คำสอนของประธานศาสนจักร
บททื่่ 21: ศาสดาโจเซฟ สมิธ


บททื่ 21

ศาสดาโจเซฟ สมิธ

โจเซฟ สมิธเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระเจ้า ในการฟื้นฟูทุกสิ่งที่สูญหายไประหว่างหลายศตวรรษ ของความมืดทางวิญญาณ

จากชีวิตของสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

ใน ระหว่างทศวรรษ 1970 ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์เดินทาง ไปทั่วโลกกับผู้นำศาสนาจักรท่านอื่นๆ เพื่อพบกับสมาชิกในการประชุมใหญ่ ระดับภาค ที่การประซุมเช่นนี้ครั้งหนึ่ง ท่านแสดงความขอบคุณต่อมรดกของ ศาสดาโจเซฟ สมิธดังนีุ้

“เพราะเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ปีเข้าไปสวดอ้อนวอนในป่าที่นิวยอร์ก ผู้คนหลาย แสนคนจึงได้มาร่วมการประชุมใหญ่ระดับภาค เพราะเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ปีเข้าไป สวดอ้อนวอนในป่าหลังจากอ่านพบในพระคัมภีร์ว่า ‘ฤ้าผู้ใดในพวกท่านขาดสติ ปัญญาก็ให้ผู้นั้นทูลขอจากพระเจ้า’ (ยากอบ 1:5) เพราะท่านดำเนินชีวิตตาม การเปิดเผยจากเบื้องบน เราจึงมีศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุด ท้าย เรามีพรทุกประการที่ช่วยให้เราเป็นผู้คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลกก็เพราะ เด็กหนุ่มวัยสิบสี่ืปีเข้าไปสวดอ้อนวอนในป่า ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งที่โจเซฟพบทาง เข้าไปในป่า และข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งที่ท่านรู้ว่าท่านกำลังทำอะไรและท่านจริงจัง มากพอที่จะรับพระคำของพระเจ้าเมื่อมาถึงท่าน ขยายพระคำนั้นออกไป และ สร้างอาณาจักรนี้”1

อีกครั้งที่ประธานคิมบัลล์บรรยายความรู้สึึกของท่านเมื่อเห็นภาพวาดครึ่งตัว ของโจเซฟ สมิธในห้องหนึ่งของพระวิหารซอลท์เลคว่า “ข้าพเจ้ามองบนผนัง ด้านหน้า และเห็นใจเซฟสมิธ ข้าพเจ้าคิดว่าโจเซฟ สมิธช่างเป็นศาสดาที่ยิ่ง ใหญ่ ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ท่านไม่ใช่คนธรรมดา … ข้าพเจ้านึกถึงการข่มเหงและ ความทุกข์ยากทั้งหลายทั้งปวงที่ท่านประสบ ข้าพเจ้านึกถึงการเปิดเผยทั้งหมด ที่มาจากสวรรค์ถึงท่านซึ่งท่านให้แก่เรา และจากนั้นข้าพเจ้าก็ได้ความเข้มแข็ง ใหม่อีกครั้ง”2

คำลอนของสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

โจเซฟ สมิธได้รับเรียกเป็นศาสดาตามความรู้ล่วงหน้า และพระปรีชาญาณของพระผู้เป็นเจ้า

โจเซฟ สบิธได้รับการเตรียมเป็นเวลาหลายศตวรรษก่อนท่านเกิด แม้ถึงกับ ตั้งชื่อท่านว่าโจเซฟก่อนท่านเกิด [ดู 2 นีไฟ 3:14–15] พันธกิจของท่านคือมา ยังแผ่นดินโลกตามเวลาอันเหมาะสมในวันเวลาสุดท้ายนี้เพื่อเปีดประตูด้อนรับ ชาวโลก ให้พระกิตติคุณพวกเขา ให้ฐานะปุโรหิตพวกเขา และให้ความหวัง ขณะที่พวกเขามุ่งหวังชีวิตนิรันดร์3

โจเซฟ สมิธ ศาสดาของพระผู้เป็นเจ้า ได้รับการวางมือมอบหน้าที่ ได้รับ เรียกก่อนท่านเกิด ได้รับเรียกหลายยุคมาแล้ว ให้ออกมาในเวลานี้และ … เปิด โลกต้อนรับการสั่งสอนพระกิตติคุณที่แห้จริงและมีชีวิต

… โจเซฟ สมิธมาในโลกนี้ที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือเพราะโลกไม่ได้รับ ความช่วยเหลือมาหลายร้อยปี…โลกเคยมีศาสดาเมื่อหลายต่อหลายร้อย ปีมาแล้ว … และด้วยเหตุนี้จึงได้เวลา4

พระผู้เป็นเจ้าพระบิดาของเราและพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ผู้เสด็จ มาปรากฎต่อโจเซฟ สมิธเยาวชนวัยฐานะปุโรหิตแห่งแอรันเพื่อให้คำแนะนำเด็ก หนุ่มคนนั้นสำหรับมนุษยชาติทั้งมวล มีได้ทรงปรากฎต่อบุคคลคนหนึ่งบนดาว เคราะห์ดวงนี้โดยบังเอิญ แต่พระเจ้าตรัสว่าการปรากฎครั้งนี้ ซึ่งวางแผนไว้อย่าง แน่ชัด เกิดขึ้นเพราะ “… เราพระเจ้าโดยรู้กัยพิบัติซึ่งจะเกิดกับผู้อาศัยบนแผ่น ดินโลก จึงเรียกหาผู้รับใช้ของเรา โจเซฟ สมิธ จูเนียร์ และพูดกับเขาจากสวรรค์ และให้บัญญ้ติเขา”(ค.พ. 1:17)

พระผู้เป็นเจ้าบิทรงทำสี่่งใดโดยบังเอิญ แต่จะทรงวางแผนไว้เสมอเฉกเช่น บิดาผู้รักเรา5

ภาพปรากฏครั้งแรกของโจเซฟ สมิธเปิดสมัยการประทานใหม่ ของการเปิดเผยจากเบื้องบน

ภายใต้ความจำเป็นพิเศษ ในช่วงเวลาพิเศษ ภายใต้สภาวการณ์ที่เหมาะสม พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยพระองค์ต่อมนุษย์ผู้พร้อมรับปรากฎการณ์เช่นนั้น และ เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงเหมือนเดิม เมื่อวานนี้ วันนี้ และตลอดไป สวรรค์ปิด ไม่ได้เว้นแต่มนุษย์จะปิดกั้นตนเองด้วยความไม่เชื่อ

ในสมัยการประทานของเรา ประสบการณ์ยิ่งใหญ่ [เช่นนั้น] เกิดขึ้น มีความ จำเป็นเร่งต่วน การละทิ้งความเชื่อปกคลุมแผ่นดินโลกและความมืดทึบปกคลุม ผู้คน ความคิดของมนุษย์คลุมเครือและความสว่างเลือนรางอยู่ในความมืด [ดู อิสยาห์ 60:2] เวลามาถึงแล้ว เสรีภาพทางศาสนาจะปกป้องเมล็ดพันธุ์จนกว่า จะงอกเป็นต้นอ่อนและเติบโต บุคคลหนึ่งได้รับการเตรียมในวัยเยาว์ สะอาด และเปิดใจ ผู้มีศรัทธาแน่ชัดในพระดำรัสตอบของพระผู้เป็นเจ้าว่าสวรรค์จะไม่ เหมือนเหล็กอีกต่อไปและแผ่นดินโลกจะไม่เหมือนทองเหลืองเช่นที่เป็นมา หลายศตวรรษ [ดู เลวีนิติ 26:19]

ศาสดาที่อยู่ระหว่างพัฒนาคนนี้ไม่เคยมีความคิดหรือความเชื่อผิดๆ ท่านมิได้ จมปลักอยู่กับประเพณี ตำนาน การเชื่อฤือโชคลาง และนิทานสอนใจของ ศตวรรษ ท่านไม่เคยลืมสิ่งที่เรียนรู้มา ท่านสวดอ้อนวอนขอความรู้และการนำ ทาง พลังแห่งความมืดมาก่อนความสว่าง เมื่อท่านคุกเข่าในความสงัดของป่า อันเงียบสงบ คำสวดอ้อนวอนที่จริงใจของท่านก่อให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ที่ส่อ เค้าถึงความพินาศของท่าน เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ลูซิเฟอร์ผู้มีการครอบครอง อันไร้ขีดจำกัดได้ใส่โซ่ตรวนให้แก่ความคิดมนุษย์และไม่สามารถคลายโซ่ตรวน ของซาตานได้ สิ่งนีุ้คุกคามการครอบครองอันไร้ขีดจำกัดของเขา โจเซฟ สมิธ เล่าเรื่องของท่านดังนี้

“… ข้าพเจ้าถูกอำนาจหนึ่งมาตรึงไว้ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าหมดกำลังสิน… ผูกลิ้น ของข้าพเจ้า … ความมืดอย่างหนักรวมตัวเข้ามารอบข้าพเจ้า และชั่วครู่นั้นกับ ข้าพเจ้ามันดูราวกับว่าข้าพเจ้าชะตาถึงความพินาศทันที

“… ในทันใดนั้นเอง เมื่อข้าพเจ้ากำลัง … ปล่อยตัวให้ความพินาศ-มิใช่ ให้หายนะที่เป็นมโนภาพ แต่ให้อำนาจของผู้หนึ่งที่มีอยู่จริงจากโลกซึ่งมองไม่ เห็นนั้น… ข้าพเจ้าเห็นลำแสงเหนือความสว่างของดวงอาทิตย์อยู่ตรงเหนือ ศีรษะของข้าพเจ้า …

“… ข้าพเจ้าพบตัวหลุดพ้นจากศัตรูซึ่งยึดข้าพเจ้าไว้แน่น เมื่อแสงนั้นอยู่บน ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเห็นสองพระองค์ประทับยืนอยู่เหนือข้าพเจ้าในอากาศ ซึ่งความ สว่างและรัศมีภาพของทั้งสองพระองค์เกินกว่าจะพรรณนาได้ องค์หนึ่งรับสั่งกับ ข้าพเจ้า โดยทรงเรียกชื่อข้าพเจ้าและตรัสพลางชี้พระหัตฤ์ไปที่อีกองค์หนึ่ง-มีคือบุตรที่รักของเรา จงฟังท่าน!” ” [โจเซฟ สมิธ-ประวัติ 1:15–17]6

สวรรค์ซึ่งปิดมานานหลายศตวรรษบัดนี้เปิดแล้ว เสียงที่เงียบงันไป และไม่ ได้ยินมานานหลายศตวรรษบัดนี้เริ่มพูดอีกครั้ง การเปิดเผยที่แทบจะสูญสินและ อนุมานว่าไม่มีอีกแล้วนั้นได้กลับมาอีกครั้ง …

ความจริงใหม่ แนวคิดที่หลายล้านคนบนแผ่นดินโลกไม่เข้าใจ ปรากฎอย่าง ฉับพลัน และในชั่วขณะนั้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นบนพื้นพิภพที่รู้ด้วยความ มั่นใจแน่นอนว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงดำรงอยู่ พระบิดาและพระบุตรทรงเป็นพระ บุคคลที่แยกจากกันมีพระวรกาย [อันทรงรัศมีภาพ] เป็นเนื้อหนังและกระดูก [และท่าน] ถูกสร้างตามรูปลักษณะของทั้งสองพระองค์ ดังที่พระบุตรทรงอยู่ใน รูปลักษณะของพระบิดา พระบิดาพระผู้เป็นเจ้าจึงทรงมีรูปลักษณะเหมือนพระ บุตร7

พอจะพูดได้ว่าภาพทั้งหมดนี้ที่ปรากฎต่อโจเซฟได้สลายหมอกที่ปกคลุมมา หลายศตวรรษ เพียงความประทับใจ เสียงสึกลับ และความฟันจะ [ไม่] สามารถ ขจัดความคิดแปลกประหลาดและแนวคิดผิดๆ ที่มีมานานได้8

เด็กหน่มคนนี้ได้รับความรู้ชุดใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์รู้จัก จำไว้ว่าในเข้าฤดูใบ ไม้ผลิวันนันไม่มีสักคนในโลกมีความรู้แน่นอนถึงพระผู้เป็นเจ้า มีคนดีจำนวน มาก แต่พวกเขาล้วนเดินอยู่ในความมีดทางวิญญาณมาหลายศตวรรษ แต่มีเด็ก หนุ่มคนหนึ่งที่รู้ …

โจเซฟรู้ถึงความแน่นอนเหล่านี้ ไม่มีจิตวิญญาณใดรู้

ท่านรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์ พระองค์ทรงเป็นบุคคล [ผู้ทรงรัศมีภาพ] มีเนื้อหนัง กระดูกและบุคลิกภาพ เหมือนเราหรือเราเหมือนพระองค์ ตามรูป ลักษณะของพระองค์

ท่านรู้ว่าตรีเอกานุภาพของพระผู้เป็นเจ้าสามพระองค์ไนร่างเดียวตามที่สอน กันมานานเป็นเพียงนิยายปรัมปราและคำหลอกลวง ท่านรู้ว่าพระบิดาและพระ บุตรทรงเป็นคนละองค์ ทรงมีรูปร่างลักษณะ สุรเสืยง และ … พระบุคลิกภาพ ต่างกัน

ท่านรู้ว่าพระกิตติคุณไม่ได้อยู่บนแผ่นดินโลก เพราะท่านทราบเรื่องนี้จาก พระผู้เป็นเจ้า และศาสนาจักรที่แท้จริงไม่อยู่บนแผ่นดินโลก เพราะพระผู้เป็น เจ้าแห่งสวรรค์และแผ่นดินโลกทรงแจ้งให้ท่านทราบ9

เช้าวันนั้นในป่าที่นิวยอร์กเมื่อพระบิดาและพระบุตรเสด็จมาหาท่านอาจเป็น การเปิดเผยครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยให้แก่โลกก็ได้10

โจเซฟ สมิธเป็นเครื่องมือฃองพระเจ้า ในการฟื้้นฟูพระกิตติคุณ

ศาสดาหนุ่มรับทราบว่าท่านจะเปีนเครื่องมือในพระหตถ์ของพระเจ้าในการ ฟื้้นฟูพระกิตติคุณนิรันดร์พร้อมทุกสิงที่สูญหายไปเมื่อหลายศตวรรษก่อน จาก นั้นภาพปรากฎและการเปิดเผยเหล่านี้ก็เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายปีซึ่งทำใหใด้ยินสูรเสิยงของพระเยโฮวาห์ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยทรงพื้นฟูความจริงของพระกิตติคุณ ฐานะนุ่โรหิตของพระผู้เป็นเจ้า การเป็นอัครสาวก สิทธิอำนาจและพอัง และ องค์การศาสนาจักรบนแผ่นดนโลกผ่านศาสดาหนุ่มผู้นี้ ทั้งนี้เพื่อให้การเปิดเผย และความจริงอันเป็นนิจอยู่บนแผ่นดินโลกภีกครั้งและมีผลต่อมนุษย์ทุกคนผู้จะ ยอมรับ11

ศาสดาโมโรไนปรากฎต่อโจเซฟและใช้เวลาหลายชั่วโมงอธิบายการอพยพไป อยู่ทวปอเมริกาของชาวลีไฮและพระคัมภีร์มอรมอนด้วย ซึ่งจะขุดขึ้นมาจากใต้ ดินและได้รับการแปล… บันทึกนี้ พระคัมภีร์มอรมอนจะช่วยความเป็นพระเจ้า ของพระเจ้าพระเยชูคริสต์เป็นที่ยอมรับ12

โดยผ่านของประทานและอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า [ใจเซฟ] แปลบันทึกดัง กล่าว ซึ่งบัดนี้เป็นที่รู้จักในนามพระคัมภีร์มอรมอน13

พระกิตติคุณได้รับการเปิดเผย เป็นบรรทัดๆ เป็นข้อๆ ความจริงได้รับการ พื้นฟู พลังได้รับมอบและสิทธิอำนาจได้รับการเปิดเผย ความสว่างและผู้คนเพิ่ม ฃึ้นทึละน้อยจนมากพอสำหรับจัดตั้งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าตามที่ดาเนียล เห็นเมื่อสองสหัสวรรษครึ่งที่ผ่านมา [ดู ดาเนียล 2:44–45]14

หลังจากหลายศตวรรษของความมืดทางวิญญาณ ความสว่างเริ่มส่องแสง เมื่อการเปิดเผยเปีดสมัยการประทานนี้ ศาสดาโจเซฟ สมิธได้รับการเปิดเผยจาก พระเจ้าโดยนำสิงที่สูญหายไปกลับมาบนแผ่นดินโลก นั่นก็คือฐานะปุโรหิตของ พระผู้เป็นเจ้า สิทธิอำนาจ พลัง สิทธิ์ที่จะประกอบพิธีการ และความต่อเนื่อง ของการเปิดเผยของพระเจ้าต่อผู้คนของพระองค์ที่นื่บนแผ่นดินโลก15

โจเซฟ สมิธได้รับพลังอำนาจ ด้วยเหตุนี้สิงใดที่ท่านผนึกไว้บนแผ่นดินโลก สิ่งนั้นจึงถูกผนึกไว้ในสวรรค์ กุญแจเหล่านั้นล่งมอบต่อๆ กันมาจากประธาน ท่านหนึ่งถึงประธานอีกท่านหนึ่ง16

โจเซฟ สมิธผนึกประจักษ์พยานของท่านด้วยเลือด

เราคุ้นเคยดีกับรายละเอียดเกี่ยวกับชีวิตของโจเซฟ สมิธ ท่านประกาศภาพ ปรากฎอันรุ่งโรจน์ของพระบิดาและพระบุตรทันที ถูกกดขี่ฃ่มเหงในทันใด พวก ธรรมาจารย์และพวกฟาริสืยุคปัจจุบันดีพิมพ์หนังสือและบทความใส่ร้ายท่าน หลายร้อยเล่ม จับท่านเข้าคุก … ทายางมะตอยที่ตัวท่านและปิดทับด้วยขนนก ยิงท่าน และทำทุกสิงในอำนาจของเขาเพื่อทำลายท่าน ถึงแม้คนพวกนั้นจะ พยายามทุกวิถีทางเพื่อปลิดชีวิตท่าน แต่ท่านก็อยู่รอดมาได้หลายปีท่ามกลางการ ข่มเหงที่ดุเดือดและรุนแรงเพื่อทำพันธกิจของท่านจนวินาทีสุดท้าย

ยี่สิบสิ่ปีของความทุกข์แสนสาหัส แต่เป็นยี่สิบสิ่ปีของความปลาบปลื้มใจใน การสนทนากับพระผู้เป็นเจ้าและมนุษย์อมตะคนอื่นๆ! พันธกิจของท่านสำเร็จ ลุล่วง—สวรรค์และแผ่นดินโลกเชื่อมโยงกันอีกครั้ง ศาสนาจักรได้รับการจัดตั้ง ปริอัม ยังและผู้นำที่ยิ่งใหญ่ท่านอื่นๆ ได้รับการอบรมให้สานต่อ ท่านประสาท กุญแจและพลังอำนาจทุกอย่างของอัครสาวกซึ่งคัวท่านดำรงอยู่ให้แก่หัวหน้า อัครสาวกสิบสอง และท่านกล่าวกับพวกเขาว่า “ข้าพเจ้าวางรากฐานไว้แล้ว และท่านต้องสร้างอยู่บนนั้น เพราะอาณาจักรวางอยู่บนบ่าพวกท่าน”

เวลาของท่านมาฤึงเมื่อต้องผนึกประจักษ์พยานของท่านด้วยเลือด บ่อขเหลือ เกินที่ถูกมิตรและศัตรูำนวนมากเหยียดหยาม

… แม้ท่านจะหวังและสวดอ้อนวอนขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพนไป แต่ท่านทราบ ว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ท่านกล่าวว่า “ข้าพเจ้ากำลังไปเหมือนลูกแกะไปสู่การ ฆ่า” [ดู ค.พ. 135:4]…

การฆ่าเกิดขึ้น! เลียงปืนดังลั่น! โลหิตแท่งมรณสักขีไหลทะลัก ไฮรัมพี่ชาย ท่านได้รบเลือกไห้อยู่กับท่าน โลหิตลํ้าค่านี้ซึมลงในแผ่นดินโลกเพื่อผนึกประ จักษ์พยานที่ไม่ตายและไม่สามารถโต้แย้งได้ซึ่งยังคงดังก้องอยู่ในความคดและ จิตใจ17

พระเยชุทรงผนึกประจักษ์พยานของพระองค์ด้วยพระโลหิตของพระองค์ สตืเฟนก็เช่นกัน โจเซฟ สมิธผนึกประจักษ์พยานของท่านด้วยเลือดและสิ้นชีพ เมื่อยังหบุ่มแน่นเพื่อบอกกล่าวแก่ชาวโลกทั้งปวงว่าแผ่นจารึกซึ่งกลายเป็นพระ คัมภีร์มอรมอนถูกพบบนเนินเขาใกล้พอลไมราในรัฐนิวยอร์ก และด้วยเหตุนี้ โดยผ่านความเข้าใจในหนังสือเล่มนี้และในพระคัมภีร์ใบเบิลศักดิ์สิทธิ์ พระกิต ติคุฌของพระเยซูคริสต์จึงได้รับการพื้นฟูบนแผ่นดินโลกอีกครั้งผ่านการปฏิบัติ ของเหล่าเทพของพระองค์18

โจเซฟได้รับการคุ้มครองและชีวิตท่านรอดจากการข่มเหงทุกครั้งจนงานของ ท่านสิ้นสุดและทำส่วนของท่านสำเร็จในการพื้นฟูพระกิตติคุณ ฐานะปุโรหิต และกุญแจอื่นๆ ทั้งหมดของสมัยการประทาน และจนการจัดตั้งอาณาจักรบรรลุ ผล ท่านจะถูกสังหารก่อนหน้านั้นไม่ได้ แม้นรกจะเดือดดาลก็ตาม ท่านอยากมี ชีวิตอยู่ ชีวิตหวานชื่นสำหรับท่าน ชีวิตมีคำสัญญาถึงความสัมพันธ์อันหวานชื่น กับครอบครัวท่าน พี่น้องชายของท่าน และความพึงพอใจจากการได้เห็นงานผลิ ดอกจนบานสะพรั่ง แต่งานของท่านเสร็จแล้ว เวลานี้ผู้นำที่เข้มแข็งท่านอื่น สามารถสานต่อได้ ทุ่งแห่งอื่นต้องการท่าน ด้วยวัยเพียงสามสิบกว่าปี ยังหนุ่ม มาก ท่านสิ้นชีพและเริ่มงานของท่านในอาณาจักรอื่น19

“ความเชื่อของชาวมอรมอนไปไม่รอดแน่ฤ้าเราฆ่าศาสดาของพวกเขา” คน พวกนั้นกล่าว … ขณะฆาตกรรมโจเซฟ สมิธอย่างเลือดเย็น ไม่ต้องสงสัยเลย ว่ารอยยิ้มเหี้ยมเกรียมเพราะพึงพอใจกับการกระทำที่ตำข้าเปลี่ยนเป็นหน้าบูดบึ้ง วุ่นวายใจเมื่อประจักษ์แก่ใจว่าพวกเขาเตะถูกปลายแหลมคมที่รังแต่จะทำให้ตน เจ็บ ความเชื่อของชาวมอรมอนมิได้ถูกทำลายเพราะมรณสักขีที่โหดร้าย แต่นี่ คือพลังชีวิตของศาสนาดังกล่าว เนื้อหนังที่ถูกกระสุนกลายเป็นปุ๋ยในดิน เลือด ที่หลั่งนองให้ความชุ่มชื้นแก่เมล็ดพันธ์ และวิญญาณที่พวกเขาส่งชื้นสวรรค์จะ เป็นพยานฟ้องพวกเขาชั่วนิรันดร์ อุดมการณ์ยังคงอยู่และเติบโต20

งาน [ของโจเซฟ สมิธ] ไม่สูญสิ้น ประจักษ์พยานของท่านดำเนินไปข้าง หน้าอย่างมั่นคงจนหาที่สุดมีได้21

ทุกวันนี้ผู้คนมากมายเรียกหาการศึกษา การปฏิบัติจริง และคุณธรรมต่างยืน เป็นพยานว่ามรณสักขีของโจเซฟ สมิธ เฉกเช่นมรณฺสักขีของผู้ที่อยู่มาก่อนท่าน เป็นข้อพิสูจน์ที่เชื่อถือได้อีกประการหนึ่งถึงความลํ้าเลิศแห่งพระกิตติคุณของ พระเยซูคริสต์ ซึ่งได้รับการฟื้้นฟูครบถ้วนสมบูรณ์ผ่านศาสดาผู้อ่อนน้อมถ่อม ตนท่านนี้22

ข้อเลนอแนะสำหรับศึกษาเเละสอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะศึกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ที่หน้า ⅴ–ⅸ

  • ท่านคิดว่าเรื่องยิ่งใหญ่ที่สุดที่พระเจ้าทรงเปิดเผยผ่านศาสดาโจเซฟ สมิธมี อะไรบาง (ดูตัวอย่างหน้า 244–248) เมื่อคนที่ไม่เป็นสมาชิกของศาสนา จักรถามท่านเกี่ยวกับโจเซฟ สมิธ ท่านจะตอบว่าอย่างไร

  • พระผู้เป็นเจ้าและโจเซฟ สมิธมีบทบาทอะไรในการเปิดสวรรค์เพื่อการฟื้นฟู พระกิตติคุณ (ดู หน้า 243, 244–247) โจเซฟ สมิธได้รับการเตรียมในทาง ใดบ้างเพื่อรับการเปิดเผย

  • หลังจากภาพปรากฎครั้งแรกโจเซฟ สมิธรู้อะไรที่ท่านไม่เคยรู้มาก่อน (ดูตัว อย่างในหน้า 245–247) ท่านคิดว่าความรู้สึกที่โจเซฟ สมิธมีต่อพระผู้เป็น เจ้าและตนเองเปลี่ยนไปอย่างไร ท่านได้รับอิทธิพลอย่างไรน้างจากประจักษ์ พยานของท่านเองเกี่ยวกับภาพปรากฎครั้งแรก

  • โจเซฟ สมิธเป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการเชื่อมสวรรค์กับแผ่นดินโลก อย่างไร (ดู หน้า 247–248) ท่านคิดว่าการเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของ พระเจ้าหมายถึงอะไร

  • ประธานคิมบัลล์กล่าวว่ากลุ่มคนร้ายหวังจะทำลายความเชื่อของชาวมอรมอน โดยฆ่าโจเซฟ สมิธ (หน้า 250) ท่านมีความคิดและความรู้สึกอย่างไรขณะ พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศาสนาจักรตั้งแต่มรณกรรมของโจเซฟ สมิธ

ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง: อิสยาห์ 29:11–14; ค.พ. 135; 136:37–39

อ้างอิง

  1. ใน Conference Report, Melbourne Australia Area Conference 1976, 23.

  2. ใน Conference Report, Guatemala City Guatemala Area Conference 1977, 22.

  3. ใน Conference Report, Manila Philippines Area Conference 1975, 6.

  4. ใน Conference Report, Temple View New Zealand Area Conference 1976, 51.

  5. “Small Acts of Service,” Ensign, Dec. 1974, 4–5.

  6. Faith Precedes the Miracle (1972), 92–93.

  7. The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball (1982), 429.

  8. The Teachings of Spencer W. Kimball, 430.

  9. “The Prophet Joseph Smith and the First Vision,” Annual Joseph Smith Memorial Sermon, Utah State University, Dec. 13, 1970, 7.

  10. ใน Conference Report, Taipei Taiwan Area Conference 1975, 14.

  11. ใน Conference Report, Apr. 1974, 67–68; หรือ Ensign, May 1974, 47.

  12. ใน Conference Report, Apr. 1976, 11, 12; หรือ Ensign, May 1976, 9.

  13. ใน Conference Report, Apr. 1980, 74; หรือ Ensign, May 1980, 51.

  14. ใน Conference Report, Apr. 1976, 12; หรือ Ensign, May 1976, 9.

  15. ใน Conference Report, London England Area Conference 1976, 35.

  16. In Conference Report, São Paulo Brazil Area Conference 1975, 72.

  17. The Teachings of Spencer W. Kimball, 179–80.

  18. The Teachings of Spencer W. Kimball, 143.

  19. ใน Conference Report, Apr. 1945, 59.

  20. ใน Conference Report, Apr. 1955, 96.

  21. ใน Conference Report, Apr. 1946, 50.

  22. The Teachings of Spencer W. Kimball, 181–82.

Joseph in Sacred Grove

“เช้าวนนั้ในป่าทีวยอร์กเบีดาและพรบุตรเสดจมาหา [โจเซฟ สมีธ] อาจเป็นการปีดเผยภรั้งใหญุ่สุดเท่าที่เภยให้แก่โลกก็ได้”

restoration of Aaronic Priesthood

ส่วนหนี่งบองการฟี้นฟูภีอภ่าสดาโจเซฟ สมีธ และออลีเวอร์ ภาวเดอรีได้รับฐานะปุโรหีตแห่งแอรัน จากยอห์นพู้ถวายบัพตีภ่มาที่ฟี้นภืนชีวีตแล้ว

Joseph and Hyrum

“มรณสักบีบองโจเซฟ สมีธพู้ถูกสังหารพร้อมไฮรัมพี่ชายในปี ภ.ภ.1844 เป็นบ้อพีสูจน์ที่เชื่อถือได้อีกประการหนี่งถีงภวามลํ้าเลีภ่แห่งพระกีตตีภุณบองพระยซูภรีสต์”