บทที่ 26 สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู

ศาสนจักรในตะวันตก

การสถาปนาศาสนจักรทางภาคตะวันตกของสหรัฐเป็นเรื่องราวอันน่าทึ่งของศรัทธา บทนี้จะเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับบทเรียนจากวิสุทธิชนที่ซื่อสัตย์ผู้สร้างรากฐานบนพระเยซูคริสต์และอุทิศชีวิตให้กับการสร้างอาณาจักรของพระองค์ อีกทั้งจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจเหตุการณ์น่าสลดใจครั้งหนึ่งของประวัติศาสนจักรจากช่วงเวลานี้ที่แสดงให้เห็นการฝ่าฝืนคำสอนพระกิตติคุณของพระผู้เป็นเจ้าอย่างร้ายแรง นั่นคือการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

วิสุทธิชนสร้างอาณาจักรของพระเจ้าต่อไปผ่านศรัทธาและการเสียสละ

ให้ดูภาพพรมประดับผนังที่ให้มา หรือนำมาชั้นเรียน นักเรียนพึงเข้าใจว่าพรมประดับผนังเกิดจากการทอด้ายหลายเส้นซ้อนกันจนได้ภาพหรือลายที่สวยงาม

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์สตีเวน อี. สโนว์แห่งสาวกเจ็ดสิบผู้เคยรับใช้เป็นผู้เขียนและผู้บันทึกประวัติศาสนจักร

ถ้าท่านนึกถึงประวัติศาสนจักรเหมือนเป็นผ้าคลุมเตียงหรือพรมประดับผนัง ผ้าผืนนั้นย่อมสวยงามและมีค่าที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าเคยเห็นมา ถ้าท่านพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ท่านจะพบด้ายแปลกๆ บางเส้นในผ้าคลุมเตียงหรือพรมประดับผนังสวยงามผืนนั้น และถ้าท่านดึงด้ายเหล่านั้นขึ้นมาจ้องดู ท่านจะพลาดข่าวสารที่ยอดเยี่ยมในประวัติของเรา ถ้าท่านจะก้าวถอยหลังมาดูผ้าคลุมเตียงหรือพรมประดับผนังทั้งผืน ท่านจะเห็นความสวยงาม (สตีเวน อี. สโนว์, “Start with Faith: A Conversation with Elder Steven E. Snow,” Religious Educator, no. 3 [2013], 11)

อธิบายว่าจากประวัติยุคแรกของศาสนจักรในตะวันตก มีเรื่องราวของวิสุทธิชนที่ซื่อสัตย์หลายพันเรื่องผู้พยายามติดตามพระเยซูคริสต์และเสริมสร้างศาสนจักรของพระเจ้าที่ทำให้เกิดพรมสวยของศรัทธา

หาดูว่านักเรียนคนไหนอ่านเรื่องใดจาก หัวข้อ 1 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน ให้นักเรียนที่อ่านแต่ละเรื่องทำดังนี้:

1. สรุปเรื่องที่เขาอ่าน

2. อธิบายว่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหรือวิสุทธิชนในเรื่องแสดงศรัทธาในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์อย่างไร

3. แบ่งปันบทเรียนหรือหลักธรรมที่เขาเรียนรู้จากเรื่องนั้น

ให้นักเรียนคนอื่นที่อ่านเรื่องเดียวกันเพิ่มข้อคิดก่อนไปเรื่องอื่นต่อ

สมาชิกศาสนจักรยุคแรกบางคนวางแผนและทำการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์

ให้ดูภาพประกอบ และอธิบายให้นักเรียนฟังว่านี่เป็นอนุสรณ์สถานที่ฝังศพผู้เสียชีวิตจากการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์ซึ่งศาสนจักรสร้างไว้ทางภาคใต้ของยูทาห์ อธิบายว่าน่าเศร้าที่เหตุร้ายของเมาน์เทนเมโดวส์เป็นเส้นด้ายอันน่าสลดใจที่ถักทออยู่ในประวัติศาสตร์ของวิสุทธิชน

ถามนักเรียนว่าพวกเขาเรียนรู้อะไรจากการอ่านเรื่องราวการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์ นักเรียนพึงเข้าใจว่าในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1857 ด้วยความช่วยเหลือของพันธมิตรอินเดียนแดงบางคน ทหารบ้านในท้องที่ราว 50 ถึง 60 คนทางภาคใต้ของยูทาห์ได้สังหารผู้ย้ายถิ่นราว 120 คนที่กำลังเดินทางด้วยเกวียนไปแคลิฟอร์เนีย มีเด็กเพียง 17 คนรอดชีวิต

• เหตุการณ์และการเลือกอะไรบ้างที่ทำให้เกิดเหตุสลดใจที่เมาน์เทนเมโดวส์? (หากจำเป็น ให้เวลานักเรียนทบทวน หัวข้อ 2 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียนสักสองสามนาที)

ท่านอาจจะขอให้นักเรียนแบ่งปันหลักธรรมและความจริงจากพระคัมภีร์ที่น่าจะช่วยให้ผู้ตั้งถิ่นฐานเหล่านี้ทำการเลือกต่างออกไป (ตัวอย่างได้แก่ ดู สุภาษิต 28:13; 3 นีไฟ 12:24–25, 43–44; หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:9–11)

• เราได้เรียนรู้บทเรียนอะไรบ้างจากเหตุสลดใจของการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์? (ท่านอาจจะเขียนคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน)

ท่านอาจจะให้เวลานักเรียนสักหนึ่งหรือสองนาทีเขียนหรือแบ่งปันว่าหลักธรรมเหล่านี้จะป้องกันไม่ให้เกิดความปวดร้าวใจโดยไม่จำเป็นในชีวิตพวกเขาเองได้อย่างไร

อธิบายว่าเพราะสมาชิกและผู้นำศาสนจักรในท้องที่บางคนรับผิดชอบเรื่องวางแผนและดำเนินการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์ คนบางส่วนจึงยอมให้เหตุการณ์นี้มีผลในทางลบต่อภาพที่พวกเขามองศาสนจักร

• ท่านจะพูดอะไรกับคนที่คิดกับศาสนจักรในทางลบเพราะการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์? (เชื้อเชิญให้นักเรียนวาดสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จาก หัวข้อ 2 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน)

ให้นักเรียนอ่านและระบุหลักธรรมจาก ฮีลามัน 5:12 ให้ดูข้อความต่อไปนี้ เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงและขอให้ชั้นเรียนดูว่าข้อความนี้แสดงตัวอย่างของหลักธรรมที่สอนใน ฮีลามัน 5:12 อย่างไร

เจมส์ แซนเดอส์เป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายและเป็นเหลนของแนนซี ซาโฟรนา ฮัฟฟ์เด็กคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ บราเดอร์แซนเดอส์บอกเล่าความรู้สึกเกี่ยวกับการสังหารหมู่ดังนี้ “ผมยังรู้สึกเจ็บปวด ผมยังรู้สึกโกรธและเสียใจที่เกิดการสังหารหมู่ … แต่ผมรู้ว่าผู้ก่อเหตุจะต้องรับผิดชอบต่อพระพักตร์พระเจ้า และนั่นทำให้ผมเกิดสันติ” บราเดอร์แซนเดอส์กล่าวว่า “การทราบว่าบรรพชน [คนหนึ่ง] เสียชีวิตในการสังหารหมู่ ‘ไม่มีผลต่อศรัทธาของผมเพราะศรัทธาของผมมีพระเยซูคริสต์เป็นฐาน ไม่ได้มีคนใดในศาสนจักรเป็นฐาน’” (ใน Richard E. Turley Jr., “The Mountain Meadows Massacre,” Ensign, Sept. 2007, 21)

• คำพูดของเจมส์ แซนเดอส์แสดงให้เห็นหลักธรรมที่สอนใน ฮีลามัน 5:12 อย่างไร? (หลังจากนักเรียนตอบ ให้เขียนหลักธรรมต่อไปนี้ไว้บนกระดาน การสร้างศรัทธาของเราบนรากฐานของพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์จะช่วยให้เราเข้มแข็งต่อไปได้แม้สมาชิกศาสนจักรจะมีข้อบกพร่องตามประสามนุษย์ก็ตาม)

• การทำให้ศรัทธาของเรามีพระเยซูคริสต์เป็นฐานจะช่วยเราได้อย่างไรเมื่อเราเห็นหรือเรียนรู้จากกรณีที่สมาชิกศาสนจักรไม่ดำเนินชีวิตตามคำสอนพระกิตติคุณ

• ท่านทำอะไรที่ช่วยให้ท่านสร้างและธำรงศรัทธาของท่านบนรากฐานของพระเยซูคริสต์?

ให้เวลานักเรียนตรึกตรองและจดสิ่งที่พวกเขาจะทำเพื่อธำรงและเสริมสร้างศรัทธาของพวกเขาในพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์

เป็นพยานถึงความสำคัญของการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดและทำให้ศรัทธาของเรามีฐานบนพระองค์และพระกิตติคุณของพระองค์ไม่ว่าสมาชิกศาสนจักรจะมีข้อบกพร่องอะไรก็ตาม เมื่อเราทำเช่นนั้น เราจะช่วยทำให้อาณาจักรของพระคริสต์ก้าวหน้าได้เช่นเดียวกับวิสุทธิชนผู้บุกเบิกที่ซื่อสัตย์

สำหรับครั้งต่อไป

ถามนักเรียนว่าเคยมีคนถามพวกเขาหรือไม่ว่าเหตุใดศาสนจักรจึงไม่ให้สิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตและศาสนพิธีพระวิหารบางอย่างแก่สมาชิกที่มีเชื้อสายแอฟริกันผิวดำอยู่ช่วงหนึ่ง อธิบายว่าในการเตรียมเข้าชั้นเรียนครั้งต่อไป นักเรียนจะมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อนี้และการเปิดเผยที่เกี่ยวข้องใน ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 2 ที่ศาสดาพยากรณ์คาดหวังมานานหลายปี เชื้อเชิญให้พวกเขาเตรียมมาสนทนาสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้และคำถามที่พวกเขามีเกี่ยวกับหัวข้อนี้