คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 4: พลังและอำนาจฃองฐานะปุโรหิต อันศักธิ์สิทธิ์


บทที่ 4

พลังและอำนาจฃองฐานะปุโรหิต อันศักธิ์สิทธิ์

พระเจ้า ประทาน เพี กับคน ของเขา พร และ ความปลื้มปีติ ของพวกเขา

จากชีวิตของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้

ใน วัยหนุ่ม วิลฟอร์ด วูดรัฟฟอยากพบศาสนาจักรที่มีอำนาจฐานะปุโรหิตแท้ จริง มี “พลังจากสวรรค์และบนแผ่นดินโลก”1 ในคำปราศรัยที่ให้ไวัในปี ค.ศ. 1889 ท่านเล่าว่า

“ข้าพเจ้าไปโรงเรียนวันแชบัธในวัยเด็ก…ในโรงเรียนวันแซบัธแห่งนั้นข้าพ เจ้าได้อ่านพันธสัญญาใหม่ ข้าพเจ้าเรียนข้อแล้วข้อเล่า บทแล้วบทเล่า พันธ สัญญาเล่มนั้นสอนอะไรข้าพเจ้าหรือ สอนพระกิตติคุณแห่งชีวิตและความรอด สอนพระกิตติคุณแห่งพลังจากสวรรค์และบนแผ่นดินโลก สอนเรื่องวางระเบียบ ศาสนาจักรอันประกอบด้วยศาสดา อัครสาวก ศิษยากิบาล และผู้สอน พร้อม ความช่วยเหลือและการปกครอง เพื่ออะไรหรือ ‘เพื่อเตรียมธรรมิกชนให้เป็น คนที่จะรับใช้ เพื่อเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ไห้จำเริญขึ้น จนกว่าเราทุก คนจะบรรลุถึงความเป็นนั้าหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตร ของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของ พระคริสต์’ [ดู 1 โครินธ์ 12:28; เอเฟซัส 4:11–13.]

“นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้าเรียนรู้ และทำให้ข้าพเจ้าประทับใจ ข้าพเจ้าเชื่อในเรื่องดัง กล่าว แต่ยังไม่เคยได้ยินผู้นำศาสนาหรือบาทหลวงคนใดบนแผ่นดินโลกสอน เรื่องเหล่านั้น ในวัยผู้ใหญ่ตอนด้น ข้าพเจ้าเข้าร่วมการประชุมเกือบทุกนิกายที่ มี ข้าพเจ้าเคยเข้าร่วมการประชุมที่ใหญ่มากครั้งหนึ่งซึ่งบางคราวจะจัดในคอน เนคติกัทโดยจะมีนักเทศน์สี่สิบถึงห้าสิบคนจากนิกายต่างๆ มารวมกัน พวกเขา สวดอ้อนวอนขอพรในเทศกาลเพ็นเทคอสต์และขอสิ่งดีอีกมากมาย ณ การประ ชุมแห่งนี้ใครจะขึ้นมากล่าวคำปราศรัยก็ได้ เวลานั้นข้าพเจ้าเป็นหนุ่มฉกรรจ์ ข้าพเจ้าลุกขึ้นและก้าวเข้าไปในช่องทางเดินระหว่างม้านั่งสองข้าง และพูดกับ นักเทศน์กลุ่มนั้นว่า ‘เพื่อนทั้งหลาย คุณจะบอกผมได้ไหมว่าทำไมคุณไม่ต่อสู้ เพื่อความเชื่อที่เคยให้สิทธิชนมาแล้ว คุณจะบอกผมได้ไหมว่าทำไมคุณไม่ต่อ สู้เพื่อพระกิตติคุณที่พระเยซูคริสต์ทรงสอนและที่อัครสาวกของพระองค์สอน ทำไมคุณไม่ต่อสู้เพื่อศาสนาที่ให้พลังคุณต่อเบื้องพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า พลัง รักษาคนป่วย ทำให้คนตาบอดมองเห็น คนง่อยเดินได้ และที่ให้พระวิญญาณ บริสุทธิ้ ของประทานและพระคุณเหล่านั้นซึ่งเคยปรากฎให้เห็นนับแต่การสร้าง โลก ทำไมคุณไม่สอนผู้คนให้รู้หลักธรรมเหล่านั้นที่เหล่าปีตุและศาสดาสมัย โบราณสอนไว้คราวที่พวกท่านได้รับแรงดลใจจากการเปีดเผยของพระผู้เป็นเจ้า พวกท่านได้รับการปฏิบัติจากเทพ พวกท่านฝืนและเห็นภาพนิมิต มีการเปีดเผย คอยนำทางและกำกับดูแลพวกท่านในเส้นทางที่พวกท่านควรเดิน,

“เอ็ลเดอร์ควบคุมกล่าวว่า ‘พ่อหนุ่ม คุณคงจะฉลาดมาก และทำประโยชน์ มากในโลกหากคุณไม่เชื่อเรื่องโง่ๆ พวกนั้น ลูกหลานมนุษย์ได้รับเรื่องเหล่านี้ ในยุคมืดของโลก และให้ไว้โดยมีเจตนาจะจุดประกายความคิดแก’ลูกหลาน มนุษย์ไนยุคนั้น เพื่อเขาจะเชื่อในพระเยซูคริสต์ ปัจจุบันเราอยู่ในความเจิดจ้า ของแสงพระกิตติคุณอันเรืองรอง และเราไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้, ข้าพเจ้าพูดว่า ‘ถ้าอย่างนั้นไหนลองให้ยุคมืดของโลกแก’ผมสิ ลองให้ยุคเหล่านั้นที่มนุษย์ได้รับ หลักธรรมเหล่านี้สิครับ’”2

วันที่ 29 ธันวาคม ค.ศ. 1833 ในที่สุดวิล ฟอร์ด วูดรัฟฟ็ก็ได้ยินพระกิตติคุณจากผู้รับใช้ที่ ได้รับมอบอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า ท่านเล่าว่า “เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าพเจ้าเห็นเอ็ลเดอร์ ใน ศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุด ท้ายนั่นคือเซรา พัลซิเพ่อร์ เขาบอกข้าพเจ้าว่าเขา ได้รับการดลใจจากพระเจ้า เขากำลังนวดข้าวใน โรงนาเมื่อสุรเสียงของพระเจ้ามาถึงเขาและบอก ให้เขาลุกขึ้นไปทางเหนือ พระเจ้าทรงมีธุระให้เขา ทำที่นั่น เขาแวะเยี่ยมบราเดอร์ [อิไลจาห์] ชีนีย์ ซึ่งเป็นเพี่อนบ้านของเขาและเป็นสมาชิกของ ศาสนาจักร คนทั้งสองเดินเท้าหกสิบไมล์…ในหิมะหนาเตอะ และสถานที่แห่ง แรกที่รู้สืกว่าต้องแวะเยี่ยมคือบ้านของข้าพเจ้าและพี่ชาย เขาเข้าไปในบ้านและ พูดคุยกับพี่สะใภ้ของข้าพเจ้า เขาบอกเธอว่าเขาเป็นใครและมาทำธุระเรื่องอะไร เขาบอกเธอว่าเขาไต้รับการกระ ต้นให้ไปทางเหนือ และไม่รู้สืกว่าต้องหยุดที่ใด จนกว่าจะถึงบ้านหลังนั้น เมื่อเขาบอกให้เธอทราบหลักธรรมของเขา เธอกล่าว ว่าทั้งสามีเธอและน้องเขยต่างก็เชื่อหลักธรรมเหล่านั้น และได้สวดอ้อนวอนมา เป็นเวลาหลายปี เขาจัดการประชุมในอาคารเรียนบริเวณฟาร์มของเรา

“ข้าพเจ้ากลับเข้าบ้านในตอนเย็น และพี่สะใภ้บอกข้าพเจ้าเรื่องการประชุม ครั้งนี้ ข้าพเจ้าลากไม้ซุงจากฝังทะเลสาบออนแทริโอ (ข้าพเจ้าทำธุรกิจตัดไม้) และควบม้าไปการประชุมโดยไม่แวะรับประทานอะไรเลย ข้าพเจ้าพบบ้านหลัง นั้นและลานหน้าประตูบ้านเต็มไปด้วยผู้คน เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ข้าพเจ้าได้ฟ้ง คำเทศนาพระกิตติคุณที่เอ็ลเดอร์ของศาสนาจักรนี้สอน นั่นคือสิ่งที่ข้าพเจ้าแสวง หามาตั้งแต่เด็ก ข้าพเจ้าเชิญเขามาที่บ้าน ยืมพระคัมภีร์มอรมอน และนั่งอ่าน ตลอดคืน ตอนเช้าข้าพเจ้าบอกบราเดอร์พัลซิเฟอร์ว่าอยากรับบัพติศมา ข้าพเจ้า มีประจักษ์พยานด้วยตนเองว่าหลักธรรมเหล่านั้นเป็นความจริง ตัวข้าพเจ้ากับ พี่ชาย…ออกไปรับบัพติศมา-สองคนแรกในเขตนั้น”3

เอ็ลเดอร์พัลซิเพ่อร์ให้บัพติศมาวิลฟอร์ด วูดรัฟฟัในลำห้วยเล็กๆ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 1833 และยืนยันท่านในวันเดียวกัน สามวันต่อมาวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็ได้รับฐานะปุโรหิตแห่งแอรันและได้รับการวางมือแต่งตั้งส่ตำแหน่งผู้ สอน นี่คือจุดเริ่มด้นของการปฏิบัติศาสนกิจในการรับใช้พระเจ้าจนชั่วชีวิต ขณะ หวนนึกถึงวันนั้น ท่านกล่าวว่า “พันธกิจของข้าพเจ้าเริ่มขึ้นในทันที”4

คำลอนฃองวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็

พระผู้เปีนเจ้าทรงทำงานทั้งหมดของพระองค์ โดยอาศัยพลังอำนาจของฐานะปุโรหิต

ข้าพเจ้าไม่ทราบว่ามีเรื่องใดในศาสนาจักรที่สำคัญต่อผู้อาศัยของแผ่นดินโลก และต่อตัวเรามาก1ใปกว่าฐานะปุโรหิตศักดิสิ’ทธิ้5

โดยพลังอำนาจของฐานะปุโรหิต พระผู้เปีนเจ้า พระบิดานิรันดร์ฃองเราทรง วางระเบียบโลกทั้งปวง และทรงไถ่โลกทั้งหมดที่เคยได้รับการไถ, โดยฐานะปุโร หิตเดียวกันนั้นมนุษย์ได้ปฏิบัติพิธีการแห่งพระกิตติคุณของพระคริสต์บนแผ่น ดินโลก6

ฐานะปุโรหิตศักดี้สิทธี้คือช่องทางที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสือสารและทรงติดต่อ กับมนุษย์บนแผ่นดินโลก และทูตสวรรค์ที่เคยเยือนแผ่นดินโลกเพื่อสิ่อสารกับ มนุษย์คือผู้ดำรงฐานะปุโรหิตและให้เกียรติฐานะ’ปุโรหิตขณะอยู่ในเนื้อหนัง และ ทุกสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้บังเกิดขึ้นเพื่อความรอดของมนุษย์ นับตั้งแต่ มนุษย์มาอยู่บนแผ่นดินโลกจนถึงการไถ่โลก ล้วนเกิดขึ้นและจะดำรงอยู่โดย อาศัยฐานะปุโรหิตอันเป็นนิจ7

พระเจ้ามิทรงมีศาสนาจักรบนผืนแผ่นดินโลก นับแต่เริ่มจัดตั้งจนถึงป้จจุบัน เว้นแต่ศาสนาจักรนั้นจะได้รับการจัดตั้งโดยการเปีดเผย พร้อมศาสดาและอัคร สาวก ศิษยาภิบาล ผู้สอน ความช่วยเหลือ และการปกครองที่ได้รับประสาทพร ด้วยฐานะปุโรหิตศักดี้สิทธิ๙-พลังอำนาจที่มอบหมายจากพระผู้เป็นเจ้าล่มนุษย์ ซึ่งทำให้เขามีอำนาจกระทำแทนพระผู้เป็นเจ้า และหากปราศจากฐานะปุโรหิตนี้ ย่อมไม่มีมนุษย์คนใดนับแต่วันที่โลกดำรงอยู่มีสิทธี้ปฏิบัติพิธีการแห่งพระนิเวศ ศักดี้สิทธี้ของพระองค์ ทั้งไม่มีมนุษย์คนใดมีสิทธิ๙ต่อฐานะปุโรหิตนั้นเว้นแต่เขา จะได้รับเรียกจากพระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับอาโรนผู้ที่เราทราบว่า ท่านได้รับเรียก โดยการเปีดเผย [ดู ฮีบรู 5:4]. ฐานะปุโรหิตนี้มีไว้เพื่ออะไร เพื่อปฏิบัติพิธีการ แห่งพระกิตติคุณ แม้พระกิตติคุณแห่งพระบิดาบนสวรรค์ของเรา พระผู้เป็นเจ้า นิรันดร์ เอโลฮิมของชาวยิวและพระผู้เป็นเจ้าของคนต่างชาติ8

ไม่มีมนุษย์คนใดมีอำนาจจากพระผู้เป็นเจ้าเพื่อปฏิบัติพิธีการแห่งชีวิตและ ความรอดแก่ลูกหลานมนุษย์ [ยกเว้น] โดยพลังอำนาจของฐานะปุโรหิตอันศักดิ๙ สิทธิ๙ พลังอำนาจของฐานะปุโรหิตนั้นอยู่กับสิทธิชนยุคสุดท้าย9

ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตควรใช้ฐานะปุโรหิตเพื่อการรับใช้ และ!สริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า มิใช่เพื่อเสริมสร้างตนเอง

เป็นความรับผิดชอบอันสูงส่งอะไรเช่นนี้ในการดำรงฐานะปุโรหิตจากสวรรค์ อันเป็นนิจ และเป็นนิรันดร และเราจะต้องให้คำอธิบาย อัครสาวก สาวกเจ็ดสิบ มหาปุโรหิต เอ็ลเดอร์ และผู้ชายทุกคนที่ดำรงฐานะปุโรหิตส่วนใดก็ตามซึ่งให้ แก่เขาจะต้องรับผิดชอบฐานะปุโรหิตนั้น10

เรามีงานวางอยู่บนปา โจเซฟ สมิธมี บริคัม ยังมี อัครสาวกสิบสองมี เราทุก คนมี และเราจะต้องถูกกล่าวโทษหากเราไม่ทำให้สำเร็จ เราจะไต้รับโทษที่สม ควรได้รับเมื่อเราไปอยู่อีกด้านหนึ่งของม่าน…หลายครั้งขณะครุ่นคิดพิจารณาข้าพเจ้าประสงค์ให้ตนเข้าใจถ่องแท้ถึงความรับผิดชอบที่ข้าพเจ้ามีต่อพระผู้เป็น เจ้า และความรับผิดชอบที่ชายผู้ดำรงฐานะปุโรหิตในชั่วอายุนี้มี แต่ข้าพเจ้าบอก ท่าน พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าคิดว่าใจเราหมกมุ่นกับสิ่งของๆ โลกนี้มากเกินไป เราไม่เห็นคุณค่าเช่นผู้ดำรงฐานะปุโรหิตอันศักดิ๙สิทธึ่ในชั่วอายุนี้ควรเห็นคุณค่า ความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่เรามีต่อพระผู้เป็นเจ้าและสวรรค์เบื้องบน และต่อ แผ่นดินโลกด้วย ข้าพเจ้าคิดว่าเราอยู่ไกลจากพระเจ้ามากเกินไป11

หากเรา … ู้ดำรงฐานะปุโรหิตอันศักดิสิทธิ ใช้ฐานะปุโรหิตนั้นเพี่อจุดประสงค์ อื่นภายใต้สวรรค์ แต่มิใช่เพี่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า หากเราทำ เช่นนั้น พลังอำนาจของเราจะลดลง…ผู้ชายจำนวนมากพยายามทำเช่นนี้-ผู้มี ดำแหน่งสูงในฐานะปุโรหิต แม้แต่อัครสาวก-เพี่อเสริมสร้างตนเองด้วยอำนาจ ฐานะปุโรหิต เขาไปที่ไหนหรือ ท่านอาจพูดเอเมนกับพลังและอำนาจของเขา …ขอให้เราใคร่ครวญเรื่องเหล่านี้ ข้าพเจ้าพูดกับตนเองในทำนองเดียวกัน ข้าพเจ้าพูดกับอัครสาวก สาวกเจ็ดสิบ และมหาปุโรหิตในทำนองเดียวกัน ท่าน จะใช้ฐานะปุโรหิตเพี่อจุดประสงค์อื่นภายใต้ฟ้าสวรรค์ไม่ได้ นอกจากเพี่อเสริม สร้างอาณาจักรและทำตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า และเมื่อท่านพยายาม ทำนอกเหนือจากนี้ พระองค์จะทรงนำพลังอำนาจไปจากท่าน12

ข้าพเจ้าเคยอ่านการเปีดเผยที่ประทานแก่โจเซฟ สมิธเพี่อตอบคำสวดอ้อน วอนของท่านในคุกลิเบอร์ตี้ด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง [ดู ค.พ. 121:34–46]. ข้าพเจ้าเคยมองว่าการเปีดเผยของพระผู้เป็นเจ้าต่อบุรุษผู้นี้มีหลักธรรมมากเท่าๆ กับการเปีดเผยอื่นที่พระผู้เป็นเจ้าเคยประทานให้แก่มนุษย์เมื่อพิจารณาเพียงไม่ กี่ประโยคที่อยู่ในนั้น พระองค์ประทานให้โจเซฟเข้าใจว่าท่านดำรงฐานะปุโรหิต ซึ่งฐานะปุโรหิตเป็นไปตามพระฐานะของพระผู้เป็นเจ้า ตามฐานะของเม็ลคิเซ เด็ค ฐานะปุโรหิตเดียวกับที่พระผู้เป็นเจ้าพระองค์เองทรงทำงานทั้งหมดของ พระองค์ในท้องฟ้าและในแผ่นดินโลก และผู้ชายทุกคนที่ดำรงฐานะปุโรหิตนั้น มีพลังอำนาจแบบเดียวกัน ฐานะปุโรหิตดังกล่าวมีการสื่อสารกับฟ้าสวรรค์ มี พลังเคลื่อนท้องฟ้า มีพลังทำงานของท้องฟ้า และทุกที่ที่มนุษย์ขยายการเรียก นั้น พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบความรับผิดชอบให้เหล่าเทพดูแลเขา และการปฎิ บัดิศาสนกิจของเขามาจากพลังและอานุภาพทั้งในโลกนี้และโลกที่จะมาถึง แต่ หากชายคนนั้นใช้ฐานะปุโรหิตเพี่อจุดประสงค์อื่นนอกเหนือจากเสริมสร้างอาณา จักรของพระผู้เป็นเจ้า อันเป็นจุดประสงค์ของการให้ฐานะปุโรหิต ฟ้าสวรรค์ ย่อมถอนตัว พลังอำนาจของฐานะปุโรหิตหมดไป และเขาถูกทิ้งให้เดินในความ มืดมิใช่ในความสว่าง และนี่คือกุญแจ?การละทิ้งความเชื่อของมวลมนุษย์ไม่ว่า ในคนรุ่นนี้หรือคนรุ่นไหนก็ตาม13

เรามีฐานะปุโรหิตประทานให้เรา และหากเราไม่ใช้อย่างถูกต้อง เราจะถูกนำ มาอยู่ภายใต้การกล่าวโทษ เพราะฉะนั้น ขอให้เราเตรียมพร้อมรับอาณาจักร ขอให้เราทำงานเพื่อให้มีพระวิญญาณศักดิ้สิทธิ-และพลังอำนาจแห่งพระกิตติคุณ ของพระเยซูคริสต์-ซึ่งเคยใส่ไว้ในมือเรา และตราบที่เราทำเช่นนี้ พรของพระผู้ เป็นเจ้าจะเข้ามาประสาทกับความพากเพียรของเรา14

พระเจ้าทรงสนับสนุนชายทุกคนที่ดำรงฐานะปุโรหิตบางส่วน ไม่ว่าเขาจะเป็น ปุโรหิต เอ็ลเดอร์ สาวกเจ็ดสิบ หรืออัครสาวก หากเขาขยายการเรียกและทำ หน้าที่ของตน15

ข้าพเจ้าพอใจมากเมื่อเห็นมัคนายกกลุ่มหนึ่งขยายการเรียกของตน…พวก เขาตระเวนไปทั่วเมืองเพื่อผ่าฟืนทุกท่อนที่หญิงม่ายทุกคนในเมืองนั้นมื บรา เดอร์ [จอร์จ] ทีสเดล ประธานสเตคมีไม้ซีดาร์อยู่สามสีกองในที่ของเขา คืน หนึ่งเขากลับบ้านและพบว่ามันหายไป เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อค้นหาจน ทั่วก็พบว่ามีคนตัดไปไว้ในบ้านไม้ของเขาหมดแล้ว มัคนายกเหล่านั้นขยายการ เรียกอย่างดีเลิศที่นั่น

ปัจจุบันเราอยู่ในสภาวการณ์พิเศษบางอย่าง เราควรวางใจพระเจ้าและทำสิ่ง ถูกต้อง ข้าพเจ้าทราบว่าฐานะปุโรหิตมีไว้เพื่อความรอดของมนุษย์และเพื่อ ปฏิบัติพิธีการทั้งสำหรับคนเป็นและคนตาย หลายหมื่นคนได้รับการไถ่ในโลก วิญญาณโดยลูกหลานผู้มีชีวิตอยู่ในเนื้อหนังและถือกุญแจแห่งความรอดของคน ตาย ผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอันถูกยกขึ้น ขณะที่อาณาจักรเป็นของพระเจ้าตังที่ ศาสดาโอบาดีห์กล่าวว่ามันจะเป็น [ดู โอบาดีห์ 1:21]. คนเหล่านี้กำลังทำงาน นั้นอยู่ พระเจ้าทรงอยู่กับท่าน และบรรพชนของท่านในโลกวิญญาณจะชื่นชม ยินดี ด้วยเหตุนื้ฃอให้เราซื่อสัตย์ แม้เราจะอยู่ที่นึ่ พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดให้ เรารับฐานะปุโรหิตนี้ จาก…คนนับล้านบนแผ่นดินโลก พระเจ้าทรงเลือกชาย หยิบมือเดียวให้ดำรงฐานะปุโรหิต แต่งตั้ง วางระเบียบ เตือนชาวโลก และสั่ง สอนพระกิตติคุณแก่พวกเขา ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องชายผู้ดำรงฐานะปุโรหิตจะ จดจำคุณค่าของฐานะปุโรหิต …

… ขอให้เราแน่วแน่และซื่อสัตย์ ขออย่าปล่อยให้ฐานะปุโรหิตหรืออาณาจักร ของพระผู้เป็นเจ้าหลุดลอยไป เราจงไปสวดอ้อนวอนในที่รโหฐานต่อพระพักตร์ พระเจ้าและเรียกหาพระนามศักดิ้สิทธิ๙ของพระองค์ ความเข้มแข็งของเราอยู่ที่ นั่น16

หากเราแน่วแน่ต่อพันธสัญญาและความรับผิดชอบฃองเรา เราจะได้รับพรของฐานะปุโรหิต ทั้งในชีวิตนี้และในชีวิตหน้า

เมื่อพระเจ้าทรงมอบของประทานให้ลูกหลานมนุษย์อันเกี่ยวเนื่องกับฐานะ ปุโรหิต ผู้ได้รับจะต้องรับผิดชอบการใช้ของประทานเหล่านั้น17

เมื่อใดที่อัครสาวกหรือประธาน อธิการหรือชายผู้ดำรงฐานะปุโรหิตปฏิบัติ หน้าที่ เขาปฏิบัติโดยอำนาจของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เมื่อนั้นฐานะปุโรหิตย่อม มีผล และพรทุกประการที่ผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้ามอบให้ลูกหลานมนุษย์จะมี ผลทั้งในชีวิตนี้และในชีวิตหน้า หากข้าพเจ้ามีพรที่ประทานให้ข้าพเจ้าโดยฐานะ ปุโรหิตศักดิ”สทธึ๋ หรือหากข้าพเจ้าได้รับพรจากผู้ประสาทพร ของประทานและ พรเหล่านั้นย่อมมีผลในโลกอื่น และหากข้าพเจ้าแน่วแน่ต่อพันธสัญญาตลอด ชีวิตนี้ ข้าพเจ้าจะได้รับพรทุกประการที่เคยประสาทให้ข้าพเจ้า เพราะพระผู้เป็น เจ้าทรงเป็นผู้กำหนดอำนาจที่ประสาทพรดังกล่าว และโดยอำนาจนั้นบุตรของ องค์พระผู้สูงสุดทรงปฏิบัติพิธีการแห่งชีวิตและความรอดเพื่อลูกหลานมนุษย์ และการกระทำเป็นทางการเหล่านั้นจะมีผลต่อผู้ล่วงลับเช่นเดียวกับในชีวิตนี้ นี่คือความรารวยที่แท้จริง ความรารวยที่จะคงอยู่ชั่วนิรันดร และเรามีพลังอำนาจ ผ่านพรเหล่านี้ซึ่งประสาทโดยพระกิตติคุณเพื่อรับร่างกายอีกครั้งและเพื่อรักษา สถานภาพของเราในนิรันดร แน่นอนว่าเราได้รับสิ่งนี้โดยอาศัยฐานะปุโรหิตศักดิ้ สิทธี้18

ข้าพเจ้าใคร่ครวญบ่อยครั้งถึงคำสัญญาเกี่ยวกับฐานะปุโรหิต ในการเปิดเผย เกี่ยวกับเรื่องนี้ พระเจ้าตรัสว่า…“ใครที่ซื่อสัตย์ต่อการได้รับฐานะปุโรหิตทั้ง สองอย่างนี้ซึ่งเราพูดถึง และการทำหน้าที่ของเขาให้สมบูรณ์ ย่อมถูกพระวิญ ญาณชำระให้บริสุทธิ๙จนไปส่การทำให้ร่างกายของเขาใหม่…สารพัดสิ่งที่พระบิดา ของเรามีย่อมจะประทานแก่เขา ฉะนั้น คนทั้งหมดนั้นที่ได้รับฐานะปุโรหิตย่อม รับคำสาบานและพันธสัญญานี้ของพระบิดาของเรา ซึ่งเขาจะฝ่าแนไม่ได้ ทั้งจะ เปลี่ยนแปลงบันไม่ได้’, [ดู ค.พ. 84:33–40.] บางครั้งข้าพเจ้าถามตนเองว่า เรา เข้าใจเรื่องเหล่านี้หรือไม่ เราเข้าใจไหมว่าหากเราปฏิบัติตามกฎของฐานะปุโรหิต เราจะกลายเป็นทายาทของพระผู้เป็นเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าทราบดีว่าตาของเราไม่เคยเห็น หูของเราไม่เคยได้ยิน ทั้งใจเราไม่เคยรับ รู้ถึงรัศมีภาพนั้นที่เตรียมไว้ให้คนซื่อสัตย์ [ดู 1 โครินธ์ 2:9].19

ชายหญิงผู้ได้รับเรียกให้มีส่วนในงานยุคสุดท้ายอันยิ่งใหญ่นี้ควรเป็นคน อย่างไรเล่า เราควรเป็นชายหญิงแห่งศรัทธา กล้ายืนหยัดเพื่อความจริงตามที่เปิด เผยและมอบไว้!นมีอเรา เราควรเป็นชายหญิงผู้มีความภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าและ ต่อฐานะปุโรหิตศักดึ๋สทธี่ของพระองค์ ซื่อสัตย์ต่อพระองค์และซื่อสัตย์ต่อกัน เราไม่ควรปล่อยให้บ้านและที่ดิน ทองและเงิน ตลอดจนสิ่งของของโลกนี้ดึงเรา ออกจากการดำเนินตามวัตถุประสงค์ยิ่งใหญ่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าทรงส่งเรามาปฏิบัติ เป้าหมายของเราสูงส่ง จุดหมายปลายทางของเราสูงส่ง และเราไม่ควรทำให้พระ บิดาของเราและไพร่พลสวรรค์ที่คำลังเฝืาลูเราผิดหวัง เราไม่ควรก่อความผิดหวัง ให้หลายล้านชีวิตในโลกวิญญาณผู้เ*เาลูเราด้วยความสนใจและความกระวนกระ วายใจซึ่งใจเรามิอาจรับรู้ได้เลย นี่คืองานอันเกรียงไกรและลํ้าเลิศที่พระผู้เป็นเจ้า ทรงเรียกร้องจากเรา เราจะไม่คู่ควรต่อความรอด เราจะไม่คู่ควรต่อชีวิตนิรันดรใน อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า หากสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำให้เราเบี่ยงเบนออกจากความ จริงหรือจากความรักที่มีต่อความจริงได้20

ข้อ!ลนอแนะสำหรับศึกษาและสอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะสืกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมได้ที่ หน้า ⅴ–ⅸ.

  • ความรู้สืกเช่นไรที่ทำให้วิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็ซึ่งยังหน่มแน่นต้องเสาะหาศาสนา จักรที่แท้จริง (ดูหน้า 36–38.) ความรู้สืกเหล่านี้เกี่ยวข้องกับฐานะปุโรหิต อย่างไร

  • ทบทวนหน้า 39-40 และมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงทำสำเร็จโดยพลังอำนาจ ของฐานะปุโรหิต ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตมีส่วนในงานของพระเจ้าอย่างไร

  • เหตุใดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทั้งชายและหญิงด้องเรียนรู้เกี่ยวกับฐานะปุโรหิต

  • ฐานะปุโรหิตเป็นพรแก่ชีวิตท่านอย่างไร

  • ขณะอ่านคำสอนของประธานวูดรัฟฟ็เกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้ดำรง ฐานะปุโรหิต ท่านพบหลักธรรมใดเป็นพิเศษ (ดูหน้า 40-43.)

  • จากคำพูดของประธานวูดรัฟฟ็ เจตคติและการกระทำเช่นใดเป็นเหตุให้ฟ้า สวรรค์ถอนตัวจากผู้ดำรงฐานะปุโรหิต เหตุใดจึงเป็นไปไม’ได้ที่มนุษย์จะใช้ ฐานะปุโรหิตเพื่อประโยชน์ส่วนตน (ดูหน้า 40-43; ดู ค.พ. 121:34–40.) ด้วย) ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตต้องดำเนินชีวิตอย่างไรเพื่อให้มี “พลังทำงานของ ท้องฟ้า” (ดูหน้า 41-43; ดู ค.พ. 121:41–46ด้วย)

  • ขยายการเรียกในฐานะปุโรหิตหมายความว่าอะไร (ดูหน้า 42-43) ท่านเคย เห็นตัวอย่างใดของพี่น้องชายที่ขยายการเรียกในฐานะปุโรหิต

  • ทบทวนหัวข้อสุดท้ายในบทนี้ (หน้า 43-44) ฐานะปุโรหิตนำพรมาให้ทั้งใน ชีวิตนี้และในชีวิตหน้าด้วยวิธีใด

ข้อพระคัมภีร์ที’เกี่ยวข้อง: ยอห์น 15:16; ฮีบรู 5:4–6; แอลมา 13:1–20; ค.พ. 84:17–48; 107:18–20; หลักแห่งความเชื่อข้อ 1:5

อ้างอิง

  1. ใน Brian H. Stuy, comp.,Collected Discourses Delivered by President Wilford Woodruff, His Two Counselors, the Twelve Apostles, and Others, 5 vols. (1987-92), 1:222.

  2. ในCollected Discourses, 1:222.

  3. Deseret Evening News, March 1, 1897, 1.

  4. ใน Collected Discourses, 4:8.

  5. ในCollected Discourses, 4:8.

  6. ในCollected Discourses, 1:223.

  7. The Discourses of Wilford Woodruff, sel. G. Homer Durham (1946), 64.

  8. Deseret News: Semi-Weekly, July 30, 1878, 1.

  9. ในCollected Discourses, 4:9.

  10. ในCollected Discourses, 1:207.

  11. The Discourses of Wilford Woodruff, 102.

  12. ใน Conference Report, April 1880, 83.

  13. The Discourses of Wilford Woodruff, 67–68.

  14. Deseret News: Semi-Weekly, July 6, 1880, 1.

  15. ในCollected Discourses, 5:234.

  16. ในCollected Discourses, 4:10-11.

  17. ในCollected Discourses, 4:9.

  18. Deseret News, February 26, 1862, 273.

  19. Deseret News: Semi-Weekly, January 15, 1883, 1.

  20. Deseret News: Semi-Weekly, October 18, 1881, 1.

Peter and John

เปโตรและยอห์นรักษาคนง่อย (ดู กิจการ 3). วิลฟอร์ด วูดรัฟฟืในวัยหนุ่มแสวงหา “หลักคำสอนที่เคยให้สิทธิชนมาแล้ว”- ศาสนาที่ปี “พลังอำนาจต่อเบื้องพระพักตร์ พระผู้เป็นเจ้า” เช่นศาสนาจักรของพระผู้ช่วยให้รอดในศูนย์กลางแห่งเวลา

Zera Pulsipher

เซรา พัลซิเฟอร

laying on of hands

ประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟืสอนว่า ฐานะปุโรทิตคือ “พลังอำนาจที่มอบหมายจาก พระผู้เป็นเจ้าส่มนุษย์ ซึ่งทำให้เขาปีอำนาจกระทำแทนพระผู้เป็นเจ้า”

blessing the sacrament

“เป็นความพัผิดชอบอันสูงส่งอะไรเช่นนี้ไนการดำรงฐานะปุโรหิตจากสวรรค์ อันเป็นนิจ และเป็นนิรันดร์”