บทที่ 10
บทบาทและความรับผิดชอบอันสูงส่งของสตรี
คำนำ
ในฐานะส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในแผนแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์ พระองค์ประทานบทบาทอันสูงส่งของการเป็นภรรยาและมารดาให้แก่สตรี “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” สอนว่า “มารดารับผิดชอบเบื้องต้นในการเลี้ยงดูบุตรธิดา” และบิดากับมารดาพึง “ช่วยเหลือกันในฐานะเป็นหุ้นส่วนเท่าๆ กัน” (เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 165)
ความรู้พื้นฐานที่ควรอ่าน
-
ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “อิทธิพลของสตรีที่ชอบธรรม,” เลียโฮนา ก.ย. 2009, 2–7
-
“เข้าใจบทบาทอันสูงส่งของสตรี,” เลียโฮนา, ก.พ. 2009, 25
-
“สตรีของศาสนจักร,” บทที่ 20 ใน คำสอนของประธานศาสนาจักร: สเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (2006), 230–239
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
หลักคำสอนและพันธสัญญา 25:1-3, 10, 13–16
อิทธิพลอันสำคัญยิ่งของสตรีวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ชอบธรรมในวันเวลาสุดท้าย
ให้ดูคำพยากรณ์ต่อไปนี้ของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895–1985) และขอให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง
“การเติบโตที่เกิดขึ้นกับศาสนจักรในยุคสุดท้ายนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเพราะสตรีที่ดีจำนวนมากของโลก … ได้รับการชักนำเข้ามาสู่ศาสนจักรมากขึ้น เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสตรีของศาสนจักรสะท้อนความชอบธรรมและความชัดเจนในชีวิตจนถึงระดับที่บรรดาสตรีของโลกมองสตรีของศาสนจักรว่าผิดแผกและแตกต่างอย่างมีความสุข” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: สเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ [2006], 238–239)
-
ท่านคิดว่าเหตุใดสตรีวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ชอบธรรมจึงเป็นมูลเหตุสำหรับการเติบโตหลักๆ ในศาสนจักร
เพื่อขยายความคิดนี้ ขอให้นักศึกษาค้นคว้า หลักคำสอนและพันธสัญญา 25:1–3, 10, 13–16 โดยมองหาคำและวลีที่แสดงให้เห็นวิธีที่สตรีวิสุทธิชนยุคสุดท้ายสามารถ “ผิดแผกและแตกต่าง” จากสตรีของโลกได้อย่างมีความสุข ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจบริบทของการเปิดเผยนี้โดยอธิบายว่านี่เป็นการเปิดเผยส่วนตัวสำหรับเอ็มมา สมิธ แต่ประยุกต์ใช้ได้กับสตรีทุกคนในศาสนจักร
-
เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้เกี่ยวกับลักษณะพิเศษซึ่งสตรีที่ชอบธรรมควรแสวงหาให้ได้มา
-
ท่านจะพูดถึงหลักคำสอนหรือหลักธรรมที่สอนใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 25 ว่าอย่างไร (ขณะที่นักศึกษาตอบ จงชี้ให้เห็นหลักธรรมนี้: ในฐานะสานุศิษย์ของพระเจ้า สตรีสามารถใช้ของประทานและพรสวรรค์ของพวกเธอช่วยสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า)
แบ่งปันข้อความต่อไปนี้ของประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ และเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
“การเป็นสตรีที่ชอบธรรมเป็นเรื่องน่ายินดีในทุกยุคทุกสมัย การเป็นสตรีที่ชอบธรรมในช่วงเวลาสุดท้ายบนโลกนี้ก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอดเป็นการเรียกที่สูงส่งเป็นพิเศษ ความเข้มแข็งและอิทธิพลของสตรีที่ชอบธรรมในทุกวันนี้มีได้ถึงสิบเท่าของสิ่งที่น่าจะเป็นในยามสงบสุขกว่านี้” (คำสอน: สเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์, 233)
“พี่น้องสตรีทั้งหลาย แวดวงอิทธิพลของท่านมีลักษณะพิเศษ—ที่ชายไม่อาจลอกเลียนแบบได้ ไม่มีใครจะปกป้องพระผู้ช่วยให้รอดด้วยการชักชวนหรือพลังได้มากไปกว่าท่าน—ธิดาของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งมีจิตใจเข้มแข็งและมีความเชื่อมั่นเช่นนั้น พลังเสียงของสตรีที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสนั้นมิอาจประมาณได้ และศาสนจักรต้องการเสียงของท่านเวลานี้มากกว่าที่ผ่านมา” (เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “ชายและหญิงกับอำนาจฐานะปุโรหิต,” เลียโฮนา, ก.ย. 2014, 37)
ถามสตรีในชั้นว่าพวกเธอมีความคิดและความรู้สึกอย่างไรบ้างขณะพิจารณาอิทธิพลที่พวกเธอสามารถมีได้ในบ้าน ในศาสนจักร และในชุมชนของพวกเธอ เน้นบทบาทอันโดดเด่นที่สตรีมีในฐานะผู้นำในศาสนจักร
ท่านอาจจะขอให้พี่น้องชายในชั้นเรียนแบ่งปันว่าพวกเขาเคยเห็นพลังและอิทธิพลของสตรีในวอร์ดหรือสาขานำบุคคลให้ใกล้ชิดพระบิดาบนสวรรค์มากขึ้นอย่างไร
2 ทิโมธี 1:5; 3:14–15; แอลมา 56:47–48; 57:21
บทบาทที่เบื้องบนกำหนดให้สตรีเป็นมารดาในไซอัน
เชิญนักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
“ชายและหญิงมีของประทานแตกต่างกัน มีข้อดีแตกต่างกัน และมีมุมมองกับความโน้มเอียงแตกต่างกัน นั่นคือเหตุผลพื้นฐานสำคัญข้อหนึ่งที่เราต้องมีกันและกัน การสร้างครอบครัวต้องใช้ชายและหญิง การดำเนินงานของพระเจ้าต้องใช้ชายและหญิง” (“ชายและหญิงกับอำนาจฐานะปุโรหิต,” 36)
-
นอกจากความแตกต่างทางกายที่เห็นชัดแล้ว ท่านเคยสังเกตเห็นชายและหญิงโดยทั่วไปแล้วแตกต่างกันในด้านใดอีกบ้าง
อธิบายว่านอกจากความแตกต่างโดยทั่วไปเหล่านี้แล้ว ชายและหญิงมีบทบาทที่เบื้องบนกำหนดให้ต่างกัน ดังอธิบายไว้ใน “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” (ดูย่อหน้าที่เจ็ด) ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
“พี่น้องสตรีได้รับเลือกก่อนการวางรากฐานของโลกเพื่อให้กำเนิดและดูแลบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ในการทำเช่นนั้น ท่านเทิดพระเกียรติพระผู้เป็นเจ้า (ดู คพ. 132:63)” (“ท่านจะเลือกอะไร” เลียโฮนา, ม.ค. 2015, 19)
-
สตรีจะเทิดพระเกียรติพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างไรเมื่อพวกเธอให้กำเนิดและดูแลลูกๆ ของพระผู้เป็นเจ้า (ขณะที่นักศึกษาแบ่งปันความคิด จงช่วยให้พวกเขาเข้าใจหลักธรรมนี้: เมื่อสตรีน้อมรับบทบาทที่เบื้องบนกำหนดให้เป็นมารดาผู้ให้กำเนิดและเลี้ยงดูลูกๆ ของพระองค์ เท่ากับพวกเธอเทิดพระเกียรติพระองค์และเป็นเหมือนพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ของเรามากขึ้น อธิบายว่าการนำลูกๆ เข้ามาในโลกเป็นส่วนจำเป็นของแผนแห่งความรอดของพระบิดาบนสวรรค์
แบ่งปันคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
“เสียงมากมายในโลกทุกวันนี้ลดความสำคัญของการมีบุตรหรือบอกให้ประวิงเวลาหรือจำกัดจำนวนบุตรในครอบครัว บุตรสาวของข้าพเจ้าเพิ่งให้อ่านบล็อกในอินเทอร์เน็ตที่เขียนโดยมารดาชาวคริสต์ (ศาสนาอื่น) ที่มีลูกห้าคน เธอเขียนว่า ‘[โดยที่เติบใหญ่] ในวัฒนธรรมนี้ จึงยากที่จะเข้าใจมุมมองของพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการเป็นมารดา … ลูกถูกจัดอันดับให้อยู่ต่ำกว่าวิทยาลัย ต่ำกว่าการเดินทางไปทั่วโลก ต่ำกว่าการสามารถออกไปเที่ยวยามราตรี … ต่ำกว่างานใดๆ ที่คุณมีหรือหวังว่าจะมี’ เธอเขียนเพิ่มเติมว่า ‘การเป็นมารดาไม่ใช่งานอดิเรก แต่เป็นการเรียก’” (“บุตรธิดา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 34–35)
-
“ลด” ความสำคัญของการมีบุตรหมายความว่าอย่างไร
-
ท่านเคยเห็นอะไรกดดันสตรีให้ “ลด” ความสำคัญของการมีบุตร
-
คนหนุ่มสาวในศาสนจักรทำอะไรได้บ้างเพื่อให้มีทัศนะที่ถูกต้องเกี่ยวกับความสำคัญของการมีบุตร
ทำให้นักศึกษาเชื่อมั่นว่าการตัดสินใจว่าจะมีบุตรเมื่อใดและจะมีกี่คนเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างสามีภรรยาและพระผู้เป็นเจ้า บทเรียนต่อไปจะพูดเรื่องนี้ละเอียดมากขึ้น
เชื้อเชิญให้นักศึกษาอ่านและเปรียบเทียบ 2 นีไฟ 1:5; 3:14–15 กับ แอลมา 56:47–48; 57:21 เพื่อมองหาอิทธิพลอันชอบธรรมที่มารดาสามารถมีต่อบุตรธิดาได้ (การเรียนรู้ที่จะเปรียบเทียบข้อความพระคัมภีร์เป็นทักษะการศึกษาพระคัมภีร์ที่นักศึกษาสามารถใช้ได้ตลอดชีวิต)
-
ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้สอนอะไรเกี่ยวกับบทบาทของมารดา (เน้นหลักธรรมต่อไปนี้: เมื่อมารดาสอนพระกิตติคุณแก่บุตรธิดา พวกเธอช่วยให้บุตรธิดามีศรัทธาและเตรียมพวกเขาให้พร้อมดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม)
-
ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ช่วยอธิบายอย่างไรว่าเหตุใดซาตานจึงทำงานหนักมากเพื่อลดคุณค่าบทบาทของมารดา
-
สตรีมีลักษณะพิเศษอะไรบ้างที่สามารถช่วยให้พวกเธอประสบความสำเร็จในบทบาทการเป็นมารดา
จงรู้สึกไวต่อข้อเท็จจริงที่ว่าหญิงสาวบางคนในชั้นอาจไม่แต่งงาน และถ้าพวกเธอแต่งงาน พวกเธออาจไม่สามารถมีบุตรได้ ใช้คำกล่าวต่อไปนี้ของซิสเตอร์เชอรี แอล. ดิว อดีตที่ปรึกษาในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ ช่วยให้นักศึกษาของท่านเข้าใจว่าบทบาทของมารดาเป็นมรดกอันสูงส่งของสตรีทุกคน
“ชายที่มีค่าควรได้รับการแต่งตั้งล่วงหน้าให้ดำรงฐานะปุโรหิตในความเป็นมรรตัยเฉกเช่นสตรีที่ชอบธรรมได้รับการประสาทพรก่อนมรรตัยด้วยสิทธิพิเศษของการเป็นมารดา การเป็นมารดาเป็นมากกว่าการให้กำเนิดบุตร แม้แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น การเป็นมารดาคือส่วนสำคัญของการเป็นสตรี บ่งบอกอัตลักษณ์ของเรา รูปพรรณและธรรมชาติอันสูงส่งของเรา และคุณลักษณะอันหาใดเทียบได้ที่พระบิดาประทานแก่เรา …
“… สตรีบางคนถูกกำหนดให้รอการมีบุตร … แต่ตารางเวลาของพระเจ้าสำหรับเราแต่ละคนไม่ได้ลบล้างธรรมชาติของเรา เรายังมีหนทางอื่นที่จะเป็นมารดา ทุกคนที่อยู่รอบข้างเราคือผู้ที่เราต้องรักและนำ” (“เราไม่ได้ล้วนเป็นมารดาหรอกหรือ?” เลียโฮนา, ม.ค. 2002, 133–134)
-
คำกล่าวของซิสเตอร์ดิวช่วยขยายความเข้าใจของเราเรื่องการเป็นมารดาอย่างไร
ถามนักศึกษาว่ามีใครต้องการแบ่งปันความคิดและความรู้สึกเกี่ยวกับอิทธิพลที่ชอบธรรมของมารดาของพวกเขาเองหรือไม่
ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของซิสเตอร์จูลี บี. เบค อดีตประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ เธอพูดกับสตรีเกี่ยวกับความจำเป็นของการทำให้บทบาทที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่พวกเธอเกิดสัมฤทธิผล ขอให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง และเชื้อเชิญให้นักศึกษาพิจารณาว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าสตรีไม่ทำบทบาทของพวกเธอให้เกิดสัมฤทธิผล
© Busath.com
“หากเราไม่ทำส่วนของเรา จะไม่มีใครทำส่วนนั้นให้เรา … เราจะให้ใครทำ [ส่วนของเราในแผนแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์] แทนไม่ได้ เราจะส่งผ่านให้ใครไม่ได้ นั่นเป็นของเรา เราจะไม่ยอมรับก็ได้ เราจะปฏิเสธก็ได้ แต่นั่นยังคงเป็นส่วนของเรา และเราจะต้องรับผิดชอบ วันนั้นจะมาถึงเมื่อเราทุกคนจะจำได้ว่าเรารู้อะไรก่อนเราเกิด เราจะจำได้ว่าเราต่อสู้ในความขัดแย้งครั้งใหญ่เพื่อช่วงชิงอภิสิทธิ์นี้ เราจะบรรลุความรับผิดชอบนี้อย่างไร? ทุกๆ วันเราต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทำงานที่เราเท่านั้นต้องทำ” (“เข้าใจบทบาทอันสูงส่งของสตรี,” เลียโฮนา, ก.พ. 2009, 25)
-
ท่านมีความคิดและความรู้สึกอะไรบ้างเกี่ยวกับวลี “หากเราไม่ทำส่วนของเรา จะไม่มีใครทำส่วนนั้นให้เรา”
-
อะไรจะสูญหายไปจากครอบครัว จากวอร์ดหรือสาขาของท่าน หรือจากโลกถ้าสตรีไม่ทำ “ส่วน” ของพวกเธออีกต่อไป
-
มีวิธีใดบ้างที่สตรีสาวจะสามารถทำบทบาทอันสูงส่งของพวกเธอให้เกิดสัมฤทธิผลในฐานะสตรีในอาณาจักรของพระบิดาบนสวรรค์
เป็นพยานถึงบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์และจำเป็นของสตรีในการเป็นภรรยาและมารดาที่ชอบธรรม และเน้นว่าสักวันหนึ่งพระบิดาในสวรรค์จะประทานพรทุกประการแก่บุตรธิดาที่ชอบธรรมของพระองค์ เชื้อเชิญให้นักศึกษาบอกมารดาคนหนึ่งที่พวกเขารู้จักว่าพวกเขาชื่นชมเธอมากสำหรับวิธีที่เธอทำบทบาทอันสูงส่งให้เกิดสัมฤทธิผล
สรุปโดยถามนักศึกษาว่ามีใครต้องการแบ่งปันประจักษ์พยานเกี่ยวกับพรที่เกิดขึ้นเมื่อสตรีรู้ว่าพวกเธอเป็นใครในแผนแห่งความรอดของพระบิดาบนสวรรค์และทำตามความรู้นั้น
สิ่งที่นักศึกษาควรอ่าน
-
2 ทิโมธี 1:5; 3:14–15; แอลมา 56:47–48; 57:21; หลักคำสอนและพันธสัญญา 25:1–3, 10, 13–16
-
“เข้าใจบทบาทอันสูงส่งของสตรี,” เลียโฮนา, ก.พ. 2009, 25