เซมินารีและสถาบัน
บทที่ 95: หลักคำสอนและพันธสัญญา 89


บทที่ 95

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89

คำนำ

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1833 โจเซฟ สมิธทูลถามพระเจ้าเกี่ยวกับการใช้ยาสูบของผู้ดำรงฐานะปุโรหิตในการประชุมของพวกเขา พระเจ้าทรงตอบโดยประทานการเปิดเผยใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 89 เป็นที่รู้กันว่าคือพระคำแห่งปัญญา ในนั้นพระเจ้าทรงเตือนไม่ให้ใช้สารอันตรายและส่งเสริมการบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ พระเจ้าทรงสัญญาเช่นกันว่าคนที่ทำตามพระคำแห่งปัญญาจะได้รับพรทั้งทางร่างกายและทางวิญญาณ

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:1–3

พระเจ้าทรงแนะนำให้รู้จักการเปิดเผยที่รู้กันว่าพระคำแห่งปัญญา

เขียน พระคำแห่งปัญญา ไว้บนสุดของกระดานและถามคำถามต่อไปนี้

  • ท่านเคยต้องอธิบายให้คนบางคนฟังหรือไม่ว่าเหตุใดท่านไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ชา หรือกาแฟ หรือใช้ยาสูบ ท่านพูดอะไร บุคคลคนนั้นตอบสนองอย่างไร (ท่านอาจต้องการเขียนคำถามเหล่านี้ไว้บนกระดานก่อนชั้นเรียน เมื่อเริ่มชั้นเรียน ท่านอาจจะแบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ และเชื้อเชิญให้พวกเขาตอบคำถามเหล่านี้ด้วยกัน จากนั้นขอให้พวกเขารายงานประสบการณ์บางอย่างกับชั้นเรียน)

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำนำภาคของ หลักคำสอนและพันธสัญญา 89 ขอให้ชั้นเรียนระบุสภาวการณ์ที่นำโจเซฟ สมิธให้ได้รับการเปิดเผยนี้ เชื้อเชิญให้พวกเขารายงานสิ่งที่พบ

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:1–3 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาคำหรือวลีที่บอกจุดประสงค์ซึ่งพระเจ้าประทานการเปิดเผยนี้

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 2–3 เหตุใดจึงประทานการเปิดเผยนี้ (ท่านอาจต้องอธิบายว่าวลี “ความรอดฝ่ายโลก” เกี่ยวข้องกับความผาสุกทางกายของเราและอิทธิพลของความผาสุกนั้นต่อความผาสุกของวิญญาณเรา)

ชี้ให้เห็นว่าเดิมทีพระเจ้าไม่ได้ประทานพระคำแห่งปัญญาให้วิสุทธิชนเป็นพระบัญญัติ (ดู คพ. 89:2) ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธอธิบายดังนี้

ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ

“หากประทาน [พระคำแห่งปัญญา] ให้เป็นพระบัญญัติคงทำให้ชายทุกคนที่ติดการใช้สิ่งเป็นพิษเหล่านี้อยู่ภายใต้การกล่าวโทษ เพราะพระเจ้าทรงเมตตาจึงประทานโอกาสให้พวกเขาเอาชนะก่อนจะทรงนำคนเหล่านี้มาอยู่ภายใต้กฎ” (ใน Conference Report, Oct. 1913, 14)

อธิบายว่าเพราะเหตุนี้เราจึงควรระวังอย่าตัดสินผู้นำศาสนจักรยุคแรกและสมาชิกบางคนผู้ใช้สารที่ปัจจุบันเป็นสารต้องห้ามแม้หลังจากเปิดเผยพระคำแห่งปัญญาแล้ว ตลอดประวัติศาสตร์ยุคแรกของศาสนจักร ผู้นำเชื้อเชิญให้วิสุทธิชนดำเนินชีวิตตามพระคำแห่งปัญญาอย่างครบถ้วนมากขึ้น ในการประชุมใหญ่สามัญฤดูใบไม้ร่วง ปี1851 บริคัม ยังก์เสนอให้วิสุทธิชนทุกคนทำพันธสัญญาอย่างเป็นทางการว่าจะละเว้นชา กาแฟ ยาสูบ และวิสกี้ วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1882 พระเจ้าทรงเปิดเผยต่อประธานจอห์น เทย์เลอร์ให้ถือพระคำแห่งปัญญาเป็นพระบัญญัติ คริสต์ศักราช 1919 ฝ่ายประธานสูงสุด ภายใต้ประธานฮีเบอร์ เจ. แกรนท์ทำให้การถือปฏิบัติพระคำแห่งปัญญาเป็นข้อกำหนดสำหรับการได้ใบรับรองพระวิหาร พระคำแห่งปัญญายังคงเป็นพระบัญญัติสำคัญในทุกวันนี้ และการเชื่อฟังเป็นเงื่อนไขจำเป็นอันดับแรกสำหรับบัพติศมา การเข้าพระวิหาร การรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา และการรับใช้ที่มีค่าควรอื่นๆ ในศาสนจักร

เขียนบนกระดานใต้ พระคำแห่งปัญญา ว่า หลักธรรมพร้อมด้วยสัญญา จาก ข้อ 3ตามตัวอย่างด้านล่าง ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายวลีนี้ในพระคัมภีร์ของพวกเขาเช่นกัน วลีนี้จะใช้เป็นประเด็นหลักสำหรับบทเรียนที่เหลือ

หลักธรรม พร้อมด้วย สัญญา

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:4–9

พระเจ้าทรงเตือนวิสุทธิชนไม่ให้ใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ชา หรือกาแฟ

ให้นักเรียนดู คันเบ็ดและเหยื่อตกปลาหรือวาดรูปบนกระดาน

คันเบ็ดกับเหยื่อ
  • คนตกปลาหลอกปลาให้ติดเบ็ดอย่างไร

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:4 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาว่าพระเจ้าทรงเตือนว่าใครจะพยายามหลอกวิสุทธิชนในวันเวลาสุดท้าย

  • พระเจ้าทรงเตือนวิสุทธิชนเรื่องอะไรในข้อนี้

เขียนหลักธรรมต่อไปนี้ไว้บนกระดานใต้คำว่า หลักธรรม: เพราะแผนชั่วในวันเวลาสุดท้าย พระเจ้าทรงเตือนเราไม่ให้ใช้สารอันตราย เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:5–9 ในใจและมองหาสารที่พระเจ้าทรงเตือนวิสุทธิชนไม่ให้นำเข้าสู่ร่างกาย ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้นักเรียนทำเครื่องหมายสิ่งที่พบ

  • พระเจ้าทรงเตือนวิสุทธิชนไม่ให้นำสารอะไรเข้าสู่ร่างกาย (ท่านอาจต้องอธิบายว่าผู้นำศาสนจักรกล่าวไว้ว่า “เครื่องดื่มร้อน” หมายถึงชาและกาแฟ) สารเหล่านี้เป็นอันตรายในด้านใด

ชี้ให้เห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบมีทั้งประโยชน์และโทษ (ดู คพ. 89:7–8) ปัจจุบันมีสารอื่นที่ใช้กันอย่างผิดๆ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นอันตรายและทำให้เสพติด ผู้นำศาสนจักรได้เตือนเรื่องการใช้เครื่องดื่ม ยา สารเคมี หรือการปฏิบัติที่เป็นอันตรายอันก่อให้เกิด “พิษ” หรือผลข้างเคียงอื่นๆ ซึ่งให้โทษต่อร่างกายหรือสมองของเรา สารบางอย่างเหล่านี้ได้แก่กัญชา ยาเสพติดให้โทษ ยาที่แพทย์สั่งหรือยาจากร้านขายยาที่ใช้ผิดประเภท หรือสารเคมีที่ใช้ในครัวเรือน (ดู เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน [จุลสาร, 2011], 26)

  • เหตุใดบางคนจึงอาจจะชักชวนท่านให้ใช้สารที่พระเจ้าทรงห้าม (บางคนรู้สึกว่าคนทั่วไปนิยมใช้สารเหล่านี้ หลายคนพยายามค้ากำไรจากการขายสารเสพติดให้ผู้อื่น)

  • การเสพติดเหมือนตะขอเบ็ดที่คนตกปลาใช้จับปลาในด้านใด การเสพติดกำลังทำลายความก้าวหน้านิรันดร์ของเราในด้านใด

เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันว่าคำเตือนให้ละเว้นสารเสพติดให้โทษเป็นพรแก่ชีวิตพวกเขาหรือชีวิตเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวของพวกเขาอย่างไร ท่านอาจต้องการแบ่งปันประสบการณ์ของท่านเอง เชื้อเชิญให้นักเรียนตัดสินใจว่าจะไม่ใช้สารที่ขัดกับพระคำแห่งปัญญา

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:10–17

พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งเสริมการใช้สมุนไพร ผลไม้ เนื้อ และธัญพืช

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:10–17 ในใจและมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงส่งเสริมให้เรากิน ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้พวกเขาทำเครื่องหมายสิ่งที่พบ

  • พระเจ้าทรงแนะนำให้เรากินอาหารอะไรอันเป็นส่วนหนึ่งของพระคำแห่งปัญญา

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 11เราควรมีเจตคติแบบใดเมื่อเรารับประทานอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ (เราควรรับประทานอาหารเหล่านี้ด้วยความรอบคอบและการน้อมขอบพระทัย ท่านอาจต้องชี้แจงว่า “ด้วยความรอบคอบ” หมายถึงอย่างฉลาดและระมัดระวัง การรับประทานอาหารที่ดีมากเกินไปหรือไม่สมดุลจะทำให้เสียสุขภาพได้)

  • จากสิ่งที่เราเรียนรู้ในข้อเหล่านี้ เราสามารถเพิ่มหลักธรรมอะไรเกี่ยวกับอาหารที่มีประโยชน์บนกระดาน (หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เขียนบนกระดานใต้หลักธรรมเกี่ยวกับสารให้โทษดังนี้: เราพึงใช้สมุนไพร ผลไม้ เนื้อ และธัญพืชอย่างฉลาดและด้วยการน้อมขอบพระทัย)

อธิบายว่าตัวอย่างหนึ่งของการใช้อาหารอย่างรอบคอบอยู่ในคำแนะนำเกี่ยวกับเนื้อที่พระเจ้าประทานไว้ใน ข้อ 12–13 คำว่า อย่างมัธยัสถ์ บอกเป็นนัยให้ใช้เนื้อแต่พอดี

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:18–21

พระเจ้าทรงสัญญาเรื่องสุขภาพ ปัญญา และความคุ้มครองกับคนที่เชื่อฟังพระคำแห่งปัญญา

เขียนบนกระดานใต้คำ สัญญา: หากเราทำตามพระคำแห่งปัญญาและพระบัญญัติอื่นของพระเจ้า พระเจ้าจะประทานพรเราด้วย …

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:18–19 ขอให้ชั้นเรียนดูตามและระบุพรที่จะนำมาเติมประโยคบนกระดานให้ครบถ้วน

  • พระเจ้าทรงสัญญาพรอะไรบ้างกับคนที่รักษาพระคำแห่งปัญญา (เขียนคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดานเพื่อเติมประโยคให้ครบถ้วน)

ท่านอาจต้องการอธิบายว่าสัญญาของพระเจ้าเรื่องสุขภาพใน ข้อ 18 มิได้หมายความว่าพระคำแห่งปัญญาเป็นวิธีรักษาความเจ็บป่วยเรื้อรังหรือโรคที่ทำให้อ่อนเพลีย แต่จะช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีที่สุดและมีร่างกายแข็งแรงที่สุด

  • การถือปฏิบัติพระคำแห่งปัญญาจะช่วยให้เรามีปัญญาและความรู้ได้อย่างไร

ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าการเชื่อฟังพระคำแห่งปัญญาช่วยให้พวกเขามีความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงเปิดเผยปัญญาและความรู้ต่อคนซื่อสัตย์ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนานี้ท่านอาจต้องการเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

“ข้าพเจ้าได้รู้ … ว่าจุดประสงค์พื้นฐานของพระคำแห่งปัญญาเกี่ยวข้องกับการเปิดเผย …

“หากคน ‘มึนเมา’ จนแทบจะฟังคำพูดธรรมดาไม่รู้เรื่อง พวกเขาจะตอบรับการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณที่สัมผัสความรู้สึกละเอียดอ่อนที่สุดของพวกเขาได้อย่างไร

“พระคำแห่งปัญญามีค่าเท่ากับกฎแห่งสุขภาพ อาจจะมีค่าต่อท่านทางวิญญาณมากกว่าทางร่างกาย” (“Prayers and Answers,” Ensign, Nov. 1979, 20)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:20–21 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาพรเพิ่มเติมที่มาจากการทำตามพระคำแห่งปัญญา

  • พระเจ้าทรงสัญญาพรเพิ่มเติมอะไรบ้างกับคนที่ทำตามพระคำแห่งปัญญา

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจวลี “เทพผู้ทำลายจะผ่านพวกเขาไป” ให้พวกเขาดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:21, เชิงอรรถ อธิบายว่าสัญญาเรื่องความคุ้มครองจากสวรรค์ดังกล่าวนี้สามารถหมายถึงความปลอดภัยทางร่างกายได้เช่นเดียวกับทางวิญญาณ เติมข้อความบนกระดานให้ครบถ้วนเพื่อสะท้อนหลักธรรมต่อไปนี้: หากเราทำตามพระคำแห่งปัญญาและพระบัญญัติอื่นของพระเจ้า พระเจ้าจะประทานพรเราด้วยสุขภาพ ปัญญา ความแข็งแรง และความคุ้มครอง

  • ท่านเคยเห็นสัญญาใน ข้อ 18–21 เกิดสัมฤทธิผลในชีวิตท่านหรือชีวิตคนที่ท่านรู้จักเมื่อใด

ขอให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้หรือรู้สึก (กับชั้นเรียนหรือกับคู่ก็ได้) เกี่ยวกับพระคำแห่งปัญญาขณะพวกเขาศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 89 วันนี้ เชื้อเชิญให้พวกเขาไตร่ตรองหลักธรรมและสัญญาที่เขียนไว้บนกระดานและตั้งเป้าหมายว่าจะดำเนินชีวิตตามพระคำแห่งปัญญาอย่างซื่อสัตย์มากขึ้น เป็นพยานถึงพรที่จะมาถึงพวกเขาเมื่อพวกเขาดำเนินชีวิตตามกฎนี้

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89 ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์

ในฤดูหนาว ค.ศ. 1833 ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตประมาณ 20 คนประชุมกันในห้องชั้นบนของร้านนูเวล เค. วิทนีย์ในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอเพื่อเข้าร่วมโรงเรียนศาสดาพยากรณ์ ตามที่ปฏิบัติกันทั่วไปในสมัยนั้น พี่น้องชายหลายคนสูบและเคี้ยวยาสูบระหว่างการประชุม บริคัม ยังก์จำได้ว่า “บ่อยครั้งเมื่อท่านศาสดาพยากรณ์เข้ามาในห้องเพื่อให้คำแนะนำสั่งสอน ท่านจะพบตัวท่านอยู่ท่ามกลางควันบุหรี่” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 284) สภาวการณ์เหล่านี้และคำบ่นของเอ็มมา สมิธผู้ต้องทำความสะอาดยาสูบที่บ้วนลงพื้นทำให้โจเซฟ สมิธสงสัยเรื่องการใช้สารดังกล่าว โจเซฟ สมิธสวดอ้อนวอนขอการนำทางและได้รับการเปิดเผยใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 89

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:3 “หลักธรรมพร้อมด้วยสัญญา”

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันความรู้สึกและประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับพระคำแห่งปัญญาดังนี้

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

“เพราะในวัยเด็กข้าพเจ้าเป็นโปลิโอ ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถเล่นกีฬาได้และมีความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเมื่อเปรียบเทียบกับเพื่อนๆ

“ปิตุพรของข้าพเจ้าแนะนำให้ ‘ดูแลและป้องกัน [ร่างกายของท่าน]—อย่านำสิ่งใดเข้าไปในร่างกายที่จะทำลายอวัยวะต่างๆ เพราะร่างกายศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายเป็นเครื่องมือของความคิดและเป็นรากฐานของอุปนิสัยของท่าน’ (ปิตุพรของบอยด์ เค. แพคเกอร์, 15 ม.ค. 1944, 1)

“ข้าพเจ้าพบหลักธรรมพร้อมด้วยสัญญาในพระคำแห่งปัญญา หลักธรรมคือ ดูแลร่างกายของท่าน หลีกเลี่ยงสารกระตุ้นที่ทำให้เสพติด ชา กาแฟ ยาสูบ สุรา และยาต่างๆ (ดู คพ. 89:3–9) สิ่งเสพติดเหล่านั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากบรรเทาความอยากที่เกิดจากตัวมันเอง

“สัญญาคือคนที่เชื่อฟังจะมีสุขภาพดีขึ้น (ดู คพ. 89:18) และได้รับ ‘ขุมทรัพย์แห่งความรู้, แม้ขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่’ (คพ. 89:19) …

“แม้แต่การทดสอบอันเข้มงวดในเรื่องสุขภาพหรือร่างกายที่พิการหรือทุพพลภาพก็สามารถขัดเกลาจิตวิญญาณไว้สำหรับวันอันรุ่งโรจน์ของการนำกลับคืนและการเยียวยาซึ่งจะมาถึงแน่นอน

“แท้จริงแล้วร่างกายท่าน เป็น เครื่องมือของความคิดและเป็นรากฐานของอุปนิสัยของท่าน” (“ท่านเป็นวิหารของพระเจ้า,” เลียโฮนา, ม.ค. 2001, 100)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:4 แผนชั่วและคนช่างคบคิด

คนชั่วและคนช่างคบคิดมุ่งหมายกำไรโดยขายสารเสพติดให้ผู้อื่น ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน สอนว่า

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน

“พระเจ้าทรงมองเห็นสถานการณ์ปัจจุบันล่วงหน้าเมื่อเงินเป็นเหตุจูงใจให้มนุษย์คบคิดกันหลอกผู้อื่นให้นำสารให้โทษเข้าไปในร่างกาย โฆษณาเชิญชวนให้ใช้เบียร์ ไวน์ สุรา กาแฟ บุหรี่ และสารอันตรายอื่นๆ เป็นตัวอย่างของสิ่งที่พระเจ้าทรงมองเห็นล่วงหน้า แต่ตัวอย่างที่เป็นภัยมากสุดของการคบคิดชั่วในสมัยของเราคือคนที่ชักจูงเยาวชนให้ใช้ยาเสพติด

“พี่น้องเยาวชนชายหญิงทั้งหลาย เรากล่าวเตือนท่านด้วยความรักทั้งหมดที่มีว่าซาตานและบริวารของเขาจะพยายามหลอกท่านให้ใช้สารอันตราย เพราะพวกเขารู้ดีว่าหากท่านใช้ พลังทางวิญญาณของท่านจะลดลงและท่านจะอยู่ในอำนาจชั่วของเขา จงอยู่ห่างจากสถานที่หรือคนเหล่านั้นซึ่งจะชักจูงให้ท่านทำผิดพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า จงรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าและท่านจะมีปัญญารอบรู้และแยกแยะสิ่งชั่ว” (“A Principle with a Promise,” Ensign, May 1983, 54–55)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:5–9 แล้วสิ่งที่ไม่ได้กล่าวเจาะจงในพระคำแห่งปัญญาเล่า

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89 ไม่ได้กล่าวถึงเครื่องดื่ม อาหาร หรือสารต้องห้ามทุกอย่าง บางครั้งคำถามเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ไม่ได้กล่าวไว้ในการเปิดเผยหรือเหตุใดจึงห้ามชาและกาแฟทั้งที่ไม่ได้กล่าวถึง ข้อความต่อไปนี้จะช่วยอธิบาย

“ไม่มีการตีความพระคำแห่งปัญญาอย่างเป็นทางการยกเว้นคำประกาศซึ่งเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในยุคแรกของศาสนจักรให้ไว้เมื่อครั้งประกาศว่า ‘เครื่องดื่มร้อน’ หมายถึงชาและกาแฟ

“เกี่ยวกับการดื่มโคล่า ศาสนจักรไม่เคยแสดงความเห็นอย่างเป็นทางการในเรื่องนี้ แต่ผู้นำของศาสนจักรเคยแนะนำ และเวลานี้เราแนะนำเป็นพิเศษไม่ให้ใช้เครื่องดื่มใดก็ตามที่มีตัวยาอันตรายภายใต้สภาวการณ์ที่จะส่งผลให้ใช้จนติดเป็นนิสัย ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีส่วนผสมเป็นอันตรายต่อร่างกาย” (Priesthood Bulletin, Feb. 1972 [volume 8, number 1], 3–4; see also “Staying Healthy: Welfare Services Suggests How,” Ensign, Jan. 1981, 15–16)

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่าเราจำเป็นต้องดำเนินชีวิตตามหลักธรรมในพระคำแห่งปัญญาและวางใจในสัญญาเหล่านั้น

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

“สมาชิกเขียนมาถามว่าสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นขัดกับพระคำแห่งปัญญาหรือไม่ เราทราบกันดีว่าชา กาแฟ สุรา และบุหรี่ขัดกับพระคำแห่งปัญญา ซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดมากกว่านั้น แต่เราสอนหลักธรรมพร้อมด้วยพรที่สัญญาไว้ มีสิ่งเสพติดมากมายที่คนๆ หนึ่งสามารถดื่มหรือเคี้ยวหรือสูดดมหรือฉีดจนติดเป็นนิสัยซึ่งทำร้ายทั้งร่างกายและวิญญาณแต่ไม่ได้กล่าวไว้ในการเปิดเผย

“ทุกอย่างที่เป็นอันตรายไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงไว้ในพระคำแห่งปัญญา เช่น สารหนู—ไม่ดีแน่นอน แต่ไม่ทำให้ติดเป็นนิสัย! คนที่ต้องถูกบีบบังคับในทุกเรื่อง พระเจ้าตรัส คนคนนั้น ‘เป็นผู้รับใช้ที่เกียจคร้านและไม่ฉลาด’ (คพ. 58:26)

“ในบางวัฒนธรรม เครื่องดื่มประจำชาติถือว่าไม่เป็นอันตรายเพราะไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาะจงในการเปิดเผย ทว่าเครื่องดื่มเหล่านั้นดึงสมาชิก โดยเฉพาะผู้ชาย ให้ออกห่างจากครอบครัวไปงานเลี้ยงซึ่งผิดหลักธรรมแน่นอน คนประมาทและคนชะล่าใจจะไม่ได้รับสัญญาที่ให้ไว้ในการเปิดเผย

“การเชื่อฟังคำแนะนำจะช่วยให้ชีวิตท่านปลอดภัยเสมอ” (“The Word of Wisdom: The Principle and the Promises,” Ensign, May 1996, 17–18)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 89:21 “เทพผู้ทำลายจะผ่านพวกเขาไป”

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายสัญลักษณ์ทางวิญญาณของเทพผู้ทำลายที่กำลังผ่านผู้ทำตามพระคำแห่งปัญญาไว้ดังนี้

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

“มีนัยสำคัญพิเศษในข้อสุดท้ายของ ภาค 89 ซึ่งกล่าวว่า ‘เทพผู้ทำลายจะผ่านพวกเขาไป, ดังลูกหลานของอิสราเอล, และไม่สังหารพวกเขา’ (ข้อ 21) การอ้างถึงปัสกาในข้อนี้เน้นว่าศรัทธาทางวิญญาณต้องมาเป็นอันดับแรก เมื่ออับราฮัมแสดงให้เห็นว่าท่านเต็มใจถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าการเชื่อฟังครั้งนั้นจะต้องเกิดประโยชน์ทางกาย เมื่อโยชูวานำชาวอิสราเอลข้ามแม่น้ำจอร์แดนที่กำลังไหลบ่า ไม่มีการยืนยันว่าผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์เหล่านั้นจะได้รับรางวัลทางกาย เราเชื่อฟังพระคำแห่งปัญญาเพราะนั่นคือพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อเตรียมเราทางวิญญาณให้เป็นบุตรและธิดาที่มีค่าควรของพระองค์ การให้วิญญาณมีอำนาจเหนือความอยากของเนื้อหนังเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทดสอบของเรา” (“Twenty Questions” [address to CES religious educators, Sept. 13, 1985], LDS.org)

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายนัยสำคัญทางวิญญาณของสัญญาที่ว่า “เทพผู้ทำลายจะผ่านไป” ดังนี้

ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์

“เราจะไม่รอดจากความตายทางร่างกายในปัสกาหากเราดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟังพระบัญญัติเหล่านี้เพราะเราแต่ละคนจะตายเมื่อถึงเวลา แต่มีความตายทางวิญญาณซึ่งท่านไม่จำเป็นต้องทนทุกข์ หากท่านเชื่อฟัง ความตายทางวิญญาณจะผ่านท่านไป เพราะการเปิดเผยสอนว่า ‘พระคริสต์ผู้ทรงเป็นปัสกาของเราถูกถวายบูชาแล้ว’ (1 โครินธ์ 5:7)” (“The Word of Wisdom: The Principle and the Promises,” Ensign, May 1996, 19)