คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 17: กฎพรหมจรรย์


บทที่ 17

กฎพรหมจรรย์

พระเจ้าทรงมีมาตรฐานทางศืลธรรมเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ ความบริสุทธี์ผุดผ่องของชายและหญิงก่อนแต่งงาน และความซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียวหลังจากนั้น

จากซีวิตฃองสเป็ีนเซอร์ ดับเบิลยู. คิผบัลล์

ในการให้คำแนะนำสมาชิกศาสนาจักรเรื่องการนัดเที่ยว การเป็นคู่รัก และ การแต่งงาน ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ได้เน้นความสำคัญของการ ดำเนินชีวิตตามกฎพรหมจรรย์ของพระเจ้าและความซื่อสัตย์ ท่านเตือนด้วยว่า จงระวังความพยายามของซาตานที่จะทำให้การฝ่ฟืนกฎนี้คูเหมือนมีเหตุผล หรือไม่มีพิษภัย ท่านเล่าเรื่องชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อการหลอก ลวงเช่นนี้ของฝ่ายตรงข้าม

“ชายหนุ่มพูดว่า ‘ใช่ครับ เราปล่อยตัวปล่อยใจให้กัน แต่เราไม่คิดว่าผิด เพราะเรารักกัน’ ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าเคยเข้าใจเขาผิด ตั้งแต่โลกเริ่มตัน มีการ ผิดศีลธรรมนับครั้งไม่ถ้วน แต่พอได้ยินชายหนุ่มสิทธิชนยุคสุดท้ายแถ้ตัว ข้าพเจ้าตกใจมาก เขาพูดซํ้าว่า ‘ไม่ ไม่ผิดหรอกครับ เพราะเรารักกัน’

“พวกเขาทำเรื่องน่าชิงชังนี้บ่อยครั้งจนเชื่อว่าตนทำไม่ผิด สร้างกำแพงแห่ง การต่อต้านขึ้นมา และยืนจังก้าราวกับจะห้าทายอยู่หลังกำแพงนั้น

ประธานคิมบัลล์ตอบข้อแก้ตัวของพวกเขาคังนี้ “ไม่เลย หนุ่มสาวที่รักทั้ง หลาย ท่านไม่ได้รักกัน แด่ท่านลุ่มหลงกันและกัน … ถ้าเรารักกันจริง เราจะ ยอมตายแทนคนนั้นแทนที่จะยอมให้เขาบาดเจ็บ ในช่วงของความบัวเมา ความ รักที่บริสุทธึ์จะถูกผลักออกนอกประตูบานหนึ่งขณะที่ความลุ่มหลงจะแอบย่อง เข้ามาทางประตูอีกบานหนึ่ง”1

ประธานคิมบัลล์เป็ีนพยานด้วยว่าความปีติยินดีและสันติสุขมาจากการเชื่อ ฟังกฎพรหมจรรย์ ท่านเห็นพรเหล่านี้ในชีวิตสมาชิกที่ซื่อสัตย์ ดังประสบการณ์ นี้ที่ท่านได้รับในพระวิหาร

“ที่นี่คือสันติสุข ความปรองดอง และความคาดหวังอย่างกระตือรือร้นด้วย ความสุขใจ ชายหนุ่มที่แต่งกายเรียบร้อยและหญิงสาวที่สวมชุดประณีตงดงาม เกินพรรณนา คุกเข่า [ที่] แท่น ข้าพเจ้าประกาศพิธีการอันสูงส่งอย่างผู้มืสิทธิ อำนาจซึ่งแต่งงานและผนึกพวกเขาสำหรับนิรันดรบนแผ่นดินโลกและในโลก แห่งอาณาจักรชั้นสูง ใจบริสุทธึ์อยู่ที่นั่น สวรรค์อยู่ที่นั่น”2

คำสอนของสเป็ีนเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

กฎพรหมจรรย์ห้ามความสัมพันธ์ทางเพศ ทั้งหมดนอกการสมรส

เพื่อให้เข้าใจจุดยืนของศาสนาจักรเกี่ยวกับคืลธรรม เราประกาศอย่างหนัก แน่นและไม่เปลี่ยนแปลงว่าคืลธรรมไม่เหมือนเสัอผ้าขาดวิ่น สืซีคจาง และล้า สมัยที่สมควรโยนทิ้ง พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นเหมือนเดิม เมื่อวานนี้ วันนี้ และ ตลอดกาล พันธสัญญาและคำสอนของพระองค์ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อดวงอาทิตย์ อับแสงและดวงดาวไม่ส่องสว่างอีก กฎพรหมจรรย์จะยังคงเป็นพื้นฐานในโลก ของพระผู้เป็นเจ้าและในศาสนาจักรของพระเจ้า ศาสนาจักรเชิดชูค่านิยมเก่าแก่ ไม่ใช่เพราะมันเก่าแก่ แต่เพราะได้รับการพิสูจน์มาแล้วหลายยุคหลายสมัยว่าสิง เหล่านี้ถูกต้อง3

ความบริสุทธิ์ผุดผ่องก่อนแต่งงานและความซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียวหลังแต่ง งานยังคงเป็นมาตรฐานซึ่งจะไม่มีการหันเหออกไปได้โดยไม่มืบาป ความน่า เวทนา และความทุกข์4

คนที่ดูเหมือนจะสบประมาทสถาบันการแต่งงาน และถือว่าความบริสุทธี้ ก่อนแต่งงานและความซื่อสัตย์หลังแต่งงานเป็นเรื่องล้าสมัยดูคล้ายกับว่าเขาได้ ตกลงใจสร้างแฟชั่นใหม่บนแฟชั่นเก่าและยัดเยียดให้ผู้อื่น พวกเขาไม่เห็นหรือ ว่าความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจจะนำไปส่ความอ้างว้างโดดเดี่ยวในที่สุด พวกเขา ไม่เห็นหรือว่าความพึงพอใจจะผลักพวกเขาออกห่างจากความปีติยินดีมากขึ้น ทุกที พวกเขาไม่เห็นหรือว่าความสำเร็จในแบบของเขาจะก่อให้เกิดความเวิ้งว้าง ว่างเปล่าซึ่งความพอใจชั่วประเดี๋ยวไม่สามารถช่วยให้เขารอดพ้นจากความเวิ้ง ว้างว่างเปล่านั้นได้เลย กฎของการเก็บเกี่ยวไม่เคยถูกยกเลิก [ดู กาลาเทีย 6:7]5

อัครสาวกและศาสดาสมัยเริ่มแรกกล่าวถึงบาปมากมายที่สมควรถูกพวกท่าน ตำหนิ บาปจำนวนมากคือบาปทางเพศ—การเป็นชู้ ความไร้มนุษยธรรม ความ มัวเมาลุ่มหลง ความไม่ซื่อสัตย์ การไม่ควบคุมตนเอง คำพูดหยาบโลน ความ ไม่บริสุทธี้ ตัณหาราคะ การล่วงประเวณี รวมถึงความสัมพันธ์ทางเพศทั้งหมด นอกการสมรส—การกอดจูบลูบคลำ ความเบี่ยงเบนทางเพศ การสำเร็จความใคร่ และการหมกมุ่นเรื่องเพศทั้งในความคิดและคำพูด รวมถึงบาปทุกอย่างที่แอบ ทำและปิดบังไว้ ความคิดและการปฎิบ้ติทุกอย่างที่ไม่ศักดิ์สิทธิ้และไม่บริสุทธี้ บาปร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งคือการร่วมประเวณีระหว่างญาติพี่น้องในสายเลือด6

ถ้าคนหนึ่งมีความปรารถนาและความโน้มเอียงในทาง [รักร่วมเพศ] เขาจะ เอาชนะเช่นเดียวกับเมื่อเขามีแรงกระตุ้นซึ่งนำไปสูการกอดลูบลูบคลำ หรือการ ผิดประเวณี หรือการล่วงประเวณี พระเจ้าทรงกล่าวโทษและห้ามการปฏิบัติตัง กล่าวด้วยความเฉียบขาดเท่าๆ กับกล่าวโทษการล่วงประเวณีและการกระทำ ทางเพศอื่นๆ ในทำนองนั้น … ตรงข้ามกับความเชื่อและคำกล่าวของคนจำนวนมาก [การปฏิบัติ] เช่นนี้ อาทิ การผิดประเวณี สามารถเอาชนะได้และ ให้อภัยได้ แต่ต้องมีการกลับใจจากส่วนลึกและยาวนานเท่านั้น ซึ่งหมายถึงการ ละทิ้งทั้งหมดและการเปลี่ยนแปลงความคิดและการกระทำโดยสิ้นเชิง ข้อเท็จ จริงที่ว่ารัฐบาลบางประเทศ ศาสนาจักรบางแห่ง และคนมากมายที่ประพฤติ ผิดทางเพศซึ่งได้พยายามลดพฤติกรรมเช่นนี้จากความผิดทางอาญาให้เป็นสิทธิ ส่วนบุคคลหาได้เปลี่ยนลักษณะหรือความร้ายแรงของการปฏิบัตินั้นไม่ คนดี คน ฉลาด คนที่ยำเกรงพระผู้เป็นเจ้าทุกแห่งหนยังคงประณามว่าการปฏิบัติเช่นนั้น ไม่คู่ควรแก่การเป็นบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ศาสนาจักรของพระคริสต์ ประณามและกล่าวโทษการปฏิบัติดังกล่าว… บาปรักร่วมเพศที่ชั่วข้าสามานย์ ที่สุดนี้เกิดขึ้นทุกยุคทุกสมัย เมืองหลายเมืองและอารยธรรมจำนวนมากดับสูญ ก็เพราะบาปดังกล่าว7

ชีวิตทางเพศที่บริสุทธึ์ในการแต่งงานอย่างถูกด้องถือว่าได้รับความเห็นชอบ มีเวลาและความเหมาะสมสำหรับทุกสิงที่มีคุณค่า แต่ความสัมพันธ์ทางเพศนอก การแต่งงานตามกฎหมายจะให้สิ่งที่เคยใข้แล้วและสิ่งที่เคยกูกเอาเปรียบแก่ บุคคลคนนั้น ทำให้เขาหรือเธอกลายเป็นคนที่แลกเปลี่ยนได้ เอาเปรียบได้ และ ใช้สอยได้ …

ความสัมพันธ์ทางเพศอย่างผิดทำนองคลองธรรมคือการกระทำที่เห็นแก่ตัว การทรยศ และไม่ซื่อสัตย์ การไม่เต็มใจยอมทำหน้าที่รับผิดชอบคือความขลาด เขลาและไม่ภักดี การแต่งงานเป็นเรื่องของกาลเวลาและนิรันดร การผิดประเวณีและการออกนอกลู่นอกทางทั้งหมดเป็นเรื่องของวันนี้ ชั่วโมงนี้ และ “เวลานี้” การแต่งงานให้ชีวิต การล่วงประเวณีนำไปลู่ความตาย8

ความรักเป็นเรื่องดีงามและไม่เห็นแก่ตัว แต่ความล่มหลงเป็นเรื่องเสื่อมเสียและเห็นแก่ตัว

ชายหนุ่มไม่ซื่อตรงต่อความเป็นชายเมื่อเขาสัญญาถึงความนิยมชมชอบ ช่วง เวลาที่ดี ความมั่นคง ความสนุกสนาน และแม้ความรัก แต่ทั้งหมดที่เขาให้ได้ คือกิเลสตัณหาและผลอันโฉดชั่วของมัน—ความละอายแก่ใจ ความน่ารังเกียจ ความเกลียดชัง ความเจ็บแด้น ความเมื่อหน่ายในท้ายที่สุด รวมทั้งการตั้งครรภ์ อย่างไม่ถูกกฎหมายและไร้เกียรติ เขาอ้างว่าทำไปเพราะรักและทั้งหมดที่เขาให้ คือความลุ่มหลง ส่วนหญิงสาวก็ขายตัวถูกๆ ผลที่ได้คือความเสียหายแก่ชีวิต และความเสื่อมเสียแก่จิตวิญญาณ …

ทว่าคนหนุ่มสาวเหล่านี้ยังคงพูดถึงความรัก นี่คือความผิดพลาดของการใช้ คำที่ไพเราะที่สุดนี้อย่างผิดๆ ผลขมเพราะต้นไม้เน่า ปากพูดว่า “ผมรักคุณ” แต่ร่างกายพูดว่า “ผมต้องการคุณ” ความรักคือความกรุณาและความดีงาม รัก คือให้ ไม่ใช่รับ รักคือรับใช้ ไม่ใช่เอาเปรียบ …

ความรักคืออะไร คนจำนวนมากคิดว่าความรักเป็นเพียงเสน่ห์ทางกายและ เขาพูดตามอารมณ์ถึง “การตกหลุมรัก” และ “รักแรกพบ” … คนหนึ่งอาจ เป็นที่สะดุดตาในทันทีของอีกคนหนึ่ง แต่ความรักเป็นมากกว่าเสน่ห์ทางกาย ความรักนั้นลึกซึ้ง ครอบคลุม และกินความกว้าง เสน่ห์ทางกายเป็นเพียงหนึ่ง ในองค์ประกอบหลายๆ อย่าง แต่ต้องมีศรัทธา ความเชื่อมั่น ความเช้าใจ และ การเป็นหุ้นส่วน ต้องมีอุดมการณ์และมาตรฐานเหมือนกัน ต้องมีการอุทิศตน และความเป็นเพื่อน ความรักคือความสะอาด ความเจริญก้าวหน้า การเสียสละ และความไม่เห็นแก่ตัว ความรักแบบนี้ไม่มีวันหน่ายหรือลดน้อยถอยลง แต่คง อยู่แม้ในยามเจ็บป่วยและเศร้าโศก ยากไร้และชัดสน ประสบความสิ้าเร็จและ สินหวัง ตลอดกาลเวลาและนิรันดร เพื่อให้ความรักดำเนินต่อไป จะต้องมีการ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของความไว้วางใจและความเช้าใจ การแสดงออกที่จริงใจ และบ่อยครั้ง การแสดงความชื่นชมและความเอื้ออาทรจะต้องลืมนึกถึงตนเอง และห่วงใยผู้อื่นอยู่เสมอ ความสนใจ ความหวัง และวัตลุประสงค์จะอยู่ใน ช่องทางเดียวกันตลอดเวลา …

ชายหนุ่มที่ปกป้องคนรักจากการใช้หรือการใช้ผิดๆ ทั้งหมด จากการดูหมิ่น เหยียดหยามตนเองหรือผู้อื่น บุคคลเช่นนั้นกำลังแสดงให้เห็นรักแท้ แต่ชาย หนุ่มที่ใช้คู่รักเป็นเครื่องเล่นเพื่อตอบสนองความพึงพอใจชั่วประเดี๋ยวของตน นั่นคือความลุ่มหลง

หญิงสาวที่ประพฤติตนให้มีเสน่ห์ทางวิญญาณ ทางใจ และทางกายแต่จะไม่ ใช้คำพูดหรือการแต่งกายหรือการกระทำเพื่อปลุกเร้าหรือกระตุ้นคู่รักให้ตอบ สนองทางเพศกำลังแสดงให้เห็นรักแท้ หญิงสาวที่สัมผัส ปลุกเร้า ลูบไล้ ล่อ ลวง และใช้คู่รักให้ทำเช่นนั้นกำลังแสดงให้เห็นถึงความลุ่มหลงและการเอาเปรียบ …

จงระวังเล่ห์เหลี่ยมของมารในการทำให้ความชั่วดูเหมือนความดีโดยติดป้าย บังความชั่วของมัน อย่างเช่นเครื่องมีอที่บันใช้คือการหาเหตุผลมาอ้างว่าความ ลุ่มหลงคือความรัก9

แม้เรื่องเพศจะเป็นส่วนสำคัญและน่าพึงใจของชีวิตแต่งงาน แต่เราพึงจำไว้ว่า ชีวิตมิได้กำหนดไว้สำหรับเรื่องเพศเท่านั้น10

ความสัมพันธ์ทางเพศของสามีภรรยา (และ เฉพาะ สามีภรรยาเท่านั้น) มี ไว้เพื่อจุดประสงค์สำคัญของการนำบุตรธิดามาสู่โลก พระเจ้ามิได้ทรงบุ่งหมาย ให้ประสบการณ์ทางเพศเป็นเพียงเรื่องเล่นๆ หรือเพียงเพื่อสนองกิเลสตัณหา และความลุ่มหลง เราทราบว่าไม่มีบัญชาจากพระเจ้าโดยตรงว่าประสบการณ์ทาง เพศที่เหมาะสมระหว่างสามีภรรยาจะต้องถูกจำกัดเฉพาะการให้กำเนิดบุตรเท่า นั้น แต่เราพบหลักฐานมากมายนับแต่แอด้มจนถึงบัดนี้ว่าพระเจ้าไม่เคยมีมาตรการเรื่องเพศโดยไม่แบ่งแยกดีชั่ว11

เราต้องหลีกเลี่ยงสื่อลามกและการผิดศีลธรรมทุกรูปแบบ

เราคือลูกทางวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าและ … เราเป็นงานสร้างที่ยอดเยี่ยม ของพระองค์ ในเราแต่ละคนมีศักยภาพที่จะเป็นพระผู้เป็นเจ้า—บริลุทธี้ ศักดิ์ สิทธี์ แน่วแน่ มีอิทธิพล เปียมด้วยพลัง ไม่ขึ้นคับแรงกดด้นทางโลก เราเรียน รู้จากพระคัมภีร์ว่าเราแต่ละคนมีการดำรงอยู่นิรันดร์ เราอยู่ในการเริ่มต้นกับพระ ผู้เป็นเจ้า (ดู เอบราแฮม 3:22) ความเช้าใจตังกล่าวให้สำนึกอันหาใดเทียบ ได้แก่เราถึงศักดิ์ศรีของมนุษย์

แต่มีผู้สอนปลอมอยู่ทุกแห่งหน เขาใช้คำพูดและวรรณกรรมลามก นิตยสาร วิทยุ โทรทัศน์ ภาษาหยาบคาย—เผยแพร่ศาสนานอกรีตอันน่ารังเกียจซึ่งทำลาย มาตรฐานทางคืลธรรม และสนองความลุ่มหลงของเนื้อหนัง12

เราชิงชังสื่อลามกที่ดูเหมือนจะกำลังท่วมแผ่นดิน นิตินัญญิติพยายามควบคุม เรื่องนี้ แต่วิธีหยุดยั้งที่ดีที่สุดคือให้ชายหญิงกับครอบครัวเขาสร้างสื่งกีดขวางเอา เอง เราถามท่านว่า “พลเมืองดีในชุมชนอย่างท่านอยากให้ความชั่วช้านื้กัด กร่อนครอบครัวและเพื่อนห้านของท่านหรือไม่”13

เมื่อเราเห็นความเสื่อมทรามของคนจำนวนมากในสังคมของเราจงใจยัดเยียด ภาพหยาบคาย คำพูดหยาบโลน และการปฏิบัติที่ผิดธรรมชาติ เราสงสัยว่า ซาตานได้ยื่นมืออันชั่วร้ายของเขาออกมาดีงผู้คนของโลกนี้เข้าไปในกองทัพ ของเขาหรือ เราเหลือคนดีไม่พอจะหยุดยั้งความชั่วร้ายซึ่งคุกคามโลกของเรา อย่างนั้นหรือ เหตุใดเรายังคงยอมอ่อนข้อให้กับความชั่วร้ายและเหตุใดเรายังคง ยอมรับบาปอย่างเงียบๆ14

เราหวังว่าบิดามารดาและผู้นำของเราจะไม่ยอมรับสื่อลามกอย่างเงียบๆ แท้ที่ จริงมันคือขยะ แต่ปัจจุบันมันถูกเร่ขายเหมือนเป็นอาหารธรรมดาที่น่าพึงใจ … มีการเชื่อมโยงระหว่างสื่อลามกกับแรงผลักดันและความเบี่ยงเบนทางเพศที่ ตํ่าช้า15

น่าเสืยดายที่บาปอันเกี่ยวเนื่องกับพื่อลามกติดอยู่กับการล่วงละเมิดร้ายแรง อื่นๆ ด้วย รวมถึงการทำแท้ง16

ช่างน่าชันเมื่อบอกว่าสื่อลามกไม่มืผลกระทบใดๆ บันมีความสัมพันธ์แน่ชัด กับอาชญากรรม การฆาตกรรม โจรกรรม การข่มขืน การโสเภณี และธุรกิจ นอกกฎหมายล้วนเกิดจากความไร้ศีลธรรมดังกล่าว ดูเหมือนสถิติอาชญากรรม ทางเพศจะสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างอาชญากรรมกับสื่อลามก

สื่อลามกชดเชยคุณค่าทางสังคมไม่ได้เลย เราขอให้ครอบครัวป้องกันบุตร หลานในทุกๆ ด้านที่ทำได้ เราอยู่ในโลกที่ผ่อนปรน แต่เราต้องแน่ใจว่าเราจะ ไม่เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่ผ่อนปรน โลกที่เพื่อมถอย17

สมาชิกของศาสนาจักรทุกแห่งได้รับการขอร้องให้ต่อต้านไม่เฉพาะแต่โรค ระบาดของสื่อลามกเท่านั้น แต่ให้เป็นพลเมืองที่มืส่วนร่วมอย่างแข็งชันและไม่ ย่อท้อในการต่อต้านศัตรูตัวฉกาจต้วนี้ของมนุษย์ทั่วโลก

… จงสอนบุตรหลานของท่านให้หลีกเลี่ยงสื่ออนาจารเสมือนหลีกเลี่ยงโรค ระบาด ในฐานะพลเมือง จงร่วมต่อต้านความลามกอนาจารในชุมชนของท่าน อย่ายอมให้ผู้ได้ประโยชน์จากสื่อลามกกล่อมท่านให้อยู่เฉยโดยชุดว่าการขจ้ด ความลามกอนาจารก็เท่ากับปฏิเสธสิทธิแห่งการเลือกโดยอิสระของประชาชน อย่ายอมให้พวกเขาหลอกว่าการฟิดศีลธรรมทางเพศคือเสรีภาพ

จิตวิญญาณลํ้าค่าตกอยู่ในอันตราย—จิตวิญญาณที่อยู่ใกล้เราและเป็นที่รัก ของเราแต่ละคน18

บิดามารดาและผู้นำควรคุ้มครองเด็ก และเยาวชนให้รอดพ้นจากอิทธิพลที่ผิดศีลธรรม

บุตรหลานของท่านจะเรียนรู้จากท่านในชีวิตวัยเยาว์ของเขาว่าเขาต้องไม่นำ ต้วเข้าไปพ้วพ้นกับการปฏิบัติอันไร้ศีลธรรมทุกร้ปแบบ ท่านจะบอกเขาครั้งเดียว ไม่ได้ แต่ก่อนที่เขาจะแต่งงาน ท่านควรบอกเขาหลายร้อยครั้ง และเขาควรร้ว่า ไม่เฉพาะครอบครัวของเขาและบิคามารดาของเขาเท่านั้นที่คาดหวังการรับใช้ อันยิ่งใหญ่นี้ แต่พระเจ้าในสวรรค์ พระเยชุคริสต์ ทรงคาดหวังด้วยว่าเขาจะรัก ษาตัวให้สะอาดและไม่ทำผิดศีลธรรม19

ความไม่บริสุทธี้คือปีศาจร้ายของยุคสมัย มันรัดแน่นเหมือนหนวดปลาหมึก มืเส้นทางมากมายที่นำเยาวชนไปสู่ความด่างพร้อยเหล่านี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวถึง วิธีการบางอย่างที่ทำลายโครงสร้างทางคืลธรรม

บางคนหมางเมินความแข็งขันในศาสนาจักรและทำตัวห่างเหินจากอิทธิพลที่ ดีงามและมีการป้องกันของศาสนาจักร ดูเหมือนพระกิตติคุณจะเป็นรองผลประโยชน์ส่วนตัวของเขา เขาพลาดการประชุม โดยยอมให้งานที่โรงเรียน ชีวิตทาง สังคม หรือธุรกิจหรืองานอาชีพเบียดกิจกรรมสำคัญๆ ของศาสนาจักรและพระ กิตติคุณออกไปจนเขามีความรู้สึกเย็นชาต่อศาสนาจักรและมาตรฐานของศาสนา จักร

อีกอย่างหนึ่งที่นำไปสู่ความไม่บริสุทธิ้คือความไม่สุภาพเรียบร้อย ปัจจุมันชาย หนุ่มหญิงสาวจำนวนมากกระหยิ่มยิ้มย่องในความรู้ของตนเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ของชีวิต พวกเขาคิดว่ารู้คำตอบทั้งหมุด พวกเขาพูดคุยเรื่องเพศอย่างเสรีเหมือน พูดคุยเรื่องรถยนต์ ภาพยนตร์ และเสื้อผ้า วิญญาณของความไม่สุภาพเรียบร้อย เพิ่มพูนราวกับว่าไม่มีอะไรศักคิ์สิทธ20

ไม่มีเหตุผลว่าเหตุใดผู้หญิงจึงต้องการสวมชุดสั้นๆ หรือเปิดเผย พวกเธอ อยากทำเพียงเพราะนั่นคือรูปแบบการแต่งกายของโลก เราสามารถสร้างรูปแบบ การแต่งกายของเราไดั …

ไม่มืข้อแก้ตัวสำหรับชายหนุ่มที่ไม่สวมเสื้อผ้าหรือเปีดเผยเนื้อตัว ผู้ชายจะ แสดงให้เห็นความกล้าหาญและวิจารณญาณอันดีก้าเขาสนับสนุนเพื่อนสาวให้ สวมเสื้อผ้าสุภาพเรียบร้อย ถ้าชายหนุ่มจะไม่ยอมนัดเที่ยวกับหญิงสาวที่สวม เสัอผ้าไม่เหมาะสม รูปแบบการแต่งกายจะเปลี่ยนไปในเร็วๆ นี้…

พระเจ้าทรงสัญญากับผู้กล้าว่า “สารพัดสิงที่เรามืจะเป็นของเจ้า” เพื่อให้ บรรลุจุดสูงสุดและพรอันไร้ขีดจำกัดคังกล่าว ท่านต้องไม่เสี่ยง จงรักษาชีวิตให้ หวานชื่น สะอาด และบริสุทธิ์ทั้งนี้เพื่อจะไม่มืการสูญเสืยใดๆ การทำเช่นนี้จะ ช่วยให้ท่านหลีกเลี่ยง “สิ่งที่ปรากฎให้เห็นว่าเป็นความชั่ว” และ “วิธีการที่นำ ไปสู่ความชั่ว”21

เราคงไม่ต้องเน้นมากนักว่าความไม่สุภาพเรียบร้อยเป็นหลุมพรางอย่างหนึ่งที่ พึงหลีกเลี่ยงหากเราจะเลี่ยงการล่อลวงและรักษาตัวให้สะอาด22

ข้าพเจ้าขอแนะนำ… มาตรฐานต่อไปนี้ไม่ควรนัดเที่ยวหรือไปงานสังคมเป็น คู่จนกว่าจะอายุอย่างนอย 16 ปีขึ้นไป และแมถึงตอนนั้นกียังต้องไข้วิจารณญาณอย่างมากในการเลือกและในความจริงจัง หนุ่มสาวจะยังคงกำหนดขอบเขต ความสนิทสนมถ้าติดต่อกันหลายปีเนื่องจากเด็กหนุ่มจะต้องไปทำงานเผยแผ่ เมื่อเขาอายุ 19 ปี

การนัดเที่ยวและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนัดเที่ยวกับคนๆ เดียวซํ้าๆ กันในช่วง วัยรุ่นนับว่าอันตรายที่สุด มันจะบิดเบือนภาพรวมของชีวิต ท่านจะหมดโอกาส รับประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากมาย สิ่งนี้จะจำกัดมิตรภาพ ลดจำนวนคนรู้จักซึ่งจะ มีค่ามากในการเลือกคู่สำหรับกาลเวลาและนิรันดร

มีเวลาอย่างแน่นอนสำหรับงานเต้นรำ การเดินทาง การคบหา การนัดเที่ยว และแม้การนัดเที่ยวกับคนคนเดียวจุนบรรลุจุดสูงสุดของความหวานชื่นซึ่งจะ นำคนหนุ่มสาวไปพระวิหารศักดิ์สิทธิเพื่อการแต่งงานนิรันดร์ แต่จังหวะเวลามี ความสำคัญมาก แม้สิ่งนั้นจะถูกต้องแต่ถ้าทำผิดเวลา ผิดสถานที่ ภายใต้สภาวการณ์ที่ไม่ถูกต้องก็นับว่าผิด23

จงรักษาชีวิตให้สะอาดและเป็นอิสระจากความคิดและการกระทำที่ไม่บริสุทธี์ และไม่ศักดิสิทธี้ หลีกเลี่ยงการคบหาทั้งหมดซึ่งทำให้มาตรฐานอันชอบธรรม และสูงส่งที่ตั้งไว้สำหรับท่านตกตํ่าลง เมื่อนั้นชีวิตท่านจะราบรื่น สันติสุขและ ความปีติยินดีจะห้อมล้อมท่าน24

ฃ้อเสนอเเนะสำหรับศึกษาเเละสอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะศึกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมได้ที่หน้า ⅴ–ⅸ

  • เปรียบเทียบคู่ชายหญิงที่ประธานคิมนัลล์บรรยายไวัในหน้า 193 กับคู่ที่ท่าน กล่าวถึงในย่อหน้าแรกของหน้า 194 อะไรทำให้สิทธิชนยุคสุดท้ายทั้งสอง คู่นี้มีเจตคติและการกระทำแตกต่างกัน

  • อ่านย่อหน้าที่สองในหน้า 194 ท่านจะพูดอย่างไรกับคนที่อ้างว่าความบริสุทธ เปีนเรื่องถ้าสมัย (ดูตัวอย่างในหน้า 194–196) ผลของการไม่นำพากฎพรหมจรรย์มีอะไรห้าง การเชื่อฟังกฎนี้มีพรอะไรบ้าง

  • ตรึกตรองว่าท่านจะเติมประโยคนี้ให้สมบูรณ์อย่างไร รักคือ____ลุ่มหลงคือ____(ดูตัวอย่างในหน้า 196–197) ความเข้าใจของเราในเรื่องความรักควร มีอิทธิพลต่อความคิดและการกระทำฃองเราอย่างไร

  • ท่านคิดว่าเหตุใดประธานคิมบัลล์และผู้นำศาสนาจักรหลายท่านจึงเตือนให้ ระวังสื่อลามก (ดู หน้า 197–199) เราจะต่อสู้กับการแพร่ระบาดและอิทธิ พลของสื่อลามกได้อย่างไร เราจะทำอะไรได้บ้างในครอบครัวเพื่อ “สร้างสื่ง กีดขวางสื่อลามก”

  • อ่านทวนมาตรฐานในหน้า 199–201 เหตุใดบิดามารดาและผู้นำจึงควรเริ่ม สอนเรื่องกฎพรหมจรรย์แต่เนิ่นๆ ในชีวิตบุตรหลาน บิดามารดาและผู้นำทำ อะไรได้ห้างเพื่อช่วยให้เยาวชนแน่วแน่ต่อศาสนาจักรและมาตรฐานของศาสนาจักร ศาสนาจักรมีแหล่งช่วยอะไรห้างที่จะช่วยให้เยาวชนเข้าใจและรักษา มาตรฐานศาสนาจักร

  • ความสุภาพเรียบร้อยและความบริสุทธี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร

  • ความสุภาพเรียบร้อยในการแต่งกายหมายความว่าอะไร เราจะ “สร้างรูปแบบ การแต่งกายของเรา” ได้อย่างไร (หน้า 200) ความสุภาพเรียบร้อยในคำพูด และความประพฤติของเราหมายความว่าอย่างไร เราจะช่วยให้เยาวชนเข้าใจ ความจำเป็นของความสุภาพเรียบร้อยในชีวิตทุกด้านได้อย่างไร

ข้อพระคัมภีร์ที่กี่ยวข้อง: 1 โครีนธ์ 6:9, 18–20; เจคอบ 2:7; แอลมา 39:3–5, 9; 3 นีไฟ 12:27–30; ค.พ. 42:22–23, 40–41; 59:6

อ้างอิง

  1. Faith Precedes the Miracle (1972), 151–52, 153, 154.

  2. ใน Conference Report, Oct. 1971, 153; or Ensign, Dec. 1971, 36.

  3. Faith Precedes the Miracle, 155.

  4. ใน Conference Report, Oct. 1980, 4; หรือ Ensign, Nov. 1980, 4.

  5. ใน Conference Report, Apr. 1978, 117; หรือ Ensign, May 1978, 78.

  6. “President Kimball Speaks Out on Morality,” Ensign, Nov. 1980, 95.

  7. Ensign, Nov. 1980, 97.

  8. Faith Precedes the Miracle, 155, 156–57.

  9. Faith Precedes the Miracle, 157–59.

  10. The Miracle of Forgiveness (1969), 73.

  11. “The Lord’s Plan for Men and Women,” Ensign, Oct. 1975, 4.

  12. Ensign, Nov. 1980, 94.

  13. ใน Conference Report, Apr. 1975, 8–9; หรือ Ensign, May 1975, 7.

  14. ใน Conference Report, Apr. 1975, 162; หรือ Ensign, May 1975, 109.

  15. ใน Conference Report, Oct. 1974, 7; หรือ Ensign, Nov. 1974, 7.

  16. “A Report and a Challenge,” Ensign, Nov. 1976, 6.

  17. ใน Conference Report, Oct. 1974, 7; หรือ Ensign, Nov. 1974, 7.

  18. Ensign, Nov. 1976, 5, 6.

  19. ใน Conference Report, La Paz Bolivia Area Conference 1977, 22–23.

  20. Faith Precedes the Miracle, 162–63.

  21. Faith Precedes the Miracle, 166, 167, 168.

  22. The Miracle of Forgiveness, 227.

  23. Ensign, Nov. 1980, 96.

  24. Ensign, Nov. 1980, 98.

bride and groom at temple

“การแต่งงานเป็นเรื่องลองกาลาเเละนิรันดร…การแต่งงานให้ชีวิต”

young couple on date

ประธานคิมบัอลล์ให้แนวทางชัดเจนเเก่คนหนุ่มสาวที่นัดเยว