คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 24: การแบ่งปันพระกิตติคุณ


บทที่ 24

การแบ่งปันพระกิตติคุณ

เราต้องก้าวให้ยาวขึ้นในการแบ่งปันพระกิตติคุฌให้ผู้อื่น

จากชีวิตของสเป็ีนเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

ระหว่างเดินทางไปเมืองควิโต ประเทศเอกวาดอรในฐานะสมาชิกโควรัมอัคร สาวกสิบสอง เอ็ลเดอร์สเป็ีนเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์อยู่ที่ภัตตาคารของโรงแรม แห่งหนึ่งกับคนกลุ่มหนึ่งที่มีผู้สอนศาสนาหนุ่มสืคนรวมอยู่ด้วย “ท่านแสดง ความเห็นต่อคนอื่นว่าบริกรของพวกเขาเป็ีนชายหนุ่มที่ดูดีและน่าจะเป็็นผู้สอน ศาสนาที่ดีสำหรับศาสนาจักร เอ็ลเดอร์คิมบัลล์สั่งขนมบิงภับนม จากนั้นก็ถาม บริกรชายคนหนึ่งว่าเขามีลูกๆ ที่บ้านหรือไม่ ‘มีลูกชายคนหนึ่งครับ’ บริกรดอบ ‘ขนมป็ังกับนมจะช่วยให้เขามืสุฃภาพดี’ เอ็ลเดอร์คิมบุ้ลล์กล่าว ‘แต่เขาจะมี สุขภาพดียิ่งขึ้นถ้าคุณจะให้เขากินอาหารที่ชายหนุ่มเหล่านี้อยากให้’ บรุ๊กรคนนั้น มีสืหบ้างวยงง ครั้นแถ้วเอ็ลเดอร์คิมบัลล์ก็อธิบายว่าชายหนุ่มเหล่านี้คือผู้สอน ศาสนาที่ต้องสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ บริกรแสดงความสนใจที่จะมี ผู้สอนศาสนาสอนเขา”1

ประธานคิมบัลล์บักจะกล่าวถึงพระบัญชาของพระผู้ช่วยให้รอดว่าต้องนำพระ กิตติคุณไป “ทั่วโลก” (มาระโก 16:15) ท่านฃอผู้สอนศาสนาเต็มเวลามากขึ้น โดยเฉพาะคนหนุ่มและคู่สามีภรรยาสูงอายุ และท่านเตือนสมาชิกทุกคนของ ศาสนาจักรให้มีสํวนในงานนี้ที่พระเจ้าทรงกำหนด “ความจำเป็ีนเร่งด่วนของเรา และการเรียกที่ยิ่งใหญ่ของเรา” ท่านสอน “คือทำให้แสงเทียนแห่งความเข้าใจ ส่องทางให้ผู้คนของโลกนี้ออกจากความมีดสลัวและความมืดมนเข้าสู่ความป็ีติ ยินดี สันติสุข และความจริงของพระกิตติคุณ”2

คำสอนของสเป็ีนเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

พระเจ้าทรงสัญญาจะประทานพรมากมายแก่เรา เนึ่อเราเเบ่งปันพระกิตติคุณ

มีการผจญภัยทางวิญญาณในการทำงานสอนศาสนา ในการให้ใบเเนะนำชื่อ ที่อยู่ และอยู่กับผู้สอนศาสนาขณะที่พวกเขาสอนบทสนทนา งานนี้น่าตื่นเต้น และน่าทำ เวลา ความพยายาม ความรู้สีกประหลาดใจ ทั้งหมดนี้ล้วนคุ้มค่า เมื่อจิตวิญญาณดวงหนึ่งแสดงการกลับใจและศรัทธา และปรารถนาจะรับบัพติศมา ลองนึกดูว่าท่านจะรู้สืกอัศจรรย์ไจเพียงใดเมื่อพวกเขาพูดว่า “เมื่อคุณอยู่ ที่นึ่ และเราพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ดูเหมือนผมจะจำไต้ว่าเคยรู้เรื่องพวกนี้ มาก่อน” หรือ “คุณยังไปไม่ไต้จนกว่าคุณจะบอกทุกสิงที่คุณรู้เกี่ยวกับศาสนา จักรที่ไต้รับการฟื้ื้เนฟู”3

การแบ่งปันพระกิตติคุณนำสันติสุขและความป็ีติยินดีเข้ามาในชีวิตเรา ขยาย จิตใจและจิตวิญญาณของเราเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เพิ่มศรัทธาของเรา กระชับ ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า และเพิ่มความเข้าใจของเราในความจริงพระ กิตติคุณ4

พระเจ้าทรงสัญญาจะประทานพรมากมายแก่เราตามสัดส่วนที่เราแบ่งปันพระ กิตติคุณ เราจะไต้รับความช่วยเหลือจากอีกต้านหนึ่งของม่านขณะที่ปาฏิหาริย์ ทางวิญญาณเกิดขึ้น พระเจ้าทรงบอกเราว่าบาปของเราจะไต้รับการอภัยง่ายขึ้น เมื่อเราน่าจิตวิญญาณมาส่พระคริสต์และยังคงแน่วแน่ในการแสดงประจักษ์พยาน ต่อโลก และแน่นอนว่าเราทุกคนกำลังมองหาความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อเราจะ ไต้รับการอภัยบาป (ดู ค.พ. 84:61) ในพระคัมภีร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดข้อหนึ่งเกี่ยว กับผู้สอนศาสนา ในพระคัมภีร์คำสอนและพันธสัญญาภาคที่ 4 บอกเราว่าล้า เรารับใช้พระเจ้าในการรับใข้เป็ีนผู้สอนศาสนาด้วย “สุดใจ ความสามารถ ความคิด และกำลัง [ของเรา]” เราจะ “ยืนอย่างไม่มีข้อตำหนิต่อพระพักตร์พระ ผู้เป็ีนเจ้าในวันสุดท้าย”(ข้อ 2)

และพระเจ้าตรัสเพิ่มเติมดังนี้

“และหากเป็็นไปว่าเจ้าจะทำงานตลอดวันเวลาของเจ้าในการป่าวร้องการกลับ ใจแก่คนพวกนี้ และน่าแม้จิตวิญญาณเดียวมาส่เรา ความสุขของเจ้าพร้อมด้วย เขาจะใหญ่ยิ่งเพียงใดในอาณาจักรของพระบิดาของเรา!

“และบัดนี้หากความสุขของเจ้าจะใหญ่ยิ่งด้วยจิตวิญญาณเสียวที่เจ้านำมาสู่ เราในอาณาจักรของพระบิดาของเรา ความสุขของเจ้าจะใหญ่ยิ่งสักเพียงใดหาก เจ้าจะนำหลายจิตวิญญาณมาสู่เรา!’’ (ค.พ. 18:15–16)

หากคนๆ หนึ่งจะทำงานตลอดวันเวลาของเขาและทำให้จิตวิญญาณเดียวรอด! ช่างนำป็ีติยินดีอะไรเช่นนี้! จิตวิญญาณเดียวเ ช่างมีค่าอะไรเช่นนี้! โอ้ ขอพระผู้ เป็ีนเจ้าประทานให้เรามีความรักแบบนั้นต่อจิตวิญญาณหลายดวงด้วยเถิด5

พระเจ้าทรงมอบหมายความรับผิดชอบให้สมาชิกทุกคน ของศาสนาจักรรับใช้เป็ืนผู้ส่งข่าวของพระองค์

ข้าพเจ้าประสงค์จะให้เราสร้างความเข้าใจให้สมาชิกทุกคนของศาสนาจักรดี กว่านี้และซื่อสัตย์กว่านี้ว่าถ้าบุคคลหนึ่งมีอายุมากพอจะเป็ีนสมาชิก เขาย่อมมี อายุมากพอจะเป็ีนผู้สอนศาสนาและเขาไม่จำเป็ีนต้องได้รับการวางมือมอบหน้า ที่เป็ีนพิเศษสำหรับการเรียกนั้น สมาชิกทุกคนมีข้อผูกมัดและการเรียกให้นำพระ กิตติคุณไปสู่คนรอบข้าง เราต้องการให้ชายหญิงและเด็กทุกคนยอมทำหน้าที่รับ ผิดชอบตามสิทธของเขา สิ่งนี้สำคัญมาก เพราะข่าวสารของพระกิตติคุณคือ เรา ไต้รับพรจากพระกิตติคุณ และจากนั้นเราจะออกไปแบ่งปันพรเหล่านั้นให้ผู้อื่น

เรามีงานยุ่ง แต่พระเจ้ามิไต้ตรัสว่า “ถ้าเจ้าสะดวก ขอให้เจ้าคิดเรื่องการสั่ง สอนพระกิตติคุณ” พระองค์ตรัสว่า “ให้ทุกคนเรียนรู้หน้าที่ของเขา” (ค.พ. 107:99) และ “ดูเถิด … มันสมควรที่ทุกคนที่ไต้รับการเตือนจะเตือนเพื่อน บ้านของตน” (ค.พ. 88:81)

เราพึงจำไว้ว่าพระผู้เป็ีนเจ้าทรงเป็ีนพันธมิตรของเราในงานนี้ พระองค์คือผู้ ช่วยของเรา พระองค์จะทรงเป็ีดทาง เพราะพระองค์ประทานพระบัญญัติ6

พี่น้องชายหญิงที่รักทั้งหลายผู้เป็็นเพื่อนสมาชิกในอาณาจักรของพระผู้เป็ีน เจ้า ช่างน่าตื่นเต้นเพียงใดที่ไต้รับมอบหมายจากพระเจ้าให้รับใข้เป็ีนผู้ส่งข่าวของ พระองค์ไปให้พื่น้องชายหญิงของเราที่ไม่ไต้เป็ีนสมาชิกของศาสนาจักร ขอให้ เราสมมุติสักครู่ว่าเราถูกสลับบทบาท—ท่านไม่ไต้เป็ีนสมาชิกของศาสนาจักรแต่ เพื่อนน้านที่ไม่เป็ีนสมาชิกในป็ัจจุบันคือสิทธิชนยุคสุดท้าย ท่านอยากให้เขา หรือเธอแบ่งปันพระกิตติคุณให้ท่านหรือไม่ ท่านอยากชื่นชมยินดีในความจริง ใหม่ที่ท่านเรียนรู้หรือไม่ ความรักและความเคารพที่ท่านมีต่อเพื่อนน้านผู้แบ่ง ปันพระกิตติคุณให้ท่านจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ แน่นอนว่าคำตอบทุกข้อคือใช่7

พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย ข้าพเจ้าสงสัยว่าเรากำลังทำสุดความสามารถหรือไม่ เราพอใจในงานมอบหมายให้สอนพระกิตติคุณผู้อื่นหรือไม่ เราพร้อมจะก้าวให้ ยาวขึ้นหรือไม่ เราพร้อมจะขยายวิสัยทัศน์ของเราหรือไม่8

วันสำหรับนำพระกิตติคุณไปให้ที่อื่นมากขึ้นและให้ผู้คนมากขึ้นคือวันนี้และ เดี๋ยวนี้ เราต้องคิดถึงข้อผูกมัดของเราในการแบ่งปันพระกิตติคุณแทนที่จะคิดถึง ความสะดวกของเรา การเรียกจากพระเจ้าไม่ค่อยจะสะดวก เวลาคือตอนนี้เมื่อ การเสืยสละต้องกลายเป็็นองค์ประกอบที่สำคัญมากกว่านี้ในศาสนาจักร เราต้อง เพิ่มการอุทิศตนของเราเพื่อเราจะสามารถทำงานที่พระเจ้าทรงมีให้เราทำได้ … พระดำรัสของพระอาจารย์ต่ออัครสาวกของพระองค์ก่อนเสด็จขึ้นฟูสวรรค์คือ “เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลกประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน

“ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาแล้วผู้ทั้นจะรอด แด่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ” (มาระโก 16:15–16)

เราต้องไม่สั่นคลอนหรือเบื่อหน่ายในการทำดี เราต้องกัาวให้ยาวขึ้น ไม่เฉพาะ ความผาสุกนิรันดร์ของเราเท่านั้นที่อยู่ในอันตราย แต่ความผาสุกนิรันดร์ของพี่ น้องชายหญิงจำนวนมากของเราที่ยังไม่ไต้เป็ีนสมาชิกของศาสนาจักรที่แท้จริง แห่งนี้ด้วย ข้าพเจ้าตื่นเต้นกับถ้อยดำของศาสดาโจเซฟ สมิธในจดหมายที่ท่าน ส่งจากนอวูมายังศาสนาจักรเบื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1842 “เราจะไม่ไปต่อ ไปในอุดมการณ์ยิ่งใหญ่เช่นนั้นหรือ? จงล้าวหน้า … ความกล้า … และต่อไป ต่อไปถึงชัยชนะ!” (ค.พ. 128:22)9

เราช่วยให้ผู้อื่นรับพระกิตติคุณที่ได้รับการขึ้เนฟู ได้โดยผ่านอิทธิพลที่ชอบธรรมและความพยายามของเรา

งานของสมาชิกผู้สอนศาสนาคือกุญแจไฃสู่การเติบโตในอนาคตของคาสนาจักร10

ข้าพเจ้ารู้สืกว่าพระเจ้าทรงวางบุคคลมากมายที่พร้อมจะเข้าฟูศาสนาจักรของ พระองค์ไว้ในแวดวงเพื่อนฝูงและคนที่เรารู้จัก เราขอให้ท่านระบุชื่อบุคคลเหล่า นั้นร่วมกับการสวดล้อนวอน แล้วทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าเบื่อท่านจะ แนะนำพระกิตติคุณให้เขา11

เรื่องนี้ควรชัดเจนต่อเราว่าโดยปกติแล้วเราต้องเป็ีนมิตรกับเพื่อนน้านก่อนเรา จึงจะเตือนพวกเขาไต้ตามสมควร เพื่อนน้านของเราต้องไต้รับมิตรภาพและการ ผูกมิตรที่จริงใจของเรา เราต้องการให้สมาชิกขอร้องเพื่อนบ้าน ไม่ใช่ว่าร้ายหรือ ข่มฟูให้พวกเขากลัว12

พระกิตติคุณเป็ีนความจริง โดยการศืกษาและดำเนินชีวิตตามหลักธรรมพระ กิตติคุณและแสวงหาความช่วยเหลือของพระวิญญาณบริสุทธี้ ผู้แสวงหาที่ จริงใจทกคนจะรู้ด้วยตนเองว่าพระกิตติคุณเป็ีนความจริง แต่จะเข้าใจและยอม รับง่ายขืนมากล้าผู้แสวงหาความจริงจะเห็นหลักธรรมแห่งพระกิตติคุณบังเกิด ผลในชีวิตผู้เชื่อคนอื่นๆ ไม่มีการรับใช้ใดที่ให้แก่การเรียกเป็ีนผู้สอนศาสนาของ ศาสนาจักรนี้จะยิ่งใหญ่กว่าการเป็็นแบบลย่างของคุณธรรมชาวครึสต์ในชีวิตเรา13

สมาชิกที่ชอบธรรมทั้งหลาย การดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณด้วยแบบอย่าง เช่นเดียวกบหลกดำสอนคือการโฆษณาศาสนาจักรที่ได้ผลที่สุด14

สิงที่สมาชิกทุกคนควรทำ ทั้งโดยแบบอย่างที่ดีและโดยการแสดงประจักษ์ พยานคือแสดงให้ผู้ไม่เป็็นสมาชิกเห็นความป็ีติยินดีของความเฃ้าใจและการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ จากนั้นก็ช่วยนำพวกเขาให้มาถึงจุดที่พวกเขาจะยอม รับการสอนอย่างเป็็นทางการมากนี้น15

เป้็็าหมายที่แห้จรึงสําหรับการเผยแผ่ที่มีประสิทธิภาพคือสมาชิกจะหาและผู้ สอนศาสนาเต็มเวลาจะสอน…เมื่อสมาชิกหาพวกเขาย่อมมีความสนใจเป็็น ฟ้วนตัวในการผูกมิตร ผู้สนใจจะสุญหายก่อนบัพติศมาน้อยลง และผู้รับบ้พติศมามีแนวโน้มว่าจะยังคงแข็งขัน16

เป้็็าหมายของเราคือหาให้พบเร็วที่สุดว่าลูกคนใดของพระป็ิตาพร้อมจะดำเมิน ต่อไปทางวิญญาณจนถึงการบัพติศมาเขาสู่อาณาจักร วิธีที่จะหาพบเร็วที่สุดวิธี หนึ่งคือให้เพื่อน ญาติ เพื่อนน้าน และคนเจักพบกบผู้สอนศาสนาเร็วที่สุด17

บางครั้งเราลืมไปว่าการเสิ่ยงต่อความรำคาญเล็กๆ น้อยๆ ในส้มพันธภาพของ เพื่อนคนหนึ่งก็ดีกว่าทำให้เขาสูญเสียชีวิตนิรันดรโดยไม่ยอมปริปากพูด18

อย่ารอว่าต้องผูกมิตรนานๆ ก่อนหรือรอจังหวะเหมาะ สิ่งที่ท่านต้องทำคือหา ให้พบว่าเขาคือผู้ถูกเลือกหรือไม่ “ผู้ถูกเลือกของเราไต้ยินเสียงของเราและหา ทำใจแข็งกระต้างไม่” (ค.พ. 29:7)ถ้าเขาปังและเปีดใจรับพระกิตติคุณ ย่อม แสดงให้เห็นทันทีว่าเขาคือผู้ลูกเลือก ถ้าเขาไม่ฟ้งและใจเขาแข็งกระด้างเพราะ ความช่างสงสัยหรือความคิดเห็นในแง่ลบ เขาก็ยังไม่พร้อม ในกรณีนี้ ท่านจะ รักเขาและผูกมิตรกับเขาเช่นเติม และรอโอกาสหน้าเพื่อดูว่าเขาพร้อมหรือไม่ ท่านจะไม่สูญเสียมิตรภาพของท่าน เขาจะยังเคารพท่าน

แน่นอนว่ามีความท้อแห้ แต่ไม่มีใครแพัตลอดกาล ไม่มีใครเสียเพื่อนเพียง เพราะเพื่อนไม่ต้องการให้ผู้สอนศาสนามาเยี่ยมอีก สมาชิกสามารถสานต่อส้มพันธภาพได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียมิตรภาพหรือความส้มพันธ์ที่พิเศษกับ ครอบครัวนั้น บางครั้งการจะให้คนบางคนเข้ามาในศาสนาจักรต้องใช้เวลามาก กว่าคนอื่น สมาชิกควรผูกมิตรต่อไปและพยายามอีกครั้งในวันต่อๆ มาสำหรับ การเปลี่ยนใจเลื่อมใส อย่าท้อเพียงเพราะขาดความก้าวหน้าชั่วคราว มีเรื่องเล่า มากมายหลายร้อยเรื่องเกี่ยวกับคุณค่าของความบากบั่นในการรับใช้เป็นผู้สอน ศาสนา19

งานสอนศาสนารวมถึงการผูกมิตรผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ และสมาชิกที่แข็งขันน้อยด้วยความรักและต่อเนื่องยาวนาน

เมื่อเราให้บัพติศมาใครบางคน การปล่อยให้เขาออกห่างจากศาสนาจักรและ พระกิตติคุณอย่างช้าๆ เพราะขาดการผูกมิตรลือว่าเป็นความผิด การผูกมิตรเป็น ความรับผิดชอบที่สำคัญ เราควรจะสามารถผูกมิตรกับทุกคนที่เข้ามาไต้ นั่นคือ เหตุผลทีเราต้องการให้สมาชิกทำงานสอนศาสนาและขอความช่วยเหลือจากผู้ สอนศาสนา เราต้องการให้ผู้คน … ออกไปทำงานนี้เพราะพวกเขายังเป็นเพื่อน บ้านเหมือนเติมหลังจากบุคคลนั้นบัพตฺศมาแล้ว พวกเขายังคงผูกมิตรคนเหล่า นั้นไต้ พวกเขายังคงแวะรับคนเหล่านั้นไปการประชุมฐานะปุโรหิตไต้ พวกเขา ยังคงให้กำลังใจและช่วยคนเหล่านั้นเรื่องการส้งสรรคัในครอบครัวและอื่นๆ ไต้20

คงไม่มากเกินไปถ้าจะเน้นว่าเราต้องทำงานสอนศาสนาโดยประสานงานกับ ฐานะปุโรหิตทั้งนี้เพื่อผู้สนใจจะไต้รับการผูกมิตรและผูกติดกับโปรแกรมต่างๆ ของศาสนาจักรจนเขากลายเป็นสมาชิกที่แข็งขันและซื่อสัตย์ไนทันที นี่เป็นอีก วิธีหนึ่งที่สมาชิกทุกคนของศาสนาจักรจะมีส่วนร่วมในการรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา ไดอย่างกระตือรือร้นและต่อเนื่อง—โดยการผูกมิตร เป็นเพื่อน และให้กำลังใจ สมาชิกใหม่ของศาสนาจักร21

จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้รับบัพติศมาเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสจะมีผู้สอนประจำบ้าน ที่ได้รับมอบหมายให้ผูกมิตรพวกเขาเป็นส่วนตัวและด้วยความห่วงใยในทันที ผู้สอนประจำบ้านเหล่านี้ซื่งทำงานกับเจ้าหน้าที่ฐานะปุโรหิตควรแน่ใจว่าผู้เปลี่ยน ใจเลื่อมใสที่เป็นผู้ใหญ่ได้รับกิจกรรมห้าทายบางอย่าง พร้อมโอกาสและกำลังใจ ที่จะเพิ่มความรู้ของเขาในพระกิตติคุณ เขาควรได้รับความช่วยเหลือในการสร้าง สัมพันธภาพทางสังคมกับสมาชิกของศาสนาจักรทั้งนี้เพื่อเขาจะไม่รู้สืกโดดเดี่ยว ขณะเริ่มด้นชีวิตในฐานะสิทธิชนยุคสุดท้ายที่แข็งขัน22

นับเป็นแรงใจและความปีติยินดีที่ได้เห็น… สิทธิชนโอบกอด ช่วยเหลือ และสวดอ้อนวอนให้คนที่เช้ามาในอาณาจักรของพระเจ้าของเราในแต่ละวัน จง ยื่นมือช่วยเหลือกันต่อไป—และจะมีคนเช้ามาในศาสนาจักรมากขึ้น จงต้อนรับ พวกเขา รัก และผูกมิตรพวกเขา23

ความรับผิดชอบของเราในฐานะพี่น้องในศาสนาจักรคือช่วยให้คนที่อาจจะ หลงทางพบทางของตน และช่วยให้คนที่สูญเสืยสิ่งมีค่าพบขุมทรัพย์ของเขาอีก ครั้ง พระคัมภีร์สอนเราขัดเจนว่าสมาชิกทุกคนมีช้อผูกนัดในการช่วยให้เพื่อน สมาชิกเช้มแข็ง

พระผู้ช่วยให้รอดทรงเน้นเรื่องนี้ด้วยความรักทว่าเฉียบขาดเมื่อพระองค์ตรัส กับเปโตรว่า “เมื่อท่านได้ทันกลับแล้ว จงชูกำลังพี่น้องทั้งหลายของท่าน”(ลูกา 22:32) ข้าพเจ้าจะขอพูดกับท่านเช่นเดียวกันว่า เมื่อท่านได้หันกลับแล้ว โปรดชูกำลังพี่น้องชายหญิงของท่านด้วย มีคนมากมายเหลือเกินที่หิวโหย บาง ครั้งก็ไม่ทราบสาเหตุของความหิวโหย มีความจริงทางวิญญาณและหลักธรรมที่ สามารถเป็นรากฐานของชีวิตเขา เป็นความปลอดภัยของจิตวิญญาณเขา มีสันติ สุขแก่ใจและความคิดเขาหากเราจะสวดอ้อนวอนและห่วงใยเขาเท่านั้น …

อาจมีบางคนที่จะพูดว่า “เรารู้จักผู้ชายคนหนึ่งหรือผู้หญิงคนหนึ่งที่เช้าใกล้ ไม่ได้เลย” แน่นอนว่าเราเช้าใกล้เขาหรือเธอได้ เราเป็นพรและช่วยเขาหรือเธอ ได้เสมอ มีคำสัญญาในพระคัมภีร์อ่านว่า “ความรักไม่มีวันสูญสิ้น” (1 โครินธ 13:8) ไม่มีวัน! ความรักไม่มีวันสูญสิ้นและยังคงสร้างปาฏิหาริย์ไนแต่ละบุคคล ในเรา ในเราทั้งสอง และในผู้ที่อยู่รายรอบ หากแสดงความใจบุญนานพอ

… ข้าพเจ้าเชื่อว่าไม่มีใครเปลี่ยนใจเลื่อมใสไม่ได้—หรือฃ้าพเจ้าอาจพูดว่า ไม่มีใครกลับสิความแข็งขันไม่ได้ถ้าบุคคลที่ถูกด้องใช้วิธีที่ถูกด้อง ในเวลาที่ ถูกด้อง ในทางที่ถูกต้อง ด้วยวิญญาณที่ถูกตอง ช้าพเจ้าทราบว่าพรของพระบิดา ในสวรรค์จะตามติดความพยายามของเราถ้าเราเตรียมตัว และถ้าเราดำเนินชีวิต ตามหลักธรรมพระกิตติคุณอย่างมีความสุข และถ้าเราจะขอความช่วยเหลือจาก พระบิดาบนสวรรค์ของเรา …

ขอให้ผู้สอนประจำบ้านของโควรัมฐานะปุโรหิต ผู้เยี่ยมสอนของสมาคมสงเคราะห์ สามีภรรยา บิดามารดาและบุตร และสมาชิกทุกแห่งหนที่รักพระเจ้า และปรารถนาจะทำตามพระประสงค์ของพระองค์ หันมาทำงานชอบธรรมตาม ที่เรียกร้องโดยช่วยคนตกทุกข์ได้ยากด้วยความรักและการดลใจ ความสนใจและ ความกระตือรีอร้นชั่วครั้งชั่วคราวจะไม่ช่วยให้บรรลุผลสมปรารถนา แต่ผลสม ปรารถนาเกิดขึ้นได้ และจะเกิดขึ้นบ่อยๆ จนเราไม่อาจจินตนาการได้ถ้าเราจะ เพิ่มความพยายามของเราร่วมกับการสวดอ้อนวอน ไม่เพียงพรประเสริฐของพระ เจ้าจะเข้ามาในชีวิตท่านและชีวิตผู้อื่นเท่านั้น แต่เราจะใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น และร้สืกถึงความรักและวิญญาณของพระองค์ด้วย24

บิดามารดาควรช่วยลูกๆ เตรียมรับใช้ เป็นผู้สอนศาสนาเต็ีมเวลา

เราต้องการให้ชายหนุ่มในวัยผู้สอนศาสนาของศาสนาจักรก้าวไปข้างหบ้าแม้ ในจำนวนที่มากกว่าเวลานี้เพิ่อเขาจะเข้ารับภาระหน้าที่ สิทธิพิเศษ และพรตาม สิทธิของเขาในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้าในอุดมการณ์สอนศาสนา เราและเขา จะเข้มแข็งเพียงใดถ้าชายหนุ่มทุกคนเตรียมตัวทำงานของพระเจ้า25

เมื่อข้าพเจ้าฃอผู้สอนศาสนามากขึ้น ข้าพเจ้าไม่ได้ฃอผู้สอนศาสนาที่ไม่มีค่า ควรหรือไม่มีประจักษ์พยานมากขึ้น ข้าพเจ้ากำลังขอให้เราเริ่มแต่เนิ่นๆ และ อบรมผู้สอนศาสนาของเราให้ดีขึ้นในทุกสาขาและทุกวอร์ดในโลก การท้าทาย อีกอย่างหนึ่งคือขอให้คนหนุ่มสาวเข้าใจว่านี่คือสิทธิพิเศษอย่างยิ่งที่ได้ออกไป ทำงานเผยแผ่และเขาต้องพร้อมทางร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ และ “พระเจ้า จะทรงดูบาปด้วยระดับการยินยอมแบ้แต่น้อยที่สุดไม่ได้” [แอลมา 45:16]

ข้าพเจ้ากำลังขอผู้สอนศาสนาที่ได้รับการสอนและการอบรมมาเป็นอย่างดี จากครอบครัวและองค์การต่างๆ ของศาสนาจักร และมาส่งานเผยแผ่ด้วยความ ปรารถนาอย่างแท้จริง ข้าพเจ้ากำลังขอ … ใท้เราอบรมผู้มุ่งหวังจะเป็นผู้สอน ศาสนาใท้ดีกว่าเดิมมากๆ เร็วกว่าเดิมมากๆ และนานกว่าเดิมมากๆ เพื่อแต่ละ คนจะทำงานเผยแผ่ของเขาด้วยความปีติยินดียิ่ง26

เราด้องคิดใหมากขึ้น เราด้องเตรียมผู้สอนศาสนาของเราใท้ดีขึ้น ไม่เฉพาะ ภาษาเท่านั้น แต่พระคัมภีร์ด้วย และเหนือสิ่งอื่นใดคือประจักษ์พยานและไฟ อันโชติช่วงที่ใท้พลังแก่คำพูดของเขา27

จงส่งบุตรชายของท่านมาทำงานเผยแผ่ ท่านจะเริ่มสอนเขาทันทีที่เขาเข้าสู่ อ้อมแขนของท่าน เขาได้ยินคำสวดอ้อนวอนของท่านทุกเช้าคา เขาได้ยินท่าน สวดอ้อนวอนพระเจ้าไท้ช่วยเปีดประตูของประเทศต่างๆ เขาได้ยินเกี่ยวคับงาน สอนศาสนา เขาได้ยินท่านสวดอ้อนวอนให้อธิการและประธานคณะเผยแผ่และ ทุกคนที่กำลังรับใช้ท่าน และสิ่งนั้นจะค่อยๆ เข้าสู่จิตสำนึกของเขา28

เกือบทุกครั้งที่ข้าพเจ้าเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ข้าพเจ้าจะพูดว่า “หนูจะเป็น ผู้สอนศาสนาที่ยิ่งใหญ่ใช่ไหม” ท่านหว่านเมล็ดพันสู่ในใจเขา เฉกเช่นพืชผัก ต่างๆ มันจะโตขึ้นทุกวัน และถ้าบิดามารดาพูดกับลูกน้อยของเขา … เกี่ยวกับ การไปเปีนผู้สอนศาสนา—เมื่อเขายังเป็นทารกอยู่—เมล็ดพันธุเล็กๆ จะงอกงาม ขึ้นทุกวัน29

บิดามารดาควรเริ่มเตรียมบุตรชายให้ออมเงินแต่เนิ่นๆ ในชีวิตเขา ให้เขามี วิญญาณของการเก็บออม ให้เขามีวิญญาณของการสืกษาและการสวดอ้อนวอน เกี่ยวกับพระกิตติคุณด้วย วิญญาณของการดูให้เห็นกับตาว่าพระกิตติคุณเกิดผล ในชีวิตเขาและในชีวิตผู้คนรอบข้างอย่างไร ให้เขามีวิญญาณของการรับใข้ตลอด ช่วงเวลาที่เติบใหญ่และประสบการณ์ของการช่วยผู้อื่นจะนำความปีติยินดีของ ข่าวสารพระกิตติคุณเข้ามาในชีวิตเขา ให้เขาใข้ชั้นเรียนและประสบการณ์ในเซมนารีและสถาบันศาสนาเป็นสถานที่อบรมเขาให้รู้ว่าการได้ความเทางวิญญาณ มีค่ายิ่งต่อตัวเขาและผู้อื่น ให้เขาเตรียมโดยรักษาชีวิตให้สะอาดและมีค่าควร และต้องการช่วยพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจของเขาเพื่อนำพระกิตติคุณไปให้ผู้ที่ พร้อมรับ30

ข้าพเจ้าหวังว่าทุกครอบครัวจะจัดสังสรรค์ไนครอบครัวทุกคืนวันจันทร์โดยไม่ พลาด งานสอนศาสนาจะเป็นประเด็นสำคัญประเด็นหนึ่งที่ต้องนำมาสนทนา บิดามารดาและบุตรจะผลัดกันกล่าวคำสวดอ้อนวอนซึ่งต้องมีองค์ประกอบที่ สำคัญยิ่งนี้รวมอยู่ในคำสวดอ้อนวอนนั้นด้วย นั่นคือ ขอให้ประดูของประเทศ ต่างๆ เปีดต้อนรับพวกเราและสอง ขอให้ผู้สอนศาสนา ชายหนุ่มและหญิงสาว ของศาสนาจักร ปรารถนาจะทำงานเผยแผ่และนำผู้คนมาสํศาสนาจักร31

ศาสนาจักรต้องการให้คู่สามีภรรยารับใช้เป็นผู้สอนศาสนา

ถ้าสุขภาพและสภาวะอื่นเอื้ออำนวย บิดามารดาจะเฟ้าคอยเวลาที่พวกเขาจะ รับใช้งานเผยแผ่ด้วย32

คนสุงอายุอย่างเราหลงลืมง่าย เราเกษียณแล้วและพบสถานที่ที่ไปไต้สะดวก พร้อมอุปกรณ์พักแรมและโอกาสอื่นๆ ของเรา เราพบวิธีง่ายๆ ในการสนอง ความคิดและมโนธรรมของเราที่ว่างานต้องดำเนินต่อไป—เราพูดว่าเราจะส่งบุตร ชายของเราไป

เราต่างก็มีความรับผิดชอบนี้ ใช่ว่าเราทุกคนจะสามารถทำไต้ แต่มีหลายคน ทำไต้33

เราอาจจะใช้สามีภรรยาหลายร้อยคู่ คนสูงอายุเช่นพวกเราบางคน คนที่ ครอบครัวเลี้ยงดู คนที่เกษียณในธุรกิจแล้ว คนที่สามารถไป … สอนพระกิตติคุณได้ เราอาจจะใช้สามีภรรยาหลายร้อยคู ท่านเพียงแต่ไปพูดคุยกับอธิการ— นั่นคือทั้งหมดที่ท่านต้องท่า บอกเขาว่า “เราพร้อมจะไป ล้าคุณใช้เราได้” ข้าพเจ้าคิดว่าท่านอาจจะได้รับการเรียก34

นี่คืองานของพระเจ้า เรากำลังทำธุระของพระองค์ พระองค์ทรงบัญชาเรา โดยเฉพาะ แต่เรายังไม่เป็นที่รู้จักท่ามกลางคนมากมายของโลก นี่คือฺเวลาที่จะ คาดเอวและล้าวไปช้างหนาพร้อมการอุทิศตนใหม่ต่องานอันยิ่งใหญ่นี้ เราทำ พันธสัญญาว่าจะทำเช่นนั้น ทั้งท่านและข้าพเจ้า ขอให้เราทุกคนกล่าวพร้อมกับ เด็กหนุ่มที่บิดามารดาผู้ห่วงใยเขาพบเขานั่งอยู่ในพระวิหารกับปราชญ์ทั้งหลาย ว่า “ฉันต้องกระทำธุรกิจแห่งพระบิดาของฉัน” [ลูกา 2:49]35

ข้อเสนอแนะสำหรับศึกษาและสอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะคืกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมได้ที่หน้า ⅴ–ⅸ

  • งานสอนศาสนาเป็น “การผจญภัยทางวิญญาณ” ในด้านใด (หน้า 278) ขณะที่เราแบ่งบินพระกิตติคุณ เรามีประสบการณ์ที่ “น่าตื่นเต้นและน่าทำ” อะไรบ้าง (ดูตัวอย่างในเรื่องหน้า 277)

  • อ่านทวนหน้า 278–279 เพื่อหาพรที่เราได้รับเมื่อเราแบ่งปันพระกิตติคุณ ท่านประสบกับพรเหล่านี้เมื่อใด

  • อ่านย่อหน้าที่ห้าในหน้า 280 ท่านคิดว่า “ก้าวให้ยาวขึ้น” และ “ขยายวิสัย ทัศน์ของเรา” หมายความว่าอย่างไร เราจะทำตามคำแนะนำนี้ในงานสอน ศาสนาได้อย่างไร

  • อ่านทวนหัวข้อที่เริ่มด้นในหน้า 281 ตรึกตรองและสนทนาคำแนะนำเฉพาะ เจาะจงที่ท่านพบเกี่ยวกับการแบ่งบินพระกิตติคุณกับครอบครัวและเพื่อนๆ ตัวอย่างเช่น (ก)เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อ “เตือนเพื่อนบ้านของเรา” (ข) เราจะเป็น “การโฆษณา” ให้ศาสนาจักรได้อย่างไร (ค) มีข้อเสืยอะไรบ้าง ของการรอ “จังหวะเหมาะ” เพื่อแบ่งบินพระกิตติคุณ (ง) เราควรตอบ สนองอย่างไรล้าคนในครอบครัวและเพื่อนของเราไม่ยอมรับคำเชื้อเชิญของ เราให้เรียนพระกิตติคุณ

  • สมาชิกใหม่และสมาชิกที่แข็งขันน้อยมีความต้องการอะไรบ้าง เราจะทำอะไร ได้บ้างเพื่อช่วยพวกเขา (ดู หน้า 283–285)

  • ผู้นำศาสนาจักรแสวงหาคุณสมบัติใดบ้างในผู้สอนศาสนาเต็มเวลา (ดูตัว อย่างในหน้า 285–287) บิดามารดาและผู้อื่นทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยบุตร หลานพัฒนาคุณสมบัติเหล่านี้ มีวิธีใดบ้างที่บิดามารดาและบุตรจะทำตามคำ แนะนำของประธานคิมบัลณ์รื่องการออมเงินสำหรับงานเผยแผ่

  • ประธานคิมบัลล์ขอให้คู่สามีภรรยาสูงอายุรับใช้งานเผยแผ่ (หน้า 287–288) ศาสนาจักรให้ทางเลือกและโอกาสอะไรบ้างแก่ผู้สอนศาสนาสามีภรรยา คู่ สามีภรรยาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเตรียมรับใช้ ท่านกำลังทำงานสอนศาสนา อย่างไรในช่วงชีวิตปัจจุบันของท่าน

ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง: โมไซยา 3:20; แอลมา 26:1–16; ฮีลาบัน 6:3; โม–โรไน 6:3–4; ค.พ. 84:88

อ้างอิง

  1. Edward L. Kimball and Andrew E. Kimball Jr., Spencer W. Kimball (1977), 354.

  2. “Are We Doing All We Can?” Ensign, Feb. 1983, 5.

  3. “It Becometh Every Man,” Ensign, Oct. 1977, 7.

  4. Ensign, Feb. 1983, 4.

  5. “President Kimball Speaks Out on Being a Missionary,” New Era, May 1981, 50.

  6. Ensign, Feb. 1983, 3.

  7. Ensign, Oct. 1977, 3.

  8. “When the World Will Be Converted,” Ensign, Apr. 1984, 4.

  9. ใน Conference Report, Oct. 1982, 5; หรืจ Ensign, Nov. 1982, 5, 6.

  10. Regional representatives’ seminar, Oct. 3, 1980, Archives of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, 2.

  11. Ensign, Feb. 1983, 4.

  12. Regional representatives’ seminar, Sept. 30, 1976, Archives of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, 2.

  13. The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball (1982), 555.

  14. Regional representatives’ seminar, Oct. 3, 1980, 2.

  15. “President Kimball Speaks Out on Service to Others,” New Era, Mar. 1981, 48–49.

  16. Ensign, Oct. 1977, 6.

  17. Ensign, Oct. 1977, 6.

  18. Regional representatives’ seminar, Apr. 3, 1975, Archives of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, 7.

  19. Ensign, Oct. 1977, 6.

  20. ใน Conference Report, Glasgow Scotland Area Conference 1976, 23.

  21. Ensign, Oct. 1977, 7.

  22. ใน Conference Report, Oct. 1977, 67; หรืจ Ensign, Nov. 1977, 45.

  23. “Always a Convert Church: Some Lessons to Learn and Apply This Year,” Ensign, Sept. 1975, 4.

  24. “Helping Others Obtain the Promises of the Lord,” Ensign, June 1983, 3, 5.

  25. Ensign, Feb. 1983, 3.

  26. “When the World Will Be Converted,” Ensign, Oct. 1974, 7.

  27. Regional representatives’ seminar, Apr. 5, 1976, Archives of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints, 14.

  28. ใน Conference Report, Glasgow Scotland Area Conference 1976, 6.

  29. The Teachings of Spencer W. Kimball, 556.

  30. Ensign, Feb. 1983, 5.

  31. ใน Conference Report, Oct. 1978, 66; หรืจ Ensign, Nov. 1978, 46.

  32. “Therefore I Was Taught,” Ensign, Jan. 1982, 4.

  33. The Teachings of Spencer W. Kimball, 551.

  34. The Teachings of Spencer W. Kimball, 551.

  35. New Era, May 1981, 50.

Elder Kimball and missionary companion

เอืลเดอร์สเป็นเชอร์ดับเบิลย ดิบขัลล์สบัยเป็นพู้สอนดาสนาเดืบเวลาในดณะบเเฟเธืนทรัลเดทส์เดือนบิตุนายน ด.ค. 1915 เอ็ลเดอร์ดืบบัลล์อปูทาอชัาขูชาอท่านดือเเอล. เอข. ธอว์เดสดูของท่าน

missionaries teaching family

“เปัาทบายทืเเทัจรืงสำทรับการเพยเเฟทีบืประสืทธิกาพดีอสบาชืกจะหาเเละพู้สอนดาสนาเดืบเวลาจะสอน”

family home evening

“ข้าพจ้าหอัง่าทุกดรอขดรัวจะจัตสัรรด์ในดรอบดทุกดินวันจันทรโดยไข่พลาดงานสอนดาสนาจะเป็นประเด็นสำดัญประเตันหนืด้องนำฌาสนทนา”