“บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู: พระคัมภีร์มอรมอน—ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา” รากฐานของการฟื้นฟู สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู (2019)
“บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู” รากฐานของการฟื้นฟู สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู
บทที่ 6 สื่อการเรียนการสอนสำหรับครู
พระคัมภีร์มอรมอน—ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา
ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธประกาศว่า “พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา” (คำนำของพระคัมภีร์มอรมอน) บทนี้ออกแบบไว้ช่วยนักเรียนอธิบายว่าเหตุใดพระคัมภีร์มอรมอนจึงเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเราและเพิ่มพลังความสามารถของนักเรียนในการตอบคำวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
พระคัมภีร์มอรมอนจำเป็นต่อศาสนจักรของพระผู้เป็นเจ้าและต่อประจักษ์พยานของเรา
ท่านอาจจะเริ่มชั้นเรียนโดยชูพระคัมภีร์มอรมอนขึ้นและให้สนทนาสั้นๆ เกี่ยวกับข้อความและคำถามต่อไปนี้:
การโจมตีมากมายที่มาจากคนวิพากษ์วิจารณ์ศาสนจักรมีเป้าหมายอยู่ที่พระคัมภีร์มอรมอน ท่านคิดว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น?
ให้นักเรียนเปิดหน้าคำนำของพระคัมภีร์มอรมอน อธิบายว่าในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน ค.ศ. 1841 ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธใช้วันนั้นในสภากับอัครสาวกสิบสองที่บ้านของบริคัม ยังก์ประธานโควรัม (ดู History, 1838–1856 [Manuscript History of the Church], volume C-1, 1255, josephsmithpapers.org) ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงย่อหน้าที่หกใน คำนำของพระคัมภีร์มอรมอน เพื่อดูว่าโจเซฟบอกอะไรอัครสาวก เชื้อเชิญให้นักเรียนทำเครื่องหมายความจริงที่โจเซฟสอน
-
ใครยินดีแบ่งปันความคิดหรือประจักษ์พยานของตนเกี่ยวกับคำสอนเหล่านี้บ้าง? (หมายเหตุ: ขณะนักเรียนตอบ ท่านอาจจะใช้แนวคิดการสอนต่อไปนี้ช่วยให้พวกเขาเข้าใจความจริงที่โจเซฟสอนอัครสาวกสิบสอง)
พระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลก
หากจำเป็น ให้ช่วยนักเรียนเข้าใจวลี “พระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลก” โดยใช้ข้อมูลที่พบใน หัวข้อ 2 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน
ท่านอาจจะอธิบายให้นักเรียนฟังด้วยว่าคำกล่าวของโจเซฟ สมิธไม่ได้หมายความว่าพระคัมภีร์มอรมอนที่พิมพ์ออกมาไม่มีข้อผิดพลาด ศาสนจักรทำการแก้ไขพระคัมภีร์มอรมอนแต่ละฉบับตั้งแต่ปี 1829 โดยทำการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในการใช้คำหรือเปลี่ยนการใช้ตัวสะกด เครื่องหมายวรรคตอน หรือตัวพิมพ์ใหญ่ การใช้คำว่า ถูกต้อง ในข้อความนั้นหมายถึงความจริงอันทรงพลังในพระคัมภีร์มอรมอนแต่ไม่ได้หมายความว่าเนื้อความที่พิมพ์ไว้ไม่มีข้อผิดพลาด
พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา
เมื่อนักเรียนกล่าวว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็น “ศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา” ท่านอาจจะให้ดูภาพศิลาหลักเหมือนภาพในสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน เชื้อเชิญให้นักเรียนอธิบายว่าเหตุใดศิลาหลักจึงเป็นอุปลักษณ์ที่ดีสำหรับพระคัมภีร์มอรมอน
เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านหรือสรุปคำกล่าวของประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันใน หัวข้อ 3 ของสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน (คำกล่าวนี้อธิบายสามด้านที่พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา) ท่านอาจจะถามคำถามต่อไปนี้บางข้อหรือทั้งหมดเพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจคำสอนของประธานเบ็นสันลึกซึ้งขึ้นเกี่ยวกับการที่พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลัก
-
พระคัมภีร์มอรมอนเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านถึงพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์อย่างไร?
-
ศาสนจักรตั้งมั่นหรือล้มลงด้วยความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนในด้านใด?
-
ประจักษ์พยานของท่านถึงพระคัมภีร์มอรมอนเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่านถึงหลักคำสอนและคำสอนอื่นของศาสนจักรอย่างไร?
-
พระคัมภีร์มอรมอนกลายเป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยานส่วนตัวของท่านหรือไม่? หากเป็น เป็นอย่างไร?
เราสามารถเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นโดยปฏิบัติตามคำสอนในพระคัมภีร์มอรมอน
แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มเล็กๆ และเชื้อเชิญให้พวกเขาแบ่งปันและอธิบายข้อความในพระคัมภีร์มอรมอนที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น (นักเรียนที่ศึกษาสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมมาเรียนสามารถอ้างถึงสิ่งที่พวกเขาเขียนไว้ท้าย หัวข้อ 4 ได้) ท่านอาจจะเชื้อเชิญให้นักเรียนสนทนาในกลุ่มของตนเช่นกันว่าการดำเนินชีวิตตามคำสอนที่บันทึกไว้ในข้อพระคัมภีร์ที่พวกเขาเลือกช่วยให้พวกเขาเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร
ศัตรูของศาสนจักรพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์มอรมอน
ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของบราเดอร์แทด อาร์. คอลลิสเตอร์อดีตประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญ และเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง:
[พระคัมภีร์มอรมอน] มีน้ำหนักบนตาชั่งของความจริงมากกว่าน้ำหนักรวมกันทั้งหมดของข้อโต้แย้งจากผู้วิพากษ์วิจารณ์ เพราะเหตุใด? เพราะถ้าหนังสือเล่มนี้จริง โจเซฟ สมิธก็เป็นศาสดาพยากรณ์และนี่คือศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ โดยไม่ขึ้นอยู่กับข้อโต้แย้งใดๆ ทางประวัติศาสตร์หรือข้อโต้แย้งอื่นๆ ของปฏิปักษ์ ด้วยเหตุผลนี้ ผู้วิพากษ์วิจารณ์มีเจตนาจะหักล้างพระคัมภีร์มอรมอน แต่พวกเขาเผชิญอุปสรรคมากมายเพราะพระคัมภีร์เล่มนี้จริง (“พยานอันทรงพลังของพระผู้เป็นเจ้า: พระคัมภีร์มอรมอน” เลียโฮนา พ.ย. 2017 หน้า 107)
ช่วยนักเรียนสำรวจแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ต่อไปนี้ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเตรียมสำเนากระดาษให้นักเรียนหากจำเป็น แบ่งแหล่งข้อมูลเหล่านั้นในหมู่นักเรียน และขอให้พวกเขาตรึกตรองและมองหาข้อโต้แย้งบางอย่างที่ผู้วิพากษ์วิจารณ์มีต่อพระคัมภีร์มอรมอน และพิจารณาว่าเราจะใช้แหล่งข้อมูลต่อไปนี้ตอบคำวิพากษ์วิจารณ์เช่นนั้นได้อย่างไรขณะที่เราหมายมั่นให้ได้ความรู้ทางวิญญาณและเพิ่มพูนประจักษ์พยาน ขอให้นักเรียนรายงานบางอย่างที่พบ พวกเขาจะทำสิ่งนี้เป็นกลุ่มเล็กหรือทั้งชั้นก็ได้
-
มอรมอน 8:14–22 โมโรไนจบบันทึกของมอรมอนบิดาท่านด้วยการเตือนคนที่วิพากษ์วิจารณ์พระคัมภีร์มอรมอนในวันเวลาสุดท้าย
-
อีเธอร์ 12:23–29 โมโรไนกังวลว่าอาจมีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ความอ่อนแอในการเขียนของท่านและพลาดพลังของข่าวสารในพระคัมภีร์มอรมอน
-
แทด อาร์. คอลลิสเตอร์ “พยานอันทรงพลังของพระผู้เป็นเจ้า: พระคัมภีร์มอรมอน” เลียโฮนา พ.ย. 2017 หน้า 107–109 (ท่านอาจใช้คำพูดของบราเดอร์คอลลิสเตอร์เฉพาะครึ่งแรก) หรือนักเรียนจะดูวีดิทัศน์เรื่อง “Compelling Witness” (7:46)
-
“Critics of the Book of Mormon,” Church History Topics, history.ChurchofJesusChrist.org.
-
“The Book of Mormon and DNA Studies,” Gospel Topics, topics.ChurchofJesusChrist.org. (ท่านอาจจะใช้แค่หัวข้อ “The Ancestors of the American Indians” และ “Conclusion”)
-
เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ “ความปลอดภัยให้จิตวิญญาณ” เลียโฮนา พ.ย. 2009 หน้า 107–110 (ท่านอาจศึกษาคำพูดของเอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์เฉพาะครึ่งหลัง)
หลังจากนักเรียนสนทนาสิ่งที่พบแล้ว ให้ถามคำถามต่อไปนี้หนึ่งข้อหรือมากกว่านั้น:
-
ท่านคิดว่าเหตุใดพระผู้เป็นเจ้าไม่ประทานหลักฐานทางกายภาพครบถ้วนทั้งหมดเพื่อยืนยันว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง?
-
ท่านจะให้คำแนะนำอะไรแก่เพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวที่บอกท่านว่าเขากำลังต่อสู้กับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน? ท่านจะทำอะไรอีกบ้างเพื่อช่วยเหลือ?
-
ท่านทำอะไร (หรือจะทำอะไรได้บ้าง) ถ้าดูเหมือนจะยังไม่มีคำตอบที่ดีให้กับคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ท่านได้ยิน?
ให้เวลานักเรียนพิจารณาประสิทธิผลของการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนเป็นส่วนตัวสักสองสามนาทีและวางแผนเปลี่ยนแปลงตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณ กระตุ้นให้นักเรียนรวมเป้าหมายจะศึกษาและสวดอ้อนวอนไว้ในแผนของพวกเขาตามต้องการเพื่อให้แน่ใจว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยานของพวกเขา ขณะพวกเขาไตร่ตรอง ท่านอาจจะให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์ เควิน ดับเบิลยู. เพียร์สันแห่งสาวกเจ็ดสิบ:
หากท่านยุ่งยากใจ สับสน หรือหลงทางทางวิญญาณ ข้าพเจ้าแนะนำท่านให้ทำสิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ารู้ว่าจะนำท่านกลับมา เริ่มศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนร่วมกับการสวดอ้อนวอนและดำเนินชีวิตตามนั้นอีกครั้งทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน! ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงพลังอันลึกซึ้งในพระคัมภีร์มอรมอนที่จะเปลี่ยนชีวิตท่านและเพิ่มพลังความตั้งใจจะติดตามพระคริสต์ของท่าน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเปลี่ยนจิตใจท่านและช่วยให้ท่านเห็น “เรื่องดังที่มันเป็นจริง” [เจคอบ 4:13] พระองค์จะทรงแสดงให้ท่านเห็นสิ่งที่ท่านต้องทำต่อไป (เควิน ดับเบิลยู. เพียร์สัน “จงอยู่ใกล้ต้นไม้แห่งชีวิต” เลียโฮนา พ.ค. 2015 หน้า 116)
เชิญนักเรียนสองคนแบ่งปันประจักษ์พยานถึงพระคัมภีร์มอรมอนหากพวกเขาประสงค์จะแบ่งปัน ท่านอาจจะแบ่งปันประสบการณ์ของท่านเช่นกัน
สำหรับครั้งต่อไป
ขอให้นักเรียนพิจารณาว่าพวกเขาประสบพรของอำนาจฐานะปุโรหิตและกุญแจฐานะปุโรหิตในแต่ละสัปดาห์บ่อยเพียงใด กระตุ้นให้พวกเขาศึกษาสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียนบทต่อไปเกี่ยวกับการฟื้นฟูฐานะปุโรหิตและดูว่าฐานะปุโรหิตจะทำให้พวกเขาเข้าถึงเดชานุภาพการช่วยให้รอดของพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร