บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 3–7; 10; โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:66–67 (หน่วย 3)

เนื้อหาเตรียมสอนสำหรับครูภาคการศึกษาที่บ้าน

บทสรุปของบทเรียนภาคการศึกษาที่บ้านประจำวัน

บทสรุปต่อไปนี้ของเหตุการณ์ หลักคำสอน และหลักธรรมที่นักเรียนเรียนรู้ขณะศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 3–7; 10; โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:66–67 (หน่วย 3) ไม่ได้เจตนาให้ใช้สอนในบทเรียนของท่าน บทเรียนที่ท่านสอนเน้นเฉพาะหลักคำสอนและหลักธรรมเหล่านี้เพียงไม่กี่ข้อ จงทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขณะพิจารณาความต้องการของนักเรียน

วันที่ 1 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 3; 10)

ขณะนักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับสภาวะของการสูญเสียต้นฉบับพระคัมภีร์มอรมอน 116 หน้า พวกเขาค้นพบว่าจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าจะล้มเหลวไม่ได้ การที่พระเจ้าทรงติเตียนโจเซฟ สมิธเพราะท่านรบเร้าจะนำเอาต้นฉบับให้มาร์ติน แฮร์ริสสอนนักเรียนว่าพวกเขาควรยำเกรงพระผู้เป็นเจ้ามากกว่ากลัวคำชักชวนของมนุษย์และหากเราซื่อสัตย์ต่อพระบัญญัติของพระเจ้า พระองค์จะทรงค้ำจุนเราในยามทุกข์ยาก หลังจากคืนแผ่นจารึกให้โจเซฟ สมิธ พระเจ้าทรงสอนท่านว่าซาตานปรารถนาจะทำลายงานของพระเจ้าและจิตวิญญาณของเรา แต่เมื่อเราสวดอ้อนวอนเสมอ เราจะมีพลังเอาชนะซาตานและคนที่รับใช้เขา

วันที่ 2 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 4)

จากพระดำรัสตอบของพระเจ้าต่อความปรารถนาจะรู้สิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้โจเซฟ สมิธ ซีเนียร์ทำ นักเรียนเรียนรู้ว่าหากพวกเขารับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดใจ พลัง ความนึกคิด และพละกำลังของพวกเขา พวกเขาจะจะยืนอย่างปราศจากข้อตำหนิต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้าในวันสุดท้าย พวกเขาเรียนรู้เช่นกันว่าเมื่อพวกเขาทำงานอย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อนำผู้อื่นมาหาพระเยซูคริสต์ พวกเขาจะได้รับความรอดสำหรับตนเช่นกัน สุดท้าย นักเรียนระบุคุณลักษณะอันสูงส่งที่ทำให้บุคคลมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะช่วยงานของพระเจ้า

วันที่ 3 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 5)

เมื่อมาร์ติน แฮร์ริสแสวงหาพยานเพิ่มเติมยืนยันการมีแผ่นจารึกอยู่จริง พระเจ้าทรงสอนมาร์ตินว่าพระองค์ทรงเรียกโจเซฟ สมิธมามอบพระคำของพระองค์ให้ชาวโลกแต่ประจักษ์พยานของพยานสามคนจะเป็นหลักฐานยืนยันความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนเช่นกัน นักเรียนเรียนรู้ว่าหากพวกเขาจะเชื่อพระคำของพระเจ้า พระวิญญาณจะทรงยืนยันความจริงเหล่านั้น ภาคนี้ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเช่นกันว่าหากเราสวดอ้อนวอนอย่างจริงใจในความนอบน้อมถ่อมตนและศรัทธา เมื่อนั้นเราจะได้รับคำตอบตามความปรารถนาอันชอบธรรมของเรา

วันที่ 4 (โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:66–67; หลักคำสอนและพันธสัญญา 6–7)

พระเจ้าทรงสอนความจริงสำคัญๆ ให้แก่ออลิเวอร์ คาวเดอรีเรื่องการได้รับและรับรู้การเปิดเผย นักเรียนใคร่ครวญว่าจะประยุกต์ใช้ความจริงเหล่านี้กับพวกเขาอย่างไร นอกจากนี้พวกเขายังเรียนรู้ด้วยว่าพระเจ้าตรัสให้ความสงบแก่จิตใจเราเพื่อเป็นพยานถึงความจริง นักเรียนเรียนรู้เช่นกันว่าเมื่อเราดูที่พระเยซูคริสต์ด้วยศรัทธา เราสามารถเอาชนะความสงสัยและความกลัวได้

คำนำ

ระหว่างบทเรียนนี้ส่วนใหญ่นักเรียนจะศึกษาจาก หลักคำสอนและพันธสัญญา 10 ซึ่งเปิดเผยต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธหลังจากสูญเสียต้นฉบับพระคัมภีร์มอรมอน 116 หน้า ก่อนการเปิดเผยนี้โมโรไนได้นำแผ่นจารึกกับอูริมและทูมมิมไปจากโจเซฟ สมิธ ท่านศาสดาพยากรณ์จึงสูญเสียพลังอำนาจในการแปลไปช่วงหนึ่ง หลังจากได้แผ่นจารึกคืน พระเจ้าทรงบัญชาโจเซฟไม่ให้แปลแผ่นจารึกซ้ำในส่วนที่ตรงกับต้นฉบับ 116 หน้าที่หายไป พระเจ้าทรงเปิดเผยเช่นกันว่าซาตานมีแผนจะทำลายงานนั้นและสอนวิธีที่เราจะชนะซาตาน

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 3; 10

ซาตานหมายมั่นทำลายโจเซฟ สมิธและงานของพระผู้เป็นเจ้า

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอธิบายสภาวะของการสูญเสียต้นฉบับ 116 หน้า จากนั้นให้สนทนาคำถามต่อไปนี้

• จากสิ่งที่ท่านเรียนรู้ขณะศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 3ท่านคิดว่าเหตุใดโจเซฟ สมิธจึงยืนกรานที่จะทูลถามคำถามเดิมกับพระผู้เป็นเจ้าหลังจากได้รับคำตอบชัดเจนแล้ว

• ท่านคิดว่าโจเซฟ สมิธเรียนรู้อะไรจากประสบการณ์นี้

• ท่านเรียนรู้ความจริงอะไรบ้างจากประสบการณ์ของโจเซฟที่สามารถช่วยท่านได้เมื่อผู้อื่นกดดันท่านให้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

ให้ดูบ่วงหรือกับดัก (หรือ วาดรูป บนกระดาน) ขอให้นักเรียนสองสามคนสรุปสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากการศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 10 ว่าซาตานเจตนาจะใช้ต้นฉบับ 116 หน้าที่หายไปล่อโจเซฟให้ติดกับอย่างไร

อธิบายว่าใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:20–29 พระเจ้าตรัสถึงคนที่ยอมต่อการชักจูงของซาตานให้นำต้นฉบับ 116 หน้าไปและวิธีที่ซาตานล่อพวกเขาให้ติดกับ

แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ ขอให้นักเรียนคนหนึ่งในแต่ละคู่อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:20–29 ในใจโดยดูว่าข้อเหล่านี้สอนอะไรเกี่ยวกับเป้าหมายของซาตาน ขอให้นักเรียนอีกคนอ่านข้อเดียวกันโดยมองหาวิธีที่ซาตานพยายามทำให้บรรลุเป้าหมายของเขา เมื่ออ่านจบแล้ว ให้นักเรียนแต่ละคู่รายงานต่อกัน หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้ถามนักเรียนดังนี้

• เราสามารถเรียนรู้อะไรจาก หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:20–29 เกี่ยวกับจุดประสงค์ของซาตาน (นักเรียนอาจระบุหลักธรรมหลากหลาย แต่พวกเขาพึงเข้าใจว่า ซาตานปรารถนาจะทำลายงานของพระเจ้าและจิตวิญญาณของเรา ท่านอาจต้องการเขียนหลักคำสอนนี้ไว้บนกระดาน นอกจากนี้ ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายคำและวลีที่สอนความจริงนี้ใน ข้อ 22–23 และ 27 ด้วย)

• จากที่ท่านอ่านในข้อเหล่านี้ ซาตานหมายมั่นทำลายงานของพระเจ้าและจิตวิญญาณของเราอย่างไร (เขาใช้เครื่องมือเช่น การหลอกลวง ความโกรธ การป้อยอ และการกล่าวเท็จ ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายเครื่องมือเหล่านี้ของปฏิปักษ์ในพระคัมภีร์ของพวกเขา)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจและรู้สึกถึงความสำคัญของความจริงนี้ เชื้อเชิญให้พวกเขาสนทนาคำถามต่อไปนี้กับคู่ (ท่านอาจต้องการเขียนคำถามเหล่านี้ไว้บนกระดานหรือเตรียมเป็นเอกสารแจกก่อนชั้นเรียน)

• ท่านเคยเห็นหลักฐานอะไรยืนยันว่าซาตานใช้การหลอกลวง ความโกรธ การป้อยอ และการกล่าวเท็จทำลายงานของพระเจ้าและจิตวิญญาณของมนุษย์

• การรับรู้เจตนาและวิธีการของซาตานจะช่วยเราหลีกเลี่ยงและหนีพ้นกับดักของเขาได้อย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขาเคยรู้สึกหรือเคยเห็นปฏิปักษ์ใช้วิธีใดใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:20–29 และพวกเขาจะทำอะไรได้บ้างเพื่อหลีกเลี่ยงหรือหนีพ้นกับดักของซาตาน

อธิบายว่าในการเปิดเผยนี้ พระเจ้าประทานพระบัญญัติและคำสัญญาเกี่ยวกับการพยายามหลีกเลี่ยงอิทธิพลของซาตาน เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:5 ขอให้ชั้นเรียนมองหาทั้งพระบัญชาและคำสัญญาของพระเจ้า

เขียนบนกระดานดังนี้: เมื่อเรา เราจะมีพลัง .

ถามนักเรียนว่าพวกเขาจะเติมหลักธรรมนี้ให้ครบถ้วนตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 5 ว่าอย่างไร (นักเรียนอาจระบุหลักธรรมหลากหลาย แต่พึงเน้นว่า เมื่อเราสวดอ้อนวอนเสมอ เราจะมีพลังเอาชนะซาตานและคนที่รับใช้เขา)

ขอให้นักเรียนทบทวน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:38–45 จากนั้นให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอธิบายว่าพระเจ้าทรงชดเชยการสูญเสียต้นฉบับ 116 หน้าอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:43 ในใจโดยมองหาความจริงสำคัญที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้โจเซฟ สมิธเข้าใจ (ขณะที่นักเรียนแบ่งปันแนวคิดของพวกเขา ให้เขียนหลักคำสอนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: พระปรีชาญาณของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่กว่ากลโกงของมาร ท่านอาจจำเป็นต้องอธิบายว่า กลโกง หมายถึงการใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกผู้คน)

ถามคำถามต่อไปนี้

• แผนของพระเจ้าเพื่อทดแทนต้นฉบับที่หายไปแสดงให้เห็นความจริงนี้อย่างไร

• แผนนี้ช่วยให้ท่านรู้ได้อย่างไรว่าพระปรีชาญาณของพระผู้เป็นเจ้ายิ่งใหญ่กว่ากลโกงของซาตาน

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:44–45 โดยมองหาหลักฐานเพิ่มเติมยืนยันความจริงที่เขียนไว้บนกระดาน

• ตามที่กล่าวไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 10:44–45เหตุใดแผ่นจารึกเล็กจึงมีค่ามากกว่าความย่อของมอรมอนจากแผ่นจารึกใหญ่ใน 116 หน้าที่หายไป (แผ่นจารึกเล็กประกอบด้วยเรื่องทางวิญญาณที่ได้มาโดยตรง 116 หน้าที่หายประกอบด้วยเรื่องย่อของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์)

• การรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียมทางให้ชดเชยต้นฉบับ 116 หน้าที่หายไปช่วยให้ท่านวางใจพระองค์เต็มที่มากขึ้นอย่างไร

หลักคำสอนและพันธสัญญา 4–7

พระเจ้าทรงแนะนำโจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีไม่ให้สงสัยหรือกลัว

เชื้อเชิญให้นักเรียนรายงานความจริงบางประการพอสังเขปเกี่ยวกับการเปิดเผยส่วนตัวที่พวกเขาเรียนรู้ขณะศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 6 เชื้อเชิญให้พวกเขาไตร่ตรองประสบการณ์เมื่อรู้สึกว่าความนึกคิดของพวกเขาสว่างและรู้สึกสงบกับบางสิ่งที่พวกเขาสวดอ้อนวอน เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันประสบการณ์กับชั้นเรียน

เตือนความจำนักเรียนว่าส่วนหนึ่งของการศึกษาข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:36คือพวกเขาได้เขียนคำพูดสั้นๆ อธิบายวิธีดำเนินชีวิตตามคำแนะนำที่พระเจ้าประทานในข้อนั้น เชื้อเชิญให้พวกเขาอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 6:36พร้อมกัน ท่านอาจจะให้อ่านซ้ำเพื่อช่วยพวกเขาท่องจำ จากนั้นขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันคำพูดหากพวกเขารู้สึกสะดวกใจจะทำเช่นนั้น ท่านอาจต้องการแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านว่าพระเจ้าทรงช่วยให้ท่านเอาชนะความสงสัยหรือความกลัวในอดีตอย่างไร

หน่วยถัดไป (หลักคำสอนและพันธสัญญา 8–9; 11–16)

วิญญาณแห่งการเปิดเผยคืออะไร ท่านรับรู้ได้อย่างไรว่ากำลังได้รับการเปิดเผยจากพระผู้เป็นเจ้า อธิบายว่าในหน่วยถัดไป นักเรียนจะเรียนเรื่องหลักธรรมแห่งการเปิดเผยที่จะเป็นพรแก่พวกเขาขณะแสวงหาการนำทางจากพระผู้เป็นเจ้าในชีวิตพวกเขา