เซมินารีและสถาบัน
บทที่ 19: การสร้างชีวิตและบ้านที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง


บทที่ 19

การสร้างชีวิตและบ้านที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง

คำนำ

ศาสดาพยากรณ์ฮีลามันสอนบุตรชายว่าถ้าพวกเขาจะสร้างชีวิตบนฐานอันมั่นคงของพระเยซูคริสต์ ซาตานจะไม่มีอำนาจทำลายพวกเขา (ดู ฮีลามัน 5:12) ในบทเรียนนี้ นักศึกษาจะพูดถึงวิธีสร้างครอบครัวของพวกเขาบนรากฐานของพระเยซูคริสต์ เมื่อสมาชิกครอบครัวทำให้ชีวิตพวกเขามีศูนย์กลางอยู่บนคำสอนของพระเยซูคริสต์ พวกเขาสามารถแก้ไขและเสริมสร้างความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นและมีความสุขมากขึ้น

ความรู้พื้นฐานที่ควรอ่าน

  • เฮนรีย์ บี. อายริงก์, “แบบอย่างที่เพียบพร้อมของเรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 85–88

  • ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “เพื่อสันติสุขในบ้าน,” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 29–31

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ยอห์น 15:1–5, 10–11; ฮีลามัน 5:12

การสร้างชีวิตและบ้านที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง

เริ่มชั้นเรียนโดยวาดรูปบ้านหรืออาคารแบบง่ายๆ ไว้บนกระดาน สนทนากับนักศึกษาดังนี้

  • รากฐานมีค่าอะไรต่อบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอื่น

  • เหตุใดวัสดุก่อสร้างบางชนิดจึงทำให้ฐานอาคารแข็งแกร่งกว่าวัสดุอื่น

เตือนนักศึกษาว่าทุกครอบครัวประสบความยากลำบากระดับหนึ่ง และซาตานพยายามทำลายทุกครอบครัว จากพระคัมภีร์มอรมอนเราเรียนรู้วิธีลดอิทธิพลของซาตานในครอบครัวเรา

ขอให้นักศึกษาศึกษา ฮีลามัน 5:12โดยมองหาสิ่งที่ข้อนี้สอนเกี่ยวกับรากฐาน

  • ท่านคิดว่าการสร้างรากฐานของเราบนพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร

  • ครอบครัวจะทำอะไรได้บ้างเพื่อสร้างบนรากฐานของพระเยซูคริสต์ (คำตอบอาจได้แก่ ศึกษาและดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พยายามทำตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ เชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า และดึงพลังอำนาจการชดใช้ของพระคริสต์มาใช้)

  • คำสัญญาใน ฮีลามัน 5:12 ประยุกต์ใช้กับครอบครัวที่พยายามสร้างรากฐานบนศิลาของพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร (คำตอบควรแสดงให้เห็นว่าเข้าใจหลักธรรมต่อไปนี้ เมื่อครอบครัวสร้างรากฐานบนพระเยซูคริสต์ ซาตานจะไม่มีอำนาจทำลายพวกเขา)

อธิบายว่าไม่นานก่อนการสิ้นพระชนม์ พระผู้ช่วยให้รอดประทานเรื่องเปรียบเทียบที่สามารถช่วยให้ครอบครัวเข้าใจวิธีสร้างรากฐานบนพระองค์ เชิญนักศึกษาหลายๆ คนอ่านออกเสียง ยอห์น 15:1-5, 10-11 ขอให้นักศึกษาที่เหลือดูตามและพิจารณาว่าอุปมาของพระผู้ช่วยให้รอดในข้อเหล่านี้สามารถประยุกต์ใช้กับครอบครัวที่กำลังพยายามสร้างรากฐานบนพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร

  • ถ้าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นเถาองุ่นและเราเป็นแขนง ผลจะแทนอะไร (ผลสามารถแทนงานดีและการปฏิบัติดีของสานุศิษย์พระเยซูคริสต์)

ช่วยให้นักศึกษารับรู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงใช้คำว่า “ติดสนิท” หลายครั้งใน ยอห์น 15:4-10 อธิบายว่าคำว่า ติดสนิท ในบริบทนี้หมายถึงคงอยู่ และ “อยู่—แต่อยู่ ตลอดกาล” โดยบอกเป็นนัยว่าเราควรติดแน่นอยู่กับพระเยซูคริสต์และศาสนจักรของพระองค์ (เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “จงเข้าสนิทอยู่ในเรา,”เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 40) ท่านอาจจะอธิบายให้นักศึกษาฟังพอสังเขปว่าการสังเกตคำกล่าวซ้ำเป็นทักษะการศึกษาพระคัมภีร์อย่างหนึ่งที่พวกเขาสามารถใช้ได้ในการศึกษาส่วนตัว การกล่าวซ้ำในพระคัมภีร์มักจะหมายความว่าผู้เขียนกำลังเน้นแนวคิดสำคัญ

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 5 และ 11อะไรคือพรของการติดสนิทอยู่กับพระผู้ช่วยให้รอด (ถ้าเราติดสนิทอยู่กับพระผู้ช่วยให้รอด เราจะเกิดผลมากและได้รับความบริบูรณ์แห่งปีติ)

  • ท่านคิดว่าพรอะไรจะมาสู่ครอบครัวบ้างเมื่อสมาชิกครอบครัวพยายามติดสนิทอยู่กับพระผู้ช่วยให้รอด

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์

“ไม่ว่าสภาวการณ์ของท่านจะเป็นอย่างไร ท่านสามารถทำให้บ้านและชีวิตท่านมีศูนย์กลางอยู่ที่พระเจ้าพระเยซูคริสต์ เพราะพระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งสันติสุขที่แท้จริงในชีวิตนี้” (“เพื่อให้มีสันติสุขในบ้าน,”เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 29)

  • ท่านจะพูดถึงบ้านที่มีพระเยซูคริสต์เป็นศูนย์กลางว่าอย่างไร คุณลักษณะใดจะทำให้บ้านมีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง

กระตุ้นให้นักศึกษาไตร่ตรองว่าพวกเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อติดสนิทอยู่กับพระผู้ช่วยให้รอดอย่างสมบูรณ์มากขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเชื้อเชิญอิทธิพลของพระผู้ช่วยให้รอดเข้ามาในบ้านของพวกเขามากขึ้น กระตุ้นให้พวกเขาตรึกตรองว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างในความสัมพันธ์ของพวกเขากับสมาชิกครอบครัว

ฮีลามัน 14:30-31; 3 นีไฟ 11:29-30

การควบคุมอารมณ์ของเราโดยใช้สิทธิ์เสรีของเราอย่างชอบธรรม

เปลี่ยนมาสอนบทเรียนช่วงต่อไปโดยย้ำว่าทุกครอบครัวประสบความท้าทาย แม้เมื่อสมาชิกครอบครัวกำลังพยายามทำให้ชีวิตมีศูนย์กลางอยู่ในพระเยซูคริสต์ แต่พวกเขาสามารถเผชิญสภาวการณ์ที่ท้าทายความปรารถนาอันชอบธรรมของพวกเขา เขียนบนกระดานดังนี้

“คุณทำให้ฉันโกรธ!”

“คุณทำให้ฉันอารมณ์เสีย!”

เชื้อเชิญนักศึกษาให้ไตร่ตรองว่าคำพูดเหล่านี้มีพื้นฐานบนความจริงหรือไม่

ขอให้นักศึกษาหนึ่งคนอ่านออกเสียง ฮีลามัน 14:30-31 เชื้อเชิญให้นักศึกษาพิจารณาว่าข้อเหล่านี้เชื่อมโยงกับข้อความบนกระดานอย่างไร

  • ท่านพบความจริงสำคัญอะไรในข้อเหล่านี้ที่ประยุกต์ใช้ในความสัมพันธ์ของเรากับผู้อื่น (เน้นความจริงต่อไปนี้ เพราะพระบิดาบนสวรรค์ประทานสิทธิ์เสรีแก่เรา เราจึงเลือกได้ว่าจะโกรธหรือไม่โกรธ อธิบายว่าเอ็ลเดอร์ลีนน์ จี. ร็อบบินส์แห่งสาวกเจ็ดสิบสอนว่า “ความโกรธเป็นการเลือกที่เราตั้งใจ เป็นการตัดสินใจ ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกได้ว่าจะไม่โกรธ เรา เลือก!” [ดู “อำเภอใจและความโกรธ,”เลียโฮนา, ก.ค. 1998, 90)

  • ปัญหาอะไรเกิดจากการเชื่อว่าการกระทำหรือคำพูดของผู้อื่นสามารถ “ทำ” ให้เราโกรธ

ขอให้นักศึกษาอ่าน 3 นีไฟ 11:29-30 ในใจ สนใจคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดที่ว่า ความขัดแย้ง “จะหมดไป” (3 นีไฟ 11:30) เตือนนักศึกษาว่าเราไม่ควรพูดจาก้าวร้าวและประพฤติมิชอบ เช่น การกระทำทารุณกรรมทางร่างกายและทางอารมณ์

เชื้อเชิญให้นักศึกษานึกถึงสิ่งที่พวกเขาจะทำได้เพื่อช่วยให้พวกเขาจดจำว่าต้องเลือกไม่โกรธ ขอให้พวกเขาแบ่งปันความคิด ขอให้นักศึกษารับปากว่าจะใช้สิทธิ์เสรีอย่างชอบธรรมโดยเลือกไม่โกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครอบครัว

3 นีไฟ 12:22–24; โมโรไน 7:45, 48; หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9–11; 88:119, 123–25

การกลับใจและการให้อภัยสามารถเยียวยาสัมพันธภาพครอบครัวที่เสียหาย

เขียนหลักธรรมต่อไปนี้บนกระดาน

“ความสุขในชีวิตครอบครัวส่วนมากจะสำเร็จได้เมื่อมีพื้นฐานบนคำสอนของพระเจ้าพระเยซูคริสต์”

บอกนักศึกษาว่าข้อความนี้มาจาก “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” ( เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 165)

เพื่อช่วยให้นักศึกษาค้นพบคำสอนบางประการของพระเยซูคริสต์ที่สามารถทำให้เกิดความสุขมากขึ้นในครอบครัว ขอให้พวกเขาอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:119, 123-125ในใจ เสนอแนะให้พวกเขาทำเครื่องหมายหรือใช้ปากกาเน้นข้อความคำสอนสำคัญๆ จากนั้นขอให้นักศึกษาสนทนาว่าครอบครัวจะเข้มแข็งขึ้นได้อย่างไรจากการดำเนินชีวิตตามคำสอนที่พบในข้อเหล่านี้

เตือนนักศึกษาว่าปัญหาและความยุ่งยากมักจะเกิดขึ้นในครอบครัวเมื่อละเลยคำสอนของพระเยซูคริสต์ ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุด และขอให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“สัมพันธภาพที่ตึงเครียดหรือแตกหักดำรงอยู่คู่กับมวลมนุษย์มาช้านาน … ข้าพเจ้าคิดว่าทุกคนบนแผ่นดินโลกได้รับผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่งจากวิญญาณร้ายของความขัดแย้ง ความเคียดแค้น และอาฆาต บางทีอาจมีหลายครั้งที่เรารับรู้วิญญาณเหล่านี้ในตัวเรา” (ดู “ผู้มีใจกรุณาย่อมได้รับพระกรุณา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2012, 70)

  • คำสอนใดของพระเจ้าพระเยซูคริสต์สามารถช่วยเยียวยาสัมพันธภาพที่ตึงเครียดหรือแตกหักระหว่างสมาชิกครอบครัวได้

เขียนพระคัมภีร์อ้างอิงต่อไปนี้บนกระดาน อธิบายว่าข้อเหล่านี้มีความจริงที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนซึ่งสามารถกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวได้

3 นีไฟ 12:22-24

โมโรไน 7:45, 48

หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9-11

เชื้อเชิญให้นักศึกษาอ่านข้อเหล่านี้และสนทนาดังนี้

  • คำสอนใดจากข้อเหล่านี้สามารถช่วยเยียวยาสัมพันธภาพครอบครัวที่เสียหายเพราะความขัดแย้ง ความไร้เมตตา หรือการกระทำอื่นๆ

  • ท่านเคยเห็นการให้อภัยทำให้สัมพันธภาพครอบครัวดีขึ้นอย่างไร

  • เหตุใดบางครั้งการให้อภัยสมาชิกครอบครัวที่ทำให้เราขุ่นเคืองจึงยากกว่าการให้อภัยผู้อื่น

ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ และประธานฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์ (1907–1995) ขอให้นักศึกษาคนหนึ่งอ่านออกเสียง

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“ไม่มีใครปราศจากบาป เราทุกคนต่างทำผิดพลาด รวมทั้งท่านและข้าพเจ้า เราต่างเคยบอบช้ำ และเคยทำให้คนอื่นบอบช้ำมาแล้ว

“โดยผ่านการเสียสละของพระผู้ช่วยให้รอดนั่นเองที่เราสามารถได้รับความสูงส่งและชีวิตนิรันดร์ เมื่อเรายอมรับวิถีของพระองค์และเอาชนะความหยิ่งจองหองด้วยการทำให้ใจเราอ่อนลง เราจะทำให้เกิดความปรองดองและการให้อภัยในครอบครัวและชีวิตส่วนตัว” (ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “กุญแจหนึ่งดอกสู่ครอบครัวสุขสันต์,”เลียโฮนา, ต.ค. 2012, 6)

ประธานฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์

“ไม่ว่าพระเยซูทรงวางพระหัตถ์ไว้บนสิ่งใด สิ่งนั้นจะมีชีวิต ถ้าพระเยซูวางพระหัตถ์บนการแต่งงาน การแต่งงานจะมีชีวิต ถ้ายอมให้พระองค์วางพระหัตถ์บนครอบครัว ครอบครัวจะมีชีวิต” (คำสอนของประธานศาสนจักร: ฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์ [2015], 150)

  • การปฏิบัติตามหลักธรรมที่สนทนาวันนี้ยอมให้พระผู้ช่วยให้รอดวางพระหัตถ์ไว้บนครอบครัวอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักศึกษาพิจารณาว่าหลักธรรมเรื่องการกลับใจและการให้อภัยสามารถแก้ไขหรือเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขาอย่างไร กระตุ้นให้พวกเขาประยุกต์ใช้หลักธรรมเหล่านี้ทันทีกับความสัมพันธ์ในครอบครัวของพวกเขา

สิ่งที่นักศึกษาควรอ่าน