คำสอนของประธานศาสนจักร
ประวัติโดยสังเขป


ประวัติโดยสังเขป

ลำดับวันเดือนปีต่อไปนี้จะสรุปเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับคำสอนของประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธในหนังสือเล่มนี้

19 กรกฎาคม ค.ศ. 1876

เกิดในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ เป็นบุตรของจูลินา แลมบ์สัน สมิธกับโจเซฟ เอฟ. สมิธ

19 กรกฎาคม ค.ศ. 1884

รับบัพติศมาและการยืนยันโดยบิดาของท่าน ได้รับพระคัมภีร์มอรมอนเป็นของท่านเองครั้งแรกจากบิดาของท่าน

6 เมษายน ค.ศ. 1893

เข้าร่วมการอุทิศพระวิหารซอลท์เลค

ค.ศ. 1896

รับฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคและเอ็นดาวเม้นท์พระวิหาร

26 เมษายน ค.ศ. 1898

แต่งงานกับลูอี เอมิลี เชิร์ทลิฟฟ์ ในพระวิหารซอลท์เลค

พฤษภาคม ค.ศ. 1899 ถึง กรกฎาคม ค.ศ. 1901

รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลาที่ประเทศอังกฤษ

ค.ศ. 1901 ถึง ค.ศ. 1910

รับใช้ในการเรียกของศาสนจักรมากมาย รวมถึงการเป็นประธานโควรัมฐานะปุโรหิต สมาชิกกรรมการสามัญของคณะกรรมการสมาคมการพัฒนาสหกิจกรรมของเยาวชนชาย สมาชิกสภาสูง และสมาชิกของคณะกรรมการศาสนจักรสามัญซึ่งมีหน้าที่เตรียมข้อมูลในการปกป้องศาสนจักร

ตุลาคม ค.ศ. 1901

เริ่มทำงานในสำนักงานของนักประวัติศาสตร์ศาสนจักร

ค.ศ. 1902

จัดพิมพ์คู่มือประวัติครอบครัวเล่มเล็กเรื่อง Asael Smith of Topsfield, Massachusetts พร้อมด้วยเรื่องราวของตระกูลสมิธ นี่เป็นงานชิ้นแรกของท่านในบรรดางานพิมพ์ทั้งหมด รวมถึงหนังสือ 25 เล่มและบทความอีกมากมายสำหรับนิตยสารและวารสารศาสนจักร

8 เมษายน ค.ศ. 1906

ได้รับการสนับสนุนในการประชุมใหญ่สามัญให้เป็นผู้ช่วยนักประวัติศาสตร์ศาสนจักร ดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนมีนาคม ค.ศ. 1921

30 มีนาคม ค.ศ. 1908

ลูอี เชิร์ทลิฟฟ์ถึงแก่กรรมหลังจากทนทุกข์กับการป่วยหนักอันเนื่องมาจากการตั้งครรภ์ครั้งที่สาม

2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1908

แต่งงานกับเอเธล จอร์จินา เรย์โนลด์ส ในพระวิหารซอลท์เลค

7 เมษายน ค.ศ. 1910

ได้รับแต่งตั้งเป็นอัครสาวกโดยบิดาของท่าน

ตุลาคม ค.ศ. 1918

บันทึกการเปิดเผยเรื่องการไถ่คนตายตามคำบอกของบิดาท่าน ผู้เป็นประธานศาสนจักรในเวลานั้น ปัจจุบันการเปิดเผยดังกล่าวมีอยู่ในหลักคำสอนและพันธสัญญา 138

6 มกราคม ค.ศ. 1919

ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานพระวิหารซอลท์เลค ดำรงตำแหน่งจนถึง ค.ศ. 1935

17 มีนาคม ค.ศ. 1921

รับใช้เป็นนักประวัติศาสตร์ศาสนจักร ดำรงตำแหน่งจนถึง ค.ศ. 1970

ค.ศ. 1934

รับใช้เป็นประธานสมาคมลำดับการสืบเชื้อสายของยูทาห์ ดำรงตำแหน่งจนถึง ค.ศ. 1961

26 สิงหาคม ค.ศ. 1937

เอเธล เรย์โนลด์สถึงแก่กรรมหลังจากทนทุกข์ด้วยความเจ็บป่วยเป็นเวลาสี่ปี

12 เมษายน ค.ศ. 1938

แต่งงานกับเจสซี เอลลา อีแวนส์ ในพระวิหารซอลท์เลค

พฤษภาคม ถึง พฤศจิกายน ค.ศ. 1939

ทำงานมอบหมายพิเศษกับเจสซีในทวีปยุโรป โดยเยือนประเทศอังกฤษ สก็อตแลนด์ ฮอลแลนด์ เบลเยียม ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก เชคโกสโลวาเกีย ออสเตรีย และเยอรมนี อำนวยการอพยพจากยุโรปให้ผู้สอนศาสนาชาวอเมริกันทั้งหมดหลังการปะทุของสงครามโลกครั้งที่ 2

8 มิถุนายน ค.ศ. 1945

ได้รับเรียกเป็นประธานพระวิหารซอลท์เลค ดำรงตำแหน่งจนถึง ค.ศ. 1949

6 ตุลาคม ค.ศ. 1950

รับการวางมือมอบหน้าที่เป็นประธานโควรัมอัครสาวกสิบสอง

9 เมษายน ค.ศ. 1951

ได้รับการสนับสนุนเป็นประธานโควรัมอัครสาวกสิบสอง

กรกฎาคม ถึง สิงหาคม ค.ศ. 1955

ทำงานมอบหมายพิเศษกับเจสซีในทวีปเอเชีย อุทิศเมืองกวม เกาหลี โอกินาวา และฟิลิปปินส์เพื่อการสั่งสอนพระกิตติคุณ

กันยายน ค.ศ. 1958

เข้าร่วมการอุทิศพระวิหารลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ตุลาคม ค.ศ. 1960 ถึง มกราคม ค.ศ. 1961

เดินทางร่วมกับเจสซีไปเยือนผู้นำศาสนจักรและผู้สอนศาสนาที่อเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้

พฤษภาคม ค.ศ. 1963

ประกอบพิธีวางศิลามุมเอกของพระวิหารโอกแลนด์ แคลิฟอร์เนีย

กันยายน ค.ศ. 1963

อุทิศอนุสาวรีย์ผู้บุกเบิกในแคนซัสซิตี มิสซูรี และพื้นที่ทางประวัติศาสตร์คุกลิเบอร์ตี้ในลิเบอร์ตี้ มิสซูรี

29 ตุลาคม ค.ศ. 1965

ได้รับเรียกให้รับใช้เป็นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานสูงสุดภายใต้การกำกับดูแลของประธานเดวิด โอ. แมคเคย์

18 มกราคม ค.ศ. 1970

รับใช้เป็นอัครสาวกอาวุโสและเป็นผู้นำควบคุมศาสนจักรช่วงที่ประธานเดวิด โอ. แมคเคย์ถึงแก่กรรม

23 มกราคม ค.ศ. 1970

รับการวางมือมอบหน้าที่เป็นประธานศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

6 เมษายน ค.ศ. 1970

ได้รับการสนับสนุนเป็นประธานศาสนจักรในระหว่างการประชุมใหญ่สามัญ

3 สิงหาคม ค.ศ. 1971

เจสซี อีแวนส์ สมิธ ถึงแก่กรรม

27–29 สิงหาคม ค.ศ. 1971

ควบคุมการประชุมใหญ่ภาคครั้งแรกของศาสนจักรซึ่งจัดขึ้นในแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ

18 มกราคม ค.ศ. 1972

กล่าวคำสวดอ้อนวอนอุทิศพระวิหารออกเด็น ยูทาห์

9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1972

ควบคุมการอุทิศพระวิหารโพรโว ยูทาห์ เขียนคำสวดอ้อนวอนอุทิศและมอบหมายให้ประธานฮาโรลด์ บี. ลี เป็นผู้สวดอ้อนวอน

2 กรกฎาคม ค.ศ. 1972

ถึงแก่กรรมในซอลท์เลคซิตี้ ยูทาห์ 17 วันก่อนวันเกิดปีที่ 96 ของท่าน