บทที่ 1 สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียน

พระคัมภีร์มอรมอน: พยานหลักฐานอีกเล่มหนึ่งของพระเยซูคริสต์

ยินดีต้อนรับสู่คำสอนและหลักคำสอนของพระคัมภีร์มอรมอน ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า “ความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนมีพลังเยียวยา ปลอบโยน ฟื้นฟู ช่วยเหลือ เสริมสร้าง ปลอบขวัญ และทำให้จิตวิญญาณเรารื่นเริง” (“พระคัมภีร์มอรมอน: ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์เล่มนี้?” เลียโฮนา พ.ย. 2017, 62) ขณะที่ท่านศึกษาและดำเนินชีวิตตามความจริงที่สนทนาในหลักสูตรนี้ ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์ของความจริงจากถ้อยคำของประธานเนลสัน ประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนและศรัทธาของท่านในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์จะเพิ่มขึ้น และท่านจะกลายเป็นเหมือนทั้งสองพระองค์มากขึ้น:

หมายเหตุ: สื่อการเรียนการสอนสำหรับการเตรียมนี้จะปูพื้นฐานให้ประสบการณ์ชั้นเรียนของท่าน การศึกษาสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียนแต่ละบทก่อนมาเรียนจะช่วยให้ท่านมีประสบการณ์การเรียนรู้ที่ลึกซึ้งขึ้นและมีความหมายมากขึ้น

หมวดที่ 1

การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนสามารถช่วยพัฒนาชีวิตฉันได้อย่างไร?

ในช่วงเริ่มต้นของการฟื้นฟูพระกิตติคุณ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธประกาศว่า:

ข้าพเจ้าบอกบรรดาพี่น้องชายว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นหนังสือที่ถูกต้องยิ่งกว่าหนังสือใดๆ บนแผ่นดินโลก และเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา และมนุษย์จะเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้ามากขึ้นโดยการยึดมั่นกับหลักการของหนังสือเล่มนี้ ยิ่งกว่าหนังสือเล่มอื่นใด (คำนำพระคัมภีร์มอรมอน, ย่อหน้า 6)

นับตั้งแต่การจัดพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอน ผู้คนนับล้านได้ค้นพบความจริงของข้อความนี้

เอ็ลเดอร์ปีเตอร์ เอ็ม. จอห์นสันแห่งสาวกเจ็ดสิบแบ่งปันตัวอย่างหนึ่งเกี่ยวกับวิธีที่พระคัมภีร์มอรมอนเป็นพรแก่ชีวิตของเขาเมื่อเขาเป็นเยาวชนชาย:

เมื่อข้าพเจ้าเริ่มเรียนปริญญาเอก ข้าพเจ้ารู้สึกท้อใจ โปรแกรมนี้รับนักศึกษาเพียงสี่คนในปีนั้น และนักศึกษาคนอื่นๆ ก็เป็นคนเก่งมากๆ พวกเขามีคะแนนสอบสูงกว่า มีประสบการณ์มากกว่าในตำแหน่งงานผู้บริหารระดับสูง และพวกเขาแสดงออกถึงความมั่นใจในความสามารถที่มีอยู่ หลังจากสองอาทิตย์แรกในโปรแกรมผ่านไป ความท้อแท้และความสงสัยที่ข้าพเจ้ารู้สึกเริ่มส่งผลกระทบจนข้าพเจ้าแทบรับไม่ไหว

ข้าพเจ้าตัดสินใจว่าหากข้าพเจ้าจะกลับไปเรียนโปรแกรมสี่ปีนี้ให้จบ ข้าพเจ้าจะอ่านพระคัมภีร์มอรมอนให้จบในแต่ละภาคการศึกษาเช่นกัน ทุกวันขณะอ่าน ข้าพเจ้าตระหนักในพระดำรัสของพระผู้ช่วยให้รอดที่ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงสอนข้าพเจ้าทุกสิ่งและจะทรงนำทุกสิ่งเข้ามาสู่ความทรงจำของข้าพเจ้า [ดู ยอห์น 14:26] นั่นเป็นการยืนยันอีกครั้งว่าข้าพเจ้าเป็นบุตรของพระผู้เป็นเจ้า เตือนข้าพเจ้าไม่ให้เปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น และให้ข้าพเจ้ามีความมั่นใจในบทบาทอันสูงส่งที่จะประสบความสำเร็จ … อ่านและศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน (“พลังอำนาจในการเอาชนะปฏิปักษ์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 111)

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันสอนว่า “เราต้องทำให้พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ [เพราะ] พระคัมภีร์เขียนขึ้นสำหรับวันของเรา” (“The Keystone of Our Religion,” Ensign, Jan. 1992, 5) ขณะที่ท่านอ่านข้อความต่อไปนี้จากประธานเนลสัน ให้พิจารณาทำเครื่องหมายว่าพระคัมภีร์มอรมอนสามารถให้พรชีวิตเราได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของเรา

พี่น้องที่รักทั้งหลาย ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นพระคำของพระผู้เป็นเจ้าจริง ๆ พระคัมภีร์มอรมอนมีคำตอบของคำถามสำคัญที่สุดในชีวิต สอนหลักคำสอนของพระคริสต์ ขยายและชี้แจงความจริงที่ “แจ้งชัดและมีค่า” [ดู 1 นีไฟ 13:29–33] มากมายที่สูญหายไปผ่านกาลเวลาหลายศตวรรษและผ่านการแปลพระคัมภีร์ไบเบิลหลายครั้ง

พระคัมภีร์มอรมอนให้ความเข้าใจครบถ้วนที่สุดและเชื่อถือได้มากที่สุดในเรื่องการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ … พลังเปี่ยมล้นของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์มีอยู่ในพระคัมภีร์มอรมอน จริงๆ

พระคัมภีร์มอรมอนชี้แจงคำสอนของพระอาจารย์อีกทั้งเปิดโปงกลยุทธ์ของปฏิปักษ์ พระคัมภีร์มอรมอนสอนหลักคำสอนที่แท้จริงเพื่อขจัดประเพณีผิดๆ ด้านศาสนา—อาทิ การปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง ของการให้บัพติศมาทารก พระคัมภีร์มอรมอนให้จุดประสงค์แก่ชีวิตโดยกระตุ้นให้เราไตร่ตรองโอกาสได้รับชีวิตนิรันดร์และ “ความสุขอันไม่รู้จบ” [โมไซยาห์ 2:41; และดู แอลมา 28:12] พระคัมภีร์มอรมอนทำลายความเชื่อเท็จที่ว่าความสุขพบได้ในความชั่วร้าย และความดีของแต่ละบุคคลคือทั้งหมดที่จำเป็นต่อการกลับไปที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า เลิกล้มแนวคิดผิดๆ ที่ว่าการเปิดเผยสิ้นสุดพร้อมกับพระคัมภีร์ไบเบิลและทุกวันนี้สวรรค์ปิดตาย (“พระคัมภีร์มอรมอน: ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์เล่มนี้” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 62)

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

ท่านหรือคนที่ท่านรู้จักได้รับพรอะไรบ้างจากการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน? ท่านหวังว่าการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนในสองสามเดือนข้างหน้าจะนำพรประเภทใดมาสู่ชีวิตของท่าน?

หมวดที่ 2

การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ประจักษ์พยานของฉันในพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร?

ในนิมิต ศาสดาพยากรณ์นีไฟได้เรียนรู้ว่าจุดประสงค์หลักของพระคัมภีร์มอรมอน (และพระคัมภีร์อื่นๆ ในยุคสุดท้าย) คือการเป็นพยานว่าพระเยซูคริสต์ “คือพระบุตรของพระบิดานิรันดร์, และพระผู้ช่วยให้รอดของโลก; และว่ามนุษย์ทั้งปวงต้องมาหาพระองค์, มิฉะนั้นพวกเขาจะได้รับการช่วยให้รอดไม่ได้” (1 นีไฟ 13:40)

ตลอดช่วงชีวิตของเขา นีไฟทำงานอย่างขยันหมั่นเพียร “เพื่อชักจูงลูกหลาน [ของเขา] และพี่น้อง [ของเขา] ให้เชื่อในพระคริสต์” (2 นีไฟ 25:23) ในส่วนท้ายบันทึกของเขา เขาได้มอบพยานสุดท้ายแห่งพลังของพระคัมภีร์มอรมอนเพื่อนำผู้คนไปหาพระคริสต์

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน 2 นีไฟ 33:6–10 แล้วค้นหาว่านีไฟหวังว่าถ้อยคำของเขาจะมีผลต่อท่านอย่างไร

ประธานเบ็นสันบันทึกว่าผู้คนมากมายทั่วโลกปฏิเสธความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ ท่านอธิบายว่า:

พวกเขาสงสัยการประสูติอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์ พระชนม์ชีพที่ดีพร้อมของพระองค์ และความเป็นจริงของการฟื้นคืนพระชนม์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ พระคัมภีร์มอรมอนสอนความจริงทั้งหมดนี้ด้วยคำพูดที่ชัดเจนไม่ผิดพลาด อีกทั้งให้คำอธิบายครบถ้วนที่สุดเกี่ยวกับหลักคำสอนเรื่องการชดใช้ หนังสือที่ได้รับการดลใจจากเบื้องบนเล่มนี้เป็นศิลาหลักอย่างแท้จริงในการกล่าวคำพยานต่อโลกว่าพระเยซูคือพระคริสต์ … ประจักษ์พยาน [ของพระคัมภีร์มอรมอน] เกี่ยวกับพระอาจารย์จึงชัดเจน ไม่มีสิ่งเจือปน และเปี่ยมด้วยพลัง (คำสอนของประธานศาสนจักร: เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน [2014], 129–130)

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

ใช้เวลาสองสามนาทีเพื่อไตร่ตรองสิ่งที่ท่านเรียนรู้และรู้สึกเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ผ่านการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนของท่าน ท่านสามารถทำอย่างไรเพื่อให้การศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนเป็นประสบการณ์ที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลางยิ่งขึ้น?

หมวดที่ 3

ฉันสามารถใช้สื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียนนี้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพในการพัฒนาประสบการณ์ของฉันในชั้นเรียนนี้?

เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงปรากฏต่อชาวนีไฟในแผ่นดินอุดมมั่งคั่ง พระองค์ทรงมอบโอกาสให้แต่ละคนได้สัมผัสบาดแผลที่พระหัตถ์และพระบาทของพระองค์ จากนั้นทรงสอนหลักคำสอนของพระองค์แก่คนจำนวนมาก พระองค์ทรงประกาศว่าผู้ที่เชื่อในพระองค์และดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระองค์จะได้รับพรอันยิ่งใหญ่ในชีวิตนี้ และฟื้นขึ้นในวันสุดท้าย (ดู 3 นีไฟ 11:29–40; 15:1)

ขณะที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงเตรียมจากไปเมื่อสิ้นวัน พระองค์ทอดพระเนตรไปที่คนจำนวนมากและประทานคำแนะนำสำคัญเกี่ยวกับวิธีเตรียมรับสิ่งที่พระองค์จะทรงสอนพวกเขาในวันรุ่งขึ้น

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน 3 นีไฟ 17:2–3, ดูว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนอะไรเกี่ยวกับการเตรียมเรียนรู้พระกิตติคุณ

บันทึกสิ่งที่ท่านคิด

ท่านอาจต้องระบุและบันทึกเป้าหมายที่ท่านสามารถทำได้ในหลักสูตรนี้เพื่อให้กลายเป็นผู้เรียนพระกิตติคุณของพระเจ้าที่มีความขยันหมั่นเพียรมากขึ้น ท่านอาจวางแผนซึ่งประกอบด้วยกำหนดเวลาที่ท่านจะศึกษาสื่อการเรียนการสอนสำหรับเตรียมเข้าชั้นเรียนแต่ละครั้ง

แบ่งปันกับครูของท่าน

หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ให้ส่งข้อมูลต่อไปนี้ทั้งหมดหรือบางส่วนให้ครูของท่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือท่านอาจเขียนบันทึกย่อเพื่อส่งในภายหลัง

1. ท่านรู้สึกอย่างไรกับพระคัมภีร์มอรมอน?

2. ท่านหวังว่าจะเติบโตในทิศทางใดขณะที่ท่านเข้าร่วมเรียนในหลักสูตรนี้?

3. คำถามใดที่ท่านต้องการหยิบยกมาในระหว่างหลักสูตรนี้?

ต้องการเรียนรู้มากขึ้นหรือไม่? (เลือกได้)

พระคัมภีร์มอรมอนสามารถเปลี่ยนชีวิตฉันอย่างไร?

ในวีดิทัศน์ “A Book of Mormon Story” (5:15) อธิการหนุ่มในอังกฤษอธิบายว่าพระคัมภีร์มอรมอนเข้ามาในชีวิตเขาและเปลี่ยนทัศนคติของเขาไปตลอดกาลอย่างไร

บทความ “The Book of Mormon Changes Lives” (Ensign, กรกฎาคม 2018, 32–35) แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสที่ได้พัฒนาศรัทธาในพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์โดยการอ่านพระคัมภีร์มอรมอน

ฉันสามารถรับพรอะไรบ้างหากฉันศึกษาและไตร่ตรองพระคัมภีร์มอรมอนทุกวัน?

ในคำพูดการประชุมใหญ่สามัญครั้งสุดท้ายของท่าน“พลังของพระคัมภีร์มอรมอน” (เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 86–87), ประธานโธมัส เอส. มอนสันเน้นย้ำพรที่เราสามารถได้รับหากเราศึกษาและไตร่ตรองเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนทุกวันร่วมกับการสวดอ้อนวอน

เพราะเหตุใดพระคัมภีร์มอรมอนจึงเป็นพยานอันทรงพลังในความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์และการเรียกโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์?

ในคำพูด “พยานอันทรงพลังของพระผู้เป็นเจ้า: พระคัมภีร์มอรมอน” (เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 107–109) ประธานแทด อาร์. คอลลิสเตอร์ อดีตประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญอธิบายว่าพระคัมภีร์มอรมอนคือ “พยานอันทรงพลังของพระผู้เป็นเจ้าถึงความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์ การเรียกโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ และความจริงแท้แน่นอนของศาสนจักรนี้” (109)