บทที่ 17
งานพระวิหาร: หันใจเราไปหาครอบครัว และพระเจ้า
เมื่อเราเข้าพระนิเวศของพระ(จ้าอย่างปีค่าควร เราจะได้รับพิธีการ ที’ช่วยเตรียมเรา บรรพชนของเรา และลูกหลานของเราไห้พร้อมอยู่ ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาล
จากชีวิตของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้
เมื่อ พระวิหารเคิร์ทแลนด์ได้รับการอุทิศวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 1836 วิล ฟอร์ด วูดรัฟฟกำลังรับใช้งานเผยแผ่เต็มเวลาทางภาคใต้ของสหรัฐ สามสัปดาห์ ต่อมาท่านทราบข่าวพิธีอุทิศพระวิหารและเขียนลงในบันทึกส่วนตัวว่า ข่าวนี้ “น่าชื่นชมเปีนอย่างยิ่ง”1 หลังจากเสร็จสิ้นงานเผยแผ่ ท่านกลับไปที่เคิร์ทแลนด์ โดย “เดินเท้าท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหนา” ท่านบันทึกว่า “เรามาถึงจุด ที่มองเห็นพระวิหารของพระเจ้าก่อนถึงหมู่บ้าน และ ข้าพเจ้าร้สืกปลื้มปีติเป็น อย่างยิ่งเมื่อดวงตาของข้าพเจ้ามองเห็นพระนิเวศของพระเจ้าที่สร้างตามพระบัญ ชาและการเปีดเผยเปีนครั้งแรก”2
ความรักงานพระวิหารของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็ไม่เคยจืดจาง ท่านมีส่วนร่วมใน งานทุกระยะ ตั้งแต่การก่อสร้างไปจนถึงการอุทิศ และตั้งแต่งานประวัติครอบ ครัวไปจนถึงงานพิธีการสำหรับคนตาย ท่านปลื้มปีติในพิธีการพระวิหารที่ท่าน และสมาชิกครอบครัวรับเพื่อตนเองต้วย
ประธานวูดรัฟฟ็พูดอยู่บ่อยครั้งถึงเวลาที่ท่านไต้รับเอ็นดาวเบ้นท์ โดยร้สีก ว่าการปฏิบัติศาสนกิจบนโลกจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า ศาสดาโจเซฟ สมิธจึงท่าเอ็น ดาวเบ้นท้ให้โควรัมอัครสาวกสิบสองในนอวู แม้ก่อนพระวิหารจะเสร็จสมบูรณ์ ประธานวูดรัฟฟ็เป็นพยานว่า “โจเซฟ สมิธบอกให้ข้าพเจ้าทราบเป็นครั้งแรก ถึงพิธีการที่เราจะให้สิทธิชนยุคสุดท้ายในเอ็นดาวเบ้นท์ของเรา ข้าพเจ้าได้รับ เอ็นดาวเบ้นท์ของตนเองภายใด้การกำกับดูแลของโจเซฟ สมิธ”3
ในฐานะสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง และต่อมาในฐานะประธานศาสนา จักร วิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็มีส่วนในความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะสร้างพระวิหาร ท่านช่วยงานที่พระวิหารนอวู อิลลินอยส์ และที่พระวิหารในเมืองสี่เมืองของ ยูท่าห์ ได้แก่ โลแกน เซนต์จอร์จ แมนไท และซอลท์เลคซิตี้ ท่านกล่าวคำ สวดอุทิศที่พระวิหารในแมนไทและซอลท์เลคซิตี้
พระวิหารซอลท์เลค ซึ่งเสร็จสมบูรณ์หลังจากสิทธิชนทุ่มเทสร้างนานถึง 40 ปี มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อประธานวูดรัฟฟ ท่านเห็นรายละเอียดของพระ วิหารเป็นครั้งแรกในภาพปรากฎก่อนสิทธิชนจะมาถึงหุบเขาซอลท์เลค4 สี่วัน หลังจากมาถึงทุบเขา ท่านอยู่ที่นั่นเมื่อประธานบริคัม ยังได้รับการดลใจให้เลือก สถานที่ก่อสร้างพระวิหาร5 หลายปีก่อนพระวิหารจะสร้างเสร็จ ท่านฝืนว่าได้รับ กุญแจเปิดพระวิหารและประธานยังสั่งท่านว่า “ให้ทุกคนที่แสวงหาความรอด เข้าไปในพระวิหาร”6 ท่านคือผู้หนึ่งที่ให้การสนับสนุนอย่างไม่เห็นแก่เหน็ด- เหนื่อยจนสร้างพระวิหารเสร็จ แม้ในช่วงเวลาของการทดลองและการข่มเหง และเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนเมษายน ค.ศ. 1893 ท่านทำตามคำสั่ง ของประธานยังในความฝืนโดยจัดพิธีอุทิศสามสัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่าสิทธิชน ทุกคนมีโอกาสเข้าร่วม
หลังจากอุทิศพระวิหารซอลท์เลค ประธานวูดรัฟฟ้ได้เน้นความสำคัญของ ครอบครัวในงานพระวิหาร ท่านกล่าวว่า “เราต้องการให้สิทธิชนยุคสุดท้ายนับ จากเวลานี้สืบลำดับเชื้อสายของเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่ทำได้ และผนึกกับบิดา มารดาของเขา ให้บุตรผนึกกับบิดามารดาของตน และต่อสายโซ่เส้นนี้ให้ยาว ที่สุดเท่าที่เขาจะทำไต้”7 (อ่านเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังคำสอน ดังกล่าวได้ที่ หน้า ⅹⅹⅹⅰⅰⅰ-ⅹⅹⅹⅴ ในบทนำของหนังสือเล่มนี้)
คริสต์คักราช 1894 ประธานวูดรัฟฟ็ควบคุมดูแลการก่อตั้งสมาคมลำดับเชื้อ สายแห่งยูท่าห์ ซึ่งนำไปส่ความพยายามของศาสนาจักรในปัจจุบันเพื่อช่วยคนทั่ว โลกค้นหาบรรพบุรุษของตน หนึ่งร้อยปีต่อมา เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองตั้งข้อสังเกตว่า “เหตุการณ์ของปีประวัติศาสตร์ ครั้งนั้นทำให้การค้นคว้าประวัติครอบครัวและการรับใช้ในพระวิหารกลายเป็น งานอย่างหนึ่ง ในศาสนาจักร”8 เหตุการณ์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของสัมฤทธิผล ต่อเนื่องในคำพยากรณ์ที่ว่า “ใจของลูกหลานจะหันไปหาบรรพบุรุษของเขา” (ค.พ. 2:2; ดู มาลาคี 4:5–6ด้วย)
เพราะคำสอนสำคัญๆ มากมายของประธานวูดรัฟฟเกี่ยวกับงานพระวิหาร คำสอนนี้จึงเปีนบทแรกในสองบทของหนังสือเล่มนี้ที่พูดถึงเรื่องดังกล่าว บทนี้ จะเน้นเรื่องพรของการเข้าพระวิหารและลักษณะอันเป็นนิรันดร์ของครอบครัว ส่วนบทที่ 18 จะเน้นมากขึ้นเรื่องงานสำหรับคนตาย
คำลโอนของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้
เรามีส่วนร่วมในงานพระวิหารด้วยปีติแห่งสวรรค์ โดยรู้ว่างานนี้จะช่วยเตรียมเรา ลูกหลานของเรา และบรรพชน ของเราให้พร้อมจะพำนักอยู่ในที่ประทับของพระผู้เปีนเจ้า
ไม่มีงานใดที่สิทธิชนยุคสุดท้ายรู้สืกสนใจยิ่งไปกว่าการสร้างพระวิหารให้แล้ว เสร็จ9
เมื่อข้าพเจ้าใคร่ครวญพลังอำนาจที่เราใช้สร้างพระวิหารแด’พระนามของพระ ผู้เป็นเจ้าสูงสุด…และสิทธิพิเศษที่เราได้เข้าไปในพระวิหารเหล่านั้นและทำ งานที่จำเป็นต่อความรอดของเราและต่อการไถ่ของคนตายของเรา ข้าพเจ้าปลื้ม ปีติเป็นอย่างยิ่ง และร้สืกว่าเราได้รับพรมาก10
ท่านมีประวัติศาสตร์ของพระวิหารเหล่านี้อยู่ตรงหน้า ท่านทราบว่าศาสดา [โจเซฟและไฮรัม สมิธ] ถูกสังหาร และพระเจ้าทรงต้องการให้สร้างพระวิหาร [นอวู] ด้วยมือของสิทธิชนก่อนที่พวกเขาจะถูกขับไล่เข้าไปในแดนทุรกันดาร มีการเปีดเผยแน่ชัดซึ่งโดยมากจะบันดาลใจให้เหล่าเอ็ลเดอร์ของศาสนาจักรของ พระผู้เป็นเจ้าทำงานนั้น [ดู ค.พ. 124:25–41] พวกเขาทำงานสุดพลังที่มี และ ทำจนสำเร็จ พวกเขาเข้าไปในพระวิหารแห่งนั้น รับพิธีการและเอ็นดาวเม้นท์ ก่อนจะจากไปในแดนทุรกันดาร พระวิหารเหล่านี้ที่เราสร้าง… เป็นอนุสาวรีย์ต่อ พระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า ต่อหน้าเหล่าเทพ และมนุษย์เพื่อระลึกถึงศรัทธาและ งานของสิทธิชนยุคสุดท้าย11
เห็นได้ชัดว่าสิทธิชนยุคสุดท้ายซาบซึ้งต่อพรที่ได้รับผ่านงานพระวิหาร…ใจ เราเปียมด้วยความยินดี และเราไม่อาจหักห้ามใจในการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า และพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อผู้คนของพระองค์โดยทรงอนุญาตให้เขาสร้างและ อุทิศสิ่งปลูกสร้างเช่นนั้นตามแบบฉบับที่พระองค์ประทานเพื่อการใช้อันศักดี้ สัทธิ้เหล่านี้ทั้งที่เขาต้องต่อส์กับการต่อต้านและความยากลำบากมากมาย
สิทธิชนยุคสุดท้ายทุกคนที่พิจารณาเรื่องนี้จะตื้นตันด้วยปีติสำหรับสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทำเพื่อเราในชั่วอายุของเรา โดยทรงจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ เรา เช่นที่พระองค์ทรงทำ เพื่อเตรียมเรา ลูกหลานของเรา และบรรพชนของ เราให้พร้อมรับโลกนิรันดร์นั้นซึ่งอยู่เหนือชีวิตปัจจุบัน แท้จริงแล้วสิทธิชนยุค สุดท้ายคือผู้ได้รับความโปรดปรานมาก และการสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าควรออก มาจากใจทุกดวงและจากผู้อาศัยทุกคนในแผ่นดินของเราสำหรับพระเมตตาอัน ยิ่งใหญ่และพระกรุณาธิคุณซึ่งพระองค์ทรงแสดงต่อเรา พระองค์ทรงสัญญาจะ มอบสิ่งลํ้าค่าที่สุดให้เรา และพระองค์ทรงทำตามสัญญานั้นจวบจนปัจจุบัน เรา คงจะเป็นคนไร้ค่าและอกตัญฌูที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตอยู่หากเราลดความขยันหมั่น เพียร ไม่เชื่อฟ้ง และไม่อุทิศตนต่อพระองค์และอุดมการณ์อันยิ่งใหญ่ของพระ องค์หลังจากได้รับปรากฏการณ์อันน่าอัศจรรย์แห่งพระกรุณาธิคุณของพระองค์ แล้ว12
เราต้องการสานต่องานในพระวิหารเหล่านี้ เราต้องการให้สิทธิชนยุคสุดท้าย ครอบครองพระวิหาร เราต้องการให้พี่น้องชายหญิงของเรายังคงไปที่นั่น ไถ’คน ตาย และเป็นพรแก’คนเป็น13
จากคำสวดอุทิศพระวิหารซอลท์เลค โอ้พระเจ้า พวกข้าพระองค์จับตามอง การสร้างพระนิเวศศักดิ้สิทธิ๙แห่งนี้จนแล้วเสร็จด้วยความร้สืกแรงกล้าและไม’ อาจบรรยายได้ ขอพระองค์ทรงยอมรับพระวิหารแห่งที่สี่นี้ซึ่งพระองค์ทรงช่วย เหลือลูกหลานแห่งพันธสัญญาของพระองค์สร้างไว้ในเทือกเขาเหล่านี้ ในอดีต พระองค์ทรงดลใจศาสดาผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยพระวิญญาณศักดี้สิทธี้ให้พูด ถึงเวลาในยุคสุดท้ายเมื่อภูเขาแห่งพระนิเวศของพระเจ้าจะได้รับการสถาปนา บนยอดเขาและจะถูกยกขึ้นเหนือเนินเขา [ดู อิสยาห์ 2:2; มีคาห์ 4:2] พวกข้าพระองค์ขอบพระทัยพระองค์ที่ได้มีโอกาสอันทรงเกียรติในการช่วยให้ เกิดสัมฤทธิผลตามภาพปรากฏเหล่านี้ของผู้พยากรณ์สมัยโบราณของพระองค์ และที่พระองค์ทรงยอมอนุญาตให้พวกข้าพระองค์มีส่วนในงานยิ่งใหญ่นี้14
งานประวัติครอบครัวและพิธีการพระวิหาร ทำให้เราได้ผนึกกับครอบครัวเราโดยสร้างห่วงเชื่อม ระหว่างชั่วอายุคนในร่นต่างๆ
หลักธรรมพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์มีพลังอำนาจและประสิทธิผลหลัง จากความตาย จะนำผู้ชาย ภรรยา และบุตรของเขามารวมกันในองค์กรครอบครัว และจะทำให้พวกเขากลับมารวมกันชั่วนิรันดร…พิธีการผนึกถูกเปีดเผยต่อสิทธิ ชนยุคสุดท้าย และจะมีผลหลังจากความตาย และดังที่ข้าพเจ้ากล่าว จะทำให้ ชายหญิงกลับมารวมกันชั่วนิรันดร!นองค์กรครอบครัว นี่คือเหตุผลที่หลักธรรม เหล่านี้เปีนส่วนหนึ่งของศาสนาของเรา และโดยหลักธรรมดังกล่าว สามีภรรยา บิดามารดาและบุตรจะกลับมารวมกันจนกว่าห่วงในสายโซ่จะเชื่อมต่อกันจนถึง คุณพ่อแอดัม เราจะไม่ได้รับความบริบูรณ์แห่งรัศมีภาพชั้นสูงหากปราศจากพิธี การผนึก15
พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย ความปลาบปลื้มของเรื่องทั้งหมดคือ เมื่อเราล่วง ลับ เราจะมีครอบครัวอยู่กับเราในเช้าของการฟืนคืนชีวิต—บิดามารดาของเรา พี่ น้องชายหญิงของเรา ภรรยาและบุตรของเรา—ในองค์กรครอบครัวของโลกชั้น สูงตลอดกาลและตลอดไป สิ่งนี้คุ้มค่าแก่การที่ท่านหรือข้าพเจ้าจะเสียสละทุก อย่างในช่วงไม่กี่ปีที่เราอยู่ในเนื้อหนัง16
ขอให้ผู้ชายทุกคน [ผนึก] กับบิดาของเขา และจากนั้นท่านจะทำตามที่พระ ผู้เปีนเจ้าตรัสเมื่อทรงประกาศว่าพระองค์จะทรงส่งอิไลจะศาสดามาในวันเวลา สุดท้าย [ดู มาลาคี 4:5–6] อิไลจะศาสดามาปรากฎต่อโจเซฟ สมิธและบอก ท่านว่าวันนั้นมาถึงแล้วที่ต้องดำเนินตามหลักธรรมนี้ [ดู ค.พ. 110:13–16] โจ เซฟ สมิธมิไต้มีชีวิตนานพอจะสืกษาค้นคว้าเรื่องเหล่านี้เพิ่มเติม จิตวิญญาณของ ท่านหมกมุ่นกับงานนี้ก่อนจะเสียชีวิตเปีนมรณสักขีเพี่อพระคำของพระผู้เปีนเจ้า และประจักษ์พยานในพระเยซูคริสต์ ท่านบอกเราว่า จะต้องมีห่วงเชื่อมสมัยการ ประทานทั้งหมดและงานของพระผู้เปีนเจ้าจากชั่วอายุหนึ่งถึงชั่วอายุหนึ่ง [ดู ค.พ. 128:18] เรื่องนี้อยู่ในความคิดท่านมากกว่าเรื่องส่วนใหญ่ที่ท่านได้รับ
ในคำสวดอ้อนวอนของข้าพเจ้า พระเจ้าทรงเปีดเผยต่อข้าพเจ้าว่าหน้าที่ของ ข้าพเจ้าคือบอกอิสราเอลทุกคนให้ดำเนินตามหลักธรรมนี้ และในสัมฤทธิผล ของการเปีดเผยนั้น ข้าพเจ้าวางหลักธรรมดังกล่าวต่อหน้าคนเหล่านี้…เราต้อง การให้สิทธิชนยุคสุดท้ายนับจากเวลานี้สีบเชื้อสายของเขาให้ไกลที่สุดเท่าที่ ทำไต้ และผนึกกับบิดามารดาของตน ให้บุตรผนึกกับบิดามารดาและต่อสายโซ่ เสันนี้ให้ยาวที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้17
จากคำสวดอุทิศพระวิหารซอลท์เลค ข้าแต่พระบิดาบนสวรรค์ ข้าพระองค์ ทั้งหลายขอถวายแท่นผนึกแต่พระองค์ซึ่งพวกข้าพระองค์เตรียมไว้ให้ผู้รับใช้ ชายหญิงของพระองค์ได้รับพรจากการผนึก ข้าพระองค์ทั้งหลายอุทิศแท่นผนึก ในพระนามของพระเจ้าพระเยซูคริสต์แด’พระนามอันศักดี้สิทธิ๙ที่สุดของพระองค์ และขอพระองค์ทรงชำระให้ศักดิ๙สิทธี้ เพื่อผู้ที่มายังแท่นเหล่านี้จะร้สืกว่าพลัง อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธี้สถิตอยู่กับเขา และตระหนักในความศักดี้สิทธิ๙ ของพันธสัญญาที่ทำไว้ พวกข้าพระองค์สวดอ้อนวอนขอพระวิญญาณศักดิ๙สิทธิ๙ ทรงชี้นำพันธสัญญาและข้อตกลงที่ทำไว้กับพระองค์และต่อกัน ขอพวกข้า พระองค์รักษา1ไว้ให้ศักดิสิทธิ และขอพระองค์ทรงยอมรับ และขอให้สิทธิชน ทุกคนที่มายังแท่นเหล่านี้ได้รับพรทั้งหมดที่ประกาศไว้ในเช้าของการฟืนคืนชีวิต ของคนเที่ยงธรรม–
โอ้พระผู้เป็นเจ้าแห่งบรรพบุรุษของพวกช้าพระองค์ ผู้ทรงพอพระทัยให้เรียก ว่าพระผู้เป็นเจ้าของเอบราแฮม ไอแซค และเจคอบ ข้าพระองค์ทั้งหลายขอบ พระทัยพระองค์ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงเปิดเผยพลัง อำนาจซึ่งทำให้ใจของลูกหลานหันไปหาบรรพบุรุษและใจของบรรพบุรุษหันไป หาลูกหลาน เพื่อบุตรของมนุษย์ในทุกชั่วอายุจะถูกทำให้เป็นผู้รับสํวนรัศมีภาพ และปีติแห่งอาณาจักรสวรรค์ ขอทรงยืนยันแก่พวกข้าพระองค์ถึงวิญญาณของ อิไลจะ พวกข้าพระองค์สวดอ้อนวอนพระองค์ เพื่อพวกข้าพระองค์จะไถ่คนตาย และเชื่อมผนึกกับบรรพบุรุษผู้ล่วงลับไปอยู่หลังปาน อีกทั้งผนึกกับคนตายของ พวกข้าพระองค์ด้วยเพื่อจะออกมาในการฟืนคืนชีวิตแรก เพื่อพวกข้าพระองค์ผู้ อยู่บนแผ่นดินใลกจะผูกพันไว้กับผู้ที่อยู่ในสวรรค์ พวกข้าพระองค์ขอบพระทัย พระองค์แทนคนเหล่านั้นผู้เสร็จสิ้นงานของเขาในความเป็นมรรตัย และแทน พวกข้าพระองค์ด้วย ที่ทรงเปิดประตูคุก ทรงประกาศการปลดปล่อยเชลย และ แก้สายรัดออกจากคนที่ถูกมัด พวกข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์ที่บรรพบุรุษ ของพวกข้าพระองค์ ตั้งแต่คนสุดท้ายจนถึงคนแรก นับจากเวลานี้ ย้อน1ใปส่ ลำดับด้น สามารถรวมกับพวกข้าพระองค์ในห่วงที่ไม่อาจแยกสลายได้ เชื่อม โดยฐานะปุโรหิตศักดิ้สิทธิ๙ และเมื่อรวมเป็นครอบครัวใหญ่ในพระองค์และ เชื่อมโดยพลังอำนาจ เราจะยืนอยู่ด้วยกันเบื้องพระพักตร์พระองค์ และโดยพลัง อำนาจแห่งพระโลหิตอันเป็นการชดใช้ของพระบุตร พวกข้าพระองค์จะได้รับ การปลดปล่อยจากความชั่วร้ายทั้งหมด ได้รับการช่วยให้รอดและรับการชำระให้ ศักดิ๙สิทธี้ ได้รับความสูงส่งและรัศมีภาพ18
เราต้องเตรียมตัวทางวิญญาณเพื่อรับพรจากการรับใช้ในพระวิหาร
ก่อนจะเข้าไปในพระวิหาร…ท่านจงไปสวดอ้อนวอนในที่ลับตา ถวายการ สวดอ้อนวอนของท่านแด’พระเจ้า และสวดอ้อนวอนขอให้บาปของท่านไม่ เพียงได้รับการอภัยเท่านั้น แต่ขอให้ทุกท่านมีพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า และประจักษ์พยานในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ด้วย และขอให้พระวิญญาณของ พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่กับคนที่จะมาชุมนุมในพระวิหาร–
ข้าพเจ้าปรารถนาให้สิทธิชนทำสิ่งนี้ เพราะข้าพเจ้าด้องการเห็นคนที่เข้าไปใน พระวิหารเข้าไปด้วยใจบริสุทธี้ และเพื่อพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าจะสถิตกับ เขา เพื่อเขาจะสบายอกสบายใจ เพี่อเขาจะรู้สึกถึงอิทธิพลของพลังอำนาจนั้น19
เราถือว่าไม่มีสมาชิกคนใดของศาสนาจักรที่นับว่ามีค่าควรแก่การเข้าไปใน พระนิเวศศักดิ๙สิทธิ๙แล้วจะไร้ความรู้ในหลักธรรมแห่งพระกิตติคุณ คงไม่มาก เกินไปที่จะอนุมานว่าทุกคนรู้ว่าตนมีหน้าที่อะไรต่อพระผู้เป็นเจ้าและต่อเพื่อน มนุษย์ ไม1ควรมีใครหลงลืมจนมองข้ามคำตักเตือนที่ว่าเราต้องเปียมด้วยความ รักและความใจบุญต่อพี่น้องของเรา ด้วยเหตุนี้เราจึงสงสัยไม่ได้แม้ชั่วขณะถึง ความสำคัญสูงสุดของการที่สมาชิกทุกคนในที่ประชุมจะอยู่อย่างสงบกับพี่น้อง ชายหญิงทุกคนของเขา และอยู่อย่างสงบกับพระผู้เป็นเจ้า ไม่มีวิธี’ใดอีกแล้วที่ เราหวังว่าจะได้รับพรที่พระองค์ทรงสัญญาไว้นอกจากทำตามข้อกำหนดซึ่งมีพร เหล่านั้นเป็นรางวัล
ชายหญิงที่ละเมิดกฎของพระผู้เป็นเจ้า หรือผู้ไม่ยอมเชื่อฟ้งบัญชาของพระ องค์จะคาดหวังได้หรือว่าการเพียงแต่เข้าไปในพระนิเวศคักดี้สิทธิ๙ของพระองค์ …จะทำให้เขามีค่าควรแก่การได้รับและเป็นเหตุให้เขาได้รับพรของพระองค์
พวกเขาคิดหรือว่าไม่จำเป็นต้องมีการกลับใจและการละทิ้งบาปก็ได้
พวกเขากล้ากล่าวหาพระบิดาของเราแม้ในความคิดของเขาหรือว่าพระองค์ ไม่ทรงยุติธรรมทรงลำเอียง และคิดว่าพระองค์ไมไล่พระทัยในสัมฤทธิผลแห่ง พระคำของพระองค์
ไม่มีใครอ้างไต้แน่นอนว่าตนเป็นคนของพระองค์หากเขาทำความผิดในเรื่อง ดังกล่าว
เพราะเหตุนี้คนที่ไม่มีค่าควรต้องหยุดคาดหวังพรจากการเข้าพระวิหารขณะที่ บาปยังส่งกลิ่นของมันออกมาเพราะเขาไม่กลับใจ และขณะที่ความขมขื่นหรือ แม้แต่ความเย็นชายังคงอยู่ในใจเขาเพราะไม่ให้อภัยพี่น้องชายหญิงของเขา
ในเรื่องหลังนี้ เรารู้สึกว่าต้องพูดอีกมาก ขณะพยายามคล้อยตามส่วนที่สำคัญ กว่าของกฎ มีความเป็นไปได้ว่าเราจะประเมินความสำคัญของวิญญาณแห่งความ รัก ความอ่อนโยน และความ’ใจบุญตาเกิน1ใป–
… ก่อนเข้าพระวิหารเพื่อถวายตัวแด,พระเจ้า … ราจะต้องละทิ้งความรู้สีก หยาบกระด้างและความรู้สืกที่ไร้ความปรานีที่มีต่อกันทุกอย่าง ไม่เพียงเพื่อยุติ การทะเลาะเบาะแว้งของเราเท่านั้น แต่เพื่อขจัดสาเหตุ สลายความรู้สืกในใจ ทั้งหมดที่กระตุ้นและทำให้การทะเลาะเบาะแว้งคงอยู่ด้วย เพื่อเราจะสารภาพ บาปต่อกัน ขอโทษกัน เพื่อเราจะทูลขอวิญญาณแห่งการกลับใจจากพระเจ้า และทำตามการกระตุ้นเตือนเมื่อได้วิญญาณนั้นมา เพื่อที่การถ่อมตนต่อพระ พักตร์พระองค์และการขออภัยต่อกันจะทำให้เรามีความใจบุญและความใจกว้าง ต่อผู้ที่ด้องการให้เรายกโทษเช่นเดียวกับการยกโทษที่เราทูลขอและคาดหวังจาก สวรรค์
เพราะเหตุนี้ขอให้เราเข้าไปในสถานศักดิ้สิทธิ้ด้วยใจที่ปลอดจากเล่ห์เพทุบาย และจิตวิญญาณของเราพร้อมรับการสั่งสอนที่สัญญาไว้ เพราะเหตุนี้คำวิงวอน ของเราที่ไม่ถูกรบกวนด้วยความคิดไม่ลงรอยกันจึงขึ้นถึงพระกรรณของพระเย โฮวาห์และดึงพรประเสริฐของพระผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ลงมา …
… เราขอร้อง [สมาชิกแต่ละคนของศาสนาจักร] ให้พยายามเป็นมิตรกับพี่ น้องชายหญิงของเขา ได้รับความไว้วางใจและความรักทั้งหมดของคนเหล่านั้นเหนือสิ่งอื่นใดคือจงพยายามเป็นมิตรและเปีนหนึ่งเดียวกับพระวิญญาณบริสุทธิ๙ ขอให้แวดวงครอบครัวที่เล็กที่สุดและตาต้อยที่สุด ตลอดจนสมาชิกในองค์กร และโควรัมสูงสุดพากเพียรแสวงหาและทะนุถนอมพระวิญญาณองค์นี้ ขอให้ พระวิญญาณซึมแทรกเข้าไปในใจพี่น้องชายหญิง บิดามารดาและบุตรในบ้าน และในใจฝ่ายประธานสูงสุดและอัครสาวกสิบสอง ขอให้พระวิญญาณคลาย ความผิดพ้องหมองใจระหว่างสมาชิกในฝ่ายประธานสเตคและสภาสูง และ ระหว่างเพื่อนบ้านที่อยู่วอร์ดเดียวกัน ขอให้พระวิญญาณรวมผู้สูงวัยและอ่อนวัย ชายและหญิง แกะและคนเลี้ยง ผู้คนและฐานะปุโรหิตไว้ในสายใยแห่งความ กตัญญ การให้อภัย และความรัก ทั้งนี้เพื่อ [เรา] จะร้สืกว่าพระเจ้าทรงเห็น ชอบ และเพื่อเราทุกคนจะมาอยู่เบื้องพระพักตร์พระองค์ด้วยจิตสำนึกที่ไร้ ความผิดต,อมนุษย์ เมื่อนั้นย่อมไม่มีความผิดหวังเกี่ยวกับพรที่สัญญาไว้กับผู้ นมัสการพระองค์ด้วยความจริงใจ เขาจะไต้ยินสุรเสืยงกระซิบนุ่มนวลของพระ วิญญาณศักดิ๙สิทธิ และจะเพิ่มขุมทรัพย์แห่งสวรรค์และติดต่อกับเหล่าเทพครั้ง แล้วครั้งเล่า เพราะคำสัญญาของพระองค์ออกไปแล้วและจะล้มเหลวไม่ได้20
จากคำสวดอุทิศพระวิหารซอลท์เลค พระบิดาในสวรรค์ ผู้ทรงสร้างท้องห้เา และแผ่นดินโลก และทุกสิ่งที่อยู่ในนั้น ผู้ทรงเกียรติยศสูงสุด เพียบพร้อมใน พระเมตตา ความรัก และความจริง พวกข้าพระองค์ ลูกๆ ของพระองค์ เข้า เฝืาพระองค์วันนี้และในพระนิเวศแห่งนี้ซึ่งพวกข้าพระองค์สร้างถวายพระนาม อันศักดี้สิทธที่สุดของพระองค์ทูลวิงวอนด้วยความนอบน้อมโดยอาศัยพระโลหิต อันเป็นการชดใช้ของพระบุตรผู้ถือกำเนิดองค์เดียวของพระองค์โปรดอย่าจำ บาปของพวกข้าพระองค์อีกเลย แต่ขอให้คำสวดอ้อนวอนของพวกข้าพระองค์ ขึ้นถึงพระองค์และเข้าไปถึงบัลลังก์ของพระองค์ และได้ยินในที่ประทับศักดิ๙สิทธิ๙ ของพระองค์ ขอพระองค์ทรงสดับฟ้งคำวิงวอนของพวกข้าพระองค์ ทรงตอบ ตามพระปรีชาญาณและความรักอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ และทรงพระกรุณา ประทานพรที่พวกข้าพระองค์แสวงหา แม้หนึ่งร้อยเท่า ตราบที่พวกข้าพระองค์ แสวงหาด้วยความบริสุทธี้ของใจและความบริบูรณ์แห่งจุดประสงค์เพื่อทำตาม พระประสงค์ของพระองค์และถวายรัศมีภาพแด,พระนามของพระองค์ …
พวกข้าพระองค์เข้าเฝืาพระองค์ด้วยปีติและความขอบพระทัย ด้วยวิญญาณ อันชื่นบานและใจอันเปียมด้วยสำนึกในพระวรคุณที่ทรงอนุญาตให้พวกข้าพระ องค์ได้เห็นวันที่พวกข้าพระองค์หวัง ตรากตรำ และสวดอ้อนวอนตลอดสิ่สิบปี ที่ผ่านมาว่าจะได้อุทิศพระนิเวศแห่งนี้แด,พระนามอันทรงสิริสวัสดิ้สูงสุดของ พระองค์ หนึ่งปีล่วงมาแล้วที่พวกข้าพระองค์วางศิลายอดด้วยเสืยงสดุดีโฮซันนา แด,พระผู้เปีนเจ้าและพระเมษโปดก วันนี้ข้าพระองค์ทั้งหลายอุทิศทั้งหมดทั้งสิ้น นี้แด่พระองค์ ทั้งหมดที่ประกอบกันเปีนพระวิหารแห่งนี้ เพื่อจะศักดสิทธใน สายพระเนตรของพระองค์ เพื่อจะเปีนบ้านแห่งการสวดอ้อนวอน บ้านแห่งการ สรรเสริญและการนมัสการ เพื่อรัศมีภาพของพระองค์จะพำนักอยู่บนนั้น เพื่อ การประทับอันศักดิ้สิทธิ๙ของพระองค์จะอยู่ในนั้นตลอดเวลา เพื่อเปีนที่พำนัก ของพระบุตรผู้ทรงเปีนที่รักของพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกข้าพระองค์ เพื่อเหล่าเทพที่ยืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระองค์จะเปีนทูตศักดิ้สิทธมาเยือนที่แห่ง นี้ โดยแสดงให้พวกข้าพระองค์รู้ถึงความปรารถนาและพระประสงค์ของพระองค์ เพื่อจะทรงชำระทุกส่วนของพระวิหารให้ศักดิ้สิทธิ้แด,พระองค์ พระผู้เป็นเจ้าแห่ง อิสราเอล พระผู้ทรงมหิทธิฤทธี้ผู้ทรงปกครองมนุษยชาติ พวกข้าพระองค์สวด อ้อนวอนพระองค์ขอให้คนทั้งปวงที่เข้าส่เขตพระนิเวศของพระองค์รู้สืกถึงพลัง อำนาจของพระองค์และตระหนักแน่แก่ใจว่าพระองค์ทรงชำระให้ศักดิ้สิทธิ้แล้ว ว่านี่คือพระนิเวศของพระองค์ สถานที่แห่งความศักดี้สิทธึ๋ของพระองค์21
ข้อเสนอแนะส์าหรับศึกษาและลโอน
พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะสืกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมได้ที่ หน้า ⅴ-ⅸ
-
เอ็ลเดอร์วิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็มีท่าทีอย่างไรเมื่อทราบข่าวการอุทิศพระวิหาร เคิร์ทแลนด์และเมื่อเห็นพระวิหารเปีนครั้งแรก (ดูหน้า 177) ท่านเคยมีประ สบการณ์ทำนองนี้ที่เห็นควรแบ่งปันหรือไม่
-
สิทธิชนยุคสุดท้ายยุคแรกแสดงความสนใจในพระวิหารด้วยวิธีใด (ดูหน้า 179-180) เหตุใดเราจึงควร “สนใจ” งานพระวิหารให้มาก
-
ทบทวนย่อหน้าสุดท้ายในหน้า 178 ท่านเห็นการรับใช้ในพระวิหารและการ ค้นคว้าประวัติครอบครัวเปีน “งานอย่างหนึ่ง” ในลักษณะใด (ดูหน้า 180- 182) งานนี้ช่วยท่านหันใจไปหาบรรพบุรุษและลูกหลานของท่านอย่างไร
-
เหตุใดเราจึงต้องมีพิธีการผนึกเพื่อให้ “ไต้รับความบริบูรณ์แห่งรัศมีภาพชั้น สูง” (ดูหน้า 180-181; ดู ค.พ. 131:1–4ด้วย)
-
อ่านบทนี้ทั้งบทอย่างถี่ถ้วนเพื่อหาถ้อยแถลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไนครอบ ครัว เราเรียนรู้อะไรได้บ้างจากคำสอนเหล่านี้ ความเข้าใจของเราเกี่ยวกับพระ นิเวศของพระเจ้าจะส่งผลต่อความรู้สืกที่เรามีด,อครอบครัวเราได้อย่างไร
-
การเข้าพระวิหารเปีนพรแก’ท่านและครอบครัวในทางใด บิดามารดาจะสอน บุตรให้มีความคารวะต่อพระวิหารและเตรียมรับพิธีการพระวิหารได้อย่างไร
-
หน้า 182-186 ประกอบด้วยคำแนะนำบางประการของประธานวูดรัฟฟ็ที่จะ ช่วยสิทธิชนเตรียมรับพิธีอุทิศพระวิหารซอลท์เลค คำแนะนำนี้ช่วยเราได้ อย่างไรในแต่ละครั้งที่เราเข้าพระวิหาร
-
มีหลักธรรมใดบ้างที่สอนไว้ในคำสวดอุทิศพระวิหารซอลท์เลค (ดูหน้า 180, 181-182, 185-186) ไตร่ตรองหรือสนทนาว่าคำสวดอ้อนวอนเหล่านั้นจะ ช่วยเราขณะพยายามทำงานพระวิหารและประวัติครอบครัวได้อย่างไร
ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง: สดุดี 24:3–5; มัทธิว 16:18–19; ค.พ. 27:9; 97:10–17; 109; 110; 138:46–48