ใช่เวลาที่จะเตรียมตัวตาย ท่านกระตุ้นสิทธิชนให้ทำกิจกรรมที่คุ้ม ค่าขยายและทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เก็บรักษาความจริงขณะที่พวกเขาเข้าสู่ความดี พร้อมโดยการทำตังนี้ พวกเขาจะก้าวไปสู่โลกแห่งวิญญาณในที่สุดและดำเนินต่อไปใน วิถีอันรุ่งโรจนัของความห้าวหน้านิรันดร์

คำสอนของบริคัม ยัง

เราเตรียมตัวสำหรับชีวิตนิรันดรโดยการเรียนรู้ การปรับปรุงแก้ไข และการสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจัาในแด่ละวัน

เราอยู่ที่นี่เพื่ออะไร? เพื่อเรียนรู้ที่จะมีความสุขมากฃึ้นและเพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ (DBY, 87)

วัตถุประสงค์ของการเป็นอยู่ที่นี่คือเพื่อเรียนรู้ ซึ่งเราจะทำได้ทีละเล็กทีละน้อย (DBY, 87) ความเป็นอยู่มตะทั้งลิ้นของมนุษย์ไม่ได้มากหรือน้อยไปกว่าสภาวะของการเตรียมตัวไป ลู่วาระสุดท้าย ณ ที่ซึ่งพากเขาอาจปรับปรุงตนเองเพื่อเขาสู่สภาพความเป็นอยู่ที่สูงฃึ้น (DBY, 87)

หลักธรรมข้อใหญ่ข้อแรกที่มนุษยชาติควรเอาใจใส่ ที่เด็กและผู้ใหญ่ควรจะเข้าใจ และ เป็นสาเหตุสำคัญของการปฎิบัติทุกอย่าง ไม่ว่าผู้คนจะเข้าใจมันหรือไม่ก็ตาม หลักธรรมนั้น คือหลักธรรมแห่งการปรับปรุงแก้ไข หลักธรรมแห่งการเพิ่มพูน แห่งความสูงส่ง แห่งการเพิ่ม เติมสิ่งที่เราครอบครองอยู่แล้ว เป็นหลักธรรมแห่งการเคลื่อนไหวที่สำคัญที่สุดและเป็นวิถี แห่งการปฎิบติของลูกหลานมนุษย์ไม่สำคัญว่าพากเขาจะประกอบอาชีพอะไร มีเชื้อชาติใด คบหาใคร นับถือศาสนาใด หรือมีระบอบการปกครองแบบไหน นี่เป็นสาเหตุสำคัญของการ ปฎิบัติของผู้คน ที่ครอบคลุมอำนาจทั้งมวลที่จำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่แห่งชีวิต (DBY, 87)

เราถูกวางไว้บนโลกนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเรามีค่าควรที่จะไปโลกชั้นสูง ชั้นกลาง หรือชั้นต้น หรือ ไปนรก ไปอาณาจักรอื่น หรือสถานที่อื่น และเรามีชีวิตอยู่นานพอที่จะทำลิ่งนี้ (DBY, 87)

นี่คือโลกซึ่งเราอยู่เพื่อพิสูจน์ตัวเราเอง ชั้วชีวิตของมนุษย์เป็นเวลาแห่งการทดลองเวลาที่ เราจะพิสูจน์ต่อพระผู้เป็นเจ้า ในความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา ในความอ่อนแอของเราที่ซึ่ง ปรปักษ์มีอำนาจครอบครองเราได้ เราพิสูจน์ว่าเราเป็นสหายของพระบิดา เราได้รับความ สว่างจากพระองค์และมีค่าควรที่จะเป็นผู้นำลูกๆ ของเรา—ที่จะกลายเป็นจอมขุนนางผู้สูง ศักดิ์ และจอมกษัตริย์–ที่จะมีอำนาจในการครอบครองอย่างลมบูรณ์เหนือครอบครัวส่วน ใหญ่ของเราซึ่งจะสวมมงกุฎแห่งรัศมีภาพ ความเป็นอมตะ และชีวิตนิรันดรในอาณาจักร ชั้นสูง (DBY, 87)

จงฟัง พวกเจ้าสิทธิชนยุคสุดท้าย! ท่านจะใช้เวลาแห่งการทดลองของท่านไปโดยไร้ ประโยชน์และปล่อยให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของท่านผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์หรือ? ท่าน ถูกสร้างชั้น และถูกนำมาสู่ชีวิต เพื่อจุดประสงค์ของการอดทนตลอดกาล จะดีกว่า หากท่าน ทำให้เต็มระดับการสร้างของท่าน เสาะหาหนทางที่ถูกต้อง ทำตามข้อกำหนดของกฎชั้นสูง และเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าของเรา (DBY, 87)

พระผู้สร้างทรงคาดหวังให้มนุษย์ดำเนินการอย่างกระตือรือร้นในการทำความดีทุกวันใน ชีวิตของพวกเขา ทั้งในการปรับปรุงแก้ไขลภาพร่างกายและจิตใจของพวกเขาเองหรือของ เพื่อนบ้าน (DBY, 88)

เราอยู่ที่นี่เพื่อมีชีวิต เพื่อแผ่ขยายความรู้และบิญญาในบรรดาผู้คน ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่เพื่อสั่ง สอนเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า เพื่อสอนครอบครัวของข้าพเจ้าถึงทางแห่งชีวิต เพื่อให้กำเนิด ลูกหลาน และเพื่อมีชีวิตอยู่ ตราบที่มันอยู่ในอำนาจของข้าพเจ้า จนกว่าบาปความชั้วร้าย ความเสี่อมทราม นรกและมา ร และความน่าชิงชังทุกระดับทุกประเภทจะถูกขับออกไปจาก แผ่นดินโลก นั่นคือศาลนาของข้าพเจ้า และคือวัตกุประสงค์ของการเป็นอยู่ของข้าพเจ้า เราไม่ได้อยู่ที่นี่เพียงเพื่อเตรียมตัวตาย แล้วก็ตาย แต่เราอยู่ที่นี่เพื่อมีชีวิตและเสริมสร้าง อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก —เพื่อล่งเสรีมฐานะปุโรหิตเอาชนะอำนาจของ ชาตาน และสอนลูกหลานมนุษย์ว่าพวกเขาถูกลร้างชั้นเพื่ออะไร—ซึ่งแหล่งที่มาของความรู้ แจ้งทั้งมวลถูกเก็บช่อนไว้ในนั่น นี่คือจุดเริ่มดัน—รากฐานที่ถูกวางไว้ในการสร้างมนุษย์ เพื่อให้ได้รับความสมบูรณ์ของความรู้และรัศมีภาพนิรันดร เราจะได้มันมาเมื่อเราตายไป แล้วกระนั้นหรือ? ไม่เลย เราต้องทำให้เกิดชั้นบนโลกนี้ (DBY, 88)

สิทธิชนยุคสุดท้ายทั่วหุบเขาในเทือกเขาเหล่านี้และทั่วโลกควรเรียนรู้ว่าพวกเขาอยู่บน โลกนี้เพื่ออะไร พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อเพิ่มพูนและทวิชั้น เพื่อขยาย เพื่อรวบรวมเชื้อลายอิสราเอล ไถ่ไชอัน สร้างไชอันของพระผู้เป็นเจ้าของเรา และเพื่อให้ได้มาชึ่งความรู้แจ้งนิรันดรที่ มีอยู่ในบรรดาพระผู้เป็นเจ้า และเริ่มปลูกฝังไว้ในโลกนี้ ทำให้รากของมันหยั่งลึกลงไปและ เกิดผลชื้นไปถึงรัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้า จนกระทั่งหลักธรรมที่ไม่น่าพึงใจทุกประการใน ใจของมนุษย์ถูกทำลาย และแผ่นดินโลกกลับคืนสู่สภาวะรมดีของมัน พระเจ้าจะเสด็จมา และประทับอยู่กับผู้คนของพระองค์ ทรงเดินและพูดกับพวกเขาเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรง ทำกับบิดาแออัม นั่นคือธุระของเรา เราต้องไม่ยอมใช้พลังงานทั่งหมดของเราเพียงเพื่อ เตรียมตัวตายเท่านั้น (DBY, 89)

จุดประสงค์ของชีวิตควรอยู่ที่การสร้างไชอันของพระผู้เป็นเจ้าของเรา เพื่อรวบรวมเชื้อลาย อิสราเอล ทำให้เกิดความบริบูรณ์ของคนต่างชาติ พึนฟูและให้พรแผ่นดินโลกด้วยความ ลามารถของเราและทำให้มันเป็นเหมือนสวนอีเดน เก็บสะสมขุมทรัพย์แห่งความรู้และปัญญาในความเข้าใจของเราเอง ชำระจิตใจของเราให้บริสุทธิ์และเตรียมผู้คนเพื่อพบพระเจ้า เมื่อพระองค์เสด็จมา (DBY, 88)

เราจะเจริญก้าวหน้าได้ตราบที่เราเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์

งานนี้คืองานแห่งความเจริญก้าวหน้า คำสอนนี้สิทธิชนยุคสุดท้ายได้รับการลอนในรูป ลักษณะของการทำให้สูงส่ง การเพิ่มพูน การพัฒนาและการขยายให้กว้างออกไปจนเรา ลามารถรู้ในสิ่งที่ต้องรู้ เห็นในสิ่งที่ต้องเห็น (DBY, 90)

เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ราวกับอยู่ในโรงเรียน และเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ เราต้องไม่คิดที่จะ หยุดเรียนรู้ขณะที่เรามีชีวิตอยู่ในโลก และเมื่อเราผ่านม่าน (ผ่านเฃ้าไปในโลกแห่งวิญญาณหลังจากที่เราเสียชีวิต) เรายังคงคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อไปพร้อมทั้งเพิ่มพูนแหล่งข้อมูล ของเรา นั่นอาจดูเหมือนเป็นความดิดที่ประหลาดสำหรับบางคน แต่มันเป็นเหตุผลเรียบง่าย ที่ว่าเราไม่สามารถได้รับความรู้ทั้งหมดในทันที ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องได้รับที่นี่นิดและที่นั่น หน่อย (DBY, 91)

วันนี้พระองค์ประทานแก่ผู้ดิดตามที่ถ่อมใจของพระองค์ทีละน้อย และหากพวกเขาปรับปรุงแก้ไขมันต่อไป พรุ่งนี้พระองค์จะประทานให้พวกเขามากชื้นไปอีก และมากยิ่งชื้นอีกใน วันต่อไป พระองค์ไม่ทรงเพิ่มเดิมสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดีชื้น แต่พวกเขาถูก เรียกร้องให้ปรับปรุงความรู้ที่พวกเขามีอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง และนี่ทำให้ได้ปัญญาอย่าง มากมาย (DBY, 90)

เป็นการง่ายที่จะเดินตามแนวทางที่กำหนดไว้ในพระกิตติคุณโดยผู้ที่ประทานแผนแห่ง ความรอดแก่เราคือเดินตามแนวทางทีนําไปสู่ชีวิตสู่การเพิ่มพูนนิรันดรนั่นคือการดำเนินต่อ ไปในวิถีที่เราจะไม่มีวันสูญเสียสิ่งที่เราได้มาอย่างแน่นอน แต่ยังคงสะสม รวมเข้าไว้ด้วยกัน เพิ่มพูน แพร่กระจาย และขยายออกไปสู่ช่วงเวลาอันไม่รู้จบ บุคคลเหล่านั้นที่พากเพียรให้ ได้รับชีวิตนิรันดรใจของพวกเขาจะพึงพอใจกับสิ่งที่เพิ่มพูนขึ้น หากจะกล่าวในหลายๆ ด้าน สิทธิพิเศษของการเพิ่มพูนนิรันดรจะทำให้วิญญาณอมตะพึงพอใจโดยแท้ (DBY, 93)

เราสามารถปรับปรุงแก้ไขได้อย่างไม่หยุดยั้ง เราถูกสร้างก็เพื่อจุดประสงค์นั้น ความ สามารถของเราได้รับการสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาไปจนกว่าเราจะพบความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้ และปัญญาชั้นสูงและยังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปในโลกนิรันดร (DBY, 90)

เราต้องเรียนรู้อยู่อย่างนั้น และไม่มีวันที่จะเข้าถึงหลักความจริงเลยหรือ? [ดู 2 ทิโมรี 3:7] ไม่ ข้าพเจ้ากล่าวว่าเราจะไม่เป็นอย่างนั้น แต่เราจะเข้าถึงหลักความจริง นี่คือความหวัง และความคาดหวังของข้าพเจ้า และนี่คือความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้า (DBY, 90–91) เรามี หลักธรรมอยู่กับเรา และทุกคนบนโลกนี้ก็มีด้วย จงเพิ่มพูนและเพิ่มพูนมีนต่อไป จงขยาย จงรับและจดจำความจริงเอาไว้ในใจ จนกว่าเราจะดีพร้อม (DBY, 91)

เราถูกเตรียมไวัสํหรับบางสิ่ง และเราจะได้รับอย่างแน่นอนหากเราเตรียมตัวเราเอง (DBY, 95)

แทนที่จะขอให้พระเจ้าประทานแก่เรามากขึ้น จงขอให้ตนเองมีความเชื่อมั่น มีความชื่อสัตย์ในตัวเอง รู้ว่าเมื่อใดควรพูด ควรพูดอะไร ควรเผยอะไร และจะน่าพาตัวเองอย่างไร ให้ เดินไปต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้า ตราบที่ท่านพิสูจน์ต่อพระองค์ว่าท่านจะเก็บรักษาทุกสิ่งที่ ควรเก็บไว้เป็นความลับ—ว่าท่านจะแบ่งสรรปันส่วนแก่เพื่อนบ้านของท่านในทุกสิ่งที่ท่าน พึงให้ จนท่านไม่มีเหลืออยู่อีกเลย และเรียนรู้วิธีที่จะแบ่งปันความรู้ของท่านแก่ครอบครัว เพื่อนๆ เพื่อนบ้าน และพี่น้องของท่าน พระเจ้าจะประทานแก่ท่าน ก่ายทอดให้ท่าน และ ประทานแก่ท่าน จนในที่สุดพระองค์จะตรัสกับท่านว่า “เจ้าจะไม่มีวันตก ความรอดของเจ้า ถูกผนึกไว้กับเจ้าแล้ว เจ้าจะถูกผนึกไว้กับชีวิตนิรันดร์และความรอดโดยทางความชื่อสัตย์ ของเจ้า (DBY, 93)

ชีวิตนิรันดร์คือความสามารถที่จะเจริญก้าวหน้าและเพิ่มพูนตลอดกาล

นี่คือของประธานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สามารถมอบให้แก่มนุษย์ที่ชาญฉลาด คือการมีชีวิตอยู่ ตลอดกาลและไม่มีวันถูกทำลาย (DBY, 96)

มีเขียนไว้ว่าของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบให้แก่มนุษย์คือของประทานแห่งชีวิตนิรันดร์ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราลามารถบรรลุได้คือการรักษาเอกลักษณ์ ของเราไว้จนถึงช่วงเวลานิรันดร์ท่ามกลางไพร่พลสวรรค์ เรามีคำแห่งชีวิตนิรันดรซึ่งประทาน แก่เราโดยทางพระกิตติคุณ หากเราเชื่อพัง มีนจะน่าของประธานอันลํ้าค่ามาให้เรา (DBY, 96)

ความรู้แจ้งที่ข้าพเจ้ามีอยู่จะตับสูญไปเมื่อมีความดิดที่สกปรก มีนเป็นมาแต่อดีตแล้ว ความรู้แจ้งนี้ต้องคงอยู่ มีนต้องอยู่ที่ใดที่หนึ่ง หากข้าพเจ้าดำเนินไปในวิถีที่ถูกต้องและ รักษามนไว้ในรูปแบบของมัน ข้าพเจ้ากิได้รักษาซีวิตนิรันดรัไว้ไห้ตัว (DBY, 96)

เรากำลังจะได้อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าในความสมบูรณ์ของอาณาจักรแห่งนี้ทั้งความ สูงและความลึกแห่งรัศมีภาพ อำนาจ และความรู้ทั้งลิ้น เราจะมีทั้งพ่อและแม่ ภรรยาและ ลูกๆ (DBY, 97)

สมมุติเป็นไปได้ว่าท่านมีสิทธิพิเศษที่จะนำชีวิตนิรันดรมาให้ตัว—ที่จะมีชีวิตและชื่นชม กับพรเหล่านี้ตลอดกาล ท่านจะพูดว่านี่คือพรอันยิ่งใหญ่ที่สุดที่นำมามอบให้ท่าน พรใดเล่า จะเทียบเท่าพรนี้ได้? พรใดเล่าจะเทียบเท่าชีวิตที่คงอยู่ต่อไป—ร่างกายของเราที่จะคงอยู่ ต่อไป? (DBY, 96)

พระเจ้าประทานพรแก่เราด้วยความลามารถที่จะชื่นชมชีวิตนิรันดรกับบรรดาพระผู้เป็น เจ้า และลิ่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระผู้เป็นเจ้า ของประทานแห่ง ชีวิตนิรันดรเป็นหนึ่งในของประทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สามารถมอบให้ได้หากไม่มีลูกหลานเรา ก็จะกลายเป็นเทพ แต่พระเจ้าก็ยังทรงมอบสิทธิพิเศษของการเป็นบิดาของสิ่งมีชีวิต (มนุษย์) แก่เราด้าย บิดาของสิ่งมีชีวิตที่ถูกกล่าวถึงในพระคัมภีร์คืออะไร? คือคนที่สามารถมีลูกหลาน ได้ตลอดกาล นั่นคือพรที่อับราอัมได้รับ และทำให้จิตวิญญาณของเขาพอใจอย่างยิ่ง เขาได้ รับสัญญาว่าเขาจะเป็นบิดาของสิ่งมีชีวิต (DBY, 97)

หากมนุษย์ชื่อสัตย์…พากเขาและพระผู้สร้างของเขาจะเป็นหนึ่งตลอดไป พากเขาจะมีใจ เดียวและความคิดเดียวตลอดไป พากเขาจะทำงานและดำเนินการร่วมกัน เพราะสิ่งใดที่ พระบิดาทรงทำ สิ่งนั่นพระบุตรทรงกระทำด้าย และด้ายเหตุนี้พากเขาจึงยังคงทำงานของ พากเขาต่อไปตลอดจนถึงนิรันดร (DBY, 97)

พระเจ้าทรงอยากเห็นเราดำเนินไปในวิถึที่นำเราสู่ประตูคับ ที่เราจะถูกลามมงกุฎใน ฐานะบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้า คนเหล่านี้คือบุคคลกลุ่มเดียวในสวรรค์ที่สามารถทวีขึ้น และเพิ่มพูนได้.…คนที่เหลือได้อาณาจักรที่ตากว่า ที่ชึ่่งพากเขาถูกปฏิเสธจากสิทธิพิเศษ นี้…เป็นสิทธิของเราที่จะเลือกว่าเราจะเป็นบุตรและธิดา เป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์หรือ เราจะยอมรับรัศมีภาพที่ตากว่า (DNSW, 8 Aug. 1876, 1)

ข้อแนะนำสำหรับการศึกษา

เราเตรียมตัวสำหรับชีวิตนิรันดรโดยการเรียนรู้ การปรับปรุงแก้ไข และการสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจาในแด่ละวัน

  • เราเรียนรู้ความจริงอะไรจากการทดลองของเราในชีวิตนี้ที่จะช่วยให้เราเจริญก้าวหน้า นิรันดร์? (ตู ค.พ. 122:7–8) ประธานยังพูดอะไรเกี่ยวกับหลักธรรมแห่ง “การอดทน ตลอดกาล”? (ตู ค.พ.121:7–8; 3 นีไฟ 15:9)

  • การ “ดำเนินการอย่างกระตือรือร้นในการทำความดีทุกวน” สร้างรากฐาน ‘ในการรับ ความสมบูรณ์ของความรู้และรัศมีภาพนิรันดร” อย่างไร? (ตู แอลมา 5:41; 26:22, ค.พ. 58:26–29)

  • ตามที่ประธานยังกล่าว จุดประสงค์หลักประการหนึ่งในชีวิตของเราคือการเรียนรู้ อะไร กีดกันเรามิให้เรียนรู้? เราจะเรียนรู้มากขึ้นจากการศึกษาพระกิตติคุณได้อย่างไร? เรา เรียนรู้จากประสบการณ์ของเราได้อย่างไร? ความจริงที่มีลักษณะเฉพาะแบบไหน ที่เรา เรียนรู้โดยประสบการณ์และอิทธิพลของพระวิญญาณ?

  • ประธานยังกล่าวถึงจดประสงค์หลายประการที่เรามาอยู่ในโลก เราสามารถบรรลุจุด ประสงค์เหล่านี้ได้ดีขึ้นอย่างไร? (ดู ค.พ. 81:5)

  • วิธีที่จะช่วย “เตรียมผู้คนให้พบพระเจ้า” มีอะไรบ้าง? ท่านจะช่วยทำสิ่งนี้เป็นพิเศษได้ อย่างไร?

เราจะเจริญก้าวหน้าได้ตราบที่เราเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์

  • ประธานยังกล่าวว่าเราได้รับความรู้ “ที่นี่นิดและที่นั่นหน่อย” เราจะนำขั้นตอนนี้มาใช้ได้ อย่างไรกับความเข้าใจพระกิตติคุณ การเป็นบิดามารดา และการรับใช้ของเราในศาลนาจักร? (ดู 2 นีไฟ 28:30; ค.พ. 130:18:19)

  • ประธานยังสอนอะไรเกี่ยวกับการเพิ่มพูนนิรันดร? (ดู ค.พ. 93:12–14)

  • ประธานยังกล่าวว่า “เรามีหลักธรรมอยู่กับเรา…จงเพิ่มพูนและเพิ่มพูนมันต่อไป จงขยาย และรับพร้อมทั้งจดจำความจริงไว้ในใจ จนกว่าเราจะดีพร้อม” ความพยายามของเราที่ จะรับเอาความรู้ช่วยให้เราเตรียมตัวไว้เพื่อความสูงล่งได้อย่างไร? (ดู ค.พ. 50:40; 93:24, 26–30; 130:18–19)

ชีวิตนิรันดร์คือความสามารถที่จะเจริญก้าวหน้าและเพิ่มพูนตลอดกาล

  • ประธานยังกล่าวว่า “ของประธานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่สามารถมอบให้แก่มนุษย์ที่ชาญฉลาด [คือ] ที่จะมีชีวิตอยู่ตลอดกาลและไม่มีวันถูกทำลาย” ท่านกล่าวว่าอะไรคือ “ความสำเร็จ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” และเราจะรักษามันไว้ได้อย่างไร? (ดู ค.พ. 14:7; 130:20–21)

  • การเป็น “ทายาทร่วมกับพระเยซูคริสต์” หมายความว่าอะไร? (ดู โรม 8:17 ด้วย) พร ประการใดเป็นของ “บุตรและบิดาที่ได้รับการสวมมงกุฎของพระผู้เป็นเจ้า” เท่านั้น?

Logan Temple

ภาพพระวิหารโลแกน ประธานยังสอนว่าพิธีการแห่งความรอดและความซื่อสัตย์ส่วนบุคคลเตรียมเราสำหรับ “ความเจริญก้าวหน้านิรันดรั” ไปจนถึง “ราชอาณาจักรที่สูงส่งและรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” (DBY, 16)