เซมินารีและสถาบัน
บทที่ 145: หลักคำสอนและพันธสัญญา 135 ส่วนที่ 2


บทที่ 145

หลักคำสอนและพันธสัญญา 135 ส่วนที่ 2

คำนำ

บทนี้เป็นบทที่สองในสองบทเกี่ยวกับ หลักคำสอนและพันธสัญญา 135 และมรณสักขีของโจเซฟกับไฮรัม สมิธเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1844 ในบทนี้นักเรียนจะสนทนาเรื่องบทบาทของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธในความรอดของบุตรธิดาพระผู้เป็นเจ้า

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 135

ประกาศมรณสักขีของโจเซฟกับไฮรัม สมิธ

ก่อนเริ่มชั้นเรียนให้ติดภาพ โจเซฟ สมิธ ไว้หน้าชั้น (ดู หนังสือภาพพระกิตติคุณ [2009], ภาพที่ 87; ดู LDS.orgด้วย) ท่านอาจจะขอให้ชั้นเรียนร้องเพลง “สรรเสริญบุรุษ” (เพลงสวด, บทเพลงที่ 14) เป็นเพลงสวดสำหรับการให้ข้อคิดทางวิญญาณ ก่อนร้องเพลงสวด ให้อธิบายว่าดับเบิลยู. ดับเบิลยู. เฟลพส์เขียนเนื้อร้องเพลงสวดเพื่อระลึกถึงศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธหลังจากมรณสักขีไม่นาน

โจเซฟ สมิธ

เริ่มบทเรียนโดยถามคำถามต่อไปนี้

  • ท่านเคยพูดคุยกับคนที่ไม่เป็นสมาชิกของศาสนจักรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธหรือไม่ หากเคย ท่านคุยเรื่องอะไร (หากไม่มีใครเคยมีประสบการณ์นี้ ถามนักเรียนว่าพวกเขาต้องการบอกอะไรคนอื่นๆ เกี่ยวกับโจเซฟ สมิธ)

เตือนความจำนักเรียนว่า หลักคำสอนและพันธสัญญา 135 ประกอบด้วยการประกาศแจ้งมรณสักขีของโจเซฟกับไฮรัม สมิธ ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงประโยคแรกของ หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:3 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม

  • ข่าวสารของข้อนี้คืออะไร (นักเรียนควรกล่าวว่า โจเซฟ สมิธทำเพื่อความรอดของมนุษย์ในโลกนี้ ยิ่งกว่าคนอื่นใดที่เคยมีชีวิตอยู่ในโลก ยกเว้นพระเยซูเท่านั้น)

  • ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธทำอะไรเพื่อความรอดและความสูงส่งของเรา (เขียนคำตอบของนักเรียนไว้บนกระดาน)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:3 ที่เหลือ ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาวลีบอกสิ่งที่โจเซฟ สมิธทำเพื่อความรอดของเรา ขอให้นักเรียนมองหาสิ่งที่จะเพิ่มเข้าไปในรายการบนกระดาน

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ ขอให้ชั้นเรียนมองหาว่าใครได้รับอิทธิพลจากงานของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธ

“งานซึ่งโจเซฟ สมิธมีส่วนไม่จำกัดเฉพาะชีวิตนี้เท่านั้น แต่เกี่ยวข้องกับชีวิตที่จะมาถึงและชีวิตที่เป็นมาแล้วด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ งานของท่านเกี่ยวโยงกับคนที่เคยมีชีวิตบนแผ่นดินโลก คนที่มีชีวิตอยู่และคนที่จะมาหลังจากเรา ไม่ใช่บางสิ่งซึ่งเกี่ยวโยงกับมนุษย์ขณะเขาอยู่ในเนื้อหนังเท่านั้น แต่กับครอบครัวมนุษย์ทั้งหมดตั้งแต่นิรันดรถึงนิรันดรด้วย” (Gospel Doctrine, 5th ed. [1939], 481)

ให้ดูคำอธิบายของโจเซฟ สมิธเรื่องการนำพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาออกมาใน ข้อ 3 เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของงานนี้เพิ่มเติม ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 135:6 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาเหตุผลที่นำพระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาออกมา

  • ตามที่กล่าวไว้ในข้อ ข้อ 6เหตุใดจึงนำพระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาออกมา (นักเรียนอาจใช้คำพูดอื่น แต่พวกเขาควรระบุความจริงต่อไปนี้: นำพระคัมภีร์มอรมอนกับหลักคำสอนและพันธสัญญาออกมาเพื่อความรอดของโลก)

  • พระคัมภีร์สองเล่มนี้ช่วยให้เกิดความรอดของโลกในด้านใด

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 6อะไรทำให้พระคัมภีร์มอรมอนกับพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาอยู่ในหมู่หนังสือล้ำค่าที่สุดที่ท่านจะเป็นเจ้าของ

ขอให้นักเรียนไตร่ตรองสิ่งที่พวกเขาทำกับพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาในชีวิตพวกเขา

  • เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแสดงความสำนึกคุณต่อการเสียสละที่โจเซฟกับไฮรัม สมิธทำเพื่อนำพระคัมภีร์สองเล่มนี้ออกมา

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนวิธีเฉพาะเจาะจงลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ที่พวกเขาจะสามารถแสดงความสำนึกคุณต่อการเสียสละเพื่อนำพระคัมภีร์สองเล่มนี้ออกมา

ให้ดูรายการที่เขียนไว้บนกระดานก่อนหน้านี้ เป็นพยานว่าโดยการช่วยฟื้นฟูพระคัมภีร์ หลักคำสอนที่แท้จริง สิทธิอำนาจและกุญแจฐานะปุโรหิต ศาสนพิธีสำหรับคนเป็นและคนตาย และการจัดตั้งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ โจเซฟ สมิธช่วยให้บุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าได้รับพรของการชดใช้อย่างครบถ้วน

อธิบายว่าคนบางคนอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับความรู้สึกหรือความเชื่อของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ ขอให้ชั้นเรียนฟังว่าสมาชิกศาสนจักรมองโจเซฟ สมิธอย่างไรในความสัมพันธ์กับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ท่านอาจต้องการจัดเตรียม สำเนาคำกล่าวให้นักเรียนแต่ละคน

ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“เราไม่นมัสการท่านศาสดาพยากรณ์ เรานมัสการพระผู้เป็นเจ้าพระบิดานิรันดร์ของเราและพระเจ้าพระเยซูคริสต์ผู้ฟื้นคืนพระชนม์ แต่เรายอมรับท่านศาสดาพยากรณ์ เราประกาศเกียรติคุณท่าน เราเคารพท่าน เรานับถือท่านเสมือนหนึ่งเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ในการนำความจริงที่มีอยู่เดิมของพระกิตติคุณอันล้ำเลิศกลับมาบนแผ่นดินโลก พร้อมฐานะปุโรหิตซึ่งเป็นสิทธิอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าที่ใช้ดำเนินงานศาสนจักรของพระองค์และเป็นพรแก่ผู้คนของพระองค์” (“โจเซฟ สมิธ จูเนียร—ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ผู้รับใช้ที่เกรียงไกร,” เลียโฮนา, ธ.ค. 2005, 4)

  • ท่านจะอธิบายความรู้สึกของสมาชิกศาสนจักรเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธด้วยคำพูดของท่านเองว่าอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงผล การปฏิบัติศาสนกิจของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ ต่อชีวิตพวกเขาและต่อชีวิตหลายล้านคนทั่วโลก เขียน คำถามต่อไปนี้ ไว้บนกระดาน และขอให้นักเรียนตอบลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา

ชีวิตท่านจะแตกต่างในด้านใดโดยเฉพาะหากไม่มีการปฏิบัติศาสนกิจของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธมีอิทธิพลต่อความรู้ของท่านในเรื่องพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์และความสัมพันธ์กับพระองค์อย่างไร

ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานโธมัส เอส. มอนสัน ขอให้ชั้นเรียนฟังว่าเราจะช่วยให้ผู้อื่นประสบปีติของพระกิตติคุณได้อย่างไร

ประธานโธมัส เอส. มอนสัน

“[ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ] ทิ้งมรดกไว้ให้ผู้ติดตาม [หลายล้านคน] ในปัจจุบันบนทุกทวีปสามารถประกาศได้ว่าท่านเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ขอให้เราแต่ละคนพยายามสานต่อวิสัยทัศน์ของศาสดาพยากรณ์โจเซฟสำหรับงานนี้และขยายมรดกของท่านผ่านงานและประจักษ์พยานของเราไปถึงผู้อื่น เพื่อพวกเขาจะรู้จักท่านเช่นที่เรารู้และเพื่อพวกเขาจะประสบสันติสุขและปีติของพระกิตติคุณที่ท่านฟื้นฟู” (“Brother Joseph,” Church News, Dec. 31, 2005, 4)

  • เราจะช่วยให้ผู้อื่นประสบปีติของพระกิตติคุณตามที่ฟื้นฟูผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธได้อย่างไร

อธิบายว่าสำหรับช่วงเวลาที่เหลือนักเรียนจะได้ แบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขา เกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟูพระกิตติคุณ เชื้อเชิญให้พวกเขาพิจารณาใช้คำตอบจากกิจกรรมที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้ขณะพวกเขากล่าวประจักษ์พยานของตน

สรุปโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและการฟื้นฟู เชื้อเชิญให้นักเรียนหาโอกาสในสองสามวันถัดไปแบ่งปันประจักษ์พยานกับผู้อื่นเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและบทบาทของท่านในการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเป็นพยานของพระเยซูคริสต์

เรามองไปที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธด้วยความเคารพเพราะสิ่งที่ท่านทำเพื่อให้เราเข้าใจพระเยซูคริสต์และพระพันธกิจของพระองค์ เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวดังนี้

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

“ความสัมพันธ์ส่วนตัวของโจเซฟกับพระเจ้า การแปลและการจัดพิมพ์พระคัมภีร์มอรมอนของท่าน และการผนึกประจักษ์พยานด้วยเลือดมรณสักขีของท่านทำให้ท่านกลายเป็นผู้เปิดเผยที่โดดเด่นของพระเยซูคริสต์ในเรื่องพระอุปนิสัยแท้จริงของพระองค์ในฐานะพระผู้ไถ่จากเบื้องบน พระเยซูไม่เคยมีพยานใดที่ยิ่งใหญ่ทั้งไม่เคยมีพระสหายใดภักดีมากกว่าโจเซฟ สมิธ” (“การเกิดใหม่,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 95; เน้นตัวเอน)

อิทธิพลของโจเซฟ สมิธ

ในฤดูใบไม้ผลิ ปี 1844 โจสิยาห์ ควินซีอดีตนายกเทศมนตรีเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ และเวลานั้นเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด พร้อมด้วยชาร์ลส์ ฟรานซิส อดัมส์ลูกพี่ลูกน้องของเขาผู้เป็นบุตรชายของจอห์น ควินซี อดัมส์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐมาเยือนนอวู พวกเขาใช้เวลาวันหนึ่งกับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ หลายปีต่อมา โจสิยาห์ ควินซีเขียนถึงประสบการณ์นี้ว่า

“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่ตำราบางเล่มในอนาคตซึ่งเขียนไว้ให้คนรุ่นที่ยังไม่เกิดใช้จะไม่มีคำถามทำนองนี้ คนอเมริกันคนใดในศตวรรษที่สิบเก้ามีอิทธิพลมากที่สุดต่อชะตากรรมของคนในประเทศของเขา และเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่คำตอบของคำถามข้อนี้จะไม่เขียนว่า โจเซฟ สมิธ ศาสดาพยากรณ์มอรมอน” (Figures of the Past: From the Leaves of Old Journals [1888], 376)