คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 20: สิทธิเฟรี: เลือกชีวิตหรือความตาย


บทที่ 20

สิทธิเฟรี: เลือกชีวิตหรือความตาย

นี่คือเวลาที’ต้องเลือกระหว่างกวามดีและความชั่ว เพราะการกระทำของเราบงเกิดผลในชีวิตนี้และไนนิรันดร

จากชีวิตของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้

ปร ธานวิลฟอร์ด วูดรัฟฟเป็นพยานว่าความรอดเกิดขึ้น “โดยและทาง พระโลหิตของพระเยซูคริสต์” และท่านเน้นด้วยว่าความบริบูรณ์แห่งความรอด เกิดขึ้น “โดยการเชื่อฟ้งพระกิตติคุณ”1 ด้วยความเข้าใจดังกล่าว ท่านสอนว่า “เราทุกคนมืสิทธ์เสรีที่จะเลือกความดีและปฏิเสธความชั่ว หรือเลือกความชั่ว และปฏิเสธความดี”2 และพระผู้เป็นเจ้า “จะทรงถือว่า [เรา] ต้องรับผิดชอบ การใช้สิทธ์เสรีนี้”3 ท่านขอให้สิทธิชนทำการดัดสินใจที่ชอบธรรม โดยเตือน เขาให้รู้ความแตกต่างระหว่าง “ไม่กี่ปีของความพึงพอใจทางโลก” และ “นิรัน ดรอันยาวนานของความสว่าง ความจริง พร และความรู้ซึ่งพระเจ้าจะทรงมอบ ให้ทุกคนที่รักษากฎของพระองค์”4

เช่นเดียวกับเราทุกคน ประธานวูดรัฟฟมีโอกาสนับครั้งไม่ถ้วนที่จะใช้ของ ประทานแห่งสิทธ์เสรี โอกาสหนึ่งเกิดขึ้นในเมืองเฮียร์ฟอร์ดไชร์ ประเทศอังกฤษ ที่บ้านของจอห์น เบนโบว์ (ดู หน้า 91 ในหนัง ลือเล่มนี้). “จอห์น เบนโบว์เป็นคนสูงศักดิ”” ประธานวูดรัฟ็เล่า “เขาเหมือนขุนนางชาวอังกฤษ ข้าพเจ้าคิดว่าเขาเป็นคนรารวยคนหนึ่งเท่าที่เคยเข้า มาในศาสนาจักร ข้าพเจ้าคิดว่าเขายังรับบัพติศมา ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเมื่อเขาเข้ามาในห้องประชุม ขนาดเล็ก พร้อมภรรยา และใช้เวลาประมาณสี่สิบ ห้านาทีบอกข้าพเจ้าว่าเขาอ่านพบในพันธสัญญา ใหม่ว่าในสมัยของอัครสาวกพวกเขาขายทรัพย์สม มัติทั้งหมดและนำเงินมาวางไว้แทบเท้าอัครสาวก [ดู กิจการ 4:31–37], เขาบอกว่าเขาร้สืกว่าตนมีหน้าที่ทำตามกฎนี้และอยากทำ ข้าพเจ้าฟ้งเขาด้วยความอดทนและเมื่อเขาพูดจบ ข้าพเจ้าใช้เวลาประมาณครึ่ง ชั่วโมงบอกเขาถึงความแตกต่างระหว่างสภาพของเราในปัจจุบันและสภาพของ อัครสาวกในสมัยนั้น ข้าพเจ้าอธิบายให้เขาเข้าใจว่าพระผู้เป็นเจ้ามิได้ส่งข้าพเจ้า มาประเทศอังกฤษเพื่อดูแลทองของเขา ม้า วัว และทรัพย์สินของเขา แต่พระ องค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาที่นี่เพื่อสั่งสอนพระกิตติคุณ อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้าบอกเขา ว่าพระเจ้าจะทรงยอมรับการเสืยสละของเขา และเมื่อใดก็ตามที่เขามีโอกาสทำ สิ่งที่เป็นประโยชน์ได้ เขาควรทำ เขาควรช่วยเหลือคนยากจน ช่วยตีพิมพ์พระ คัมภีร์มอรมอน ฯลฯ”

ขณะเล่าเรื่องนี้ ประธานวูดรัฟฟ็แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบอันลึกซึ้ง ของการตัดสินใจปฏิเสธข้อเสนอของบราเดอร์เบนโบว์อย่างสุภาพดังนี้

“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากข้าพเจ้าใช้เสันทางอื่น และพูดว่า ‘ยกทรัพย์สินของ คุณให้ผมสิครับแล้วผมจะดูแลให้คุณ, เขาอาจจะละทิ้งความเชื่อไปแล้วก็ได้ ไม1เพียงเท่านั้น แด’คงจะมีอัครสาวกโง’เง่าคนหนึ่งผู้มีแนวโน้มว่าจะละทิ้งความ เชื่อด้วย แต่นั่นคือการล่อลวงสำหรับข้าพเจ้าหรือ ไม่เลย จะไม’เป็นการล่อลวง สำหรับเอ็ลเดอร์คนใดก็ตามที่มีพระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้ามากพอจะเความ แตกต่างระหว่างเงินร้อยปอนด์กับการมีส่วนในการฟืนคืนชีวิตแรก พร้อมพลัง อำนาจที่จะผ่านเหล่าเทพและพระผู้เป็นเจ้าทั้งหลายไปส่ความสูงส่งและรัศมี ภาพ และยืนอยู่เบื้องพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้าและพระเมษโปดกตลอดกาล และตลอดไป”5

คำลโอนฃองวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้

เพราะพระผู้เปีนเจ้าประทานสิทธิ!สรีแก’เรา เราจึงต้องรับผิดชอบการกระทำของเรา

พระผู้เป็นเจ้าประทานสิทธ์เสรีแก่บุตรทุกคนของพระองค์ในสมัยการประ ทานนี้เช่นที่พระองค์ประทานแก่บุตรทุกคนของพระองค์ไนสมัยการประทาน ก่อนๆ สิทธ์เสรีเป็นมรดกของมนุษย์เสมอมาภายใต้กฎเกณฑ์และการปกครอง ของพระผู้เป็นเจ้า [เรา] มีสิทธ์เสรีในสวรรค์เบื้องบนก่อนโลกเป็นมา ที่นั่นพระ เจ้าทรงรักษาและปกป้องไว้ให้พ้นจากการรุกรานของลูซิเฟอร์และผู้ที่อยู่ฝ่ายเขา เพื่อโค่นล้มลูซิเฟอร์และไพร่พลสวรรค์หนึ่งในสาม [ดู วิวรณ์ 12:1–9; ค.พ. 29:36–37; โมเสส 4:1–4]. สิทธ์เสรีทำให้ท่าน ข้าพเจ้า และมวลมนุษย์ต้องรับ ผิดชอบ รับผิดชอบวิถีที่เราเสาะแสวงหา ชีวิตที่เราดำเนิน และการกระทำที่เรา ทำในร่างกาย6

มาตรการส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าคือจะไม่บังคับมนุษย์ให้ไปสวรรค์ จะไม่ บีบคั้นจิตใจแต่จะปล่อยให้มีอิสระกระทำด้วยตนเอง [พระผู้เป็นเจ้า] ทรงวาง พระกิตติคุณอันเป็นนิจ หลักธรรมแห่งชีวิตและความรอดตรงหน้ามนุษย์ แล้ว ปล่อยให้เขาเลือกด้วยตนเองหรือปฏิเสธด้วยตนเองด้วยความเข้าใจอันจำกัดว่า เขาต้องรับผิดชอบผลจากการกระทำของเขา7

การตัดสินใจของเราไม่ว่าจะทำดีหรือชั่วล้วนบังเกิดผล ในชีวิตนี้และในนิรันดร

ทุกคนจะไต้รับสิ่งที่เขาลงแรงไว้ อะไรที่เราหว่าน ไม่ว่าดีหรือชั่ว เราจะเก็บ เกี่ยวผลของบัน [ดู กาลาเทีย 6:7; ค.พ. 6:33]8

พระเจ้าทรงบัญชาเรา และเราต้องเชื่อฟังพระบัญชาของพระองค์หากเรา [อยาก] ไต้รับพรของการเชื่อฟัง9

ยิ่งเราทำตามพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้ามากเท่าใด เราจะยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงเป็นสหายของเรา พระองค์จะทรงดูแลเรา พระบุตรของ พระองค์พระเยซูทรงเป็นผู้วิงวอนพระบิดาแทนเรา พระองค์จะทรงอยู่ท่ามกลาง คนเหล่านี้ และพระองค์จะทรงต่อสู้เพื่อสิทธิของสิทธิชนของพระองค์ และจะ ทรงสกัดกั้นอาวุธทั้งหลายที่สร้างไว้ต่อสู้กับไซอัน10

เราควรทำให้ลูกๆ ของเราจดจำผลอันชั่วร้ายของการทำบาปหรือการฝ่าแนกฎ ของพระผู้เปีนเจ้า เขาควรเข้าใจว่าเมื่อทำผิดเขาจะได้รับความเศร้าโศกและความ ทุกข์ยากซึ่งเขาจะหนีพ้นได้ง่ายๆ โดยทำสิ่งถูกต้อง และเขาควรเรียนรู้หลักธรรม นี้ตามหลักคำสอนโดยไม่ต้องเรียนรู้ความเศร้าโศกและความทุกข์ทรมานจากการ ทำผิด11

บาปทุกอย่างที่ข้าพเจ้าทำในศาสนาจักรและอาณาจักรนี้เปีนผลให้ข้าพเจ้าสูญ เสืยมากกว่าพันเท่า เราทำบาปโดยไม่ถูกลงโทษไม่ไต้ เราเพิกเฉยต่อคำแนะนำ โดยไม่ถูกลงโทษไม่ได้ บาปย่อมก่อให้เกิดโทมนัส12

พี่น้องชายหญิงทั้งหลาย จงแสวงหาพระผู้เปีนเจ้า จงเรียกหาพระองค์ในที่ ลับตา อย่าหน่ายหนีความชอบธรรมและความจริง ไม่มีสิ่งใดได้มาจากการทำ เช่นนั้น แต่ทุกสิ่งจะสูญไป13

บุคคลเหล่านั้นผู้จะไม่ดำเนินตามความสว่างที่เขามี ไม่ช้าก็เร็วจะต้องได้รับ ความทุกข์ทรมานแสนสาหัส เขาจะ1ใม’มีปีติ ไม่มีความสุข และความรอดเช่น คนที่เชื่อฟ้งพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าและทำสิ่งถูกต้องสมาเสมอ คนชั่วจะ อกสั่นขวัญแขวนตลอดเวลา ไม่มีการชักจูงให้ชายหรือหญิงทำบาป นี่ไม่ใช่ธุรกิจ ที่ให้ค่าตอบแทน เรารับใช้พระเจ้าดีกว่า เพราะคนที่รับใช้พระเจ้าทั้งเช้า กลาง วัน และเย็นจะมีความสุขไม่ว่าเขาจะมั่งมีหรือยากจนก็ตาม14

ลองถามผู้คน ประชาชาติ อาณาจักร หรือชั่วอายุต่างๆ ของมนุษย์ดูเถิดและ เขาจะตอบท่านว่าเขากำลังแสวงหาความสุข แต่เขาแสวงหาความสุขกันอย่างไร ลองถามคนส่วนใหญ่ดูเถิดว่าเขาแสวงหาความสุขกันอย่างไร เขาแสวงหาด้วย การรับใช้มารเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ เกือบเปีนคนสุดท้ายหรือเกือบเปีนสิ่ง สุดท้ายที่ลูกหลานมนุษย์นมัสการ และคนสุดท้ายที่เขาต้องการรักษากฎของผู้ นั้นคือกฎของพระผู้เปีนเจ้าแห่งสวรรค์ เขาจะไม่นมัสการพระผู้เปีนเจ้าทั้งไม่ ถวายเกียรติพระนามพระองค์ ทั้งไม่รักษากฎของพระองค์ แต่สบประมาท พระนามของพระองค์วันแล้ววันเล่า และคนเกือบทั้งโลกกำลังแสวงหาความ สุขด้วยการทำบาป ฝ่าแนกฎของพระผู้เป็นเจ้า สบประมาทพระนามของพระ องค์ และไม่ยอมรับด้นกำเนิดเพียงแห่งเดียวที่ความสุขหลั่งไหลมา

หากเราเข้าใจจริงๆ ว่าเราจะไม่ได้รับความสุขด้วยการเดินในเส้นทางแห่งบาป และฝ่าแนกฎของพระผู้เป็นเจ้า เราจะมองเห็นความโง,เขลาของการทำเช่นนั้น ชายทุกคนและหญิงทุกคนจะเห็นว่า เพื่อให้ได้ความสุข เขาควรไปทำงานแห่ง ความชอบธรรม และทำตามพระประสงค์ของพระบิดาในสวรรค์ของเรา เพราะ เราจะได้รับความสุข พร รัศมีภาพ ความรอด ความสูงส่ง และชีวิตนิรันดร์ที่เรา จะได้รับอย่างแน่นอนทั้งในกาลเวลาหรือนิรันดรจากพระหัตถ์พระองค์15

ขอให้เราซื่อสัตย์และตกแต่งกายใจของเราด้วยศรีสง่าแห่งพระกิตติคุณ ไม1มี สิ่งใดได้มาจากการทำผิด การโป้ปดมดเท็จ การลักขโมย การสบประมาท ความ มึนเมา การกลั่นแกล้งลับหลัง และการปฏิเสธพระเจ้าพระเยซูคริสต์นำมาซึ่ง ความเศร้าโศกและความสำนึกผิด ทำให้มนุษย์ผู้ถูกสร้างตามรูปลักษณะของ พระผู้เป็นเจ้าตกตาลง แต่การทำถูกต้อง เชื่อฟ้งพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า ใจบุญและอ่อนโยนย่อมก่อเกิดปีติ สันติสุข พระวิญญาณบริสุทธิ้ และสุดท้าย คือความสูงส่งในอาณาจักรแห่งพระบิดาของเรา16

เราจะได้รับรางวัลนิรันดรตามกฎที่เรา!ลือกรักษาไว้ ในช่วงเวลาอันไม่ยาวนานบนแผ่นดินโลก

อนิจจาท่านทั้งหลาย ชีวิตเราที่นี่มีเพียงไม่กี่วัน แต่ในอีกด้านหนึ่งของม่าน เราจะมีชีวิตนิรันดร์ เราจะมีชีวิตและดำรงอยู่นานเท่านานตราบที่พระผู้สร้างของ เราจะดำรงอยู่ และจุดหมายปลายทางนิรันดร์ของเราขึ้นอยู่กับวิธีที่เราใช้ชีวิตอัน ไม1ยาวนานของเราที่นี่ในเนื้อหนังนี้17

เมื่อเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าจุดหมายปลายทางในอนาคตของเรา—ความสุข ความสูงส่ง และรัศมีภาพในอนาคต หรือความทุกข์ยาก ความตกตา และความ เศร้าโศกในอนาคตของเรา ล้วนขึ้นอยู่กับเวลาเพียงน้อยนิดที่เราใช้ในโลกนี้ ข้าพเจ้าบอกได้ว่า ไม่เป็นผลดีแต่ประการใดที่มนุษย์ทุกคนใต้ท้องฟ้าจะใช้เวลา ในการทำผิด…หากมนุษย์ได้รับพรประการใดจากแหล่งใด เขาต้องไต้มาจาก พระเจ้า เพราะมารไม่ประสงค์จะให้พร และจะไม่ให้พรลูกหลานมนุษย์ แต่เขา ทำงานเพื่อนำคนเหล่านั้นออกจากเสันทางแห่งความชอบธรรมและความจริง18

พระผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ผู้ทรงสร้างโลกนี้และทรงวางลูกๆ ของพระองค์ไว้ บนนั้น ประทานกฎแก่เขาเพื่อให้เขาได้รับความสูงส่งและรอดในอาณาจักรแห่ง รัศมีภาพ เพราะมีกฎประทานให้ทุกอาณาจักร และทุกสิ่งทั่วทั้งจักรวาลถูกปก ครองโดยกฎ ไม1ว่าใครจะรักษากฎใด กฎนั้นจะคุ้มครองเขา และเขาจะได้รับราง วัลตามที่กฎนั้นรับประกันกับเขา [ดู ค.พ. 130:20–21]. พระผู้เป็นเจ้าทรงมีพระ ประสงค์ไห้ลูกทุกคนของพระองค์เชื่อฟ้งกฎสูงสุด เพื่อเขาจะได้รับรัศมีภาพ สูงสุดที่ถูกกำหนดไว้ให้มวลมนุษย์อมตะ แต่พระผู้เป็นเจ้าประทานสิทธี้เสรีให้ ลูกทุกคนของพระองค์เลือกว่าจะรักษากฎใด19

ไม่มีใครจะได้รับรัศมีภาพชั้นสูงเว้นแต่เขาจะปฏิบัติกฎชั้นสูง ไม่มีใครจะได้ รับกฎชั้นกลางเว้นแต่เขาจะปฏิบัติกฎชั้นกลาง และไม่มีใครจะได้รับรัศมีภาพ ชั้นด้นเว้นแต่เขาจะปฏิบัติกฎชั้นต้น [ดู ค.พ. 88:19–33] มีความแตกต่างอย่าง มากระหว่างความสว่างของดวงอาทิตย์เที่ยงวันกับแสงริบหรี่ของดวงดาวยาม ราตรี แต่ความแตกต่างนั้นไม่มากเท่าความแตกต่างของรัศมีภาพในส่วนต่างๆ ของอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า20

พระเจ้าทรงเปิดเผยกฎชั้นสูงต่อเรา นั่นก็คือ พระองค์ประทานความสมบูรณ์ แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์แก่เรา และประทานความรู้ในหลักธรรมแห่ง ชีวิตนิรันดร์แก’เรา …

หากเราต้องเข้าไปในโลกชั้นสูง เราจะต้องถูกกระตุ้นโดยวิญญาณที่มีอำนาจ เหนืออาณาจักรนั้น และมีหลักธรรมเหล่านั้นซึ่งอยู่กับเรา หลักธรรมที่ควรจะ ปกครองเราอยู่ตลอดเวลา เราต้องมีวิญญาณและหลักธรรมเดียวกันในโลกนี้ และเราต้องปฏิบัติกฎชั้นสูงที่นี่ และเป็นหนึ่งเดียวกับหลักธรรมที่ทำให้ผู้คน ของพระผู้เป็นเจ้าผู้อยู่ในที่ประทับของพระองค์เป็นหนึ่ง เพื่อจะไต้รับรัศมีภาพ เดียวกับที่พวกเขาได้รับ

นี่คือหลักธรรมที่สอนเราวันแล้ววันเล่า และเราด้องเรียนรู้ที่จะดำเนินตาม นั้น และเราต้องละทิ้งความเห็นแก’ตัวของเราและหลักธรรมเทียมเท็จทั้งหมด21

มีรางวัลสำหรับผู้ทำถูกต้อง และมนุษย์ในชั่วอายุนี้หรือชั่วอายุใดก็ตามที่ประ พฤติปฏิบัติตนไม’สอดคล้องกับพระผู้เป็นเจ้าหรืองานของพระองค์จะต้องโศก เศร้าและระทมทุกข์…หากมนุษย์ทำถูกต้อง เป็นอัศวินในประจักษ์พยานถึงพระ เยซูคริสต์ เชื่อฟ้งพระกิตติคุณ และรักษาพันธสัญญา เมื่อเขาผ่านไปอยู่อีกต้าน หนึ่งของม่าน เขาจะเข้าไปในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าและพระเมษโปดก โดยที่รักษากฎชั้นสูงเขาจะได้เข้าไปในรัศมีภาพชั้นสูง กฎคุ้มครองเขา และเขา มีส่วนในรัศมีภาพนั้นตลอดระยะเวลาอันไม’สิ้นสุดของนิรันดร คนใดก็ตามภาย ใต้ฟ้าสวรรค์ที่เชื่อฟ้งและซื่อสัตย์ต่อกฎของพระผู้เป็นเจ้าขณะใช้เวลาเพียงไม่กี่ วันในเนื้อหนัง คนนั้นจะไต้รับรางวัล22

หากเราจะค้นหาใจตน และตั้งใจทันทีว่าจะทำงานแห่งความชอบธรรม ถวาย เกียรติพระบิดาในสวรรค์ ทำหน้าที่ของเราต่อพระผู้เปีนเจ้าและมนุษย์ ยอมรับ และเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เปีนเจ้า เมื่อนั้นเราจะเข้าใจว่าเพื่อให้ได้ ความสุขและทำให้จิตวิญญาณอมตะพอใจในความบริบูรณ์แห่งรัศมีภาพ มนุษย์ จะด้องปฏิบัติตามกฎชั้นสูงและถูกชุบขึ้นมาโดยส่วนของพระวิญญาณชั้นสูง ของพระผู้เปีนเจ้า และเราจะเข้าใจด้วยว่าการทำบาป การฝ่าแนกฎของพระผู้ เปีนเจ้า และสบประมาทพระนามของพระองค์จะนำความเศร้าโศกและความ ทุกข์ยากมาให้เรา จะนำความตายทั้งทางโลกและทางวิญญาณมาให้เรา หากเรา ดำเนินในวิถีแห่งความอธรรม เราได้ทำให้พระวิญญาณศักดิ”สทธี้เศร้าโศก ทำให้ พี่น้องของเราโศกเศร้า และทำร้ายตนเอง23

ทางแห่งชีวิตถูกชี้ให้เห็น และหากเราไม่เดินไปในทางนั้น ย่อมไม่มีสิ่งใดเพ่ง มองดวงหน้าเรานอกจากความตาย ขอให้เราหยุดและใคร่ครวญสักครู่—ขอให้ เราดูว่าทางไหนดีที่สุดสำหรับเรา รับชีวิตหรือความตาย…ท่านได้ยินความจริงที่ แจ้งชัดมาแล้ว พลังอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธี้และประจักษ์พยานในพระ เยซูคริสต์บอกท่าน และนี่คือเวลาที่ท่านด้องตัดสินใจว่าจะรับใช้ใคร24

พรในอนาคตของท่าน ความสูงส่งและรัศมีภาพในอนาคตของท่าน บรรดา โลกอันไม่มีที่สุด จะขึ้นอยู่กับวิถีที่ท่านเสาะแสวงหาที่นี่ ทางที่นำไปสู่ชีวิตนิ รันดร์เปีดโล่งตรงหน้าท่าน…และยังคงเป็นเช่นนั้นหากท่านเดินในทางดังกล่าว25

พระผู้เปีนเจ้าทรงวางความรอดไว้ไนรัศมีที่เราเอื้อมถึง โดยประทานหลักความประพฤติที่เรียบง่าย และประทานพลังให้เราทำสำเร็จ

ความรอด ชีวิตนิรันดร์และการมีส่วนในการฟืนคืนชีวิตแรกอยู่ในรัศมีที่เรา เอื้อมถึง แท้จริงแล้ว พรทุกประการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญากับใครก็ตามที่ เคยอยู่ในเนื้อหนังล้วนถูกหยิบยื่นให้ท่านและอยู่ในรัศมีที่ท่านเอื้อมถึงหากท่าน ทำหน้าที่ของตน26

สิทธิชนยุคสุดท้ายมีทุกอย่างสนับสนุนช่วยเหลือ เส้นทางตรงหน้าเขาชัดเจน และเชื้อเชิญ27

มีถนนที่ถูกต้องเพียงสายเดียวคือสายที่ตรงไปข้างหน้า หลักธรรมและกฎ เกณฑ์ที่ปกครองท่านในเส้นทางนั้นเรียบง่ายและเข้าใจง่าย นี่คือเส้นทางให้เรา เดิน และข้าพเจ้าถือว่าเราได้รับพรอย่างยิ่งที่ได้รู้ทางแท้จริง28

ไม’ว่าพระเจ้าจะทรงเรียกร้องอะไรจากมือเรา พระองค์มิได้ทรงเรียกร้องสิ่งที่ เราทำไม่ได้ เราสามารถเชื่อฟ้งพระบัญญัติของพระองค์ตามสภาพที่เราเป็นอยู่ และตามปัจจัยที่เรามือยู่ในครอบครอง ไม่มืชายหรือหญิงคนใดยากแค้นแสน เข็ญจนเขาหรือเธอเชื่อฟ้งพระกิตติคุณไม่ได้ เขาสามารถออกไปรับบัพติศมา เพื่อการปลดบาป และหากเขารักษาพระบัญญัติของพระเจ้า พระองค์จะทรงใส่ อำนาจและปัจจัยไว้ในมือเขาเพื่อทำสิ่งซึ่งเรียกร้องจากเขาให้สำเร็จ29

ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้เราเสาะแสวงหาวิถีนั้นที่เมื่อเราไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ของม่าน เราจะพึงพอใจกับบันทึกของเรา เราจะพบประวัติและบันทึกของเราที่ นั่นในหอสมุดขนาดใหญ่บนอาณาจักรชั้นสูงของพระผู้เป็นเจ้า และเราจะร้ว่า เราทำอะไรบ้างในชีวิตนี้ หากเราทำสิ่งใดผิด เราย่อมเสียใจ เราควรกลับใจจาก ความผิดและพยายามทำให้ดีขึ้น ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้พระวิญญาณสถิต กับเราเพื่อนำทางและกำกับดูแลเราในการทำงานของเราจนกว่าเราจะผ่านที่นึ่ไป จากนั้นเมื่อเราล่วงลับ เราจะถูกรับเข้าในอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เราจะชื่น ชมยินดีหากเราทำถูก เพราะรัศมีภาพที่อยู่ตรงหน้าบุตรธิดาของแอดัมนั้นดวงตา ของเราไม่เคยเห็น หูของเราไม่เคยได้ยิน และยังไม่เคยเข้าไปในใจของลูกหลาน มนุษย์ วันนี้ดวงตาของเรายังมองไม่เห็น และจะมองไม่เห็นจนกว่าเราจะเข้าไป ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าและพระเมษโปดก30

ไม่มีชายหรือหญิงคนใดที่เคยมีชีวิตบนแผ่นดินโลกและรักษาพระบัญญัติของ พระผู้เป็นเจ้าจะละอายใจหรือเสียใจเมื่อเขาเข้าไปในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า31

ข้อเสนอแนะสำหรับศึกษาและลอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะสืกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมได้ที่หน้า ⅴ-ⅸ.

  • ทบทวนเรื่องราวหน้า 210-212 หลักธรรมใดนำทางการตัดสินใจของเอ็ล- เดอร์วูดรัฟพึในคำตอบที่ให้บราเดอร์เบนโบว์

  • อ่านย่อหน้าที่สองในหน้า 212 เหตุใดการ “บังคับมนุษย์ไห้ไปสวรรค์” หรือ “บีบคั้นจิตใจ” จึงขัดกับธรรมชาติวิสัยของพระผู้เป็นเจ้า พระบิดาบน สวรรค์ทรงทำอะไรเพื่อกระตุ้นเราให้เลือกเสันทางที่นำไปสู่ชีวิตนิรันดร์

  • ประธานวูดรัฟฟ็กล่าวว่า “ทุกคนจะได้ตามที่เขาทำ” (น้า 212).นี่หมาย ความว่าอะไร ข้อความนี้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเราอย่างไร

  • จากคำพูดของประธานวูดรัฟฟ็ มีพรใดเข้ามาในชีวิตเราบ้างเมื่อเรารักษาพระ บัญญัติ เกิดผลอะไรบ้างในชีวิตนี้เมื่อเราเลือกไม่รักษาพระบัญญัติ (ดูหน้า 212-214)

  • ทบทวนย่อหน้าที่สามและสีในหน้า 213 ราคาค่าบาปคืออะไร

  • การตัดสินใจในแต่ละวันล่งผลต่อจุดหมายปลายทางนิรันดร์ฃองเราอย่างไร (ดูหน้า 214-215, 217) เหตุใดการจดจำว่าชีวิตนี้สั้นนักเมื่อเทียบกับนิรันดร จึงเปีนเรื่องสำคัญ

  • ท่านจะพูดอะไรกับสมาชิกครอบครัวหรือมิตรสหายที่แสวงหาความสุขโดย ไปรักษาพระบัญญัติ ท่านจะเล่าประสบการณ์อะไรบ้างเพื่อช่วยบุคคลนั้น

  • ท่านคิดว่าเหตุใดบางครั้งผู้คนจึงรู้สืกว่าความรอดอยู่ไกลเกินเอื้อม ขณะสืกษา คำสอนของประธานวูดรัฟฟ็ในหน้า 217-218 ท่านคิดว่าข้อความใดให้ความ มั่นใจเป็นพิเศษแก่ผู้ที่รู้สืกเช่นนั้น

  • บิดามารดาทำอะไรได้บ้างเพื่อเคารพสิทธิไสรืของบุตรแต่ยังช่วยให้บุตรทำการ ตัดสินใจที่ชอบธรรม

ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง: โยชูวา 24:15; อิสยาห์ 64:4; โคโลสื 3:24–25; 1 นีไฟ 3:7; 2 นีไฟ 2:25–30; แอลมา 7:14–25; 41:10; ฮีลามัน 14:30–31; ค.พ. 130:20–21

อ้างอิง

  1. Deseret News: Semi-Weekly, June 13, 1882, 1.

  2. “Sayings and Writings of Prest. Woodruff,” Contributor, July 1894, 538.

  3. ใน Brian H. Stuy, comp., Collected Discourses Delivered by President Wilford Woodruff, His Two Counselors, the Twelve Apostles, and Others, 5 vols. (1987-92), 1:386.

  4. The Discourses of Wilford Woodruff, sel. G. Homer Durham (1946), 278–79.

  5. ใน Collected Discourses, 4:378-79.

  6. The Discourses of Wilford Woodruff, 8–9.

  7. Deseret News: Semi-Weekly, May 9, 1882, 1.

  8. ใน Collected Discourses, 1:294.

  9. Deseret News: Semi-Weekly, May 2, 1876, 4.

  10. Deseret News: Semi-Weekly, July 26, 1881, 1.

  11. The Discourses of Wilford Woodruff, 105.

  12. Deseret News: Semi-Weekly, December 14, 1880, 1.

  13. The Discourses of Wilford Woodruff, 262.

  14. Deseret News, February 22, 1865, 162.

  15. The Discourses of Wilford Woodruff, 259–60.

  16. The Discourses of Wilford Woodruff, 23.

  17. The Discourses of Wilford Woodruff, 244.

  18. Deseret News, February 22, 1865, 162.

  19. The Discourses of Wilford Woodruff, 10.

  20. Deseret News: Semi-Weekly, January 12, 1875, 1.

  21. Deseret News, January 6, 1858, 350.

  22. Deseret News, December 23, 1874, 741.

  23. Deseret News, February 4, 1857, 879.

  24. ใน Journal of Discourses, 9:222.

  25. ใน Collected Discourses, 4:327.

  26. ใน Collected Discourses, 4:328.

  27. Deseret News: Semi-Weekly, July 26, 1881, 1.

  28. The Discourses of Wilford Woodruff, 307.

  29. Deseret News: Semi-Weekly, May 2, 1876, 4.

  30. ใน Collected Discourses, 5:107.

  31. Deseret News: Semi-Weekly, May 20, 1873, 1.

John Benbow

จอห์น เบนโบว์

farmhouse owned by John Benbow

รูปบ้านพักในฟาร์มที่จอห์น เบนโบว์เคยเป็นเจ้าของ

woman
man
girl
man
young woman
woman
woman
young man
girl

“คนที่รับใช้พระเจ้าทั้งเช้า กลางวัน และเย็นจะฝ็ความสุขไม่ว่าเขาจะมั่งฝ็หรือ ยากจนก็ตาม”