ประวัติโดยสังเขป
หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ แต่เป็นการรวบรวมหลักธรรมพระกิตติ คุณที่สอนโดยประธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็ ลำดับวันเดือนปีต่อไปนี้เป็นการสรุป เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับคำสอนของท่าน โดยไม่พาดพิง ถึงเหตุการณ์สำคัญมากมายในประวัติศาสตร์โลก และเหตุการณ์สำคัญมากมาย ในชีวิตส่วนตัวของประธานวูดรัฟฟ็ อาทิ การแต่งงาน การเกิด และการเสีย ชีวิตของลูกๆ ท่าน
1 มีนาคม ค.ศ. 1807 |
วิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็เกิดที่เมืองฟาร์มิงตัน ฮาร์ตฟอร์ด เคาน์ตี้ รัฐคอนเนคติกัท เป็นบุตรของบูลาห์ ธอมปึ สัน วูดรัฟฟ็และอาเพค วูดรัฟฟ |
11 มิถุนายน ค.ศ. 1808 |
มารดาท่านเสียชีวิตขณะอายุ 26 ปี |
9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1810 |
บิดาท่านแต่งงานกับอาซูบาห์ ฮาร์ต |
ค.ศ. 1821 |
เริ่มทำงานเป็นเจ้าของโรงเลื่อย |
ค.ศ. 1832 |
ย้าย1ใปอยู่เมืองริชแลนด์ ออสเวโกเคาน์ตี้ รัฐนิวยอร์ก พร้อมแอซมอนพี่ชายและภรรยาของแอซมอนซื้อ ฟาร์มที่นั่น |
29 ธันวาคม ค.ศ. 1833 |
ได้ยินพระกิตติคุณที่ได้รับการฟืนฟูเป็นครั้งแรกใน การประชุมที่ดำเนินการโดยผู้สอนศาสนาสิทธิชนยุค สุดท้ายสองคนคือ เอ็ลเดอร์เซรา พัลซิเฟอร์และ เอ็ลเดอร์อิไลจาห์ ชีนีย์ |
31 ธันวาคม ค.ศ. 1833 |
รับบัพติศมาและการยืนยันโดยเซรา พัลซิเฟอร์ |
2 มกราคม ค.ศ. 1834 |
ได้รับการวางมือแต่งตั้งเป็นผู้สอนโดยเซรา พัลซิ- เฟอร์ |
เมษายน ค.ศ. 1834 |
ไปเมืองเคิรท์แลนด์ รัฐโอไฮโอ และพบศาสดาโจ เซฟ สมิธที่นั่น |
พฤษภาคมถึงมิถุนายน ค.ศ. 1834 |
เดินทางไปรัฐมิสซูรีพร้อมกับค่ายไซอัน อยู่ในเคลย์ เคาน์ตี้ รัฐมิสซูรีเพื่อช่วยสิทธิชนที่นั่น |
5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1834 |
ได้รับการวางมือแต่งตั้งเปีนปุโรหิตโดยสิเมโอน คาร์ เตอรในเคลย์เคาน์ตี้ รัฐมิสซูรี |
13 มกราคม ค.ศ. 1835 |
ออกจากรัฐมิสซูรีไปทำงานเผยแผ่เต็มเวลาครั้งแรก โดยสั่งสอนพระกิตติคุณในรัฐอาร์คันซอและเทน- เนสซี |
28 มิถุนายน ค.ศ. 1835 |
ได้รับการวางมือแต่งตั้งเป็นเอ็ลเดอร์!ดยวอร์เร็นพาร์รช ใกล้เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี |
19 เมษายน ค.ศ. 1836 |
ได้รับการเรียกเข้าสู่โควรัมที่สองแห่งสาวกเจ็ดสิบ |
31 พฤษภาคม ค.ศ. 1836 |
ได้รับการวางมือแต่งตั้งเป็นสาวกเจ็ดสิบโดยเดวิด แพทเทน |
3 มกราคม ค.ศ. 1837 |
ได้รับการเรียกเข้าสู่โควรัมที่หนึ่งแห่งสาวกเจ็ดสิบ |
31 พฤษภาคม ค.ศ. 1837 |
ออกจากเมืองเคิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ ไปรับใช้งาน เผยแผ่ในหมู่เกาะฟึอกช์ นอกชายฝืงรัฐเมน |
8 กรกฎาคม ค.ศ. 1838 |
ได้รับการเรียกเข้าสู่โควรัมอัครสาวกสิบสองโดยการ เปีดเผยต่อศาสดาโจเซฟ สมิธ (ดู ค.พ. 118) |
26 เมษายน ค.ศ. 1839 |
ได้รับการวางมือแต่งตั้งเป็นอัครสาวกโดยบริคัม ยัง ที่เมืองฟาร์เวสต์ รัฐมิสซูรี หลังจากมีส่วนร่วมใน การวางศิลามุมเอกของพระวิหารที่นั่น |
8 สิงหาคม ค.ศ. 1839 |
ไปทำงานเผยแผ่ในประเทศอังกฤษ |
ค.ศ. 1840 ถึง 1841 |
รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในประเทศอังกฤษ ช่วยนำ คนประมาณ 2,000 คนมาสู่บัพติศมาและการยืนยัน ช่วยขอลิฃสิทธิ”ของพระคัมภีร์มอรมอนในลอนดอน |
6 ตุลาคม ค.ศ. 1841 |
กลับไปหาครอบครัวและสิทธิชนคนอื่นๆ ในนอวู |
21 พฤศจิกายน ค.ศ. 1841 |
เป็นพยานการบัพติศมาแทนคนตายครั้งแรกที่ประ กอบในอ่างบัพติศมาของพระวิหารนอวู |
กรกฎาคมถึงพฤศจิกายน ค.ศ. 1843 |
รับใช้งานเผยแผ่ในสหรัฐตะวันออกโดยหาทุนช่วย ก่อสร้างพระวิหารนอวจนแล้วเสร็จ |
พฤษภาคมถึงสิงหาคม ค.ศ. 1844 |
รับใช้งานเผยแผ่อีกครั้งในสหรัฐตะวันออก |
9 กรกฎาคม ค.ศ. 1844 |
ทราบข่าวมรณสักขีของโจเซฟและไฮรัม สมิธซึ่งเกิด ขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน |
6 สิงหาคม ค.ศ. 1844 |
กลับไปนอวูพร้อมสมาชิกท่านอื่นในโควรัมอัครสาวก สิบสอง |
8 สิงหาคม ค.ศ. 1844 |
เข้าร่วมการประชุมใหญ่ซึ่งสิทธิชนยุคสุดท้ายสนับ สนุนประธานบริคัม ยังและโควรัมอัครสาวกสิบสอง ให้เปีนผู้นำของศาสนาจักร |
12 สิงหาคม ค.ศ. 1844 |
ยอมรับการเรียกให้เป็นประธานดูแลคณะเผยแผ่ยู- โรเปียน |
เมษายนถึงพฤษภาคม ค.ศ. 1846 |
กลับไปนอวูและสมทบกับสิทธิชนในการอพยพไป ตะวันตก |
7 เมษายน ค.ศ. 1847 |
ออกจากวินเทอร์คอวเทอร์สพร้อมผู้บุกเบิกคณะแรก ที่ม่งหน้าสู่หุบเขาซอลท์เลค |
24 กรกฎาคม ค.ศ. 1847 |
มาถึงหุบเขาเกรทซอลท์เลค |
ค.ศ. 1847 ถึง 1850 |
ทำงานมอบหมายหลายอย่างเพื่อช่วยสิทธิชนอพยพ จากวินเทอร์ควอเทอร์สและสหรัฐตะวันออกไป ซอลท์เลคซิตี้ |
ค.ศ. 1856 ถึง 1883 |
รับใช้เป็นผู้ช่วยนักประวัติศาสตร์ศาสนาจักร |
1 มกราคม ค.ศ. 1877 ถึง 17 มิถุนายน ค.ศ. 1884 |
รับใช้เป็นประธานคนแรก ของพระวิหารเซนต์จอร์จ ยูท่าห์ |
29 สิงหาคม ค.ศ. 1877 |
ทราบข่าวมรณกรรมของประธานบริคัม ยังและออก จากเซนต์จอร์จไปซอลท์เลคซิตี้ |
10 ตุลาคม ค.ศ. 1880 |
ได้รับการสนับสนุนเป็นประธานโควรัมอัครสาวกสิบ สองในการประชุมใหญ่สามัญครั้งเดียวกับที่จอห์น เทย์เลอร์ได้รับการสนับสนุนเป็นประธานศาสนาจักร |
ค.ศ. 1882 |
สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างพระราชบัญญัติเอ็ดมันด์ โดยทำให้พหุสมรสเป็นโทษอุกฉกรรจ์และห้ามไม่ให้ ผู้ปฏิบัติพหุสมรสออกเสืยงเลือกตั้ง ดำรงตำแหน่ง ในรัฐบาล หรือปฏิบัติหน้าที่ในคณะลูกขุน |
ค.ศ. 1883 ถึง 1889 |
รับใช้เป็นนักประวัติศาสตร์ศาสนาจักร |
19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1887 |
สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างพระราชบัญญัติเอ็ดบันด์ ทัคเกอร์ กฎหมายต่อต้านพหุสมรสอีกฉบับหนึ่ง โดย อนุญาตให้รัฐบาลกลางริบอสังหาริมทรัพย์ล่วนใหญ่ ของศาสนาจักร พระราชบัญญัติดังกล่าวกลายเป็น กฎหมายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1887 |
25 กรกฎาคม ค.ศ. 1887 |
เป็นอัครสาวกอาวุโสและหัวหน้าดูแลศาสนาจักร คราวประธานจอห์น เทย์เลอร์ถึงแก่อนิจกรรม |
17 พฤษภาคม ค.ศ. 1888 |
อุทิศพระวิหารแมนไท ยูท่าห์ |
7 เมษายน ค.ศ. 1889 |
ไต้รับการสนับสนุนเป็นประธานศาสนาจักรของพระ เยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้าย |
24 กันยายน ค.ศ. 1890 |
ไต้รับการเปีดเผยจากพระเจ้า ออกแถลงการณ์ระบุ ว่าสิทธิชนยุคสุดท้ายควรยุติการปฏิบัติพหุสมรส |
6 ตุลาคม ค.ศ. 1890 |
สมาชิกศาสนาจักรที่เข้าร่วมการประชุมใหญ่สามัญ เห็นพ้องเป็นเอกฉันท์สนับสนุนการเปีดเผยที่ประธาน วูดรัฟฟ็ได้รับเกี่ยวกับพหุสมรส |
6 เมษายน ค.ศ. 1893 |
อุทิศพระวิหารซอลท์เลค |
13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1894 |
ควบคุมดูแลการสถาปนา Genealogical Society of Utah (สมาคมสืบลำดับเชื้อสายของยูท,าห์) |
1 มีนาคม ค.ศ. 1897 |
อยู่ฉลองงานวันเกิดปีที่ 90 ของท่าน |
2 กันยายน ค.ศ. 1898 |
ถึงแก่อนิจกรรมที่เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคสิฟอร์ เนีย หลังจากป่วยได้ไม่นาน |