บทที่ 2
ศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกขอประกาศด้วยความเคารพ
คำนำ
“ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” เริ่มด้วยคำกล่าวนี้ “เราฝ่ายประธานสูงสุดและสภาอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายขอประกาศด้วยความเคารพ …” (เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 165) ศาสดาพยากรณ์ในทุกสมัยการประทานมีความรับผิดชอบในการประกาศพระประสงค์ของพระเจ้าและเตือนเรื่องผลของบาป บทเรียนนี้จะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจบทบาทการเป็นยามของศาสดาพยากรณ์ผู้เตือนเราให้รู้ภัยพิบัติที่พวกท่านเห็นล่วงหน้า
ความรู้พื้นฐานที่ควรอ่าน
-
เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “อยู่ในเรือและจับให้แน่น!” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 89–92
-
เฮนรีย์ บี. อายริงก์, “ค้นพบความปลอดภัยในคำแนะนำ,” เลียโฮนา, ก.ค. 1997, 29–32
-
แครอล เอฟ. แมคคองกี, “จงดำเนินชีวิตตามถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 77–79
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
เอเสเคียล 33:1–7; หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:4–5, 11, 14
ยามบนหอสูง
ให้นักศึกษาดู รูป หอสูง และถามว่าพวกเขาสามารถบอกชื่อสิ่งปลูกสร้างที่เห็นในภาพได้หรือไม่ อธิบายว่าสิ่งปลูกสร้างนั้นคือภาพจำลองของหอสูงในสมัยโบราณ (ถ้ามีในภาษาไทย ท่านอาจจะเลือกฉายนาทีแรกของวีดิทัศน์เรื่อง “ยามบนหอสูง,” lds.org/media-library) ถามนักศึกษาว่ายามจะมองหาเหตุการณ์แบบใดและเหตุใดจึงสำคัญที่พวกเขาต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน
เชื้อเชิญให้นักศึกษาอ่าน เอเสเคียล 33:1–3 และระบุความรับผิดชอบของยาม
-
อะไรคือความรับผิดชอบของยาม (เตือนผู้คนให้รู้อันตรายที่จะเกิดขึ้น)
ขอให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง เอเสเคียล 33:4–7
-
พระเจ้าทรงมอบหมายหน้าที่อะไรให้เอเสเคียล
-
ศาสดาพยากรณ์เปรียบเสมือนยามบนหอสูงอย่างไร (อาจเป็นประโยชน์ถ้าให้นักศึกษาอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:4–5, 11, 14 เพื่อช่วยให้พวกเขาเข้าใจว่าศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบันทำหน้าที่เป็นยาม ท่านอาจเสนอแนะให้นักศึกษาทำการอ้างโยงข้อเหล่านี้กับ เอเสเคียล 33:4–7 ท่านอาจชี้ให้เห็นว่าเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองประกาศว่า “ในฐานะอัครสาวกของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เรามีหน้าที่เป็นยามบนหอสูง” [”ระวังศาสดาปลอมและผู้สอนปลอม,” เลียโฮนา, ม.ค. 2000, 76])
เป็นพยานถึงหลักคำสอนต่อไปนี้: พระบิดาบนสวรรค์ทรงเรียกศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายมาเตือนเราให้รู้อันตรายที่จะเกิดขึ้น
เพื่อเสริมหลักคำสอนดังกล่าว ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์แห่งฝ่ายประธานสูงสุด และให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง
“ดูเหมือนความปรารถนาของพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อนำเราไปสู่ความปลอดภัยจะไม่สิ้นสุด และวิธีที่พระองค์ทรงแสดงให้เราเห็นเส้นทางนั้นมีความเสมอต้นเสมอปลาย พระองค์ทรงเรียกโดยใช้มากกว่าหนึ่งวิธีเพื่อให้ไปถึงคนที่เต็มใจยอมรับ วิธีเหล่านั้นมักรวมถึงการส่งข่าวสารโดยปากของศาสดาพยากรณ์เมื่อใดก็ตามที่ผู้คนคู่ควรมีศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขา ผู้รับใช้ที่ได้รับมอบอำนาจเหล่านั้นมีหน้าที่เตือนผู้คนอยู่เสมอ โดยบอกหนทางสู่ความปลอดภัยให้พวกเขา” (“ค้นพบความปลอดภัยในคำแนะนำ,” เลียโฮนา, ก.ค. 1997, 29)
-
ท่านเคยรู้สึกเมื่อใดว่าการทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์คุ้มครองท่าน
-
ท่านเคยได้ยินคำแนะนำอะไรจากอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบันที่สามารถนำความคุ้มครองทางวิญญาณมาให้ครอบครัว
-
ถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวเป็นสุรเสียงเตือนจากพระบิดาบนสวรรค์ในด้านใด
อาโมส 3:6–7
ศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกช่วยให้เราเข้าใจทัศนะของพระเจ้าเกี่ยวกับครอบครัว
แบ่งปันคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้นักศึกษามองหาวิธีที่ศาสดาพยากรณ์รับรู้อันตรายในโลกทุกวันนี้
“ข้าพเจ้าเคยได้ยินบางคนคิดว่าผู้นำศาสนจักรมีชีวิตอยู่ใน ‘ฟองสบู่’ สิ่งที่พวกเขาลืมคือเราเป็นชายหญิงผู้มีประสบการณ์ เราเคยใช้ชีวิตมาแล้วหลายแห่งและทำงานกับคนมากมายหลายพื้นเพ งานมอบหมายปัจจุบันของเรานำเราไปทั่วโลก ที่นั่นเราพบผู้นำทางการเมือง ศาสนา ธุรกิจ และมนุษยธรรมของโลก ถึงแม้เราจะเคยเข้าพบผู้นำในทำเนียบขาวที่วอชิงตัน ดี.ซี. และผู้นำของหลายประชาชาติ [และศาสนา] ทั่วโลกมาแล้ว แต่เราก็เคยไปเยี่ยมเยียน [ครอบครัวและคน] ต่ำต้อยที่สุดบนแผ่นดินโลกมาแล้วเช่นกัน …
“เมื่อท่านคิดพิจารณาชีวิตและการปฏิบัติศาสนกิจของเรา ท่านอาจจะเห็นพ้องว่าเราประสบพบเห็นโลกในลักษณะที่น้อยคนจะประสบพบเห็น ท่านจะตระหนักว่าเรามีชีวิตอยู่ใน ‘ฟองสบู่’ น้อยกว่าคนส่วนใหญ่ …
“…มีบางอย่างเกี่ยวกับปัญญาเฉพาะคนและปัญญาผสมผสานของ [ผู้นำศาสนจักร] ที่ควรให้ความอุ่นใจบ้าง เราประสบมาแล้วทั้งหมด ทั้งผลของกฎหมายมหาชนที่แตกต่าง นโยบาย ความผิดหวัง ความเศร้าสลด และความตายในครอบครัวเรา ใช่ว่าเราจะไม่เข้าใจความเป็นไปในชีวิตท่าน” (“อยู่ในเรือและจับให้แน่น!” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 90)
-
ประสบการณ์อันกว้างขวางของผู้นำศาสนจักรจะช่วยท่านเหล่านั้นในบทบาทการเป็นยามได้อย่างไร
อธิบายว่าศาสดาพยากรณ์เข้าถึงบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญยิ่งกว่าประสบการณ์ชีวิตเพื่อช่วยให้พวกท่านบรรลุหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากเบื้องบน ขอให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง อาโมส 3:6–7 ชี้ให้นักศึกษาเห็นว่างานแปลของโจเซฟ สมิธเปลี่ยนคำว่า “ทำ” เป็น “รู้” ใน ข้อ 6 และคำว่า “โดยไม่” เป็น “จนกระทั่ง” ใน ข้อ 7 (ดูเชิงอรรถของสองข้อนี้) การสนทนาเรื่องนี้อาจเป็นโอกาสอันดียิ่งที่ท่านจะได้กระตุ้นให้นักศึกษาใช้เชิงอรรถระหว่างการศึกษาพระคัมภีร์เป็นส่วนตัว
-
อาโมส 3:6–7 สอนอะไรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์
แบ่งปันนิยามต่อไปนี้กับนักศึกษา: ศาสดาพยากรณ์คือ ”บุคคลที่ได้รับเรียกจากพระผู้เป็นเจ้าและพูดแทนพระองค์ ในฐานะผู้ส่งสารของพระผู้เป็นเจ้า ศาสดาพยากรณ์ได้รับพระบัญญัติ คำพยากรณ์ และการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้า …ศาสดาพยากรณ์ประณามบาปและบอกล่วงหน้าถึงผลของบาป” (คู่มือพระคัมภีร์, “ศาสดาพยากรณ์,” scriptures.lds.org)
ลอก แผนภาพ ต่อไปนี้ไว้บนกระดาน
ให้เวลานักศึกษาสักครู่ไตร่ตรองและสนทนาเกี่ยวกับแผนภาพ ท่านอาจต้องการอธิบายว่าแผนภาพแสดงให้เห็นว่าทัศนะของพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับครอบครัวหมายรวมทั้งชีวิตก่อนมรรตัย ชีวิตมรรตัย และชีวิตหลังมรรตัยอย่างไร โดยผ่านการเปิดเผยศาสดาพยากรณ์ได้รับทัศนะที่กว้างขึ้น แล้วต่อจากนั้นพวกท่านก็ช่วยเราเพิ่มมุมมองและความเข้าใจของเรา
-
แผนภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างไรว่าเหตุใดเราจึงต้องศึกษาถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว (เขียนบนกระดานดังนี้: โดยศึกษาถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว เราจะได้เรียนรู้ทัศนะของพระบิดาเกี่ยวกับครอบครัว)
ขอให้นักศึกษาหยิบสำเนา “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” ของพวกเขาออกมา เน้นข้อความเริ่มต้นนี้ “เราฝ่ายประธานสูงสุดและสภาอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายขอประกาศด้วยความเคารพ …” ให้เวลานักศึกษาสักครู่เพื่อค้นคว้าถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว โดยมองหาหลักฐานยืนยันว่าทัศนะของพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับการแต่งงานและครอบครัวต่างจากทัศนะของโลก เชื้อเชิญให้นักศึกษาแบ่งปันสิ่งที่พบ และเขียนคำตอบของพวกเขาไว้บนกระดาน
หลักคำสอนและพันธสัญญา 90:1–5
การทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ในถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวจะทำให้เราปลอดภัย
เชื้อเชิญให้นักศึกษาค้นคว้า หลักคำสอนและพันธสัญญา 90:1–3 เพื่อระบุสิ่งที่พระเจ้าประทานแก่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ
-
พระเจ้าประทานอะไรแก่โจเซฟ สมิธ (กุญแจทั้งหลายของอาณาจักร ซึ่งหมายถึงสิทธิของฝ่ายประธานสูงสุดหรือสิทธิอำนาจในการกำกับดูแลอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก)
-
ใครถือกุญแจเดียวกันนี้ในปัจจุบัน (สมาชิกแต่ละท่านในฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง)
เชิญนักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 90:4–5 ขอให้นักศึกษาที่เหลือมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะมาถึงศาสนจักรผ่านศาสดาพยากรณ์ (พระเจ้าตรัสว่าศาสนจักรจะได้รับ “โองการ” บอกนักศึกษาว่า “โองการ” หมายถึง ”การเปิดเผย”)
-
พระเจ้าประทานคำเตือนอะไรแก่วิสุทธิชนใน ข้อ 5
-
เราสามารถเรียนรู้หลักธรรมอะไรจากคำเตือนดังกล่าว (คำตอบควรแสดงให้เห็นความเข้าใจในหลักธรรมต่อไปนี้: ถ้าเราไม่เอาใจใส่ทำตามการเปิดเผยที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เราผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ เราจะสะดุดล้ม ท่านอาจจะเขียนหลักธรรมนี้ไว้บนกระดาน)
ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของซิสเตอร์แครอล เอฟ. แมคคองกีจากฝ่ายประธานเยาวชนหญิงสามัญและเอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง
“เราอาจจะเลือกเพิกเฉย ทำเป็นเล่น ลบหลู่ หรือต่อต้านพระวจนะของพระคริสต์ซึ่งพูดโดยผู้รับใช้ที่ทรงแต่งตั้ง แต่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนว่าผู้ที่ทำเช่นนั้นจะถูกตัดออกจากผู้คนแห่งพันธสัญญาของพระองค์ [ดู 3 นีไฟ 20:23]” (แครอล เอฟ. แมคคองกี, “จงดำเนินชีวิตตามถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์,”เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 79)
“ข้าพเจ้าค้นพบในการปฏิบัติศาสนกิจของข้าพเจ้าว่าคนที่หลงทาง (และ) สับสนคือคนที่มักจะ … ลืมไปว่าเมื่อฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองพูดเป็นเสียงเดียวกัน นั่นคือสุรเสียงของพระเจ้าสำหรับเวลานั้น พระเจ้าทรงเตือนเราว่า ‘ไม่ว่าโดยเสียงของเราเองหรือโดยเสียงของผู้รับใช้ทั้งหลายของเรา, ก็เหมือนกัน’ [คพ. 1:38”]” (เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “อยู่ในเรือและจับให้แน่น!” 90)
-
อาจมีตัวบ่งชี้อะไรบ้างที่แสดงว่าบางคนไม่เอาใจใส่ทำตามคำแนะนำที่พบในถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว
-
ท่านหรือคนอื่นๆ ได้รับพรอะไรบ้างจากการเอาใจใส่คำแนะนำในถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว
-
ท่านมีความคิดและความรู้สึกอะไรบ้างเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายที่ท่านจะแบ่งปันกับชั้นเรียนได้
เป็นพยานว่าถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวเป็นคำประกาศที่ได้รับการดลใจจากเสียงที่เป็นหนึ่งเดียวกันของศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผยสิบห้าท่าน กระตุ้นนักศึกษาให้ใช้โอกาสตลอดหลักสูตรนี้สวดอ้อนวอนขอให้มีประจักษ์พยานลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับความจริงที่อยู่ในถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว
สิ่งที่นักศึกษาควรอ่าน
-
เอเสเคียล 33:1–7; อาโมส 3:6–7; หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:4–5, 11, 14, 37–38; 90:1–5; 124:125–126
-
เฮนรีย์ บี. อายริงก์, “ค้นพบความปลอดภัยในคำแนะนำ,” เลียโฮนา, ก.ค. 1997, 29–32