คลังค้นคว้า
การจดบันทึกส่วนตัวจะเป็นพรแก่ฉันและครอบครัวฉันอย่างไร


การจดบันทึกส่วนตัวจะเป็นพรแก่ฉันและครอบครัวฉันอย่างไร

พระเจ้าและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์เน้นความสำคัญของการจดบันทึกการเขียนบันทึกส่วนตัวเปิดโอกาสให้เราใคร่ครวญชีวิตเราและรับรู้พรมากมายที่พระผู้เป็นเจ้าประทานแก่เราบันทึกส่วนตัวของเราสามารถเป็นแหล่งการดลใจและความเข้มแข็งให้กับครอบครัวเรารุ่นต่อๆ ไปได้เช่นกัน

เตรียมตัวท่านทางวิญญาณ

ศึกษาข้อพระคัมภีร์และแหล่งข้อมูลต่อไปนี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอน อะไรจะดลใจเยาวชนที่ท่านสอน

1 นีไฟ 1:1–3; แอลมา 37:8–9; โมเสส 6:5, 45–46 (ตัวอย่างการจดบันทึกในพระคัมภีร์)

1 นีไฟ 6:3–6 (สิ่งที่ต้องรวมไว้ในบันทึกส่วนตัว)

3 นีไฟ 23:6–13 (พระผู้ช่วยให้รอดทรงตำหนิชาวนีไฟเพราะความไม่ครบถ้วนของบันทึกของพวกเขา)

เฮนรีย์ บี. อายริงก์ “โอ้จงจำ จงจำไว้,” เลียโฮนา, พ.ย. 2007, 84–88; ดูวีดิทัศน์เรื่อง “โอ้จงจำ จงจำไว้” ด้วย

1:34

ทำการเชื่อมโยง

ในช่วงแรกของชั้นเรียนทุกครั้ง จงช่วยเยาวชนทำการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่พวกเขากำลังเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ (เช่นการศึกษาส่วนตัว เซมินารี ชั้นเรียนอื่นของศาสนจักร หรือประสบการณ์กับเพื่อนๆ)ท่านจะช่วยให้พวกเขาเห็นความเกี่ยวเนื่องของพระกิตติคุณในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างไรแนวคิดด้านล่างอาจจะช่วยท่านได้:

  • เชื้อเชิญเยาวชนให้แบ่งปันประสบการณ์ที่พวกเขามีเมื่อเร็วๆ นี้ในการเป็นพยานถึงความจริงพระกิตติคุณ

  • หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ให้แบ่งปันข้อมูลจากบันทึกส่วนตัวของท่านหรือของบรรพชน (หรือเชิญสมาชิกชั้นเรียนหรือสมาชิกวอร์ดคนหนึ่งให้ทำเช่นนั้น)เหตุใดการบันทึกประสบการณ์นี้จึงสำคัญผู้อื่นจะได้รับพรเพราะมีคนจดบันทึกส่วนตัวอย่างไร

เรียนรู้ด้วยกัน

กิจกรรมแต่ละอย่างด้านล่างจะช่วยให้เยาวชนเข้าใจความสำคัญของการจดบันทึกส่วนตัว เลือกกิจกรรมหนึ่งอย่างหรือมากกว่านั้นซึ่งจะได้ผลดีที่สุดกับชั้นเรียนของท่านตามการดลใจของพระวิญญาณ:

  • เชื้อเชิญเยาวชนให้อ่านแปดย่อหน้าแรกจากคำพูดของประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์เรื่อง “โอ้จงจำ จงจำไว้” (หรือฉาย วีดิทัศน์ เกี่ยวกับคำพูดนั้น) และขอให้พวกเขามองหาพรที่เกิดขึ้นเพราะประธานอายริงก์เขียนประสบการณ์ของท่านทุกวัน พวกเขาเรียนรู้อะไรอีกบ้างเกี่ยวกับการจดบันทึกส่วนตัวจากข่าวสารของประธานอายริงก์ อ่านย่อหน้าสุดท้ายของคำพูดนั้นด้วยกัน และแบ่งปันประสบการณ์เมื่อเร็วๆ นี้จากชีวิตท่านซึ่งท่านเห็นพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าหรือดูเหมือนพระองค์ทรงมีข่าวสารให้ท่าน เชื้อเชิญเยาวชนให้ไตร่ตรองคำตอบของพวกเขาสำหรับคำถามที่ประธานอายริงก์ถามและบันทึกความคิดของพวกเขา

    1:34
  • ขอให้เยาวชนอ่านพระคัมภีร์ต่อไปนี้คนละหนึ่งข้อ: 1 นีไฟ 1:1–3; แอลมา 37:8–9; โมเสส 6:5, 45–46 ขอให้เยาวชนตรึกตรองและแบ่งปันพรบางอย่างที่เกิดขึ้นเพราะผู้คนในพระคัมภีร์เหล่านี้จดบันทึก ผู้คนไม่จดบันทึกส่วนตัวด้วยเหตุผลอะไรบ้าง เยาวชนเรียนรู้อะไรจากข้อเหล่านี้ที่ช่วยให้พวกเขาเห็นความสำคัญของการเขียนบันทึกส่วนตัว กระตุ้นพวกเขาให้อ่านบันทึกส่วนตัวของบรรพชน (หากทำได้) หรือสัมภาษณ์บิดามารดาหรือปู่ย่าตายายและจดประจักษ์พยาน เรื่องราวการเปลี่ยนใจเลื่อมใส ประสบการณ์ชีวิตที่มีความหมาย และความทรงจำที่ชื่นชอบของพวกท่าน

  • ขอให้เยาวชนทำรายการสิ่งที่จะเขียนลงในบันทึกส่วนตัว ให้ชั้นเรียนอ่าน 1 นีไฟ 6:3–6 ขอให้เยาวชนหาสิ่งที่นีไฟต้องการรวมไว้ในบันทึกของเขา และเพิ่มสิ่งเหล่านี้เข้าไปในรายการ เชื้อเชิญเยาวชนให้ไตร่ตรองว่าพวกเขารู้สึกว่าควรเขียนอะไรลงในบันทึกส่วนตัวของพวกเขาและให้เวลาพวกเขาเขียนสักสองสามย่อหน้าในบันทึกส่วนตัว

  • เชื้อเชิญเยาวชนให้อ่าน 3 นีไฟ 23:6–13 พระคัมภีร์ข้อนี้อาจจะประยุกต์ใช้กับการพยายามจดบันทึกส่วนตัวของเราได้อย่างไร ขอให้เยาวชนนึกถึงประสบการณ์ที่มีความหมายหรือประสบการณ์ทางวิญญาณที่เคยมีและพวกเขารู้สึกว่าควรบันทึกไว้ พวกเขาหรือคนอื่นๆ ได้รับพรจากการอ่านประสบการณ์นี้อย่างไร ให้เวลาพวกเขาเขียนประสบการณ์เหล่านี้ในชั้นเรียน

  • เลือกคำพูดหรือบทความจากเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวกับการจดบันทึกส่วนตัวหรือประวัติส่วนตัว เชื้อเชิญเยาวชนให้อ่านหัวข้อในนั้นแล้วเขียนบนแผ่นกระดาษสักหนึ่งหรือสองความคิดหรือข้อคิดที่พวกเขาพบว่าสร้างแรงบันดาลใจหรือเป็นประโยชน์ เมื่อทุกคนเขียนเสร็จแล้ว ขอให้เยาวชนส่งกระดาษให้คนที่นั่งติดกัน เชื้อเชิญพวกเขาให้เติมข้อคิดที่ตนพบลงในกระดาษแผ่นนั้นแล้วส่งต่อจนทุกคนในชั้นได้แบ่งปันข้อคิดของตน กระตุ้นเยาวชนให้นำกระดาษของพวกเขากลับบ้านและใช้เป็นแนวทางขณะเขียนในบันทึกส่วนตัวของพวกเขา

ขอให้เยาวชนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้ พวกเขาเข้าใจพรของการจดบันทึกส่วนตัวหรือไม่ พวกเขามีความรู้สึกหรือความประทับใจอะไรบ้าง พวกเขามีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่ การใช้เวลามากขึ้นกับหัวข้อนี้จะคุ้มค่าหรือไม่

เชื้อเชิญให้กระทำ

ถามเยาวชนว่าพวกเขารู้สึกได้รับการดลใจให้ทำอะไรเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้วันนี้กระตุ้นพวกเขาให้กระทำตามความรู้สึกเหล่านี้หาวิธีที่ท่านจะติดตามผล