เซมินารีและสถาบัน
บทที่ 59: หลักคำสอนและพันธสัญญา 53–55


บทที่ 59

หลักคำสอนและพันธสัญญา 53–55

คำนำ

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1831 ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธได้รับการเปิดเผยที่บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 53–55 การเปิดเผยประกอบด้วยคำแนะนำจากพระเจ้าสำหรับสมาชิกศาสนจักรบางคนที่อยู่ในโอไฮโอแต่อีกไม่นานจะย้ายไปมิสซูรี ในการเปิดเผยเหล่านี้ พระเจ้าตรัสกับซิดนีย์ กิลเบิร์ต, นูเวล ไนท์ และวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์ส โดยประทานคำแนะนำเจาะจงกับงานมอบหมายศาสนจักรและพรสวรรค์ของพวกเขา

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

หลักคำสอนและพันธสัญญา 53

พระเจ้าทรงเรียกซิดนีย์ กิลเบิร์ตเป็นเอ็ลเดอร์และเดินทางไปมิสซูรีกับโจเซฟ สมิธ

เชิญนักเรียนสองคนออกมาหน้าชั้น ขอให้คนหนึ่งบอกวิธีทำงานอย่างหนึ่งให้อีกคนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น นักเรียนคนหนึ่งอาจสอนนักเรียนอีกคนผูกปมแบบหนึ่ง พับเครื่องบินกระดาษ หรือเต้นรำจังหวะหนึ่ง (หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ขอให้นักเรียนเตรียมสอนทักษะนี้ล่วงหน้า)

  • ในการสาธิตนี้ เหตุใดจึงสำคัญที่ผู้เรียนต้องทำตามคำแนะนำทั้งหมด จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้เรียนตัดสินใจเพิกเฉยคำแนะนำส่วนหนึ่ง

เตือนนักเรียนว่าพระเจ้าทรงเรียกผู้สอนศาสนาให้เดินทางไปมิสซูรี (ดู คพ. 52) อธิบายว่าผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่คนหนึ่งชื่อซิดนีย์ กิลเบิร์ตพบว่าเขาไม่อยู่ในรายชื่อผู้สอนศาสนาเหล่านี้ เขาไปพบศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและถามว่าพระเจ้าทรงประสงค์ให้เขาทำอะไร โจเซฟทูลถามและได้รับการเปิดเผยใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 53 ซึ่งให้คำแนะนำขั้นต้นบางอย่างแก่ซิดนีย์

แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ เชิญนักเรียนแต่ละคู่อ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 53:1–5 ด้วยกันโดยมองหาคำแนะนำที่พระเจ้าประทานแก่ซิดนีย์ กิลเบิร์ต กระตุ้นให้พวกเขาทำตามคำแนะนำที่ค้นพบ

  • พระเจ้าประทานคำแนะนำอะไรแก่ซิดนีย์ กิลเบิร์ต (ขณะนักเรียนรายงานสิ่งที่พบ อาจจะเป็นประโยชน์ถ้าชี้ให้เห็นว่างานมอบหมายให้บราเดอร์กิลเบิร์ต “เป็นตัวแทนให้ศาสนจักร” มีคำอธิบายมากขึ้นใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 57:6–10, 15)

อธิบายว่าพระเจ้าตรัสถึงคำแนะนำนี้ว่าเป็น “ศาสนพิธีแรกๆ ซึ่ง [ซิดนีย์จะ] ได้รับ” (คพ. 53:6) คำว่า ศาสนพิธี บางครั้งหมายถึงกฎเกณฑ์หรือข้อบังคับ เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 53:6 ขอให้ชั้นเรียนมองหาเวลาที่พระเจ้าจะประทานคำแนะนำ (“ที่เหลือ”) แก่ซิดนีย์

  • เราสามารถเรียนรู้อะไรจาก ข้อ 6 (ท่านอาจเสนอแนะให้นักเรียนทำอ้างโยงข้อนี้กับ หลักคำสอนและพันธสัญญา 52:4–5 นักเรียนอาจจำหลักธรรมต่อไปนี้ที่ระบุไว้ในบทก่อน: เมื่อเราทำตามคำแนะนำของพระผู้เป็นเจ้าอย่างซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระองค์ต่อเรามากขึ้น)

หลักคำสอนและพันธสัญญา 54

พระเจ้าทรงแนะนำวิสุทธิชนชาวโคลสวิลล์ให้ออกจากเมืองธอมพ์สัน รัฐโอไฮโอและย้ายไปรัฐมิสซูรี

อธิบายว่าในเดือนเมษายน ค.ศ. 1831 นูเวล ไนท์นำวิสุทธิชนกลุ่มหนึ่งจากเมืองโคลสวิลล์ รัฐนิวยอร์กไปสมทบกับวิสุทธิชนในรัฐโอไฮโอ ในเดือนพฤษภาคม ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธแนะนำอธิการเอดเวิร์ด พาร์ทริจให้วิสุทธิชนเหล่านั้นตั้งรกรากบนที่ดินในเมืองธอมพ์สัน รัฐโอไฮโอที่ลีมัน คอพลีย์ทำพันธสัญญา (หรือสัญญา) ไว้ว่าจะให้เพื่อจุดประสงค์นั้น พวกเขาปลูกพืชที่นั่นและเริ่มทำการปรับปรุงอื่นๆ บนที่ดินผืนนั้น แต่ทั้งที่ช่วยกันปรับปรุงที่ดิน พวกเขายังเริ่มเห็นแก่ตัวและละโมบ สถานการณ์ของพวกเขาแย่ลงเมื่อลีมัน คอพลีย์กลับจากงานเผยแผ่ไปนิกายเชเคอร์สและเริ่มสงสัยศรัทธาของตน (ดู คพ. 49 และบทที่ 56) เขาปฏิเสธประจักษ์พยานที่กำลังพัฒนาเกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู และเขาสั่งวิสุทธิชนให้ออกจากที่ดินผืนนั้น เขาเรียกเก็บเงินจากคนเหล่านั้น 60 ดอลลาร์ด้วย เพราะลีมันฝ่าฝืนพันธสัญญาของเขา วิสุทธิชนเหล่านี้จึงไม่มีที่อยู่ นูเวล ไนท์และคนอื่นๆ ถามท่านศาสดาพยากรณ์ว่าควรทำอย่างไร (ดู Documents, Volume 1: June 1828–June 1831, vol. 1 of the Documents series of The Joseph Smith Papers [2013], 334–335.)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 54:1–3 ขอให้ชั้นเรียนมองหาสิ่งที่วิสุทธิชนต้องทำเพื่อช่วยทำให้สถานการณ์ของพวกเขาดีขึ้น

  • ท่านคิดว่าเหตุใดการกลับใจและความนอบน้อมถ่อมตนจะช่วยวิสุทธิชนเหล่านี้

ชี้ให้เห็นว่าพระเจ้าไม่พอพระทัยวิสุทธิชนในธอมพ์สันที่ฝ่าฝืนพันธสัญญาของพวกเขา ขอให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 54:4–5 ในใจ มองหาคำและวลีที่พระเจ้าทรงใช้บรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อฝ่าฝืนพันธสัญญา

  • ท่านคิดว่า พันธสัญญา “เป็นโมฆะและไม่มีผลเลย” หมายความว่าอย่างไร เราสูญเสียพรอะไรบ้างเมื่อเราไม่รักษาพันธสัญญาของเรา

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 54:6 ในใจโดยมองหาพรที่เราได้รับเมื่อเรารักษาพันธสัญญาของเราและเชื่อฟังพระบัญญัติ ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ พวกเขาอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่คำตอบของพวกเขาควรถ่ายทอดหลักธรรมต่อไปนี้: หากเรารักษาพันธสัญญาของเราและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า เราจะได้ความเมตตา เขียนหลักธรรมนี้ไว้บนกระดาน

  • ท่านเคยเห็นเมื่อใดว่าพระเจ้าทรงเมตตาคนที่รักษาพันธสัญญาของพวกเขากับพระองค์

กระตุ้นให้นักเรียนรักษาพันธสัญญาที่ทำไว้เมื่อครั้งบัพติศมาและเชื่อฟังพระบัญญัติเพื่อพวกเขาจะได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า

สรุป หลักคำสอนและพันธสัญญา 54:7–9 โดยอธิบายว่าหลังจากวิสุทธิชนสูญเสียบ้านบนที่ดินของลีมัน คอพลีย์ พระเจ้าทรงบัญชาให้พวกเขาเดินทางไปมิสซูรี พวกเขาต้องกำหนดให้บางคนชำระค่าใช้จ่ายระหว่างทาง พระเจ้าตรัสว่าทันทีที่พวกเขามาถึงมิสซูรี พวกเขาจะทำงานหาเลี้ยงชีพที่นั่นจนกว่าพระเจ้าจะทรงเตรียมที่ให้พวกเขาตั้งรกราก

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจวิธีที่พระเจ้าทรงต้องการให้วิสุทธิชนเหล่านี้ตอบสนองการทดลองของพวกเขา ให้เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 54:10 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาคำแนะนำที่พระเจ้าประทานแก่วิสุทธิชนเหล่านี้

  • ในประสบการณ์ของท่าน เราได้รับพรอะไรบ้างเมื่อเรา “อดทนต่อความยากลำบาก”

  • พระเจ้าตรัสว่าใครจะ “พบความพักผ่อนแก่จิตวิญญาณพวกเขา” (เชิญนักเรียนตอบคำถามนี้ด้วยประโยค “หาก–เมื่อนั้น” ขณะที่พวกเขาตอบคำถาม ให้เขียนหลักธรรมต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: หากเราแสวงหาพระเจ้าแต่แรก เมื่อนั้นเราจะพบความพักผ่อนแก่จิตวิญญาณเรา)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าพบความพักผ่อนแก่จิตวิญญาณเราหมายถึงอะไร ให้อ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เพอร์ จี. มาล์มแห่งสาวกเจ็ดสิบ

เอ็ลเดอร์แพร์ จี. มาล์ม

“เพื่อให้จิตวิญญาณของเราได้พักผ่อนเราต้องมีสันติสุขในความคิดและจิตใจ อันเป็นผลมาจากการเรียนรู้และทำตามหลักคำสอนของพระคริสต์ ” (“จิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 128)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความหมายบางประการของการแสวงหาพระเจ้าแต่แรก ให้ถามคำถามต่อไปนี้

  • ท่านคิดว่าการแสวงหาพระเจ้าแต่แรกหมายความอย่างไร (คำตอบอาจหมายถึงแสวงหาพระองค์แต่เยาว์วัยในชีวิตเรา หมายถึงแสวงหาพระองค์แต่เช้าทุกวัน และหมายถึงแสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์ก่อนการทดลองเข้ามาในชีวิตเรา)

  • ท่านคิดว่าเหตุใดเราจึงพบความพักผ่อนแก่จิตวิญญาณเราเมื่อเราแสวงหาพระเจ้าแต่แรก

  • การแสวงหาพระเจ้าแต่แรกก่อนเกิดความยากลำบากต่างจากการแสวงหาพระองค์ระหว่างเกิดความยากลำบากอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนคำตอบของคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา ท่านอาจต้องการเขียนคำถามเหล่านี้ไว้บนกระดานหรือเตรียมเป็นเอกสารแจกนักเรียน:

  • ท่านสามารถแสวงหาพระเจ้าแต่แรกในวิธีใดได้บ้างก่อนการทดลองจะเข้ามาในอนาคต

  • ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแสวงหาพระเจ้าแต่เช้าทุกวัน

  • ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแสวงหาพระเจ้าเวลานี้ขณะที่ท่านอยู่ในวัยเยาว์

หลังจากนักเรียนมีเวลาเขียนแล้ว ให้เชิญสองสามคนแบ่งปันความคิดของพวกเขา

หลักคำสอนและพันธสัญญา 55

พระเจ้าทรงเรียกวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์สให้ช่วยเขียนและพิมพ์สื่อการเรียนการสอนของศาสนจักร

ให้นักเรียนคนหนึ่งเตรียมมาสาธิตพรสวรรค์หรือทักษะอย่างหนึ่งล่วงหน้า พึงแน่ใจว่าการนำเสนอของนักเรียนคนนั้นจะเป็นสื่อนำพระวิญญาณ หรือขอให้นักเรียนเขียนพรสวรรค์หรือทักษะบางอย่างของเพื่อนๆ ที่พวกเขาเคยเห็นไว้บนกระดาน จากนั้นให้เรียกชื่อนักเรียนคนหนึ่งและถามคำถามต่อไปนี้

  • ท่านคิดว่าเหตุใดพรสวรรค์หรือทักษะของท่านจึงต่างจากพรสวรรค์และทักษะของคนอื่นๆ ในชั้น

  • ท่านคิดว่าเหตุใดท่านจึงได้รับพรด้วยทักษะและพรสวรรค์เหล่านั้น

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านคำนำภาคของ หลักคำสอนและพันธสัญญา 55 ในใจโดยมองหาทักษะอย่างหนึ่งของวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์ส ขอให้พวกเขารายงานสิ่งที่พบ

อธิบายว่าวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์สซื้อพระคัมภีร์มอรมอนหนึ่งเล่มหลังจากมีการเสนอขายได้สองสัปดาห์ สิ่งนี้นำไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสของเขา เขากล่าวภายหลังว่า “ทั้งที่ตัวผมไม่ได้รับบัพติศมาเข้ามาในศาสนจักรนี้จนถึง … เดือนมิถุนายน 1831 แต่ใจผมอยู่ที่นั่นนับจากได้คุ้นเคยกับพระคัมภีร์มอรมอน” (ใน Documents, Volume 1: June 1828–June 1831, 337) วันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1831 ไม่นานหลังจากบราเดอร์เฟลพ์สมาถึงเคิร์ทแลนด์ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธได้รับการเปิดเผยที่บันทึกไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 55

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 55:4 ขอให้ชั้นเรียนมองหาพรสวรรค์อีกอย่างหนึ่งของวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์ส ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ จากนั้นให้นักเรียนอีกคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 55:5 ขอให้ชั้นเรียนหาสถานที่ซึ่งบราเดอร์เฟลส์ฟได้รับเรียกให้ทำงานเขียนและพิมพ์ (พระเจ้าทรงแนะนำให้เขาเดินทางไปมิสซูรีกับโจเซฟ สมิธ และซิดนีย์ ริกดัน)

เขียนหลักธรรมต่อไปนี้ไว้บนกระดาน: พระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถใช้พรสวรรค์ ทักษะ และความสามารถของเราเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระองค์

  • ท่านเคยเห็นพระผู้เป็นเจ้าทรงใช้พรสวรรค์และความสามารถของผู้คนเป็นพรแก่บุตรธิดาของพระองค์อย่างไร

ขอให้นักเรียนนึกถึงพรสวรรค์หรือความสามารถที่พวกเขามีและพวกเขาจะใช้ความสามารถนั้นช่วยคนอื่นๆ และทำให้งานของพระเจ้าก้าวหน้าได้อย่างไร เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันข้อคิดของพวกเขา

สรุปบทเรียนโดยกล่าวถึงหลักคำสอนและหลักธรรมที่เขียนไว้บนกระดาน เชิญนักเรียนสองสามคนเลือกความจริงหนึ่งประการและแบ่งปันว่าเหตุใดจึงสำคัญต่อพวกเขาและพวกเขาจะทำอะไรเพื่อประยุกต์ใช้ความจริงนั้นอย่างเต็มที่มากขึ้นในชีวิตพวกเขา

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

หลักคำสอนและพันธสัญญา 55 คุณูปการของวิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์สต่อศาสนจักร

วิลเลียม ดับเบิลยู. เฟลพ์สตั้งเครื่องพิมพ์เครื่องแรกให้ศาสนจักรในมิสซูรี เขาจัดพิมพ์หนังสือพิมพ์ศาสนจักรฉบับแรกชื่อ Evening and the Morning Star เขาช่วยรวบรวม เตรียม และจัดพิมพ์การเปิดเผยในหนังสือพระบัญญัติในปี 1833 และต่อมาในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาฉบับพิมพ์ปี 1835 เขาช่วยเตรียมหนังสือเพลงสวดเล่มแรกของศาสนจักรและเขียนเนื้อร้องให้เพลงสวดหลายเพลง รวมทั้งเพลง “พระวิญญาณพระเจ้า” ซึ่งใช้ร้องที่การอุทิศพระวิหารเคิร์ทแลนด์ เขามอบเงิน 500 ดอลลาร์เพื่อช่วยสร้างพระวิหารหลังนั้นให้แล้วเสร็จ

หลักคำสอนและพันธสัญญา 55:6 คุณูปการของโจเซฟ โคต่อศาสนจักร

โจเซฟ โคเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสรุ่นแรกของศาสนจักรในนิวยอร์ก เขามาถึงเคิร์ทแลนด์ในปี ค.ศ. 1831 เขาเดินทางไปมิสซูรีพร้อมกับโจเซฟ สมิธ และซิดนีย์ ริกดัน โดยออกจากเคิร์ทแลนด์วันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1831 ต่อมา อีกครั้งในเคิร์ทแลนด์ เขาได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนระดับสูงของศาสนจักร เขาดูแลการจัดซื้อที่ดินในปี 1833 รวมทั้งฟาร์มปีเตอร์ เฟรนช์ซึ่งจะสร้างพระวิหารเคิร์ทแลนด์ที่นั่น เขาได้รับเรียกเข้าสู่สภาสูงเคิร์ทแลนด์ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1834 ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1835 เขาช่วยเรื่องการจัดซื้อมัมมีและปาปิรุสอียิปต์ซึ่งส่งผลให้โจเซฟ สมิธนำหนังสือของอับราฮัมออกมา