บทที่ 38
โลกแห่งวิญญาณ
ขณะกำลังพูดในพิธีศพของเอ็ลเดอร์ธอมัส วิลเลียมส์ ประธานบริคัม ยัง พูดถึงโลกแห่ง วิญญาณดังนี้: “ปอยครั้งเพียงใดที่มีคำถามเกิดขึ้นในความคิดของผู้คน—‘ลันปรารถนา จะรู้ว่าลันกำลังจะไปที่ไหน!’ ท่านคิดออกหรือไม่? เอาละ ท่านจะไปยังโลกแห่งวิญญาณ ซึ่งบราเดอร์ธอมัสกำลังอยู่ที่นั้นในเวลานี้ ขณะนี้วิญญาณของเขาได้เข้าในสถานะของ การเป็นอยู่ที่สูงกว่าเมื่ออยู่ในร่างกาย นั่นคือเหตุผลที่ว่า ‘ทำไมลันจึงมองไม่เห็นเขา? ทำไมลันจึงพูดคุยกับวิญญาณของเขาไม่ได้? อันหวังว่าลันจะได้เห็นสามีหรือบิดาของลัน และพูดคุยกับเขา!’ มันไม่ใช่เหตุผลที่ท่านพิงมี มันไม่ใช่สิทธิที่ท่านพึงมี บางมีท่านอาจ จะพลาดจุดประสงค์ของการมาเกิดบนโลกนี้ไป็หากท่านมีสิทธิพิเศษนี้ และจะมีการทดลองศรัทธาแบบเดียวกันเพื่อดึงดูดความสนใจของท่าน ไม่ใช่เส้นทางแห่งความทุกข์ยาก แสนสาหัสที่ท่านจะเดิน ไม่ใช่สงครามใหญ่ที่ท่านจะต่อสู้ หรือไม่ใช่ชัยชนะยิ่งใหญ่ที่ท่าน จะได้รับ และท่านจะพลาดจุดประสงค์ที่แท้จริงของการมาเกิดบนโลกนี้ไป มันถูกต้อง แล้วตามแบบที่มันเป็นอยู่ ว่าม่านนี้จะถูกปีดลง เราจะไม่เห็นพระผู้เป็นเจ้า เราจะไม่เห็น เหล่าเทพ เราจะไม่ได้สนทนากับพวกเขานอกจากโดยทางการเชื่อฟังต่อเงื่อนไขของ พระองค์อย่างเคร่งครัด และการมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ (DNSW, 28 July 1874, 1)
คำสอนของบริคัม ยัง
วิญญาณของคนตายไปยังโลกแห่งวิญญาณ
เมื่อท่านเสียชีวิต ท่านจะไปที่ไหน? ไปยังโลกแห่งวิญญาณ (DBY, 376)
วิญญาณชั่วร้ายที่ไปจากโลกนี้และไปยังโลกแห่งวิญญาณ เขายังเป็นคนชั่วร้ายที่นั่นใช่ หรือไม่? ใช่ (DNW, 27 Aug. 1856, 3)
เมื่อวิญญาณออกจากร่างกาย…พวกเขาพร้อมที่จะเห็น ได้ยินและเข้าใจเรื่องทางวิญญาณ…ท่านมองเห็นวิญญาณในห้องนี้ได้ไหม? ไม่ได้ ลมมุติว่าพระเจ้าสัมผัสตาของท่าน เพื่อให้ท่านมองเห็นท่านจะเห็นวิญญาณได้หรือไม่? ได้ เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับที่ ท่านเห็นร่างกายในเวลานี้ เช่นเดียวกับที่คนใช้ของ [เอลีซา] เห็น [ดู 2 พงศ์กษัตริย์ 6:16–17] หากพระเจ้าทรงยอม และหากมันเป็นพระประสงค์ของพระองศ์ มันจะเป็นไป ท่านจะ เห็นวิญญาณที่ออกจากโลกนี้ไปแล้ว เห็นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับที่ท่านเห็นร่างกายใน เวลานี้ด้ายตาฝ่ายธรรมชาติของท่าน (DBY, 376–77)
พระเยซูทรงเปิดประตูแห่งความรอดให้คนเหล่านั้นที่อยู่ในโลกแห่งวิญญาณ
พระเยซูทรงเป็นมนุษย์คนแรกที่ได้ไปสั่งสอนวิญญาณที่อยู่ในคุก โดยทรงถือกุญแจของ พระกิตติคุณแห่งความรอดไปหาพากเขา กุญแจเหล่านั้นถูกมอบแด่พระองค์ในวันและ ชั่วโมงที่พระองค์เสด็จไปยังโลกแห่งวิญญาณ และพระองค์ทรงเปิดประตูแห่งความรอดให้ แก่วิญญาณที่อยู่ในคุก (DBY, 378)
เราต้องเสิัยสละมากพอที่จะทําตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าในการเตรียมเพื่อนำ คนเหล่านั้นที่ยังไม่มีสิทธิ์ได้ยินพระกิตติคุณขณะอยู่ในเนื้อหนังไปยังอาณาจักรชั้นสูง เหตุ ผลง่ายๆ ก็คือว่าเขาไม่สามารถปฏิบัติพิธีการของพระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้าได้ในโลกแห่ง วิญญาณ เขาได้ผ่านการทดสอบที่เข้มงวดแล้ว และอยู่นอกเหนือความเป็นไปได้ของการ ปฏิบัติพิธีการส่วนตัวเพื่อการปลดบาปและเพื่อความสูงส่งของเขา ตังนั้นเขาจึงจำเป็นต้อง วางใจในเพื่อนๆ ลูกๆ และหลานๆ ของเขาเพื่อปฏิบัติแทนเขา เพื่อเขาจะถูกนำไปสู่อาณาจักรชั้นสูงของพระผู้เป็นเจ้า (DBY, 406)
เปรียบเทียบผู้อาศัยบนแผ่นดินโลกที่ได้ยินพระกิตติคุณในสมัยของเรากับคนเป็นล้านๆ ที่ไม่เคยได้ยินหรือไม่มีกุญแจแห่งความรอดมอบให้เขา และท่านจะสรุปในทันทีดังที่ข้าพเจ้า ทำว่า มีงานยิ่งใหญ่ที่ต้องกระทำในโลกแห่งวิญญาณ (DBY, 377)
จงพิจารณาถึงคนเป็นล้าน ล้าน ล้านคน ที่เคยมีชีวิตและตายไปโดยไม่ได้ยินพระ กิตติคุณบนแผ่นดินโลก ไม่มีกุญแจแห่งอาณาจักร เขาไม่พร้อมสำหรับรัศมีภาพชั้นสูง และ ไม่มีอำนาจใดจะเตรียมเขาได้หากปราศจากกุญแจของฐานะปุโรหิตนี้ (DBY, 378)
คุณพ่อสมีธ [โจเซฟ สมีธ ซีเนียร์] และคาโลส [สมีธ] และพี่ [เอ็ดเวิร์ด] พาร์ทริจ ใช่แล้ว และสิทธิซนที่ดีทุกคน มีงานยุ่งยากในโลกแห่งวิญญาณเหมือนกับที่ท่านและข้าพเจ้ามีที่นี่ เขาเห็นเราได้ แต่เราเห็นเขาไม่ได้ เว้นแต่ว่าตาของเราจะถูกเปิด เขาทำอะไรกันที่นั้น? เขา กำลังสั่งลอน สั่งสอนตลอดเวลา และเตรียมทางเพื่อเราจะรีบเร่งทำงานของเราในการสร้าง พระวิหารที่นี่และที่อื่นๆ (DBY, 378)
งานของชายที่ชื่อสัตย์ทุกคนจะยังคงอยู่ตราบนานเท่านานเช่นเดียวกับงานของพระเยซู จนกว่าทุกลิ่งสี่ได้รับการไก่ได้จะรับการไก่และถวายแด่พระบิดา มีงานยิ่งใหญ่อยู่ต่อหน้าเรา (DBY, 378)
วิญญาณที่อยู่ในร่างกายบนแผ่นดินโลกนี้ เมื่อออกจากร่างจะตรงไปยังโลกนี้ของวิญญาณอะไรกัน! วิญญาณของผู้อาศัยเป็นจำนานมากที่ร่ามชุมนุมกันที่นั่นปะปนกันไป เหมือนกับที่พากเขาอยู่ที่นี่หรือไม่? ใช่ พี่น้องของข้าพเจ้า เขาอยู่ที่นั่นด้ายกัน และหากเขา คบหากันรามกลุ่มกัน ในชาติตระกูลและในสังคมดังที่เขาทำที่นี่ มันก็เป็นลิทธิ์ของเขา ไม่ต้องสงลัย ว่าเขายังคงเห็น ไดัยิน สนทนา และมีสิ่งต้องทำด้วยกัน ทั้งดีและเลา ไม่มาก ก็น้อย หากเอ็ลเดอร์แห่งอิสราเอลในยุคสุดท้ายนี้ไปและสั่งสอนวิญญาณในคุก เขาคบหา กับวิญญาณเหล่านั้น ดังที่เอ็ลเดอร์ของเราคบหากับคนชั่วในเนื้อหนัง เมื่อพากเขาไปสั่ง สอนคนเหล่านั้น (DBY, 378)
โลกแห่งวิญญาณเป็นสถานที่ซี่งทำให้ความเติบโต และความเจริญก้าวหน้าเป็นไปได้
เมื่อท่านอยู่ในโลกแห่งวิญญาณ ทุกสิ่งที่นั่นจะเป็นธรรมชาติเหมือนดังที่มันเป็นอยู่ใน เวลานี้ วิญญาณจะคุ้นเคยกับวิญญาณในโลกแห่งวิญญาณ—จะสนทนากัน มองเห็นกัน และใช้การติดต่อสื่อลารทุกประเภทถึงกันอย่างคุ้นเคยและเป็นธรรมชาติเหมือนกับที่อยู่ที่นี่ ในร่างกาย ที่นั่น เช่นเดียากับที่นี่ ทุกสิ่งจะเป็นธรรมชาติ และท่านจะเข้าใจมันดังที่ท่าน เข้าใจสิ่งที่เป็นธรรมชาติในเาลานี้ ท่านจะเห็นว่าที่นั่นวิญญาณที่เรากำลังพูดถึงเคลื่อนไหา ได้ ไม่ได้นอนหลับ และท่านจะเรียนรู้ว่าเขาจะพยายามอย่างสุดกำลังโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน การทำงานและใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าที่คนใดคนหนึ่งจะทำได้เพื่อทำให้การกระทำ ในโลกนี้สำเร็จ (DBY, 380)
วิญญาณคุ้นเคยกับวิญญาณเช่นเดียากับร่างกายคุ้นเคยกับร่างกาย แม้ว่าวิญญาณจะ ประกอบไปด้ายสสารที่ละเอียดจนร่างกายที่หยาบกว่าไม่สามารถแตะต้องได้ เขาเดิน พูดคุย และมีการประชุมของเขา และวิญญาณของคนดีเหมือนดังโจเซฟ และเหล่าเอ็ลเดอร์ ผู้ที่ไป จากศาสนาจักรบนแผ่นดินโลกช่างเวลาหนึ่งเพื่อดำเนินการในอีกโลกหนึ่ง กำลังราบราม อำนาจทั้งหมดของเขาและจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งเพื่อสั่งสอนพระกิตติคุณ และโจเซฟ กำลังชี้นำพากเขา กำลังพูดกับพากเขาว่าจงออกไปพี่น้องของข้าพเจ้า และหากเขาล้อมรั้ว กั้นทางของท่าน จงเดินขึ้นไปและสั่งให้เขาเลิกการชุมนุม ท่านมีฐานะปุโรหิตและสามารถ ทำให้เขาเลิกการชุมนุมได้ แต่หากคนใดปรารถนาที่จะฟังพระกิตติคุณ จงสั่งลอนเขา (DBY, 379)
ข้าพเจ้าจะพูดเกี่ยวกับการแยกจากเพื่อนๆ ของเรา และตัวเราไปยังโลกแห่งวิญญาณซึ่ง ข้าพเจ้าพอจะเข้าใจความเป็นนิรันดรอยู่บ้าง เพื่อให้ข้าพเจ้าได้ฝึกใช้ศรัทธาให้มากเพื่อ ปรารถนาจะได้อยู่ยิ่งกว่าที่ข้าพเจ้าเคยฝึกใช้มาตลอดชีวิตเพื่อจะได้อยู่ ความสว่างไสวและ รัศมีภาพของที่ที่เราจะอยู่ต่อจากนี้ไม่อาจพรรณนาได้ มีนไม่ได้ทำให้หนักใจจนกว่าเมื่อเรามี อายุมากขึ้นแล้วเราต้องสะดุดโน่นนี่ และระมัดระวังเพราะเกรงจะหกล้ม เราเห็นวัยหนุ่ม สาวของเรา บ่อยครั้งเราสะดุดหัวแม่เท้าและล้มลงไป แต่ที่นั่น ช่างแตกต่างอะไรเช่นนี้! เขา เคลื่อนไหวได้ง่ายเหมือนฟ้าแลบ หากเราต้องการเยือนเจรูชาเล็ม หรือที่นี่ ที่นั่น หรือที่อื่นและข้าพเจ้าสันนิษฐานว่าเราจะมีโอกาสหากเราปรารถนา—เราอยู่ที่นั่น กำลังมองดูถนน ของมันหากเราต้องการเห็นเจรูชาเล็มดังที่มันเป็นอยู่ในสมัยของพระผู้ช่วยให้รอด หรือหาก เราต้องการเห็นสวนอีเดนดังที่มันเป็นอยู่เมื่อมันถูกสร้างเราก็อยู่ที่นั่น และเราเห็นมันดังที่ มันเป็นอยู่ทางวิญญาณ เพราะทีแรกมันถูกสร้างทางวิญญาณก่อนและหลังจากนั้นทางโลก และทางวิญญาณ มันยังคงอยู่ และที่นั่นเราจะเห็นแผ่นดินโลกขณะที่มันเริ่มสร้าง หรือเรา จะไปเยี่ยมเมืองใดๆ ที่เราพอใจเราก็จะอยู่บนแผ่นดินนั้นหากเราปรารถนาจะเข้าใจว่า เขา อยู่ที่นั่นได้อย่างไรบนเกาะทางตะวันตก หรือในประเทศจีน เราก็อยู่ที่นั่น ตามจริงแล้วเรา เป็นเหมือนความสว่างของเวลาเช้า…พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยเรื่องเล็กๆ บางเรื่องเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหวและอำนาจของพระองค์ ปฏิบัติการและกระบวนการเคลื่อนไหวของฟ้าแลบ ที่ได้ให้คำอธิบายอย่างละเอียดถึงความสามารถของพระผู้ทรงฤทธานุภาพ (DBY, 380)
เมื่อเราผ่านเช้าไปในโลกแห่งวิญญาณ เราจะครอบครองระดับแห่งอำนาจของพระองค์ ที่นี่เรายังคงทุกข์ยากด้วยความเจ็บไข้และความเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง ในโลกแห่ง วิญญาณเราเป็นอิสระจากสิ่งทั้งหมดนี้และชื่นซมชีวิต รัศมีภาพ และความรู้แจ้ง เรามีพระ บิดาที่รับสั่งกับเรา พระเยชูที่รับสั่งกับเรา และเหล่าเทพที่พูดกับเรา เราจะชื่นชอบลังคมของ คนยุติธรรมและคนบริสุทธิ์ที่อยู่ในโลกแห่งวิญญาณ จนถึงการฟื้นคืนซีวิต (DBY, 380–81)
สมมุติว่าชายคนหนึ่งคิดชั่วในใจของเขา—ยอมต่อความชั่วร้ายโดยลิ้นเชิง และเมื่อเขา ตายวิญญาณของเขาจะเข้าไปในโลกแห่งวิญญาณโดยมุ่งแต่จะทำความชั่ว ในทางตรง กันข้ามหากเราพยายามอย่างสุดกำลัง ความสามารถที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้เราเพื่อปรับ ปรุงพรสวรรค์ของเรา เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่จะอยู่ในชีวิตนิรันดร และหลุมศพได้รับ ร่างกายของเราขณะที่เรากำลังขวนขวายทำสิ่งนี้อยู่ วิญญาณของเราจะเข้าไปอยู่ในสถานะ ต่อไปพร้อมด้วยอุปนิสัยอย่างไร? เขาจะยังพยายามที่จะทำเรื่องของพระผู้เป็นเจ้าต่อไป ในระดับที่ใหญ่ยี่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเรียนรู้ ในการเพิ่มพูน ในการเจริญเติบโต ในพระคุณและในความรู้ถึงความจริง (DBY, 379)
หากเราชื่อสัตย์ต่อศาสนาของเรา เมื่อเราไปยังโลกแห่งวิญญาณวิญญาณที่ตกไปแล้ว ดังนั้น ลูชิเฟอร์และไพร่พลหนึ่งในสามของสวรรค์ที่มากับเขา รวมทั้งวิญญาณของคนชั่วที่ เคยอยู่บนโลกนี้ พวกเขาทั้งหมดรวมกันจะไม่มีอิทธิพลเหนือวิญญาณของเรา นั่นไม่ใช่ส่วน ดีหรือ? แน่นอนลูกหลานที่เหลืออยู่ทั้งหมดของมนุษย์อยู่ภายใต้ลูชิเฟอร์และผู้ติดตามของ เขาไม่มากก็น้อยและลูกหลานที่เหลืออยู่ทั้งหมดจะอยู่ภายใต้พวกเขาดังที่เป็นอย่างนั้นขณะ อยู่ที่นี่ในเนื้อหนัง (DBY, 379)
ที่นี่ [คนชื่อสัตย์] จะยุ่งยากใจและถูกล่าโดยชาตาน แต่เมื่อเราไปในโลกแห่งวิญญาณที่ นั่นเราเป็นเจ้านายเหนืออำนาจของชาตาน และเขาจะทำให้เราทุกข์ทรมานไม่ได้อีกต่อไป และนี่เพียงพอแล้วสำหรับข้าพเจ้าที่จะรู้ (DNW, 1 Oct. 1856, 3)
หากบุคคลหนึ่งได้รับบัพติศมาเพื่อการปลดบาป และหลังจากนั้นไม่นานก็เสียชีวิต เขาไม่ พร้อมในทันทีที่จะได้รับความสมบูรณ์แห่งรัศมีภาพตามที่สัญญาไว้แก่ผู้ที่ชื่อสัตย์ในพระ กิตติคุณ เพราะเขาต้องเข้าศึกษาเรียนรู้ขณะอยู่ในวิญญาณ ในขอบข่ายความรู้ต้านอื่นๆ ในพระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้า ผ่านจากความจริงสู่ความจริง จากความรู้แจ้งสู่ความรู้แจ้ง จนกระทั่งเขาพร้อมที่จะได้รับร่างกายอีกครั้งหนึ่งและเข้าในที่ประทับของพระบิดาและพระ บุตรเราจะเข้าในรัศมีภาพชั้นสูงไม่ได้ในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของเรา ด้วยความโง่เขลา และความมืดทางใจ (DBY, 378–79)
เรามีเพื่อนที่อยู่หลังม่านมากกว่าที่มือยู่ในชีวิตมตะบนโลก เขาจะโห่ร้องต้อนรับเราด้วย ความยินดีมากกว่าที่เราเคยได้รับการต้อนรับจากบิดามารดาและเพื่อนๆ ของเราในโลกนี้ ท่านจะชื่นชมยินดีที่พบเขามากกว่าที่ท่านเคยชื่นชมยินดีเมื่อเห็นเพื่อนในชีวิตนี้ และจากนั้น เราจะดำเนินต่อไปจากระดับหนึ่งสู่อีกระดับหนึ่ง จากการชื่นชมยินดีสู่การชื่นชมยินดี จาก ความรู้แจ้งและอำนาจหนึ่งสู่อีกอย่างหนึ่ง ความสุขของเรานับวันจะยิ่งงดงามและเด่นชัด มากยิ่งชั้นตราบที่เราจะดำเนินต่อไปในคำพูดและอำนาจแห่งชีวิต (DBY, 379–80)
เมื่อเราผ่านสถานะของการเป็นอยู่นี้ไปยังอีกสถานะหนึ่ง เราอาจเรียกมันเช่นนั้น เราจะ ไม่หยุดอยู่ที่นั้น เราจะยังดำเนินต่อไป ทำความดีทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ ปฏิบัติและ ประกอบพิธีการให้ทุกคนที่เราได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติและประกอบพิธีการเพื่อเขา ดำเนินต่อ ไปอีกขั้นหนึ่งและอีกขั้นหนึ่ง จนกระทั่งพระเจ้าจะสวมมงกุฎแก่ทุกคนที่ชื่อสัตย์บนโลกนี้ และงานที่เกี่ยวข้องกับแผ่นดินโลกสำเร็จ จากนั้นพระผู้ช่วยให้รอด ผู้ได้ช่วยเหลือเราทรง ทำงานของพระองค์เสร็จ และแผ่นดินโลกกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง จะถูกนำไปถวายแด่พระบิดา ครั้นแล้วคนเหล่านี้ที่ชื่อสัตย์จะได้รับพรและมงกุฎของเขา รวมทั่งมรดกที่จัดเตรียมไวให้เขา จะเป็นของเขา และเขาจะดำเนินต่อไปอีก สร้างโลกเรื่อยไปไม่หยุดโดยเพิ่มทวีตลอดกาล และตลอดไป (DBY, 376).
ข้อแนะนำสำหรับการศึกษา
วิญญาณของคนตายไปยังโลกแห่งวิญญาณ
-
เมื่อเราตาย วิญญาณจะไปไหน? (ดู แอลมา 40:11–14) โลกแห่งวิญญาณอยู่ที่ไหน? ทำไมเราจึงมองไม่เห็นหรือพูดคุยกับวิญญาณเหล่านั้นในโลกแห่งวิญญาณไม่ได้?
พระเยซูทรงเปิดประตูแห่งความรอดให้คนเหล่านั้นที่อยู่ในโลกแห่งวิญญาณ
-
หมายความว่าอะไรที่ว่าพระเยฃู “ทรงเปิดประตูแห่งความรอดให้แก่วิญญาณที่อยู่ใน คุก”? (ดู ค.พ. 138:1 เปโตร 3:18–19 ด้วย)
-
หลังจากพระคริสต์ทรงเปิดประตูแห่งความรอดในโลกแห่งวิญญาณ การสั่งลอนพระกิตติคุณที่นั้นทำได้อย่างไร? (ดู ค.พ 138:30 ด้วย)
-
หากไม่มีพิธีการใดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหนังได้รับการปฏิบัติในโลกแห่งวิญญาณแล้ว ทำไม วิญญาณที่นั่นจึงได้รับการสั่งลอนพระกิตติคุณ? (ดู ค.พ. 138:58–59 ด้วย) เราลามารถ ทำอะไรให้วิญญาณที่อยู่ในโลกแห่งวิญญาณและยังไม่ได้รับพิธีการแห่งความรอด? เรา จะมีส่วนร่วมอย่างแข็งข้นในการไก่คนตายได้อย่างไร แม้ว่าพระวิหารจะอยู่ไกล?
-
ชีวิตในความเป็นมตะของท่านล่งผสต่อชีวิตของท่านในโลกแห่งวิญญาณอย่างไร?
โลกแห่งวิญญาณเป็นสถานที่ซึ่งทำให้ความเติบโต และความเจริญก้าวหน้าเป็นไปได้
-
ประธานยังสอนอะไรเกี่ยวกับชีวิตในโลกแห่งวิญญาณ? ชีวิตในโลกแห่งวิญญาณจะเป็น เหมือนชีวิตบนโลกอย่างไร? มันจะแตกต่างกันอย่างไร? ท่านอยากจะให้ชีวิตของท่าน ในโลกแห่งวิญญาณเป็นเช่นไร?
-
ชาตานมือำนาจและอิทธิพลอะไรในโลกแห่งวิญญาณ?
-
ทำไมคนที่เพิ่งรับบัพติศมาจึงไม่พร้อมจะรับความสมบูรณ์แห่งรัศมีภาพในทันที? บุคคล นั้นต้องทำอะไรเพื่อให้พร้อมสำหรับพรนี้? จะทำสิ่งนี้ได้ที่ไหน?