บทที่ 28 สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน

มาหาพระคริสต์

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสังเกตว่า “การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนจะได้รับรางวัลมากที่สุดเมื่อเรามุ่งเน้นที่จุดประสงค์หลักของพระคัมภีร์ นั่นคือการเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ เมื่อเปรียบเทียบกัน เรื่องราวอื่นๆ ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนประกอบ” (“ประจักษ์พยานในพระคัมภีร์มอรมอน,” เลียโฮนา, ม.ค. 2000, 84) การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้ท่านเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นอย่างไร? ขณะที่ท่านศึกษา ให้ถามตัวท่านเองว่าท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อมาหาพระองค์อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

หมวดที่ 1

พลังอะไรที่ฉันจะได้รับหากฉันสร้างรากฐานบนพระเยซูคริสต์?

ในปีที่ 30 ก่อนคริสตกาลชาวนีไฟ “ตกไปอยู่ในสภาพของความไม่เชื่อและความชั่วร้ายอันน่าพรั่นพรึง” และกำลัง “สุกงอมเพื่อความพินาศ” (ฮีลามัน 4:25; 5:2) ด้วยความเหนื่อยอ่อนจากความชั่วร้ายของผู้คนทั้งหลาย นีไฟลาออกจากการเป็นผู้พิพากษาและอุทิศชีวิตที่เหลือของตนร่วมกับลีไฮน้องชายของท่านในการสั่งสอนพระกิตติคุณ (ดู ฮีลามัน 5:4) ก่อนที่พวกเขาจะออกไปทำงานเผยแผ่ พวกเขายังจำได้ถึงคำปรึกษาสำคัญที่ได้รับจากฮีลามันผู้เป็นบิดาของพวกเขา

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน ฮีลามัน 5:9–12 มองหาสิ่งที่ฮีลามันสอนบุตรชายของเขาเกี่ยวกับเหตุผลที่พวกเขาต้องการสร้างชีวิตบนรากฐานของพระเยซูคริสต์

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

ฮีลามันอธิบายถึงความท้าทายของชีวิตโดยใช้จินตภาพของพายุ พายุใดที่ท่านกำลังเผชิญอยู่ที่ท่านอาจใช้ความช่วยเหลือของพระเจ้าได้?

ขณะรับใช้ในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ ซิสเตอร์เชอร์รี แอล. ดิวสอนว่าเหตุใดพระเยซูคริสต์จึงเป็นรากฐานที่มั่นคงเดียวของเรา:

หากถูกทิ้งให้ต้องพึ่งพาตนเอง มนุษย์ธรรมดาก็จะยอมต่อการชักจูงของซาตานอย่างแน่นอน (ดู โมไซยาห์ 3:19) ซาตานผู้ละทิ้งเหยื่อที่ครั้งหนึ่งเขาเคยหลอกล่อให้ออกจากทางตรงและแคบ แต่พระผู้ช่วยให้รอดจะทรงนำทุกคนที่ติดตามพระองค์ กลับ บ้าน…

พระเจ้าทรงรู้ทางเพราะพระองค์ ทรงเป็น ทางนั้นและทรงเป็นโอกาสเดียวของเราที่จะผ่านความเป็นมรรตัยด้วยความสำเร็จ การชดใช้ของพระองค์ทำให้ทุกคนมีพลังอำนาจ สันติ ความสว่าง และกำลังที่เราต้องการเพื่อจัดการกับความท้าทายของชีวิตที่เกิดจากบาปและความผิดพลาดของเราเองและให้หลุดพ้นจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้แต่ยังคงรู้สึกเจ็บปวด

… พระองค์ทรงสัญญาว่าหากเราสร้างชีวิตบนศิลาของพระองค์ มารจะไม่มีอำนาจเหนือเรา [ดู ฮีลามัน 5:12] และพระองค์ทรงสาบานว่าจะไม่ละเราหรือทอดทิ้งเราเลย [ดู ฮีบรู 13:5] ไม่มีอะไรในความเป็นมรรตัยจะเทียบเท่าได้กับสิ่งนี้ ทั้งในแง่ของคำมั่นสัญญา พลัง หรือความรัก พระองค์ทรงเป็นโอกาสเดียวของเรา (“โอกาสเดียวของเรา,” เสียโฮนา, ก.ค. 1999, 92–93)

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

การสร้างรากฐานของท่านบนพระเยซูคริสต์ช่วยให้ท่านยืดหยัดผ่านพายุที่ถาโถมเข้ามาในชีวิตของท่านอย่างไร?

หมวดที่ 2

ฉันสามารถทำอย่างไรเพื่อมาหาพระเยซูคริสต์?

ในบทสุดท้ายของพระคัมภีร์มอรมอน โมโรไนเชื้อเชิญให้ทุกคนมาหาพระเยซูคริสต์

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน โมโรไน 10:30, 32–33 มองหาสิ่งที่โมโรไนบอกว่าเป็นผลมาจากการเลือกของเราที่จะมาหาพระเยซูคริสต์

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายความหมายของการ “มาหาพระคริสต์” (โมโรไน 10:30, 32) ดังนี้:

การมาหาพระเยซูคริสต์เป็นอักษรย่อ เป็นวิธีหนึ่งที่อธิบายแผนแห่งความรอดด้วยคำสามคำ หมายถึงการได้รับผลแห่งการชดใช้ของพระองค์และการฟื้นคืนพระชนม์ ซึ่งในที่สุดคือชีวิตนิรันดร์ ชีวิตนิรันดร์ขึ้นอยู่กับการใช้สิทธิ์เสรีทางศีลธรรมของเรา แต่จะเป็นไปได้ผ่านพระคุณของพระเยซูคริสต์เท่านั้น การมาหาพระองค์หมายถึงการทำสิ่งที่จำเป็นเพื่อได้รับพระคุณนั้น ซึ่งก็คือการอภัยโทษ การชำระให้บริสุทธิ์ การเปลี่ยนแปลง พลังอำนาจการไถ่ของการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้อันไม่สิ้นสุดของพระองค์ (“Why We Share the Gospel,” Ensign, Aug. 2014, 37)

ประธานแทด อาร์. คอลลิสเตอร์ซึ่งเคยรับใช้เป็นประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญ อธิบายถึงพระคุณของพระเจ้าในลักษณะนี้:

เนื่องจากการชดใช้ของพระองค์ พระผู้ช่วยให้รอดทรงมีเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถ บางครั้งเรียกว่าพระคุณ [ดูBible Dictionary, “Grace”; และดูคู่มือพระคัมภีร์, “พระคุณ,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org] ซึ่งจะช่วยเราเอาชนะความอ่อนแอและความไม่ดีพร้อมของเราด้วยเหตุนี้จึงช่วยให้เรามุ่งมั่นที่จะเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น

โมโรไนสอนว่า “แท้จริงแล้ว, จงมาหาพระคริสต์, และได้รับการทำให้ดีพร้อมในพระองค์ … เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ท่านจะดีพร้อมในพระคริสต์” [โมโรไน 10:32] ดูเหมือนมีอย่างน้อยสองช่องทางหรือวิธีใช้เดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถที่จะขัดเกลาเราได้—แม้ทำให้เราดีพร้อม

หนึ่ง ศาสนพิธีแห่งความรอด … เราอาจคิดว่าศาสนพิธีเป็นรายการหนึ่งที่ต้องทำ—จำเป็นต่อความสูงส่ง แต่ความจริงคือศาสนพิธีแต่ละอย่างปลดปล่อยพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้เราเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น

ช่องทางที่สองสำหรับเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถคือของประทานแห่งพระวิญญาณ เนื่องจากการชดใช้ของพระคริสต์ เรามีสิทธิ์ได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์และของประทานฝ่ายวิญญาณที่มาพร้อมกันด้วย ของประทานเหล่านี้คือคุณลักษณะแห่งความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า แต่ละครั้งที่เราได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณ เราจึงเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้ามากขึ้น (“การ(“ชดใช้ของพระเยซูคริสต์,” เลียโฮนา, พฤษภาคม 2019, 87)

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

ลองนึกถึงสิ่งที่ท่านสามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยเดชานุภาพอันกอปรด้วยพระปรีชาสามารถหรือพระคุณของพระเจ้า ท่านจะทำอย่างไรเพื่ออัญเชิญพระคุณและความช่วยเหลือของพระเจ้าเข้ามาในชีวิตท่าน?

หมวดที่ 3

พระคัมภีร์มอรมอนนำฉันมาสู่พระเยซูคริสต์และช่วยให้ฉันยังคงซื่อสัตย์ต่อพระองค์อย่างไร?

เมื่อโมโรไนย่อบันทึกของชาวเจเร็ดซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของพระคัมภีร์มอรมอน เขาแสดงความกังวลว่าผู้อ่านในอนาคตจะ “ล้อเลียนสิ่งเหล่านี้, เพราะความอ่อนแอในการเขียนของพวกข้าพระองค์” (อีเธอร์ 12:23) พระเจ้าทรงปลอบโยนโมโรไนด้วยการประกาศว่า “พระคุณของเราเพียงพอสำหรับคนอ่อนโยน, เพื่อพวกเขาจะไม่เอาเปรียบความอ่อนแอของเจ้า” (อีเธอร์ 12:26) ต่อมาโมโรไนสวดอ้อนวอนให้คนต่างชาติ เป็นพยานว่าเขาเห็นพระเยซู และให้คำเชิญที่สำคัญแก่ทุกคนที่จะอ่านพระคัมภีร์มอรมอนในที่สุด (ดู อีเธอร์ 12:36–41)

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน อีเธอร์ 12:41 และพิจารณาว่าท่านตอบรับคำเชิญของโมโรไนอย่างไรระหว่างหลักสูตรนี้

บันทึกสิ่งที่ท่านคิด

เมื่อท่านเตรียมตัวสำหรับชั้นเรียนสุดท้าย ลองคิดดูว่าการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านช่วยให้ท่านมาหาพระคริสต์และเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นอย่างไร ระบุความคิด ความรู้สึก ความประทับใจ หรือประสบการณ์เจาะจงที่เพิ่มประจักษ์พยานของท่านมากขึ้นและทำให้การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของท่านมีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น บันทึกความคิดของท่าน

ในการเตรียมตัวสำหรับวันสุดท้ายของชั้นเรียน ให้เลือกและทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้:

• ทางเลือกที่ 1: เลือกข้อพระคัมภีร์หรือคำสอนจากพระคัมภีร์มอรมอนซึ่งมีพลังเป็นพิเศษในการช่วยให้ท่านมาหาพระคริสต์ และบันทึกว่าสิ่งนี้มีอิทธิพลต่อท่านอย่างไร

• ทางเลือกที่ 2: ระบุบุคคลในพระคัมภีร์มอรมอนซึ่งตัวอย่างของบุคคลนั้นช่วยให้ท่านเข้าใจความหมายของการมาหาพระคริสต์มากขึ้น และบันทึกสิ่งที่ท่านเรียนรู้

• ทางเลือกที่ 3: ไตร่ตรองว่าการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนครั้งล่าสุดของท่านสร้างแรงบันดาลใจให้ท่านมาหาพระคริสต์อย่างไร บันทึกว่าประจักษ์พยานของท่านเติบโตขึ้นอย่างไรและการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของท่านเข้มแข็งมากเพียงใด

หลังจากบันทึกความคิดและความรู้สึกของท่านแล้ว ให้พิจารณาร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าใครที่อาจได้รับพรจากสิ่งที่ท่านเขียนและแบ่งปันกับพวกเขา พร้อมแบ่งปันความคิดของท่านระหว่างชั้นเรียน

ต้องการเรียนรู้มากขึ้นหรือไม่? (เลือกได้)

ถ้อยคำสุดท้ายของโมโรไนในพระคัมภีร์มอรมอนคืออะไร?

ในวีดิทัศน์พระคัมภีร์มอรมอน “Moroni Invites All to Come unto Christ (Mormon 8–9; Moroni 1, 10; Title Page)” (8:49) แสดงเรื่องราวถ้อยคำสุดท้ายของโมโรไนก่อนที่เขาจะวางแผ่นจารึกไว้ในเนินเขาคาโมราห์

ฉันจะเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับการสร้างบนรากฐานของพระเยซูคริสต์ได้จากที่ใด?

ในวีดิทัศน์ “ลมหมุนทางวิญญาณ” (2:24) เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่าการสร้างชีวิตของเราบนรากฐานของพระเยซูคริสต์สามารถช่วยให้เรายืนต้านลมหมุนทางวิญญาณที่เราจะเผชิญได้อย่างไร

ฉันจะทำให้การมาหาพระคริสต์เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของฉันได้อย่างไร?

ใน “แตกสลายแต่ซ่อมได้” (เลียโฮนา, พฤษภาคม 2006, 83–86), เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองตอบคำถามว่า “บุคคลจะ ‘มาหาพระคริสต์’ ได้อย่างไร?”