คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 5: ธิดาของพระผู้เป็นเจ้า


บทที่ 5

ธิดาของพระผู้เป็นเจ้า

“พลังของสตรีที่มีศรัทธาช่างน่าอัศจรรย์นัก”

จากชีวิตของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

ตลอดชีวิตของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ ท่านแสดงความชื่นชมในความสามารถและผลงานของสตรี ท่านกล่าวคำพยานหนักแน่นยืนยันความสำคัญของสตรีในแผนนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้าเช่นกัน ท่านดีใจในเรื่องโอกาสที่เพิ่มขึ้นของสตรี ศรัทธาของพวกเธอในพระผู้ช่วยให้รอด และการอุทิศตนให้ครอบครัวของพวกเธอและศาสนจักร

เอดามารดาของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ฉลาดหลักแหลม มีการศึกษา รักวรรณกรรม ดนตรี และศิลปะ เมื่ออายุ 29 ปี เธอแต่งงานกับพ่อม่ายไรอันท์ ฮิงค์ลีย์ และรับผิดชอบดูแลเด็กแปดคนที่กำลังทุกข์โศกกับการสิ้นชีวิตของมารดา เธออบรมเลี้ยงดูพวกเขาด้วยความรัก ให้การสนับสนุนช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการ และฝึกบริหารจัดการครัวเรือนขนาดใหญ่ กอร์ดอนเป็นบุตรคนแรกในจำนวนบุตรห้าคนที่เกิดจากเอดากับไบรอันท์ ถึงแม้เอดาจะสิ้นชีวิตเมื่อกอร์ดอนอายุ 20 ปี แต่คำสอนและแบบอย่างของเธอยังคงส่งผลดีตลอดชีวิตท่าน เมื่อท่านพูดถึงเธอ ท่านมักจะกล่าวถึงอิทธิพลดีมากมายที่เธอมีต่อท่าน

มาร์จอรี เพย์ภรรยาของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์มีอิทธิพลลึกซึ้งต่อท่านเช่นกัน เธอเป็นสตรีที่เข้มแข็งผู้อุทิศตนให้พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เธอมีศรัทธามากเป็นพิเศษ นิสัยร่าเริง และรักชีวิต ในจดหมายที่ประธานฮิงค์ลีย์เขียนถึงเธออย่างรักใคร่ ท่านแสดงความรักและความเคารพเธอ

“เราเดินทางกว้างไกลมาด้วยกัน เราไปเยือนทุกทวีป เราจัดการประชุมในเมืองใหญ่ๆ ของโลกและในเมืองเล็กๆ มากมาย … เราพูดกับคนหลายล้านคนที่ชื่นชมคุณอย่างมาก คำพูดที่เป็นกันเองของคุณทำให้ทุกคนที่ได้ยินได้ฟังรักคุณ ความไม่ถือตัวของคุณ ปฏิภาณไหวพริบของคุณ ปัญญาสุขุมลุ่มลึกของคุณ และศรัทธาอันมั่นคงของคุณเอาชนะใจทุกคนที่ฟังคุณ … ความปรารถนาในการอ่านแบบไม่รู้จักพอของคุณและการใฝ่ใจศึกษาหาความรู้ของคุณทำให้คุณสดชื่นกระปรี้กระเปร่าตลอดชีวิตที่ยาวนานและเกิดผล”1

ประธานฮิงค์ลีย์พูดบ่อยครั้งเกี่ยวกับธรรมชาติอันสูงส่งของสตรีและขอให้พวกเธอก้าวสู่ความสำเร็จและศรัทธามากขึ้น ท่านประกาศกับเยาวชนหญิงว่า “ท่านเป็นธิดาของพระผู้ทรงฤทธานุภาพอย่างแท้จริง ศักยภาพของท่านไม่มีขีดจำกัด ถ้าท่านจะควบคุมชีวิตท่าน อนาคตจะเต็มไปด้วยโอกาสและความยินดี ท่านจะปล่อยให้พรสวรรค์หรือเวลาของท่านเสียเปล่าไม่ได้ โอกาสมากมายอยู่ข้างหน้าท่าน”2 เกี่ยวกับสตรีที่เป็นผู้ใหญ่ ท่านกล่าวว่า “โลกต้องการอิทธิพลของสตรี ความรัก การปลอบโยน และความเข้มแข็งของพวกเธอ สภาพแวดล้อมที่แข็งกร้าวของเราต้องการเสียงให้กำลังใจของพวกเธอ ความสวยงามที่ดูเหมือนจะอยู่ในธรรมชาติของพวกเธอ และวิญญาณแห่งจิตกุศลที่เป็นมรดกของพวกเธอ”3

ที่การประชุมใหญ่สามัญหลังการสิ้นชีวิตของมาร์จอรีคู่ชีวิตที่ท่านรัก ประธานฮิงค์ลีย์ทิ้งท้ายคำปราศรัยครั้งหนึ่งของท่านด้วยความสำนึกคุณจากใจว่า “ข้าพเจ้ารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง เราทุกคนต้องรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งต่อสตรีในชีวิตเรา ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรพวกเธอ ขอให้ความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์กลั่นลงมาบนพวกเธอและสวมมงกุฎแห่งความแวววาว ความงดงาม พระคุณ และศรัทธาบนศีรษะพวกเธอ”4

มารดา บุตรสาว

“แต่ละท่านเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้า จงใคร่ครวญความหมายอันน่าพิศวงทั้งหมดของความจริงอันสำคัญยิ่งดังกล่าว”

คำสอนของกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

1

สตรีมีบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งในแผนนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้า

แต่ละท่านเป็นธิดาของพระผู้เป็นเจ้า จงใคร่ครวญความหมายอันน่าพิศวงทั้งหมดของความจริงอันสำคัญยิ่งดังกล่าว …

ข้าพเจ้าเตือนท่านให้นึกถึงคำพูดที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟกล่าวแก่สตรีสมาคมสงเคราะห์ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1842 ท่านกล่าวว่า “หากท่านจะดำเนินชีวิตให้สมกับเอกสิทธิ์ของท่าน คงจะห้ามเหล่าเทพเป็นสหายของท่านไม่ได้” [คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ (2007), 488] ศักยภาพในตัวท่านน่าอัศจรรย์นัก5

แต่ละท่านมีค่ามาก … ท่านครองบทบาทอันศักดิ์สิทธิ์และสูงส่งในแผนนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้า พระบิดาในสวรรค์ของเรา ท่านเป็นธิดาของพระองค์ มีค่าต่อพระองค์ พระองค์ทรงรักท่าน และท่านสำคัญต่อพระองค์มาก แบบแผนอันยิ่งใหญ่ของพระองค์จะสำเร็จไม่ได้หากไม่มีท่าน6

ข้าพเจ้าขอพูดกับท่านว่าท่านไม่ได้ครองอันดับสองในแผนของพระบิดาเพื่อความผาสุกและความสุขนิรันดร์ของบุตรธิดาพระองค์ ท่านเป็นส่วนจำเป็นอย่างยิ่งของแผนนั้น หากไม่มีท่านแผนจะบังเกิดผลไม่ได้ หากไม่มีท่านโปรแกรมทั้งหมดจะล้มเหลว7

มีสิ่งที่สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์ และสูงส่งมาถึงท่านเนื่องจากสิทธิกำเนิดของท่าน อย่าลืมเรื่องนี้ พระบิดานิรันดร์ของท่านทรงเป็นเจ้านายที่ยิ่งใหญ่ของจักรวาล พระองค์ทรงปกครองทั้งหมด แต่พระองค์จะทรงฟังคำสวดอ้อนวอนของท่านในฐานะธิดาของพระองค์และทรงได้ยินท่านเมื่อท่านพูดกับพระองค์ พระองค์จะทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของท่าน พระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้ท่านโดดเดี่ยว8

2

คำแนะนำที่พระเจ้าประทานแก่เอ็มมา สมิธประยุกต์ใช้กับทุกคน

พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาภาคที่ยี่สิบห้า … เป็นการเปิดเผยที่ประทานผ่านโจเซฟศาสดาพยากรณ์ต่อเอ็มมาภรรยาท่าน … พระองค์ตรัสกับเอ็มมา และกับเราทุกคนว่า

“เราให้การเปิดเผยแก่เจ้าเกี่ยวกับความต้องการของเรา; และหากเจ้าซื่อสัตย์และเดินในวิถีแห่งคุณธรรมต่อหน้าเรา, เราจะปกปักรักษาชีวิตเจ้า, และเจ้าจะได้รับมรดกในไซอัน” [คพ. 25:2; see also verse 16]. …

ส่วนใหญ่แล้วเราแต่ละคนถือกุญแจไขพรที่พระผู้ทรงฤทธานุภาพทรงมอบให้เรา หากเราต้องการพร เราต้องจ่ายราคา ส่วนหนึ่งของราคานั้นคือการเป็นคนซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์ต่ออะไร ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ต่อส่วนดีที่สุดที่อยู่ในตัวเรา ไม่มีสตรีคนใดสามารถดูหมิ่นตนเอง ดูแคลนตนเอง และมองข้ามความสามารถของตนเองได้ ขอให้เราแต่ละคนซื่อสัตย์ต่อคุณลักษณะอันสูงส่งและสำคัญยิ่งที่อยู่ในตัวเธอ จงซื่อสัตย์ต่อพระกิตติคุณ จงซื่อสัตย์ต่อศาสนจักร รอบตัวเราทุกคนล้วนมีคนที่หมายมั่นบ่อนทำลายศาสนจักร มองหาความอ่อนแอในผู้นำสมัยแรก จับผิดโปรแกรมของศาสนจักร และพูดวิพากษ์วิจารณ์ศาสนจักร ข้าพเจ้าให้ประจักษ์พยานต่อท่านว่านี่คืองานของพระผู้เป็นเจ้าและคนที่พูดต่อต้านงานนี้เท่ากับพูดต่อต้านพระองค์

จงซื่อสัตย์ต่อพระองค์ พระองค์ทรงเป็นแหล่งพลังที่แท้จริงแหล่งหนึ่งของท่าน พระองค์ทรงเป็นพระบิดาในสวรรค์ของท่าน พระองค์ทรงพระชนม์ พระองค์ทรงได้ยินและทรงตอบคำสวดอ้อนวอน จงซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้า

พระเจ้าตรัสกับเอ็มมาต่อไปว่า “หากเจ้า … เดินในวิถีแห่งคุณธรรม”

ข้าพเจ้าคิดว่าสตรีทุกคน … เข้าใจความหมายของข้อความนี้ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าพระเจ้าประทานพระดำรัสเหล่านี้แก่เอ็มมา สมิธ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นเงื่อนไขที่เราต้องถือปฏิบัติถ้าเราต้องการได้รับมรดกในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า การขาดคุณธรรมตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีสิ่งใดสวยงามกว่าคุณธรรม ไม่มีพลังใดยิ่งใหญ่กว่าพลังแห่งคุณธรรม ไม่มีความสง่างามใดเทียบเท่าความสง่างามของคุณธรรม ไม่มีคุณสมบัติใดน่ายกย่องมากเท่านี้ ไม่มีเครื่องแต่งกายใดมีเสน่ห์ชวนมองมากเท่านี้ …

พระองค์ทรงเรียกเอ็มมาว่า “สตรีที่เราเลือกไว้” [คพ. 25:3] ถ้าใช้พระคัมภีร์อีกบรรทัดหนึ่ง เธอคือ “ภาชนะที่เลือกสรรแล้วของพระเจ้า” (ดู โมโรไน 7:31) ท่านทั้งหลายคือสตรีแต่ละท่านที่ทรงเลือกไว้ ท่านออกมาจากโลกในฐานะผู้รับกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ ท่านเลือกของท่านแล้ว และถ้าท่านดำเนินชีวิตคู่ควรกับการเลือกนั้น พระเจ้าจะทรงให้เกียรติท่านและทรงสรรเสริญท่าน …

เอ็มมาได้รับแต่งตั้ง9 ภายใต้มือโจเซฟเพื่อ “อรรถาธิบายพระคัมภีร์, และให้แนะนำศาสนจักร, ตามที่จะให้แก่เจ้าโดยพระวิญญาณของเรา” [คพ. 25:7]

เธอต้องเป็นครู เธอต้องเป็นครูสอนความชอบธรรมและความจริง เพราะพระเจ้าตรัสเกี่ยวกับการเรียกนี้กับเธอว่า “เจ้าจะได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์, และเจ้าจงให้เวลาแก่การเขียน, และแก่การเรียนรู้ให้มาก” [คพ. 25:8]

เธอต้องศึกษาพระกิตติคุณ เธอต้องศึกษาเรื่องต่างๆ ของโลกที่เธออาศัยอยู่เช่นกัน พระดำรัสนั้นชัดเจนในการเปิดเผยต่อๆ มาที่ประยุกต์ใช้ได้กับเราทุกคน เธอต้องทุ่มเทเวลา “เรียนรู้ให้มาก” เธอต้องเขียนความนึกคิดของเธอออกมา

กับสตรียุคปัจจุบัน ไม่ว่าอายุมากหรือน้อย ข้าพเจ้าขอแนะนำท่านให้เขียน จดบันทึกส่วนตัว และเขียนความนึกคิดของท่านลงบนกระดาษ การเขียนต้องมีวินัยมาก ต้องพยายามศึกษาให้มาก การเขียนจะช่วยท่านในหลายๆ ด้าน และท่านจะเป็นพรแก่ชีวิตคนมากมาย …

ในภาษาของการเปิดเผย [เอ็มมา] ต้อง “อรรถาธิบายพระคัมภีร์, และให้แนะนำศาสนจักร, ตามที่จะให้แก่เจ้าโดยพระวิญญาณของเรา.”

นี่เป็นหน้าที่เด่นชัดสำหรับเธอและสำหรับสตรีทุกคนของศาสนจักรนี้ ต้องมีการเรียนรู้ ต้องมีการเตรียม ต้องมีการลำดับความคิด ต้องมีการอรรถาธิบายพระคัมภีร์ ต้องมีการแนะนำงานดีตามที่พระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทรงนำทาง

พระเจ้าตรัสต่อไปว่า “เรากล่าวแก่เจ้าว่าเจ้าจงละทิ้งสิ่งต่างๆ ของโลกนี้, และแสวงหาสิ่งต่างๆ ของโลกที่ดีกว่า” [คพ. 25:10]

ข้าพเจ้ารู้สึกว่าพระองค์มิได้รับสั่งกับเอ็มมาว่าเธอไม่ควรรู้สึกกังวลเรื่องที่อยู่อาศัย อาหารบนโต๊ะ และเครื่องนุ่งห่ม พระองค์กำลังตรัสกับเธอว่าเธอไม่ควรหมกมุ่นกับสิ่งเหล่านี้ เพราะพวกเราจำนวนมากมักจะเป็นเช่นนั้น พระองค์กำลังบอกให้เธอนึกถึงเรื่องของชีวิตที่สูงกว่านั้น เรื่องของความชอบธรรมและความดีงาม เรื่องของจิตกุศลและความรักที่มีต่อผู้อื่น เรื่องของนิรันดร …

พระเจ้าตรัสต่อไปว่า “ดังนั้น, จงรื่นเริงใจและชื่นชมยินดี, และแนบสนิทกับพันธสัญญาซึ่งเจ้าทำไว้” [คพ. 25:13]

ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระองค์กำลังตรัสกับเราทุกคนว่า จงมีความสุข พระกิตติคุณเป็นเรื่องของความปีติยินดี ทำให้เรามีเหตุให้ยินดี แน่นอนว่ามีเวลาของความเศร้าโศก แน่นอนว่ามีโมงของความวิตกกังวล เราทุกคนกลัดกลุ้ม แต่พระเจ้ารับสั่งกับเราให้รื่นเริงใจและชื่นชมยินดี10

สตรี มารดา  คุณยายในประเทศไทย

“ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรท่าน มารดาทั้งหลาย! … ท่านจะอยู่ที่นั่น ท่านต้องอยู่ที่นั่น เป็นขวัญกำลังใจให้คนรุ่นใหม่”

3

มารดามีการเรียกอันศักดิ์สิทธิ์ให้เลี้ยงดูบุตรธิดาในความชอบธรรมและความจริง

พลังแท้จริงของประเทศชาติ สังคม หรือครอบครัวอยู่ในคุณสมบัติเหล่านั้นที่ส่วนใหญ่บุตรธิดาได้มาจากการสอนเงียบๆ เรียบง่ายทุกวันของมารดา11

บ้านเป็นที่ผลิตต้นกล้าของคนรุ่นใหม่ ข้าพเจ้าหวังว่าท่านที่เป็นมารดาจะตระหนักว่าเมื่อพิจารณาทุกอย่างแล้ว ไม่มีความรับผิดชอบใดน่าสนใจ และให้รางวัลตอบแทนท่านมากเท่าการอบรมเลี้ยงดูบุตรธิดาในสภาพแวดล้อมของความปลอดภัย ความสงบ ความเป็นเพื่อน ความรัก และแรงจูงใจให้เติบโตและทำดี12

ข้าพเจ้าเตือนมารดาทุกหนแห่งให้นึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ในการเรียกของท่าน ไม่มีใครทำหน้าที่ของท่านได้ดีพอ ไม่มีความรับผิดชอบใดยิ่งใหญ่กว่า ไม่มีภาระใดผูกมัดมากกว่าการที่ท่านเลี้ยงดูคนที่ท่านนำเข้ามาในโลกด้วยความรัก ความสงบ และความซื่อสัตย์สุจริต13

จงเลี้ยงดูบุตรธิดาในความสว่างและความจริง จงสอนให้พวกเขาสวดอ้อนวอนในขณะที่พวกเขายังเด็ก อ่านพระคัมภีร์ให้พวกเขาฟังถึงแม้พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจทั้งหมดที่ท่านอ่าน สอนพวกเขาให้จ่ายส่วนสิบและเงินบริจาคเมื่อได้รับเงินครั้งแรก จงให้พวกเขาปฏิบัติเช่นนี้จนเป็นนิสัยในชีวิต จงสอนบุตรชายว่าต้องให้เกียรติสตรี สอนบุตรสาวให้ดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์ ยอมรับหน้าที่รับผิดชอบในศาสนจักร และวางใจว่าพระเจ้าจะทรงทำให้ท่านทัดเทียมกับการเรียกที่ท่านได้รับ แบบอย่างของท่านจะเป็นแบบฉบับให้บุตรธิดาของท่าน14

ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรท่าน มารดาทั้งหลาย! เมื่อผลแห่งความพยายามของมนุษย์มีทั้งความมีชัยและความปราชัย เมื่อฝุ่นสงครามของชีวิตเริ่มสงบ เมื่อชัยชนะทั้งหมดที่เราเพียรพยายามให้ได้มาในโลกนี้จางหายไปต่อหน้าเรา ท่านจะอยู่ที่นั่น ท่านต้องอยู่ที่นั่นเป็นพลังให้คนรุ่นใหม่ เป็นพลังขับเคลื่อนเผ่าพันธุ์มนุษย์ไปข้างหน้า คุณภาพของพลังนั้นจะขึ้นอยู่กับท่าน15

4

สตรีมีความรับผิดชอบมากมายในงานแห่งความรอด

สตรีของศาสนจักรนี้มีความเข้มแข็งและความสามารถมาก พวกเธอนำและชี้แนวทาง มีเจตนาจะเป็นตัวของตัวเอง พอใจมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของพระเจ้า และได้ทำงานคู่กับ [ผู้ดำรง] ฐานะปุโรหิตเพื่อทำให้งานนี้ก้าวหน้า16

พระผู้เป็นเจ้าประทานงานให้สตรีของศาสนจักรนี้ทำในการสร้างอาณาจักรของพระองค์ งานดังกล่าวเกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบอันสำคัญยิ่งทั้งสามด้านได้แก่ หนึ่ง สอนพระกิตติคุณให้ชาวโลก สอง เสริมสร้างศรัทธาและสร้างความสุขของการเป็นสมาชิกศาสนจักร และสาม ดำเนินงานอันสำคัญยิ่งของความรอดให้ผู้วายชนม์17

สตรีในศาสนจักรเป็นผู้ร่วมงานกับพี่น้องชายในการดำเนินงานอันยิ่งใหญ่นี้ของพระเจ้า … สตรีมีความรับผิดชอบมากมายและพวกเธอมีหน้าที่ต้องทำความรับผิดชอบเหล่านั้นให้สำเร็จ พวกเธอเป็นผู้นำองค์การของพวกเธอ และองค์การเหล่านั้นเข้มแข็ง ใช้การได้ และเป็นกำลังสำคัญตลอดไปในโลก พวกเธอมีบทบาทเป็นผู้ช่วยของฐานะปุโรหิต ทุกคนล้วนพยายามช่วยกันสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก เรายกย่องและเคารพท่านสำหรับความสามารถของท่าน เราคาดหวังการเป็นผู้นำและความเข้มแข็ง ตลอดจนผลอันน่าประทับใจจากการบริหารองค์การที่ท่านต้องรับผิดชอบ เราสนับสนุนและส่งเสริมท่านในฐานะธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ขณะท่านทำหน้าที่หุ้นส่วนใหญ่ช่วยเหลือพระองค์ในการทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า18

เยาวชนหญิงหน้าพระวิหาร

“ข้าพเจ้า … เชื้อเชิญสตรีทุกแห่งหนให้ลุกขึ้นทำให้เต็มศักยภาพในตัวท่าน”

5

สมาคมสงเคราะห์เป็นแหล่งของพรนับไม่ถ้วน

พระพาหุแห่งพระเจ้าของเราทรงโอบสตรีของสมาคมสงเคราะห์ไว้ชั่วนิรันดร์ ในความเห็นของข้าพเจ้า นี่เป็นองค์การใหญ่ที่สุดในโลกของสตรี เป็นองค์การที่พระผู้เป็นเจ้าทรงก่อตั้ง โจเซฟ สมิธพูดและทำหน้าที่ศาสดาพยากรณ์เมื่อท่านจัดตั้งสมาคมสงเคราะห์ในปี 184219

สำคัญอย่างยิ่งที่สตรีของศาสนจักรจะไม่หวั่นไหวและยืนหยัดสนับสนุนสิ่งถูกต้องและเหมาะสมภายใต้แผนของพระเจ้า ข้าพเจ้าเชื่อมั่นว่าไม่มีองค์การอื่นใดไม่ว่าที่ใดเทียบได้กับสมาคมสงเคราะห์ของศาสนจักรนี้ … ถ้า [สมาชิกขององค์การนี้] จะเป็นหนึ่งเดียวกันและพูดเป็นเสียงเดียวกัน ความเข้มแข็งของพวกเธอจะเหลือคณานับ20

ข้าพเจ้าเข้าร่วมการประชุมใหญ่สเตคที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นประธานสมาคมสงเคราะห์ของวอร์ดคนโสดพูดถึงการรับใช้และโอกาสอันดียิ่งที่หญิงสาวในวอร์ดของเธอได้รับ ท่านมีทั้งหมดนี้ ท่านมีองค์การของท่านเอง ท่านมีผู้นำที่มีความรู้ความสามารถคอยแนะนำท่าน ท่านมีคนที่จะยื่นมือช่วยเหลือท่านยามท่านเดือดร้อนและทุกข์ใจ21

ใครเลยจะสามารถวัดผลอันน่าอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตสตรีหลายล้านคนผู้ซึ่งบทเรียนนับไม่ถ้วนที่สอนและเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพในการประชุมสมาคมสงเคราะห์ได้เพิ่มพูนความรู้ของพวกเธอ ขยายวิสัยทัศน์ของพวกเธอ ทำให้ชีวิตพวกเธอเปิดกว้างมากขึ้น และยกระดับความเข้าใจของพวกเธอในเรื่องของพระผู้เป็นเจ้า

ใครเลยจะสามารถวัดปีติที่เข้ามาในชีวิตสตรีเหล่านี้ได้ขณะพวกเธอมารวมกลุ่มกัน สมาคมกันในบรรยากาศของวอร์ดหรือสาขา ยกระดับชีวิตให้แก่กันผ่านความเป็นเพื่อนที่มีค่าและน่าชื่นใจ

แม้ในจินตนาการกว้างไกลที่สุด ใครเลยจะเข้าใจการกระทำนับไม่ถ้วนอันเกิดจากจิตกุศลที่แสดงออกมา อาหารที่นำไปวางไว้บนโต๊ะยามขาดแคลน ศรัทธาที่ได้รับการบำรุงเลี้ยงในยามเจ็บป่วยสิ้นหวัง บาดแผลที่ได้รับการเยียวยา ความเจ็บปวดที่บรรเทาลงด้วยมือเปี่ยมรักและคำพูดให้กำลังใจเบาๆ การปลอบโยนที่มีให้ยามประสบความตายและความเหงาที่เกิดขึ้น …

ไม่มีใครสามารถนับโครงการที่สมาคมสงเคราะห์ในท้องที่ลงมือทำและทำสำเร็จ ไม่มีใครสามารถประเมินความดีงามที่เข้ามาในชีวิตสตรีผู้เป็นสมาชิกขององค์การเหล่านี้และสตรีเหล่านั้นผู้ได้ประโยชน์ผ่านงานดีของพวกเธอ …

ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรสมาคมสงเคราะห์ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ขอให้วิญญาณแห่งความรักซึ่งเป็นแรงกระตุ้นสมาชิกขององค์การ … เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและรู้สึกได้ทั่วโลก ขอให้งานแห่งจิตกุศลของพวกเธอสัมผัสชีวิตคนนับไม่ถ้วนเพื่อความดีตลอดไปในทุกแห่งหนที่พวกเธอทำงานนั้น ขอให้แสงสว่างและความเข้าใจ การเรียนรู้และความรู้ อีกทั้งความจริงนิรันดร์กล่อมเกลาชีวิตสตรีหลายรุ่นที่จะมา ทั่วทุกประเทศของแผ่นดินโลก เพราะสถาบันพิเศษนี้ที่พระเจ้าทรงสถาปนา22

6

ขึ้นถึงระดับความเป็นพระเจ้าในตัวท่าน

ท่านเป็นสตรีกลุ่มใหญ่ของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย … ไม่มีใครสามารถคำนวณพลังความดีที่ท่านมีอย่างมากมายมหาศาลได้ … ข้าพเจ้าแนะนำให้ท่านยืนหยัดและเข้มแข็งในการปกป้องคุณธรรมสำคัญเหล่านั้นซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของความก้าวหน้าทางสังคมของเรา เมื่อท่านเป็นหนึ่งเดียวกัน พลังของท่านไร้ขีดจำกัด ท่านสามารถประสบความสำเร็จได้ทุกอย่างที่ท่านประสงค์ และโอ้ ในโลกที่คุณค่าของสังคมกำลังสูญสลายและดูเหมือนปฏิปักษ์เข้าควบคุมอย่างมาก โลกนี้ต้องการท่านอย่างยิ่ง23

ข้าพเจ้ารู้สึกว่าต้องเชื้อเชิญสตรีทุกแห่งหนให้ลุกขึ้นทำทุกอย่างเต็มศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในตัวท่าน ข้าพเจ้าไม่ได้ขอให้ท่านทำเกินกำลังความสามารถ ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะไม่หมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ว่าท่านล้มเหลว ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะไม่พยายามตั้งเป้าหมายไกลเกินกว่าท่านจะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะทำสิ่งที่ท่านทำได้ให้ดีที่สุด หากท่านทำเช่นนั้น ท่านจะเห็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้น24

ข้าพเจ้าแสดงความสำนึกคุณต่อสตรีวิสุทธิชนยุคสุดท้ายที่ซื่อสัตยฺ์ ซึ่งเวลานี้มีจำนวนหลายล้านคนและพบอยู่ทั่วโลก พลังเพื่อความดีของท่านยิ่งใหญ่นัก พรสวรรค์และความภักดีของท่านน่าอัศจรรย์นัก ศรัทธาและความรักที่ท่านมีต่อพระเจ้า งานของพระองค์ และบุตรธิดาของพระองค์มากมายยิ่งนัก จงดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณต่อไป จงทำให้เพื่อนร่วมงานทุกคนของท่านเห็นเช่นนั้น งานดีของท่านจะมีน้ำหนักมากกว่าถ้อยคำที่ท่านพูด จงดำเนินชีวิตในคุณธรรมและความจริง ด้วยศรัทธาและความซื่อสัย์ ท่านเป็นส่วนหนึ่งของแผนนิรันดร์ที่พระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ของเราทรงออกแบบไว้ แต่ละวันเป็นส่วนหนึ่งของนิรันดรนั้น

ข้าพเจ้าทราบว่าพวกท่านหลายคนแบกภาระหนักมาก ขอให้เพื่อนร่วมงานของท่านในศาสนจักร พี่น้องของท่าน ช่วยท่านแบกภาระเหล่านั้น ขอให้คำสวดอ้อนวอนของท่านขึ้นถึงพระองค์ผู้ทรงเดชานุภาพทั้งมวล ผู้ทรงรักท่าน และทรงสามารถทำให้เกิดพลังและมูลเหตุซึ่งจะช่วยท่านได้ นี่เป็นงานแห่งปาฏิหาริย์ ท่านรู้เช่นนั้น และข้าพเจ้ารู้เช่นนั้น ข้าพเจ้าบอกท่านได้ไม่ยากเลยว่าอย่าท้อ แต่ข้าพเจ้าก็ยังจะบอกเช่นนั้นขณะขอให้ท่านก้าวไปข้างหน้าด้วยศรัทธา25

พลังของสตรีที่มีศรัทธาช่างน่าอัศจรรย์นัก เราเห็นพลังเช่นนั้นหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาสตร์ของศาสนจักรนี้ และยังมีอยู่ในบรรดาพวกเราทุกวันนี้ ข้าพเจ้าคิดว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นพระเจ้าในตัวท่าน

พี่น้องสตรีทั้งหลาย จงขึ้นให้ถึงระดับของความเป็นพระเจ้า ความพยายามเช่นนั้นทำให้โลกที่ท่านอยู่ดีขึ้นสำหรับตัวท่านและสำหรับทุกคนที่จะตามท่านมา26

ขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าสำหรับสตรีที่ยอดเยี่ยมของศาสนจักรนี้ ขอให้ท่านปลูกฝังความรู้สึกภาคภูมิใจในความสามารถของท่านและความเชื่อมั่นในความจริงซึ่งจะเป็นเหมือนหางเสือพาท่านฝ่ามรสุมทุกลูกไปอย่างปลอดภัย27

ข้อเสนอแนะสำหรับศึกษาและสอน

คำถาม

  • เราเรียนรู้อะไรจากประธานฮิงค์ลีย์ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับธิดาของพระองค์ (ดู หัวข้อ 1) เหตุใดจึงสำคัญที่เราต้องเข้าใจ “บทบาทอันศักดิ์สิทธิ์และสูงส่ง” ของสตรีในแผนนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้า

  • คำแนะนำที่พระเจ้าประทานแก่เอ็มมา สมิธ มีด้านใดเกิดประโยชน์ต่อท่านเป็นพิเศษ (ดู หัวข้อ 2) เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากหัวข้อ 2 เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ เราเรียนรู้อะไรได้บ้างเกี่ยวกับการเป็น “สตรีที่เลือกไว้” เราเรียนรู้อะไรได้บ้างเกี่ยวกับวิธีประยุกต์ใช้พระคัมภีร์กับตัวเรา

  • ท่านประทับใจอะไรบ้างขณะอ่านคำแนะนำที่ประธานฮิงค์ลีย์ให้แก่มารดาทั้งหลาย (ดู หัวข้อ 3) ท่านได้รับพรอย่างไรจากอิทธิพลของมารดา สำหรับบิดามารดา เหตุใดจึง “ไม่มีภาระใดผูกมัดมาก” กว่าการเลี้ยงดูบุตรธิดาของพวกเขา “ด้วยความรัก ความสงบสุข และความซื่อสัตย์สุจริต”

  • ท่านเคยเห็นแบบอย่างอะไรบ้างของ “ความเข้มแข็งและความสามารถมาก” ของสตรีในศาสนจักร (ดู หัวข้อ 4) สตรีจะช่วยทำให้เกิด “ความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า” ได้อย่างไรบ้าง เหตุใดจึงสำคัญที่ชายหญิงต้องทำงานด้วยกันเพื่อทำให้งานของพระเจ้าก้าวหน้า ท่านเคยเห็นแบบอย่างอะไรบ้างของเรื่องนี้

  • ทบทวนพรที่มาจากสมาคมสงเคราะห์ ดังที่ประธานฮิงค์ลีย์สรุปไว้ในหัวข้อ 5 พรใดมาถึงท่านบ้างจากความพยายามของพี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ รวมถึงคนที่กำลังรับใช้ในเยาวชนหญิงและปฐมวัย ท่านจะเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สมาคมสงเคราะห์ในวอร์ดของท่านได้อย่างไร สมาคมสงเคราะห์จะช่วยสตรีเพิ่มอิทธิพลดีของพวกเธอได้อย่างไร

  • พิจารณ์การกระตุ้นของประธานฮิงค์ลีย์ให้ “ลุกขึ้นทำให้เต็มศักยภาพในตัวท่าน” (หัวข้อ 6) เราจะมองเห็นศักยภาพของเราอย่างที่พระเจ้าทรงมองเห็นชัดขึ้นได้อย่างไร เราจะก้าวหน้าจนบรรลุศักยภาพของเราได้อย่างไร ท่านเคยเห็น “พลัง … [อันน่าอัศจรรย์] ของสตรีที่มีศรัทธา” เมื่อใด

ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง

สุภาษิต 31:10–31; ลูกา 10:38–42; กิจการของอัครทูต 9:36–40; โรม 16:1–2; 2 ทิโมธี 1:1–5; แอลมา 56:41–48

ความช่วยเหลือด้านการสอน

“เมื่อท่านเตรียมสอนแต่ละบท จงสวดอ้อนวอนขอให้พระวิญญาณช่วยท่านรู้ว่าเวลาใดที่ท่านจะแบ่งปันความรู้สึกที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ท่านอาจได้รับการกระตุ้นให้แสดงประจักษ์พยานหลายครั้งในระหว่างบทเรียน ไม่เฉพาะในตอนสรุปเท่านั้น” (ไม่มีการเรียกใดยิ่งใหญ่กว่าการสอน [1999], 44)

อ้างอิง

  1. ใน Glimpses into the Life and Heart of Marjorie Pay Hinckley, ed. Virginia H. Pearce (1999), 194–95.

  2. “ให้คุณธรรมประดับความนึกคิดของท่านไม่เสื่อมคลาย” เลียโฮนา, พ.ค. 2007, 144.

  3. Discourses of President Gordon B. Hinckley, Volume 2: 2000–2004 (2005), 509–10.

  4. “สตรีในชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 106.

  5. “ยืนหยัดต่อต้านแผนการร้ายของโลก” เลียโฮนา, ม.ค. 1996, 109.

  6. “Daughters of God,” Ensign, Nov. 1991, 97.

  7. “สตรีในศาสนาจักร,” เลียโฮนา, ม.ค. 1997, 80.

  8. “อยู่บนถนนหลวง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2004, 139.

  9. การใช้คำว่า แต่งตั้ง ของประธานฮิงค์ลีย์สะท้อนให้เห็นการใช้คำนี้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 25:7, ส่วนที่ท่านยกมาอ้างในประโยคนี้. ในพระคัมภีร์ฉบับภาษาอังกฤษ เชิงอรรถของคำว่า แต่งตั้ง ในข้อนี้คือ “หรือวางมือมอบหน้าที่” ในยุคแรกของการฟื้นฟู คำว่า แต่งตั้ง และ วางมือมอบหน้าที่ มักใช้สลับกันบ่อยๆ; แต่งตั้ง ไม่ได้หมายถึงตำแหน่งฐานะปุโรหิตเสมอไป (ดู ตัวอย่างใน คพ. 63:45)

  10. “If Thou Art Faithful,” Ensign, Nov. 1984, 90–92.

  11. Motherhood: A Heritage of Faith (pamphlet, 1995), 6.

  12. “ยืนหยัดต่อต้านแผนการร้ายของโลก,” 109.

  13. “Bring Up a Child in the Way He Should Go,” Ensign, Nov. 1993, 60.

  14. “ยืนหยัดต่อต้านแผนการร้ายของโลก,” 109.

  15. Motherhood: A Heritage of Faith, 13.

  16. “สตรีในศาสนจักร,” 81.

  17. “Live Up to Your Inheritance,” Ensign, Nov. 1983, 84.

  18. “If Thou Art Faithful,” 89.

  19. “ในพาหุแห่งความรักของพระองค์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2006, 146.

  20. “จงยืนหยัดและไม่หวั่นไหว,” การประชุมอบรมผู้นำทั่วโลก, 10 ม.ค. 2004, 23.

  21. “The BYU Experience” (Brigham Young University devotional, Nov. 4, 1997), 2, speeches.byu.edu.

  22. “Ambitious to Do Good,” Ensign, Mar. 1992, 4–6.

  23. “มารดา การท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของท่าน,” เลียโฮนา, ม.ค. 2001, 132.

  24. Teachings of Gordon B. Hinckley (1997), 696.

  25. “Daughters of God,” 100.

  26. “Rise to the Stature of the Divine within You,” Ensign, Nov. 1989, 97–98.

  27. “Live Up to Your Inheritance,” 84.