คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 17: ดำเนินขั้นตอนอันสำคัญยิ่งของการเรียนรู้


บทที่ 17

ดำเนินขั้นตอนอันสำคัญยิ่งของการเรียนรู้

“เราต้องเติบโตต่อไป เราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เราได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้เพิ่มพูนความรู้ของเราเสมอ”

จากชีวิตของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“ข้าพเจ้าชอบเรียนรู้” ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กล่าว “ข้าพเจ้าชื่นชอบโอกาสที่ได้รับความรู้ โดยแท้แล้ว ข้าพเจ้าเชื่อและสนับสนุนอย่างแข็งขันมาตลอดชีวิตข้าพเจ้าเรื่องการแสวงหาความรู้—เพื่อตัวข้าพเจ้าเองและเพื่อผู้อื่น … จากทัศนะของข้าพเจ้า การเรียนรู้เป็นทั้งเรื่องที่ต้องปฏิบัติและเรื่องฝ่ายวิญญาณ”1

เพื่อนผู้รับใช้ของประธานฮิงค์ลีย์ในกลุ่มผู้นำศาสนจักรอัศจรรย์ใจกับของประทานของท่านในการสั่งสมความรู้และประยุกต์ใช้ความรู้นั้นในงานของท่าน เอ็ลเดอร์โรเบิร์ต ดี. เฮลส์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองตั้งข้อสังเกตว่า “ข้าพเจ้าไม่เคยพบคนที่สามารถรับรู้ข้อมูลได้ดีผ่านการอ่านและการติดต่อกับผู้คนมากขนาดนี้ เมื่อท่านใช้เวลารับประทานอาหารเย็นกับใคร เมื่อจากกันท่านจะรู้บางอย่างเกี่ยวกับความรู้ความชำนาญของบุคคลนั้น” เอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า “สิ่งที่ทำให้ประธานฮิงค์ลีย์ไม่เหมือนใครคือท่านจดจำสิ่งที่อ่านและกลั่นกรองเอาแต่สิ่งที่ท่านประสงค์จะเก็บไว้ เชาว์ปัญญาของท่านเป็นแบบผสมผสาน ท่านสามารถดึงสิ่งที่ท่านรู้มาตัดสินใจได้อย่างสุขุมรอบคอบ”2

ในการพยายามเรียนรู้และปรับปรุงตนเองชั่วชีวิต ประธานฮิงค์ลีย์ทำตามแบบอย่างของบิดามารดา ท่านเล่าเรื่องต่อไปนี้ว่าไบรอันท์ เอส. ฮิงค์ลีย์บิดาท่านใส่ใจเรียนรู้อย่างไร

“เมื่อคุณพ่ออายุเท่าข้าพเจ้าเวลานี้ ท่านเกษียณเต็มตัว แต่ท่านกระฉับกระเฉง ท่านอาศัยอยู่ในบ้านที่ค่อนข้างเรียบง่ายแต่สะดวกสบายในเขตชนบท ท่านมีสวนผลไม้รอบบ้านและชอบแจกผลไม้ รอบบ้านท่านมีทั้งสนามหญ้า ไม้พุ่ม และไม้ใหญ่ มีกำแพงหินสูงราวสองฟุตแบ่งระดับ ทุกครั้งที่สภาพอากาศดีท่านจะนั่งบนกำแพง สวมหมวกเก่าๆ เพื่อกันแสงแดดหน้าร้อนเข้าตา เมื่อเราไปเยี่ยมท่าน ข้าพเจ้าจะนั่งข้างๆ ท่าน พอกระตุ้นหน่อยท่านก็จะพูดถึงชีวิตท่าน …

“ท่านเป็นนักการศึกษา ท่านเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ท่านเป็นประธานสเตคใหญ่ที่สุดของศาสนจักร มีสมาชิกมากกว่า 15,000 คน ท่านรับใช้เป็นประธานคณะเผยแผ่และอีกมากมายหลายตำแหน่ง เวลานี้ท่านเกษียณ และท่านนั่งบนกำแพง ท่านเป็นนักอ่านตัวยงที่มีห้องสมุดสุดวิเศษ ท่านเป็นนักพูดและนักเขียนที่ดีเลิศ ช่วงบั้นปลายชีวิต ก่อนท่านอายุ 94 ปี ท่านอ่าน เขียน และตรึกตรองความรู้ที่มาถึงท่าน

“ข้าพเจ้าค้นพบว่าเมื่อท่านนั่งบนกำแพง ครั้งละหลายชั่วโมงในวันที่อุ่นสบาย ท่านจะใคร่ครวญสิ่งที่ท่านเคยอ่านจากห้องสมุดของท่าน

“ข้าพเจ้าคิดว่าท่านเข้าสู่วัยชราอย่างสง่างามและยอดเยี่ยม ท่านมีหนังสือเป็นสมบัติล้ำค่าที่บรรจุความคิดของบุรุษและสตรีที่ยิ่งใหญ่ทุกยุคทุกสมัย ท่านไม่เคยหยุดเรียนรู้ และขณะนั่งบนกำแพงท่านคิดลึกซึ้งถึงสิ่งที่ท่านอ่านเมื่อคืน …

“… ทำไมข้าพเจ้าจึงเล่าเรื่องชายสูงอายุและกำแพงที่เขานั่งให้ท่านฟัง ข้าพเจ้ากำลังบอกท่านว่าเพราะข้าพเจ้าคิดว่านั่นเป็นบทเรียนสำหรับเราแต่ละคน เราต้องไม่หยุดเรียนรู้ เราเชื่อเรื่องความก้าวหน้านิรันดร์และชีวิตนี้เป็นส่วนหนึ่งของนิรันดรที่พึงใช้ให้ได้ประโยชน์จนถึงที่สุด”3

สตรีกำลังอ่านพระคัมภีร์

“แสวงหาการเรียนรู้, แม้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย” (คพ. 88:118)

คำสอนของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

1

พระเจ้าทรงต้องการให้เราศึกษาหาความรู้เพื่อเราจะก้าวหน้าและเอื้อประโยชน์ต่อสังคม

ท่านเป็นสมาชิกศาสนจักรที่สอนเรื่องความสำคัญของการศึกษา ท่านได้รับบัญชาจากพระเจ้าให้ศึกษาหาความรู้เพื่อความคิด จิตใจ และมือของท่าน พระเจ้าตรัสไว้ว่า “เจ้าจงสอนอย่างขยันหมั่นเพียร … เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ทั้งในฟ้าสวรรค์และในแผ่นดินโลก, และใต้แผ่นดินโลก; สิ่งที่เป็นมา, สิ่งที่เป็นอยู่, สิ่งที่ต้องบังเกิดในไม่ช้า; สิ่งซึ่งอยู่ที่บ้าน, สิ่งซึ่งอยู่ต่างแดน; สงครามและความยุ่งเหยิงของประชาชาติทั้งหลาย, และการพิพากษาซึ่งมีอยู่บนแผ่นดิน; และความรู้เรื่องประเทศต่างๆ และเรื่องอาณาจักรต่างๆ ด้วย—เพื่อเจ้าจะพร้อมในสิ่งทั้งปวง” (คพ. 88:78–80)4

เราผู้เป็นสมาชิกของศาสนจักรนี้ได้รับคำสัญญาอันน่าอัศจรรย์จากพระเจ้า พระองค์ตรัสว่า “สิ่งซึ่งมาจากพระผู้เป็นเจ้าเป็นความสว่าง; และคนที่รับความสว่าง, และดำเนินอยู่กับพระผู้เป็นเจ้าต่อไป, รับความสว่างมากขึ้น; และความสว่างนั้นเจิดจ้ายิ่งขึ้นๆ จนถึงวันที่สมบูรณ์” (คพ. 50:24)

นี่เป็นพระดำรัสอันทรงคุณค่า เป็นพระคัมภีร์ข้อหนึ่งที่ข้าพเจ้าชื่นชอบ ข้อนี้พูดถึงการเติบโต การพัฒนา และการก้าวไปสู่ความเป็นพระผู้เป็นเจ้า ข้อนี้มาคู่กับคำประกาศอันสำคัญยิ่งเหล่านี้ “รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าคือความรู้แจ้ง, หรือ, อีกนัยหนึ่ง, ความสว่างและความจริง” (คพ. 93:36); “และหากคนคนหนึ่งได้ความรู้และความรู้แจ้งเพิ่มขึ้นในชีวิตนี้โดยผ่านความขยันหมั่นเพียรและการเชื่อฟังของเขายิ่งกว่าอีกคนหนึ่งเท่าใด, เขาก็จะเหนือกว่ายิ่งขึ้นเท่านั้นในโลกที่จะมาถึง” (คพ. 130:19) …

ในข้อความที่น่าอัศจรรย์เหล่านี้มีคำท้าทายอันลึกซึ้งยิ่ง เราต้องเติบโตต่อไป เราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เราได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้เพิ่มพูนความรู้ของเราเสมอ …

… พระเจ้าตรัสกับท่านและกับข้าพเจ้าว่า “เจ้าจงแสวงหาถ้อยคำแห่งปัญญาจากบรรดาหนังสือดีที่สุด; แสวงหาการเรียนรู้, แม้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย … จงวางระเบียบตนเอง … เลิกเกียจคร้าน” (คพ. 88:118–119, 124)5

พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านฝึกฝนความคิดและมือของท่าน ไม่ว่าสาขาวิชาใดก็ตามที่ท่านเลือก ไม่ว่าจะซ่อมตู้เย็น หรืองานของศัลย-แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ท่านต้องฝึกฝนตนเอง จงแสวงหาระบบการศึกษาที่ดีที่สุด จงเป็นช่างฝีมือผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตในโลกที่อยู่ข้างหน้าท่าน … ท่านจะนำเกียรติยศชื่อเสียงมาสู่ศาสนจักรและท่านจะได้รับพรอย่างมากเพราะการฝึกฝนดังกล่าว

ท่านจะมีความสงสัยไม่ได้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม ว่าการศึกษามีประโยชน์ อย่าปิดกั้นชีวิตท่าน ถ้าท่านทำเช่นนั้น ท่านจะต้องรับผลครั้งแล้วครั้งเล่า6

แค่มีชีวิตอยู่รอดไปวันๆ เท่านั้นไม่พอ เราแต่ละคนต้องเตรียมตัวเราให้พร้อมทำสิ่งที่มีคุณค่าในสังคม—ได้แสงสว่างเพิ่มมากขึ้นเพื่อแสงสว่างของตัวเราจะช่วยทำให้โลกที่มืดมนส่องสว่าง ทั้งหมดนี้อยู่ในวิสัยที่ทำได้โดยผ่านการเรียนรู้ ผ่านการศึกษาหาความรู้ให้ตนเอง ผ่านการเติบโตและก้าวหน้าทั้งในความคิดและวิญญาณ7

สตรีอ่านหนังสือให้เด็กฟัง

“ให้เด็กเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่อายุยังน้อย”

2

บิดามารดาสามารถสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้ในบ้านได้ด้วยการวางแผนและสร้างวินัยให้ตนเอง

การเฝ้าดูจิตใจเด็กพัฒนาและเข้มแข็งขึ้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าอัศจรรย์ยิ่ง ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่เห็นคุณค่าอันไพศาลของโทรทัศน์ แต่ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งเช่นกันที่ประณามการใช้เวลาและโอกาสไปโดยเปล่าประโยชน์เมื่อเด็กในบ้านบางหลังดูรายการโทรทัศน์ที่ไม่ส่งเสริมสติปัญญาหรือความเข้มแข็ง

สมัยข้าพเจ้าเป็นเด็กเราอาศัยอยู่ในบ้านเก่าหลังใหญ่ ห้องหนึ่งเรียกว่าห้องสมุด ห้องนั้นมีโต๊ะแข็งแรงหนึ่งตัวกับตะเกียงอย่างดี เก้าอี้นั่งสบายสามถึงสี่ตัว แสงสว่างพอเหมาะ และหนังสือในกล่องเล็กๆ ที่เรียงรายตามฝาผนัง มีหนังสือหลายเล่ม—บิดามารดาของข้าพเจ้ารวบรวมมานานหลายปี

เราไม่เคยถูกบังคับให้อ่าน แต่พวกท่านวางหนังสือไว้ใกล้มือและเราสามารถหยิบมาอ่านได้ทุกเมื่อ

ในห้องนั้นเงียบสงบ เราเข้าใจว่านั่นเป็นสถานที่ศึกษา

มีนิตยสารเช่นกัน—นิตยสารศาสนจักรและนิตยสารดีๆ อีกสองสามเล่ม มีหนังสือประวัติศาสตร์และวรรณกรรม หนังสือวิชาช่าง พจนานุกรม สารานุกรมหนึ่งชุด และหนังสือแผนที่โลก แน่นอนว่าสมัยนั้นไม่มีโทรทัศน์ มีวิทยุเมื่อข้าพเจ้าโตเป็นผู้ใหญ่ แต่มีสภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมของการเรียนรู้ ข้าพเจ้าจะไม่ทำให้ท่านเชื่อว่าเราเป็นผู้คงแก่เรียน แต่เรามีวรรณกรรมที่ดีมาก แนวคิดที่ดีมากจากนักคิดที่ยิ่งใหญ่ ภาษาของชายหญิงที่คิดอย่างลึกซึ้งและเขียนอย่างสละสลวย

ในบ้านหลายหลังของเราทุกวันนี้ไม่มีห้องสมุดเช่นนั้น ครอบครัวส่วนใหญ่มีที่จำกัด แต่ด้วยการวางแผนเราสามารถมีมุมๆ หนึ่ง เราสามารถมีพื้นที่ไว้สำหรับหลบเสียงหนวกหูรอบตัวเราที่เราจะนั่งอ่านและคิดได้ การมีโต๊ะสักตัวเป็นเรื่องดี โต๊ะธรรมดาๆ ไว้วางงานมาตรฐานของศาสนจักร หนังสือดีๆ สักสี่ห้าเล่ม นิตยสารที่ศาสนจักรตีพิมพ์ และหนังสืออื่นที่ควรอ่าน

จงให้เด็กเริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่อายุยังน้อย มารดาที่ไม่อ่านหนังสือให้ลูกเล็กๆ ฟังทำให้ลูกเสียประโยชน์และทำให้ตนเองเสียประโยชน์ การทำเช่นนั้นต้องใช้เวลา ใช่ ใช้เวลามาก ต้องมีวินัยในตนเอง ต้องวางระเบียบและจัดเวลาเป็นนาทีและชั่วโมงต่อวัน แต่ท่านจะไม่มีวันเบื่อเมื่อท่านเฝ้ามองความคิดลูกๆ รับรู้ตัวอักษร สำนวน และแนวคิด การอ่านหนังสือที่ดีจะกลายเป็นเรื่องราวความรัก บังเกิดผลในระยะยาวมากกว่ากิจกรรมอีกมากมายที่เด็กใช้เวลาของพวกเขา …

บิดามารดาทั้งหลาย … จงให้บุตรธิดาของท่านเปิดรับความคิดที่ดีมาก แนวคิดที่ดีมาก ความจริงอันเป็นนิจ ตลอดจนสิ่งเหล่านั้นซึ่งจะสร้างแรงจูงใจให้ทำดี … พยายามสร้างบรรยากาศของการเรียนรู้ภายในบ้านของท่านและการเติบโตซึ่งจะเกิดจากบรรยากาศเช่นนั้น8

3

การศึกษาไขประตูเปิดโอกาสให้เยาวชนและคนหนุ่มสาว

นี่เป็นวันดียิ่งของโอกาสสำหรับคนหนุ่มสาว เวลาอันน่าอัศจรรย์ที่ได้อยู่บนแผ่นดินโลก ท่านยืนอยู่ตรงจุดสูงสุดของยุคสมัยทั้งหมดที่ผ่านมา ท่านมีการเรียนรู้ทั้งหมดของทุกคนที่เคยเดินบนแผ่นดินโลก การเรียนรู้ที่ถูกกลั่นกรองไว้ในหลักสูตรเพื่อให้ท่านสามารถตักตวงความรู้ได้ในเวลาค่อนข้างสั้น ความรู้ซึ่งมนุษย์เรียนรู้อย่างยากลำบากตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา อย่าประเมินตนเองต่ำเกินไป อย่าพลาดโอกาสอันสำคัญยิ่งของท่าน คว้าโอกาส ทำให้ได้ เรียนให้หนัก9

นี่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่เยาวชนชายและเยาวชนหญิงอย่างท่านจะตักตวงความรู้ทั้งหมดเท่าที่ท่านจะทำได้ … การศึกษาเป็นกุญแจซึ่งจะไขประตูเปิดโอกาสให้ท่าน นั่นคุ้มกับการเสียสละเพื่อให้ได้มา ทั้งหมดนี้คุ้มค่าที่จะทำ หากท่านศึกษาหาความรู้ให้ความคิดและมือของท่าน ท่านจะสามารถทำคุณประโยชน์ใหญ่หลวงต่อสังคมที่ท่านเข้าไปเกี่ยวข้อง และท่านจะสามารถเป็นแบบอย่างอันน่ายกย่องของศาสนจักรที่ท่านเป็นสมาชิก พี่น้องเยาวชนคนหนุ่มสาวที่รักทั้งหลาย จงใช้โอกาสการศึกษาทุกโอกาสที่ท่านจะหามาได้ และบิดามารดาทั้งหลาย จงกระตุ้นบุตรธิดาของท่านให้ศึกษาหาความรู้ซึ่งจะเป็นพรแก่ชีวิตพวกเขา10

ท่านอาจไม่มีเงินทุนในการศึกษาทุกอย่างที่ท่านปรารถนา จงใช้เงินของท่านทำให้ท่านก้าวหน้ามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช้ประโยชน์จากทุนการศึกษา เงินช่วยเหลือ และเงินกู้ยืมเท่าที่ท่านจะจ่ายคืนได้11

ข้าพเจ้าไม่สนใจสิ่งที่ท่านต้องการเป็นตราบเท่าที่สิ่งนั้นน่ายกย่อง ช่างซ่อมรถยนต์ คนก่ออิฐ ช่างประชา ช่างไฟฟ้า แพทย์ ทนายความ พ่อค้า แต่ไม่ใช่ขโมย แต่ไม่ว่าท่านเป็นอะไร จงใช้โอกาสฝึกฝนและทำโอกาสนั้นให้ดีที่สุด สังคมจะให้รางวัลท่านตามคุณค่าของท่านตามที่สังคมรับรู้ วันนี้เป็นวันสำคัญยิ่งที่แต่ละท่านจะเตรียมให้พร้อม ถ้านั่นหมายถึงการเสียสละ จงเสียสละ การเสียสละนั้นจะกลายเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดเท่าที่ท่านเคยทำ เพราะท่านจะเก็บเกี่ยวคืนจากการเสียสละนั้นตลอดวันเวลาของชีวิตท่าน12

ข้าพเจ้ากระตุ้นเยาวชนหญิงทุกคนให้ศึกษาทุกอย่างที่ท่านจะทำได้ ท่านจะต้องศึกษาเพราะท่านจะต้องเข้าไปอยู่ในโลก ชีวิตมีการแข่งขันมากเหลือเกิน … โลกกำลังเปลี่ยน และสำคัญมากที่เราต้องเตรียมตัวก้าวพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนั้น แต่มีด้านสว่างของทั้งหมดนี้ ไม่มีคนรุ่นใดในประวัติศาสตร์ทั้งหมดให้โอกาสสตรีมากเท่านี้ วัตถุประสงค์แรกของท่านควรเป็นชีวิตแต่งงานที่มีความสุข รับการผนึกในพระวิหารของพระเจ้า และตามด้วยการเลี้ยงดูครอบครัวให้ดี การศึกษาจะเตรียมท่านให้พร้อมทำอุดมคติเหล่านั้นให้เป็นจริงได้ดีขึ้น13

มีความรับผิดชอบมากมายสำหรับสตรีในศาสนจักรและในชุมชนที่สอดคล้องและประสานกลมกลืนกับชีวิตแต่งงาน การเป็นมารดา การเลี้ยงดูบุตรธิดาให้เป็นคนดีมีความสามารถ14

บัดนี้โอกาสด้านงานอาชีพเปิดให้แก่สตรี ไม่มีสิ่งใดที่ท่านทำไม่ได้ถ้าท่านจะตั้งใจทำ ท่านสามารถใฝ่ฝันถึงภาพของสตรีที่ท่านอยากเป็นซึ่งเป็นสตรีผู้มีคุณสมบัติพร้อมรับใช้สังคมและทำคุณประโยชน์ใหญ่หลวงต่อโลกที่เธอจะเข้าไปเกี่ยวข้อง15

ข้าพเจ้าปลาบปลื้มยินดีที่สตรีทุกวันนี้ได้รับโอกาสเดียวกับ [บุรุษ] ในการศึกษาวิทยาศาสตร์ วิชาชีพ และความรู้ด้านอื่นทั้งหมดของมนุษย์ ท่านมีสิทธิ์รับพระวิญญาณของพระคริสต์เท่ากับบุรุษ พระวิญญาณซึ่งจุดประกายความคิดให้แก่ชายหญิงทุกคนที่เข้ามาในโลก (ดู ค.พ. 84:46) จงจัดลำดับความสำคัญของท่านในเรื่องการแต่งงานและครอบครัว แต่จงเริ่มโปรแกรมการศึกษาซึ่งจะทำให้ได้งานที่น่าพอใจและอาชีพที่ก่อเกิดประโยชน์ในกรณีที่ท่านไม่ได้แต่งงาน หรือเพื่อความมั่นคงและความสำเร็จในกรณีที่ท่านแต่งงาน16

[ชายหนุ่ม] อย่างท่านเผชิญความท้าทายมากมายที่อยู่ตรงหน้า ท่านกำลังก้าวเข้าไปในโลกของการแข่งขันที่ดุเดือด ท่านต้องศึกษาหาความรู้ให้ได้มากที่สุด พระเจ้าทรงสอนเราเกี่ยวกับความสำคัญของการศึกษา การศึกษาจะทำให้ท่านมีคุณสมบัติคู่ควรรับโอกาสมากขึ้น การศึกษาจะเตรียมท่านให้พร้อมทำบางสิ่งที่คุ้มค่าในโลกแห่งโอกาสที่อยู่ข้างหน้า ถ้าท่านไปเรียนมหาวิทยาลัยได้ และนั่นเป็นความปรารถนาของท่าน จงไป ถ้าท่านไม่ปรารถนาจะเรียนมหาวิทยาลัย จงไปเรียนโรงเรียนพาณิชย์หรืออาชีวศึกษาเพื่อปรับปรุงทักษะและเพิ่มพูนความสามารถ17

ข้าพเจ้าหวังว่า [คนหนุ่มสาว] อย่างท่านจะมองว่าโอกาสการศึกษาที่ท่านมีเป็นพรอันประเสริฐ ข้าพเจ้ารู้ว่าการศึกษาเป็นงานหนัก ข้าพเจ้ารู้ว่ายาก ข้าพเจ้ารู้ว่าบางครั้งท่านท้อแท้ ข้าพเจ้ารู้ว่าบางครั้งท่านสงสัยว่าทำไมต้องศึกษาหาความรู้ แต่จงศึกษาต่อไป มุมานะต่อไป และเรียนรู้ต่อไป ท่านจะไม่มีวันเสียใจตราบใดที่ท่านมีชีวิตอยู่แต่จะนับว่าเป็นพรอันประเสริฐ18

4

การให้ความรู้แก่วิญญาณสำคัญเท่ากับหรือมากกว่าการให้ความรู้ทางความคิด

ข้าพเจ้าครั่นคร้ามกับพลังมหาศาลของความรู้ที่มีอยู่ในสมัยของเรา ไม่เคยมีคนได้รับการศึกษามากเท่านี้มาก่อนในการเรียนรู้ของโลก การศึกษาเป็นสิ่งที่มีอานุภาพยิ่ง—การคร่ำเคร่งศึกษาของเยาวชนส่วนใหญ่ในโลกผู้พบกันทุกวันแทบเท้าครูบาอาจารย์เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้จากทุกยุคทุกสมัยของมนุษย์

ขอบเขตของความรู้นั้นน่าทึ่ง ครอบคลุมเรื่องดวงดาวของจักรวาล ธรณีวิทยาของแผ่นดินโลก ประวัติศาสตร์ของประชาชาติ วัฒนธรรมและภาษาของผู้คน การดำเนินงานของรัฐบาล กฎหมายพาณิชย์ คุณสมบัติของอะตอม หน้าที่ของร่างกาย และความน่าพิศวงของสมอง

ด้วยความรู้มากมายเช่นนั้นคนเราจึงคิดว่าโลกน่าจะอยู่ใกล้สภาพของความดีพร้อม แต่เรารับรู้เสมอว่าเหรียญมีอีกด้านหนึ่ง—ความเจ็บป่วยของสังคม ความขัดแย้ง และความวุ่นวายที่นำความเศร้าหมองเข้ามาในชีวิตหลายล้านคน

แต่ละวันเรารับรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าชีวิตเป็นมากกว่าวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นมากกว่าประวัติศาสตร์และวรรณกรรม เราจำเป็นต้องศึกษาอีกด้านหนึ่ง หาไม่แล้วสาระความรู้ทางโลกก็มีแต่จะนำไปสู่หายนะ ข้าพเจ้าหมายถึงการศึกษาเรื่องจิตใจ มโนธรม อุปนิสัย และวิญญาณ—บุคลิกภาพในแง่มุมที่ไม่อาจอธิบายได้เหล่านี้มีอิทธิพลแน่นอนต่อสิ่งที่เราเป็นและสิ่งที่เราทำในสัมพันธภาพที่เรามีต่อกัน

… ขณะรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในอังกฤษ ข้าพเจ้าไปวายเอ็มซีเอ ที่ลอนดอนตอนกลาง ข้าพเจ้าคิดว่าอาคารเก่าแก่หลังนั้นไม่อยู่ที่นั่นแล้ว แต่ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมข้อความตรงห้องโถงที่ผู้มาเยือนจะเห็นทุกครั้งเมื่อเข้าไป ข้อความนั้นเป็นคำพูดของโซโลมอน “ไม่ว่าเจ้าจะได้อะไรก็ตาม จงเอาความรอบรู้ไว้” (สภษ. 4:7)

ความรอบรู้คืออะไร คือการเข้าใจตนเอง เข้าใจจุดประสงค์ของชีวิต เข้าใจสัมพันธภาพของเรากับพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นพระบิดาของเรา เข้าใจหลักธรรมสำคัญยิ่งที่พระเจ้าประทานซึ่งให้แหล่งความก้าวหน้าแท้จริงของมนุษย์มาหลายศตวรรษ! …

ขณะที่เราศึกษาทางโลก เราจงเพิ่มการปลูกฝังพระวิญญาณเข้าไปในชีวิตเราด้วย ถ้าเราทำเช่นนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะทรงอวยพรให้เรามีสันติสุขและพรเหล่านั้นซึ่งมาจากพระองค์แต่ผู้เดียว19

พระเยซูคริสต์

“เราจำเป็นต้องแสวงหาความรู้เกี่ยวกับพระอาจารย์ร่วมกับการศึกษาทั้งหมดของเรา”

พระเยซูตรัสว่า “เรียนจากเรา … ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา” (มัทธิว 11:29–30)

ข้าพเจ้าขอแนะนำให้เราทำตามพระบัญชานั้นของพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า จงเรียนจากพระองค์ร่วมกับการเรียนรู้ทั้งหมดของเรา เราจำเป็นต้องแสวงหาความรู้เกี่ยวกับพระอาจารย์ร่วมกับการศึกษาทั้งหมดของเรา ความรู้ดังกล่าวจะส่งเสริมการฝึกฝนทางโลกของเราอย่างดียิ่งและจะให้หลักความประพฤติและความบริบูรณ์แก่ชีวิตที่ไม่สามารถได้มาในวิธีอื่น20

ข้าพเจ้าท้าทายท่าน การให้ความรู้แก่วิญญาณสำคัญเท่ากับหรือมากกว่าการให้ความรู้ทางความคิด21

โปรแกรมใหญ่ด้านการศึกษาของศาสนจักรก้าวไปข้างหน้า งานการอบรมนักเรียนผ่านโปรแกรมเซมินารีและสถาบันขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง … ท่านที่เป็นผู้รับต่างรู้คุณค่ามหาศาลของโปรแกรมนี้ เราขอให้ทุกท่านใช้โปรแกรมนี้ให้เป็นประโยชน์ เราไม่ลังเลที่จะสัญญาว่าความรู้ของท่านในพระกิตติคุณจะเพิ่มขึ้น ศรัทธาของท่านจะมั่นคงขึ้น และท่านจะพัฒนาความสัมพันธ์อันดี22

ขอให้เรารับพระนามของพระเจ้าไว้กับเรา จากนั้นจงออกไปแบ่งปันด้วยศรัทธาเกี่ยวกับสิ่งซึ่งจะมีผลต่อชีวิตมนุษยชาติและนำสันติสุขและปีติเข้ามาในโลก โลกต้องการชายหญิงรุ่นที่มีความรู้และมีอิทธิพลผู้สามารถจะยืนขึ้นประกาศด้วยความจริงใจและไม่คลุมเครือว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์ พระเยซูคือพระคริสต์23

5

ไม่ว่าเราจะอายุเท่าใด เราสามารถเสาะหาความรู้ สะสมปัญญา และเติบโตต่อไป

สิ่งที่น่าสนใจคือการเรียนรู้ กระบวนการที่ใช้สรุปและกลั่นกรองความรู้ที่สั่งสมมาหลายศตวรรษเพื่อให้เราสามารถเรียนรู้สิ่งซึ่งเดิมทีเรียนรู้ผ่านการค้นคว้า การทดลอง และความผิดพลาดมายาวนานได้ในเวลาอันสั้น

การศึกษาเป็นกระบวนการสำคัญยิ่งของการเปลี่ยนใจเลื่อมใสซึ่งทำให้ความรู้ที่เป็นนามธรรมกลายเป็นกิจกรรมที่ก่อประโยชน์และเกิดผล การศึกษาต้องเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหยุด ไม่ว่าเราจะอายุเท่าใด เราสามารถเสาะหาความรู้และใช้ความรู้นั้น เราสามารถสะสมปัญญาและใช้ประโยชน์จากปัญญานั้น เราสามารถสนุกสนานเพลิดเพลินผ่านปาฏิหาริย์ของการอ่าน การเปิดรับศิลปะ การเพิ่มเติมพรและสัมฤทธิผลของการดำเนินชีวิต ยิ่งมีวัยสูงขึ้น ข้าพเจ้ายิ่งชอบคำของนักเขียนที่ละเอียดรอบคอบทั้งในสมัยโบราณและสมัยใหม่ ตลอดจนอรรถรสของสิ่งที่พวกเขาเขียนไว้24

พวกเราไม่มีใคร … รู้มากพอ กระบวนการเรียนรู้เป็นกระบวนการที่ไม่มีวันจบสิ้น เราต้องอ่าน เราต้องสังเกต เราต้องรับไว้ และเราต้องไตร่ตรองสิ่งที่เราเปิดใจรับ … ข้าพเจ้าเชื่อเรื่องการปรับปรุงให้ดีขึ้น ข้าพเจ้าเชื่อเรื่องการเติบโต …

จงเติบโตต่อไป พี่น้องทั้งหลาย ไม่ว่าท่านจะอายุสามสิบปีหรือเจ็ดสิบปี ความอุตสาหะของท่านในการทำเช่นนั้นจะทำให้เวลาผ่านไปเร็วกว่าที่ท่านมุ่งหวัง แต่จะเต็มไปด้วยความสนุกสนานและความยินดีที่จะเพิ่มรสชาติให้ชีวิตท่านและเพิ่มพลังให้การสอนของท่าน25

มีภูเขาลูกหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของ [มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์ในเมืองโพรโว รัฐยูทาห์] ข้าพเจ้ามั่นใจว่า [หลายคน] มองดูภูเขาลูกนั้นและคิดว่า “ถ้าฉันปีนขึ้นไปบนยอดเขาได้ คงจะน่าสนใจถ้าได้เห็นหุบเขาอีกด้าน” แต่ท่านที่เคยปีนแล้วพบว่าหุบเขาเป็นเพียงแอ่งเล็กๆ ค่อนข้างตื้น และเลยเขาลูกนั้นไปมีภูเขาที่สูงกว่าให้ปีนอีกหลายลูก

ข้าพเจ้าจึงหวังว่าท่านจะเป็นอย่างนั้น … ท่านจะตระหนักว่าแม้ประสบการณ์การเรียนรู้ของท่าน [อาจ] ยิ่งใหญ่ แต่มีโอกาสและความท้าทายอีกมากอยู่ข้างหน้า จงเพิ่มคลังข้อมูลของท่าน เพิ่มพูนความรู้ของท่าน และทำให้กระบวนการเรียนรู้ดำเนินต่อไป26

ข้อเสนอแนะสำหรับศึกษาและสอน

คำถาม

  • เหตุใดการ “ได้แสงสว่างเพิ่มมากขึ้น” ผ่านการศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญ (ดู หัวข้อ 1) การเรียนรู้จะช่วยให้เราแต่ละคนก้าวหน้าได้อย่างไร การเรียนรู้จะช่วยเรา “ทำให้โลกที่มืดมนส่องสว่าง” ได้อย่างไร

  • ทบทวนเรื่องราวของประธานฮิงค์ลีย์เกี่ยวกับวิธีที่บิดามารดาของท่านสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ในบ้าน (ดู หัวข้อ 2) เราจะช่วยให้เด็กรักการเรียนรู้มากขึ้นได้อย่างไร เราจะช่วยให้เด็กปรารถนาจะแสวงหาการเรียนรู้จากแหล่งที่จุดประกายความคิดและสร้างแรงจูงใจให้ทำความดีได้อย่างไร

  • การศึกษา “ไขประตูเปิดโอกาส” ให้เยาวชนและคนหนุ่มสาวอย่างไร (ดู หัวข้อ 3) เยาวชนและคนหนุ่มสาวจะคิดหาวิธีใช้โอกาสสำหรับการศึกษาให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร

  • ท่านจะอธิบายความหมายของวลี “การให้ความรู้แก่วิญญาณ” อย่างไร (ดู หัวข้อ 4) เราจะให้ความรู้แก่จิตใจ อุปนิสัย และวิญญาณได้อย่างไร ในชีวิตท่าน การเรียนรู้ฝ่ายวิญญาณและการเรียนรู้ฝ่ายโลกเสริมกันอย่างไร

  • เหตุใดเราจึงควรเรียนรู้ตลอดชีวิตเรา (ดู หัวข้อ 5) เราจะรักการเรียนรู้ชั่วชีวิตได้อย่างไร เมื่อเร็วๆ นี้ท่านเรียนรู้อะไรที่มีค่าต่อท่านเป็นพิเศษ

ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง

สุภาษิต 1:5; 2 เปโตร 1:1–8; 2 นีไฟ 9:28–29; 28:29–30; คพ. 6:7; 90:15; 131:6; 136:32–33

ความช่วยเหลือด้านการสอน

แนวคิดหนึ่งที่กระตุ้นการสนทนาเกี่ยวกับคำสอนของประธานฮิงค์ลีย์คือขอให้ผู้มีส่วนร่วมแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากการศึกษาบทนี้เป็นส่วนตัว (ดูแนวคิดเพิ่มเติมหน้า viii-x ในหนังสือเล่มนี้)

อ้างอิง

  1. Standing for Something: Ten Neglected Virtues That Will Heal Our Hearts and Homes (2000), 59.

  2. ใน เชอรี แอล. ดิว, Go Forward with Faith: The Biography of Gordon B. Hinckley (1996), 449–50.

  3. Discourses of President Gordon B. Hinckley, Volume 1: 1995–1999 (2005), 406–7.

  4. “คำแนะนำและการสวดอ้อนวอนของศาสดาเพื่อเยาวชน,” เลียโฮนา, เม.ย. 2001, 37.

  5. “A Conversation with Single Adults,” Ensign, Mar. 1997, 62.

  6. “คำแนะนำและการสวดอ้อนวอนของศาสดาพยากรณ์เพื่อเยาวชน,” 36.

  7. Standing for Something, 67.

  8. “The Environment of Our Homes,” Ensign, June 1985, 4–5.

  9. Teachings of Gordon B. Hinckley (1997), 171–72.

  10. “Inspirational Thoughts,” Ensign, June 1999, 4.

  11. “อยู่บนถนนหลวง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 139.

  12. Teachings of Gordon B. Hinckley, 172–73.

  13. “Stand True and Faithful,” Ensign, May 1996, 92.

  14. “Youth Is the Season,” New Era, Sept. 1988, 47.

  15. “How Can I Become the Woman of Whom I Dream?” Ensign, May 2001, 95.

  16. “Ten Gifts from the Lord,” Ensign, Nov. 1985, 89.

  17. “Converts and Young Men,” Ensign, May 1997, 49–50.

  18. Discourses of President Gordon B. Hinckley, Volume 1, 370.

  19. “With All Thy Getting Get Understanding,” Ensign, Aug. 1988, 2, 5.

  20. “With All Thy Getting Get Understanding,” 5.

  21. ใน “President Hinckley Visits New Zealand, Australia, and Mexico,” Ensign, Aug. 1997, 77.

  22. “The Miracle Made Possible by Faith,” Ensign, May 1984, 47.

  23. “With All Thy Getting Get Understanding,” 5.

  24. “I Believe,” Ensign, Aug. 1992, 4.

  25. Teachings of Gordon B. Hinckley, 298–99.

  26. Teachings of Gordon B. Hinckley, 299.