บทที่ 15
ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์
“ข้าพเจ้ารักฐานะปุโรหิตของศาสนจักรนี้ ฐานะปุโรหิตเป็นสิ่งสำคัญยิ่งและมีชีวิต เป็นหัวใจและความเข้มแข็งของงานนี้ เป็นพลังอำนาจและสิทธิอำนาจที่พระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ของเราใช้ทำงานของพระองค์ในโลกนี้ให้สำเร็จ”
จากชีวิตของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์
คริสต์ศักราช 1980 เอ็ลเดอร์กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กับมาร์จอรีภรรยาของท่านร่วมเดินทางไปเยือนเอเชียสามสัปดาห์ พูดที่การประชุมใหญ่ภาคและเข้าร่วมการอุทิศพระวิหารโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ก่อนกลับบ้าน พวกท่านเดินทางไปคณะเผยแผ่ญี่ปุ่น เซ็นดะอิ ที่เอ็ลเดอร์ฮิงค์ลีย์เป็นประธานควบคุมการจัดตั้งสเตคแรกในคณะเผยแผ่ ก่อนการประชุมกับฝ่ายประธานสเตคชุดใหม่ เอ็ลเดอร์ฮิงค์ลีย์เดินเข้าไปหาคิโยชิ ซาคาอิประธานคณะเผยแผ่ “ท่านถามประธานซาคาอิที่ทำหน้าประหลาดใจว่าเขามีน้ำมันที่ทำให้ศักดิ์สิทธิ์แล้วไหม และพูดต่อว่า ‘ผมหมดแรง คุณจะให้พรผมได้ไหม’ ประธานซาคาอิจำได้ว่า ‘ผมกลัวมากและรู้สึกอ่อนแอเกินกว่าจะให้พรอัครสาวกของพระเจ้า ผมบอกท่านว่าผมให้พรเป็นภาษาอังกฤษไม่เป็น เอ็ลเดอร์ฮิงค์ลีย์บอกว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นก็ได้ ผมกับเอ็ลเดอร์ฮิโตชิ คาชิคูระตัวแทนเขตจึงให้พร’ หลังจากให้พร เอ็ลเดอร์ฮิงค์ลีย์พูดเพียงว่า ‘ขอบคุณครับ ขอบคุณ ตอนนี้ผมกลับบ้านพรุ่งนี้ได้แล้ว’
“เช้าวันรุ่งขึ้นเอ็ลเดอร์ฮิงค์ลีย์ดูแข็งแรงและสุขภาพดี เมื่อประธานซาคาอิถามว่าท่านรู้สึกอย่างไร ท่านตอบว่า ‘Dai Jobu ยิ่งกว่าสบายดี ผมสบายสุดๆ’ ไม่กี่วันต่อมาประธานซาคาอิได้รับจดหมายขอบคุณจากเอ็ลเดอร์ฮิงค์ลีย์ ท่านเขียนว่า ‘… ผมซาบซึ้งใจมากกับพรที่คุณให้ผม ผมเริ่มรู้สึกดีขึ้นทันทีหลังจากได้รับพร ผมฟื้นตัวเร็วและหายเป็นปลิดทิ้ง ผมกับซิสเตอร์ฮิงค์ลีย์ขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ได้มีโอกาสอยู่ในบ้านพักคณะเผยแผ่ของคุณ”1
ประธานฮิงค์ลีย์เป็นพยานบ่อยครั้งถึงพรของฐานะปุโรหิต ตั้งแต่พรอันน่าอัศจรรย์แต่ชั่วคราวของการรักษาร่างกายไปจนถึงพรถาวรนิรันดร์ผ่านศาสนพิธีพระวิหาร ท่านประกาศว่า “ข้าพเจ้าเชื่อว่าในฐานะปุโรหิตของพระองค์มีสิทธิอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์—พลังการให้พร พลังการรักษา พลังการปกครองในกิจจานุกิจฝ่ายโลกของพระผู้เป็นเจ้า พลังการผูกมัดสิ่งซึ่งถูกผูกมัดบนแผ่นดินโลกไว้ในสวรรค์”2
คำสอนของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์
1
พระผู้เป็นเจ้าทรงฟื้นฟูฐานะปุโรหิตและกุญแจของอาณาจักรสวรรค์
พระเจ้าประทานพลังอำนาจและสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตแก่ผู้ชายในสมัยโบราณ พระเจ้าประทานสิทธิอำนาจที่ต่ำกว่าให้บุตรของอาโรนปฏิบัติในเรื่องฝ่ายโลกและในศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง พระเจ้าประทานฐานะปุโรหิตที่สูงกว่าแก่อัครสาวกของพระองค์ตามคำประกาศของพระองค์ต่อเปโตรที่ว่า “เราจะมอบลูกกุญแจต่างๆ แห่งแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่าน สิ่งใดที่ท่านกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์ และสิ่งใดที่ท่านกล่าวอนุญาตในโลก สิ่งนั้นก็จะได้รับอนุญาตในสวรรค์” (มัทธิว 16:19)
การฟื้นฟูฐานะปุโรหิตเต็มรูปแบบเกี่ยวข้องกับการมาของยอห์นผู้ถวายบัพติศมา … และการมาของเปโตร ยากอบ และยอห์น … เกี่ยวข้องกับโมเสส อิไลอัส และเอลียาห์ แต่ละท่านนำกุญแจฐานะปุโรหิตมาเพื่อทำให้งานแห่งการฟื้นฟูการปฏิบัติและศาสนพิธีทั้งหมดของสมัยการประทานพรเสร็จสมบูรณ์ในสมัยการประทานความสมบูรณ์แห่งเวลาอันยิ่งใหญ่และสุดท้ายนี้
ฐานะปุโรหิตอยู่ที่นี่ … เรารู้จักพลังอำนาจของฐานะปุโรหิตนี้เพราะเราเคยเห็น เราเคยเห็นผู้ป่วยหายป่วย คนง่อยเดินได้ ความสว่าง ความรู้ และความเข้าใจมาถึงคนที่เคยอยู่ในความมืด3
ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธพูดถึง [ฐานะปุโรหิต] ในโอกาสหนึ่งไว้ดังนี้ “ฐานะปุโรหิตคือหลักธรรมอันเป็นนิจ และดำรงอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าจากนิรันดรและจะดำรงอยู่ไปถึงนิรันดร ปราศจากการเริ่มต้นของวันหรือการสิ้นสุดของปี” (History of the Church, 3:386)
พระผู้ทรงฤทธานุภาพประทานพลังอำนาจให้มนุษย์กระทำในพระนามของพระองค์และกระทำแทนพระองค์ ฐานะปุโรหิตคือการมอบสิทธิอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ ต่างจากพลังอำนาจและสิทธิอำนาจอื่นทั้งหมดบนพื้นพิภพ ไม่แปลกที่สัตภาวะซึ่งฟื้นคืนชีวิตแล้วผู้ดำรงฐานะปุโรหิตในสมัยโบราณมาฟื้นฟูฐานะปุโรหิตให้มนุษย์ ไม่แปลกที่ไม่มีคำถามใดเกี่ยวกับสิทธิอำนาจและความถูกต้องของฐานะปุโรหิต หากปราศจากฐานะปุโรหิตคงจะมีศาสนจักรแต่ในนาม ขาดสิทธิอำนาจในการบริหารงานในเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า ด้วยฐานะปุโรหิต ไม่มีสิ่งใดเป็นไปไม่ได้ในการดำเนินงานของอาณาจักรพระผู้เป็นเจ้า ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติ สิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตมีทั้งชั่วคราวและชั่วนิรันดร์ เป็นพลังอำนาจเดียวบนแผ่นดินโลกที่เอื้อมพ้นม่านแห่งความตาย4
2
ฐานะปุโรหิตเป็นพลังอำนาจและสิทธิอำนาจที่พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ
ข้าพเจ้ารักฐานะปุโรหิตของศาสนจักรนี้ ฐานะปุโรหิตเป็นสิ่งสำคัญยิ่งและมีชีวิต เป็นหัวใจและความเข้มแข็งของงานนี้ เป็นพลังอำนาจและสิทธิอำนาจที่พระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ของเราทรงใช้ทำงานของพระองค์ในโลกนี้ให้สำเร็จ5
ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์มีสิทธิอำนาจในการควบคุมกิจจานุกิจของอาณาจักรพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก ภายใต้การเปิดเผยของพระเจ้า ศาสนจักรมีมหาปุโรหิตควบคุมสามท่านเป็นประธาน พวกท่านได้รับความช่วยเหลือจากสภาอัครสาวกสิบสอง ผู้ได้รับความช่วยเหลือจาก … สาวกเจ็ดสิบตามลำดับ ฝ่ายอธิการควบคุมสามท่านรับผิดชอบกิจจานุกิจฝ่ายโลกภายใต้การกำกับดูแลของฝ่ายประธาน ทั้งหมดนี้คือเจ้าหน้าที่ฐานะปุโรหิต พลังอำนาจจากเบื้องบนนั้นเป็นสิทธิอำนาจที่พวกท่านใช้ปกครอง เป็นเช่นนั้นในสเตคและวอร์ดกับฝ่ายประธานและฝ่ายอธิการ เป็นเช่นนั้นในโควรัม เจ้าหน้าที่องค์การช่วยดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลและการมอบหมายจากฐานะปุโรหิต หากปราศจากฐานะปุโรหิตอาจมีก่อตั้งศาสนจักร แต่ไม่ใช่ศาสนจักรที่แท้จริง นี่คือศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ที่ปกครองโดยสิทธิอำนาจนั้นซึ่งเป็นไป “ตามระเบียบของพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า” (คพ. 107:3)6
3
ทุกคนจะได้รับพรของฐานะปุโรหิต
[ฐานะปุโรหิต] … เป็นส่วนหนึ่งในแผนของพระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ของเราเพื่อเป็นพรแก่ชีวิตบุตรธิดาของพระองค์ทุกรุ่น7
ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์รวมถึงพลังอำนาจในการให้พร ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนมีสิทธิอำนาจในการปฏิบัติเครื่องหมายแห่งพระมังสาและพระโลหิตของพระเจ้าผู้ทรงสละพระชนม์ชีพเป็นเครื่องพลีบูชาให้ทุกคน ศีลระลึกและการรับส่วนเครื่องหมายเหล่านี้เป็นหัวใจของการนมัสการในวันสะบาโตของเรา รวมถึงการต่อพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งมาพร้อมคำสัญญาว่าพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จะสถิตกับเรา นั่นคือพรที่ทุกคนได้รับเท่ากันและเป็นไปได้โดยสิทธิอำนาจที่มอบให้เยาวชนชายที่มีค่าควร …
ฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคมีสิทธิอำนาจที่จะมอบพระวิญญาณบริสุทธิ์ นับเป็นพรอย่างยิ่งที่มีอิทธิพลแห่งการปฏิบัติของสมาชิกองค์หนึ่งในพระผู้เป็นเจ้าสามพระองค์ โดยได้รับของประทานนั้นภายใต้มือคนที่กระทำด้วยสิทธิอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเราดำเนินต่อไปในคุณธรรม เราจะได้รับสัมฤทธิผลของคำสัญญาที่พระเจ้าทรงทำไว้เมื่อพระองค์ตรัสว่า “พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นเพื่อนที่ยั่งยืนของท่าน, และคทาของท่านเป็นคทาอันไม่เปลี่ยนแปลงแห่งความชอบธรรมและความจริง; และอำนาจการปกครองของท่านจะเป็นอำนาจการปกครองอันเป็นนิจ, และโดยปราศจากวิธีบังคับสิ่งนี้จะไหลมาสู่ท่านตลอดกาลและตลอดไป.” (คพ. 121:46)
ฐานะปุโรหิตรวมถึงพลังอำนาจในการให้พรผู้ป่วย คนที่ได้ยินข้าพเจ้ามีใครไม่เคยใช้หรือไม่เคยรู้สึกถึงพลังอำนาจนั้นบ้าง คนใดในพวกเราจะสงสัยได้หรือเกี่ยวกับประสิทธิผลของพลังอำนาจนี้ เราสามารถเล่าเรื่องปาฏิหาริย์อันศักดิ์สิทธิ์และน่าพิศวงที่เรารู้เห็นจากประสบการณ์ของเราเองได้ …
ฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคอันศักดิ์สิทธิ์นี้มีพลังอำนาจในการให้พรด้วยการพยากรณ์ ปลอบโยน สนับสนุน และนำทาง เรามีผู้ประสาทพรอยู่ท่ามกลางเรา ผู้ประกาศเชื้อสายและพรสำหรับนำทางเราภายใต้สิทธิอำนาจที่พวกเขาดำรงอยู่ พรเหล่านี้จะเป็นสมอให้เรายึดเหนี่ยวเพื่อทำให้เราแน่วแน่ท่ามกลางมรสุมของชีวิต
ขั้นสูงสุดของการใช้ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์คือสิทธิอำนาจในการผนึกบนแผ่นดินโลกและทำให้การผนึกนั้นมีผลในสวรรค์ นั่นเป็นสิทธิอำนาจอันหาที่เปรียบมิได้และวิเศษยิ่ง เป็นสิทธิอำนาจที่ใช้ในพระนิเวศน์ของพระผู้เป็นเจ้า เกี่ยวข้องทั้งกับคนเป็นและคนตาย นั่นคือแก่นแท้ของนิรันดร เป็นพลังอำนาจที่พระผู้ทรงฤทธานุุภาพมอบให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนอันยิ่งใหญ่ของพระองค์เพื่อความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของมนุษย์
ของประทานของพระผู้เป็นเจ้าที่มาถึงเราช่างล้ำค่ายิ่งนัก8
4
บุตรของพระผู้เป็นเจ้าผู้ดำรงสิทธิอำนาจของพระองค์ต้องซื่อตรงต่อส่วนดีที่สุดที่อยู่ในตัวพวกเขา
ชายที่มีค่าควรทุกคน ไม่ว่าจะมีสัญชาติ เชื้อชาติ หรือองค์ประกอบใด ล้วนมีสิทธิ์ได้รับฐานะปุโรหิต การเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้ากลายเป็นตัวกำหนด การมอบฐานะปุโรหิตขึ้นอยู่กับความมีค่าควรต่อพระพักตร์พระเจ้าเท่านั้น …
นั่นคือความน่าพิศวงของฐานะปุโรหิตนี้ ความร่ำรวยไม่ใช่ตัวกำหนด การศึกษาไม่ใช่ตัวกำหนด เกียรติของมนุษย์ไม่ใช่ตัวกำหนด ตัวควบคุมคือการยอมรับของพระเจ้า9
ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนผู้ได้รับแต่งตั้งสู่ฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนหรือฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดค และสู่ตำแหน่งใดก็ตามในฐานะปุโรหิตนั้น จะใคร่ครวญชีวิตเรา ประเมินข้อบกพร่องของเรา และกลับใจจากความประพฤติเหล่านั้นที่ไม่สอดคล้องกับงานมอบหมายอันสูงส่งและศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้รับ …
ไม่มีชายใด ไม่ว่าอายุมากหรือน้อย … ผู้ … ได้รับแต่งตั้งแล้ว จะสามารถเพิกเฉยสิ่งที่เขาดำรงอยู่ได้ เขาเป็นหุ้นส่วนกับพระผู้เป็นเจ้าและมีข้อผูกมัดอันศักดิ์สิทธิ์ว่าต้องดำเนินชีวิตให้คู่ควรแก่การพูดและกระทำในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าในฐานะตัวแทนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมของพระองค์10
ถึงแม้ผู้มีสิทธิอำนาจวางมือบนศีรษะเราและเราได้รับแต่งตั้้ง เราอาจไม่มีสิทธิ์และสูญเสียสิทธิ์ในการใช้สิทธิอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์นี้เพราะความประพฤติของเรา
… “ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลใดสามารถหรือจะธำรงไว้ได้โดยอาศัยฐานะปุโรหิต, นอกจากโดยการชักชวน, โดยความอดกลั้น, โดยความสุภาพอ่อนน้อมและความอ่อนโยน, และโดยความรักที่ไม่เสแสร้ง;
“โดยความกรุณา, และความรู้บริสุทธิ์, ซึ่งจะขยายจิตวิญญาณออกไปอย่างกว้างขวางโดยปราศจากความหน้าซื่อใจคด, และปราศจากมารยา” (คพ. 121:41–42)
พี่น้องชายทั้งหลาย นั่นเป็นข้อจำกัดซึ่งฐานะปุโรหิตนี้ต้องหาวิธีแสดงออกภายในข้อจำกัดนั้น ไม่ใช่เสื้อคลุมที่ใส่แล้วถอดได้ตามใจชอบ แต่เมื่อใช้ในความชอบธรรมจะเป็นเนื้อเยื่อของร่างกายเรา เป็นส่วนหนึ่งของเราตลอดเวลาและในทุกสถานการณ์11
เราต้องซื่อตรงต่อส่วนดีที่สุดที่อยู่ในตัวเรา เราเป็นบุตรของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้รับเกียรติให้ดำรงสิทธิอำนาจของพระองค์ แต่เรามีชีวิตอยู่ในโลกของความชั่วร้าย มีพลังอำนาจที่คอยดึงเราลงไปตลอดเวลา โดยเชื้อเชิญให้เรารับสิ่งเหล่านั้นซึ่งไม่สอดคล้องแต่อย่างใดกับฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ที่เราดำรงอยู่ …
บุรุษทั้งหลายข้าพเจ้าขอท้าทายท่าน จงหนีจากกระแสความหยาบช้าที่จะครอบงำท่าน จงหลบหนีจากความชั่วร้ายของโลก จงภักดีต่อตัวตนที่ดีกว่าของท่าน จงภักดีต่อส่วนดีที่สุดที่อยู่ในท่าน จงซื่อสัตย์และซื่อตรงต่อพันธสัญญาที่เกี่ยวข้องกับฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า12
ถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ถึงครูทุกท่านในศาสนจักรนี้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ฐานะปุโรหิต ท่านมีความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์ในการขยายการเรียกฐานะปุโรหิต เราแต่ละคนต้องรับผิดชอบความผาสุก การเติบโต และการพัฒนาของผู้อื่น เราไม่อยู่เพื่อตัวเราเท่านั้น ถ้าเราต้องขยายการเรียกของเรา เราจะอยู่เพื่อตัวเราเท่านั้นไม่ได้13
ชายหลายคนดูเหมือนจะคิดว่าเพราะพวกเขาได้รับแต่งตั้งแล้ว ฐานะปุโรหิตจึงเป็นของพวกเขาตลอดไปและใช้ได้ตามที่พวกเขาเลือก พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาสามารถฝ่าฝืนพันธสัญญาและพระบัญญัติข้อนั้นข้อนี้ ทำบาปแบบนั้นแบบนี้ และยังคงมีพลังอำนาจของฐานะปุโรหิตอยู่ในพวกเขา พระผู้เป็นเจ้าจะทรงยืนยันสิ่งที่พวกเขาพูดในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์และในพระนามของพระผู้ไถ่ นี่เป็นการเย้ยพระองค์ ข้าพเจ้าเชื่อว่าหากเขาใช้ฐานะปุโรหิตเช่นนั้น เท่ากับพวกเขารับพระนามของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่สมควร พวกเขาลบหลู่พระนามของพระบุตรที่รักของพระองค์ พวกเขาดูหมิ่นของประทานอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งผ่านมาทางการแต่งตั้ง และสิทธิอำนาจซึ่งพวกเขาสูญเสียเพราะการล่วงละเมิด …
… ข้าพเจ้าเปล่งเสียงเตือนทุกท่าน ทั้งเด็กหนุ่มและบุรุษทั้งหลาย จงหลบเลี่ยงบาป การล่วงละเมิดเข้าไม่ได้กับสิทธิอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ จงหลีกเลี่ยงสื่อลามกเหมือนท่านจะหลีกเลี่ยงโรคระบาด จงหลีกเลี่ยงบาปทางเพศทุกระดับ จงหลบเลี่ยงความไม่ซื่อสัตย์และการหลอกลวง ข้าพเจ้าวิงวอนท่านให้ควบคุมความจองหองหรือความทะเยอทะยานอันไร้ประโยชน์ทุกรูปแบบ ข้าพเจ้าขอให้ท่านสำรวจตนเองเพื่อดูว่าไม่มีเจตคติของการใช้อำนาจบาตรใหญ่หรือการบังคับควบคุมภรรยาหรือบุตรธิดาของท่าน …
… ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระบิดาในสวรรค์ไม่พอพระทัยบุรุษหรือเด็กหนุ่มคนใดที่ยอมรับการวางมือแต่งตั้งแล้วหลงระเริงอยู่กับความชั่วร้าย ในขั้นตอนของการยอมรับการวางมือแต่งตั้ง เขาเข้าสู่คำปฏิญาณและพันธสัญญาระหว่างตัวเขากับพระผู้เป็นเจ้าของเขา14
ไม่มีชายใด ไม่ว่าเป็นเยาวชนหรือผู้สูงวัย กำลังดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของฐานะปุโรหิตแต่ดูหมิ่นเหยียดหยามสตรี ไม่ยกย่องธิดาของพระผู้เป็นเจ้าซึ่งพระบิดาในสวรรค์ของเราจะทรงยกย่องพวกเธอ15
ขอให้เราเป็นสามีและบิดาที่ดี ชายใดเป็นผู้ปกครองที่เผด็จการในบ้านของตนย่อมไม่คู่ควรกับฐานะปุโรหิต เขาไม่เหมาะจะเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระเจ้าเมื่อเขาไม่แสดงความเคารพ ความอ่อนโยน และความรักต่อคู่ชีวิตที่เขาเลือก ในทำนองเดียวกัน ชายใดที่เป็นแบบอย่างไม่ดีต่อบุตรธิดา ผู้ไม่ควบคุมอารมณ์ หรือมีส่วนในการประพฤติทุจริตหรือผิดศีลธรรมจะพบว่าพลังอำนาจฐานะปุโรหิตของเขาเสื่อม16
ภรรยาที่ท่านเลือกจะทัดเทียมกับท่าน … เธอไม่ใช่คนรับใช้ของท่าน ทาสของท่าน หรืออะไรทำนองนั้น การกระทำทารุณกรรมภรรยาเป็นปรากฏการณ์อันน่าเศร้าสลดและน่ารังเกียจที่สุด ชายใดในศาสนจักรนี้ทารุณกรรมภรรยา ดูหมิ่นเธอ ดูถูกเธอ ใช้อำนาจปกครองเธออย่างไม่ชอบธรรม ชายคนนั้นไม่คู่ควรดำรงฐานะปุโรหิต ถึงแม้เขาจะได้รับแต่งตั้งไปแล้ว แต่สวรรค์ย่อมถอนตัว พระวิญญาณของพระเจ้าจะเศร้าโศก พระองค์จะเอเมนกับสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตของชายคนนั้น ชายใดมีส่วนในการปฏิบัตินี้ย่อมไม่คู่ควรถือใบรับรองพระวิหาร …
… หากมีชายใด … ประพฤติผิดเช่นนั้น ข้าพเจ้าขอให้ท่านกลับใจ จงคุกเข่าและทูลขอพระเจ้าให้ทรงอภัยท่าน จงสวดอ้อนวอนพระองค์ขอพลังควบคุมลิ้นและมืออันหนักหน่วงของท่าน จงขออภัยภรรยาและบุตรธิดาของท่าน …
ข้าพเจ้ามั่นใจว่าเมื่อเรายืนอยู่หน้าบัลลังก์ของพระผู้เป็นเจ้า แทบจะไม่ถามเลยว่าเราสะสมทรัพย์สมบัติไว้ในชีวิตมากเท่าใดหรือเราได้รับเกียรติใดบ้าง แต่จะเป็นคำถามตรวจสอบความสัมพันธ์ในบ้านของเรา ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าเฉพาะคนที่ดำเนินชีวิตด้วยความรัก ความเคารพ และความชื่นชมต่อคู่ชีวิตและบุตรธิดาเท่านั้นจึงจะได้รับคำสรรเสริญจากพระผู้พิพากษานิรันดร์ของเราว่า “ดีแล้ว เจ้าเป็นบ่าวที่ดีและซื่อสัตย์ … เจ้าจงร่วมยินดีกับนายของเจ้าเถิด” (มัทธิว 25:21)17
5
โควรัมฐานะปุโรหิตสามารถเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวความเข้มแข็งให้สมาชิกโควรัม
ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้โควรัมฐานะปุโรหิตเป็นยิ่งกว่าชั้นเรียนศาสนาช่วงเช้าวันอาทิตย์ แน่นอนว่าการสร้างความเข้มแข็งทางวิญญาณและการเสริมสร้างประจักษ์พยานผ่านการสอนพระกิตติคุณอย่างมีประสิทธิภาพเป็นความรับผิดชอบสำคัญของฐานะปุโรหิต แต่นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้าที่โควรัม แต่ละโควรัมต้องเป็นพี่น้องที่ทำงานกับสมาชิกทุกคนถ้าจะให้บรรลุจุดประสงค์ของโควรัม …
… โควรัมฐานะปุโรหิตเป็นองค์กรของพระเจ้าสำหรับชายในศาสนจักร เช่นเดียวกับสมาคมสงเคราะห์เป็นองค์การของพระเจ้าสำหรับสตรีในศาสนจักร แต่ละองค์กรมีความรับผิดชอบประการหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุผลพื้นฐานของการมีองค์กรดังกล่าวนั่นคือ ช่วยคนตกทุกข์ได้ยาก
… เมื่อครั้งจัดตั้งสมาคมสงเคราะห์ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟกล่าวถึงสตรีของสมาคมดังนี้ “พวกเธอจะรีบรุดไปบรรเทาทุกข์ของคนแปลกหน้า พวกเธอจะนำเอาน้ำมันกับเหล้าองุ่นเทใส่ใจที่บาดเจ็บของคนระทมทุกข์ พวกเธอจะซับน้ำตาเด็กกำพร้าและให้ใจของหญิงม่ายปลาบปลื้มยินดี” [คำสอนของประธานของศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ (2007), 486] ข้าพเจ้าหวังว่าจะพูดแบบเดียวกันนี้ได้กับบุรุษของฐานะปุโรหิต
วันนั้นจะเป็นวันน่ายินดี … เมื่อโควรัมฐานะปุโรหิตของเราเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวความเข้มแข็งให้ชายทุกคนที่เป็นสมาชิกของโควรัม เมื่อชายแต่ละคนจะพูดได้อย่างเหมาะสมว่า “ผมเป็นสมาชิกโควรัมฐานะปุโรหิตของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ผมพร้อมจะช่วยเหลือพี่น้องทุกเรื่องที่พวกเขาต้องการให้ผมช่วย และผมมั่นใจว่าพวกเขาจะช่วยเหลือผมเช่นกัน เมื่อทำงานด้วยกันเราจะเติบโตทางวิญญาณในฐานะบุตรแห่งพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อทำงานด้วยกันเราจะสามารถยืนต้านลมแห่งความยากลำบากทุกลูกที่พัดมาโดยไม่อึดอัดและไม่กลัว ไม่ว่าจะทางเศรษฐกิจ สังคม หรือวิญญาณ”18
6
ในบ้านและในศาสนจักร ชายหญิงทำงานด้วยกันเพื่อทำให้อาณาจักรของพระเจ้าก้าวหน้า
ใช่ ชายดำรงฐานะปุโรหิต แต่ภรรยาเป็นคู่ชีวิตของเขา ในศาสนจักรนี้ชายไม่เดินนำหน้าภรรยาทั้งไม่เดินตามหลังภรรยาแต่เดินเคียงข้างเธอ พวกเขาเท่าเทียมกันในชีวิตนี้ในกิจการใหญ่19
สตรีของศาสนจักรนี้มีความเข้มแข็งและความสามารถมาก มีความเป็นผู้นำและการชี้แนวทาง เจตนาของการเป็นตัวของตัวเอง และความพอใจอย่างมากในการเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพระเจ้าและการทำงานคู่กับ [ผู้ดำรง] ฐานะปุโรหิตเพื่อทำให้อาณาจักรก้าวหน้า20
ข้าพเจ้าขอบพระทัยพระบิดานิรันดร์สำหรับการฟื้นฟูฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์เพื่อ “มนุษย์ทุกคนจะได้พูดในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าพระเจ้า, แม้พระผู้ช่วยให้รอดของโลก” (คพ. 1:20) ข้าพเจ้าเคยเห็นความสวยงามและความน่าพิศวงของฐานะปุโรหิตนั้นในการปกครองศาสนจักรอันน่าทึ่งนี้ ข้าพเเจ้าเคยรู้สึกว่าพลังอำนาจฐานะปุโรหิตไหลผ่านข้าพเจ้าเพื่อให้พรและรักษาคนป่วย ข้าพเจ้าเคยเห็นความสง่างามที่พลังอำนาจฐานะปุโรหิตให้กับชายซึ่งอ่อนน้อมถ่อมตนผู้ได้รับเรียกให้ทำหน้าที่รับผิดชอบอันสำคัญยิ่งและจริงจัง ข้าพเจ้าเคยเห็นพลังอำนาจนั้นเมื่อพวกเขาพูดด้วยพลังอำนาจและสิทธิอำนาจจากเบื้องบนประหนึ่งสุรเสียงของพระผู้เป็นเจ้ากำลังตรัสผ่านพวกเขา
ข้าพเจ้าขอบพระทัยพระเจ้าสำหรับประจักษ์พยานที่ประทานแก่ข้าพเจ้าถึงความบริบูรณ์ ขอบเขต ประสิทธิผล และความลึกซึ้งของพระกิตติคุณ พระกิตติคุณออกแบบไว้เพื่อเป็นพรแก่บุตรธิดาทุกรุ่นทุกสมัย—ทั้งคนเป็นและคนตาย21
ข้อเสนอแนะสำหรับศึกษาและสอน
คำถาม
-
ทบทวนคำสอนของประธานฮิงค์ลีย์ในหัวข้อ 1 เกี่ยวกับการฟื้นฟูฐานะปุโรหิต ประสบการณ์ใดช่วยให้ท่านได้รับประจักษ์พยานถึงความจริงเหล่านี้
-
ประธานฮิงค์ลีย์สอนว่า “ฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์มีสิทธิอำนาจในการควบคุมกิจจานุกิจของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก” (หัวข้อ 2) ความจริงนี้ประยุกต์ใช้ในสเตคและวอร์ด ในโควรัม ในสมาคมสงเคราะห์อย่างไร สิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตเพิ่มพลังการรับใช้ของท่านในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร
-
ในหัวข้อ 3 ทบทวนพรที่เราทุกคนจะได้รับผ่านฐานะปุโรหิต ท่านเคยประสบพลังอำนาจและพรของฐานะปุโรหิตในด้านใด
-
เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากคำสอนของประธานฮิงค์ลีย์เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างสิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตกับพลังอำนาจฐานะปุโรหิต (ดู หัวข้อ 4) ท่านคิดว่าผู้ดำรงฐานะปุโรหิต “ซื่อตรงต่อส่วนดีที่สุดที่อยู่ใน [เขา]” หมายความว่าอย่างไร เหตุใดผู้ดำรงฐานะปุโรหิตจึงต้อง “ไม่อยู่เพื่อ [พวกเขา] เท่านั้น”
-
ในหัวข้อ 5 ท่านประทับใจอะไรเกี่ยวกับคำอธิบายของประธานฮิงค์ลีย์ในเรื่องโควรัมฐานะปุโรหิตและสมาคมสงเคราะห์ เราจะทำอะไรได้บ้างในวอร์ดหรือสาขาของเราเพื่อทำตามคำแนะนำนี้
-
เหตุใดชายหญิงจึงต้องทำงาน “ทัดเทียม” กันเพื่อทำให้งานของพระเจ้าบรรลุผลสำเร็จ (ดู หัวข้อ 6)
ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง
ฮีบรู 5:1–4; 1 นีไฟ 14:12–14; แอลมา 13:1–9; คพ. 84:33–44; 88:133; 112:30–32
ความช่วยเหลือด้านการสอน
“ถามคำถามที่ต้องการให้ผู้เรียนหาคำตอบในพระคัมภีร์และคำสอนของศาสดายุคสุดท้าย” (ไม่มีการเรียกใดยิ่งใหญ่กว่าการสอน [1999], 62)