บทที่ 15 สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู

แผนของพระบิดาบนสวรรค์และศักยภาพอันสูงส่งของเรา

พระเจ้าทรงเปิดเผยต่อโจเซฟ สมิธเกี่ยวกับรัศมีภาพของแผนแห่งการไถ่ของพระบิดาบนสวรรค์และศักยภาพอันสูงส่งของเราที่จะเป็นเหมือนพระองค์ บทนี้จะช่วยนักเรียนชื่นชมแผนของพระบิดามากขึ้นและเข้าใจลึกซึ้งขึ้นว่าพวกเขาเป็นใครและพวกเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อบรรลุศักยภาพอันสูงส่งของตน

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

โจเซฟ สมิธได้รับความจริงสำคัญๆ เกี่ยวกับแผนแห่งความรอด

เชิญนักเรียนอธิบายสิ่งที่ชาวคริสต์ส่วนใหญ่และผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสยุคแรกของศาสนจักรอาจเข้าใจเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าและชีวิตหลังจากนี้ก่อนพระเจ้าประทานการเปิดเผยผ่านโจเซฟ สมิธเกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ (นักเรียนอาจต้องการทบทวน หัวข้อ 1 และ 3 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน)

• จากสิ่งที่ท่านเรียนรู้ในสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับแผนแห่งความรอดต่อโจเซฟ สมิธเมื่อใดและอย่างไร?

• ท่านคิดว่าความจริงที่ได้รับการฟื้นฟูอะไรบ้างเกี่ยวกับแผนนี้ที่น่าจะเปลี่ยนชีวิตวิสุทธิชนยุคแรกมากที่สุด? ความจริงเหล่านี้บันทึกไว้ที่ใด? (ดู หัวข้อ 1 และ 3 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน)

ขณะที่นักเรียนตอบคำถามก่อนหน้านี้ ท่านอาจจะให้พวกเขาดูพระคัมภีร์บางข้อที่อ้างในสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียนอีกครั้ง เช่น โมเสส 1:39 และ อับราฮัม 3:22–26 ช่วยนักเรียนระบุและอธิบายความจริงดังต่อไปนี้: งานและรัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าคือการทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์ของมนุษย์ (ดู โมเสส 1:39) เราอยู่เป็นวิญญาณกับพระบิดาบนสวรรค์ก่อนเราเกิด (ดู อับราฮัม 3:22–23) พระเจ้าทรงสร้างแผ่นดินโลกให้เป็นที่ซึ่งเราเลือกได้ว่าจะเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่ (ดู อับราฮัม 3:24–25)

• จินตนาการว่าชีวิตท่านจะต่างจากนี้อย่างไรถ้าท่านไม่รู้แผนของพระบิดาบนสวรรค์ ท่านคิดว่าการรู้แผนนี้มีผลต่อวิธีที่ท่านคิด ตัดสินใจ และลงมือทำอย่างไร?

โจเซฟ สมิธสอนเกี่ยวกับศักยภาพอันสูงส่งของเรา

อธิบายว่าในวันที่ “7 เมษายน ค.ศ. 1844 โจเซฟ สมิธลุกขึ้นพูดในการประชุมใหญ่ครั้งสุดท้ายของท่าน หลังจากขอให้วิสุทธิชน ‘เอาใจใส่เต็มที่’ แล้ว … โจเซฟจึงสอนเกี่ยวกับธรรมชาติอันสูงส่งและความก้าวหน้านิรันดร์” (“King Follett Discourse,” Church History Topics, ChurchofJesusChrist.org/study/church-history)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวของโจเซฟ สมิธจากสุนทรพจน์คิงก์ฟอลเลตต์ที่อยู่ต้น หัวข้อ 2 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน

• ท่านเรียนรู้อะไรจากคำสอนของโจเซฟเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับพระผู้เป็นเจ้า?

อธิบายว่าในปี ค.ศ. 1995 ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองออกเอกสารที่เรียกว่า “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” ในนั้นประกาศว่า

มนุษย์ทั้งหลาย—ชายกับหญิง—ได้รับการสร้างในรูปลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า แต่ละคนเป็นปิยบุตรหรือปิยธิดาทางวิญญาณของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ และด้วยเหตุนี้แต่ละคนจึงมีลักษณะและจุดหมายปลายทางแห่งสวรรค์ …

ในอาณาจักรก่อนชีวิตมรรตัย บุตรและธิดาที่เป็นวิญญาณรู้จักและนมัสการพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระบิดานิรันดร์ของพวกเขา และยอมรับแผนของพระองค์ ซึ่งตามแผนนั้นบุตรธิดาของพระองค์จะได้รับร่างกายอันเป็นเนื้อหนัง และได้รับประสบการณ์ทางโลกเพื่อพัฒนาไปสู่ความดีพร้อม และในที่สุดจะบรรลุถึงจุดหมายปลายทางแห่งสวรรค์ของพวกเขา เป็นทายาทแห่งชีวิตนิรันดร์ (“ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” ChurchofJesusChrist.org)

• ในฐานะบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ศักยภาพนิรันดร์ของเราคืออะไร? (ช่วยนักเรียนระบุหลักธรรมทำนองนี้: ในฐานะบุตรและธิดาทางวิญญาณของพระบิดาบนสวรรค์ เรามีศักยภาพที่จะเป็นเหมือนพระองค์)

ให้ดูหรือถามคำถามต่อไปนี้ และให้เวลานักเรียนไตร่ตรองหนึ่งถึงสองนาทีและเขียนการกระตุ้นเตือนที่อาจมาถึงพวกเขา

• ความจริงนี้มีอิทธิพลอย่างไรต่อวิธีที่ท่านมองความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์? ความจริงนี้มีอิทธิพลอย่างไรต่อวิธีที่ท่านมองตนเองและคนรอบข้าง? มีอิทธิพลอย่างไรต่อวิธีที่ท่านดำเนินชีวิต?

พระเยซูคริสต์ทรงแสดงให้เราเห็นวิธีที่เราจะได้รับความบริบูรณ์แห่งรัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าในอาณาจักรซีเลสเชียล

เขียนบนกระดานหรือให้ดูคำว่า สวรรค์ และ นรก และถามนักเรียนว่าชาวคริสต์ในศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่เชื่ออะไรเกี่ยวกับคนที่จะไปแต่ละแห่ง

ขอให้นักเรียนบันทึกสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จาก หลักคำสอนและพันธสัญญา 76 เกี่ยวกับชีวิตหลังความตายและการได้รับรัศมีภาพซีเลสเชียล (นักเรียนอาจต้องทบทวน หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:50–54) ท่านอาจจะถามนักเรียนว่าพวกเขาเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์จากความจริงที่เปิดเผยใน ภาค 76

ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง:

ข้าพเจ้าได้ยินหลายคนประสบปัญหานี้ทั่วศาสนจักร “ฉันไม่ดีพอ” “ฉันเป็นคนไม่เอาไหน” “ฉันไม่มีทางเทียบได้” ข้าพเจ้าได้ยินจากวัยรุ่น ข้าพเจ้าได้ยินจากผู้สอนศาสนา ข้าพเจ้าได้ยินจากผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ ข้าพเจ้าได้ยินจากผู้ที่เป็นสมาชิกมาตลอดชีวิต (เปรียบเทียบกับเจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม—ในที่สุด,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 40)

ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงเวลาที่พวกเขาเคยรู้สึกแบบนี้ในชีวิตพวกเขา

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:40–42, 69 โดยมองหาบทบาทสำคัญยิ่งของพระเยซูคริสต์ในความรอดของเรา

• พระเยซูคริสต์ทรงมีบทบาทอะไรในการแสวงหาชีวิตนิรันดร์ของเรา? (ช่วยนักเรียนระบุความจริงต่อไปนี้: เราสามารถดีพร้อมผ่านพระเยซูคริสต์เท่านั้น)

• ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสำคัญที่ต้องจดจำว่าความดีพร้อมและความสูงส่งผ่านมาทางพระเยซูคริสต์เท่านั้น?

อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:12–13 กับชั้นเรียนโดยดูว่าข้อเหล่านี้สอนอะไรเกี่ยวกับเส้นทางของพระผู้ช่วยให้รอดสู่การเป็นเหมือนพระบิดาบนสวรรค์

• ท่านคิดว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรง “ดำเนินต่อไปจากพระคุณสู่พระคุณ, จนพระองค์ได้รับความสมบูรณ์” ความหมายว่าอย่างไร?

• แบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดสามารถช่วยให้ท่านเอาชนะความรู้สึกท้อแท้ขณะท่านพยายามให้ได้ชีวิตนิรันดร์อย่างไร?

ให้ดูและอ่านคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์:

ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงจุดหมายอันยิ่งใหญ่นั้น ซึ่งมีให้เราโดยการชดใช้ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ พระองค์ผู้ทรงดำเนิน “จากพระคุณสู่พระคุณ” [หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:13] จนกระทั่งในความเป็นอมตะของพระองค์ [ดู ลูกา 13:32] ทรงได้รับความสมบูรณ์แห่งรัศมีภาพซีเลสเชียล ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าในเวลานี้และทุกโมงยาม ด้วยพระหัตถ์ที่มีรอยแผลเป็นจากตะปู พระองค์ทรงมอบพระคุณเดียวกันนั้นให้เรา ทรงประคับประคองและให้กำลังใจเราจนกว่าเราจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยในอ้อมกอดของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ สำหรับช่วงเวลาอันสมบูรณ์แบบนั้น ข้าพเจ้าพยายามไปให้ถึง แม้จะงุ่มง่ามก็ตามที สำหรับของประทานอันสมบูรณ์แบบนั้น ข้าพเจ้าขอบพระทัยต่อไป แม้จะขาดตกบกพร่องก็ตามที ข้าพเจ้าทำเช่นนี้ในพระนามของพระองค์ผู้ทรงดีพร้อม พระองค์ผู้ไม่ทรงงุ่มง่ามหรือขาดตกบกพร่องแต่ทรงรักเราทุกคน แม้พระองค์คือพระเจ้าพระเยซูคริสต์ (เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม—ในที่สุด,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 42)

เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองหนึ่งนาทีว่า ณ เวลานี้อะไรจะช่วยพวกเขามากที่สุดให้ก้าวหน้าทางวิญญาณสู่ชีวิตนิรันดร์ สรุปโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านว่าโดยผ่านพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดและโดยทำตามแบบอย่างของพระองค์เราจะได้รับชีวิตนิรันดร์และเข้าในอาณาจักรซีเลสเชียล

ปรับปรุงการสอนและการเรียนของเรา

กระตุ้นให้นักเรียนเตรียมต่อไป ตอนนี้นักเรียนผ่านหลักสูตรนี้มาครึ่งทางแล้ว ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้พวกเขาแบ่งปันว่าการเตรียมเข้าชั้นเรียนของพวกเขามีผลต่อประสบการณ์ในหลักสูตรอย่างไร ท่านอาจจะแบ่งปันกำลังใจต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์คิม บี. คลาร์กแห่งสาวกเจ็ดสิบ: “เมื่อท่านทำส่วนของท่าน—สวดอ้อนวอนด้วยศรัทธา เตรียม ศึกษา มีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน และทำสุดความสามารถ—พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนท่าน ทรงขยายความสามารถให้ท่านทำตามที่ท่านเรียนรู้ และช่วยให้ท่านเป็นดังที่พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านเป็น” (“การเรียนรู้ทั้งจิตวิญญาณ,” เลียโฮนา, ส.ค. 2017, 27)

สำหรับครั้งต่อไป

ขอให้นักเรียนพิจารณาว่าชีวิตพวกเขาจะต่างจากเดิมเพราะพระวิหารและศาสนพิธีพระวิหารอย่างไร อธิบายว่าในชั้นเรียนครั้งต่อไป พวกเขาจะเรียนรู้ว่าเหตุใดศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณจึงปรากฏต่อโจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีในพระวิหารเคิร์ทแลนด์ กระตุ้นให้พวกเขาศึกษาสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน บทที่ 16 เพื่อพวกเขาจะพร้อมสนทนาหลักธรรมที่จะช่วยทำให้พระวิหารมีความหมายต่อชีวิตพวกเขามากขึ้น