เซมินารีและสถาบัน
บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน: สงครามยูทาห์และการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์ การออกมาของพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 หลักคำสอนและพันธสัญญา 138 (หน่วย 31)


บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน

สงครามยูทาห์และการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์ การออกมาของพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1 หลักคำสอนและพันธสัญญา 138 (หน่วย 31)

เนื้อหาเตรียมสอนสำหรับครูภาคการศึกษาที่บ้าน

บทสรุปของบทเรียนภาคการศึกษาที่บ้านประจำวัน

ต่อไปนี้เป็นบทสรุปของหลักคำสอนและหลักธรรมที่นักเรียนเรียนรู้เมื่อพวกเขาศึกษาหน่วย 31 บทสรุปนี้ไม่ได้มีเจตนาให้ใช้สอนในบทเรียนของท่าน บทเรียนที่ท่านสอนเน้นเฉพาะหลักคำสอนและหลักธรรมเหล่านี้เพียงไม่กี่ข้อ จงทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขณะพิจารณาความต้องการของนักเรียน

วันที่ 1 (สงครามยูทาห์และการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์)

เมื่อนักเรียนเรียนรู้เหตุการณ์น่าสลดใจในประวัติศาสนจักร พวกเขาตรึกตรองหลักธรรมที่ว่าหากเรายุติความขัดแย้งกับผู้อื่นในวิธีของพระเจ้า เราจะหลีกเลี่ยงผลเสียของความขัดแย้งได้ นักเรียนเรียนรู้เช่นกันว่าหากเราไม่สนใจคำแนะนำให้ทำสิ่งถูกต้อง เราจะเลือกทำไม่ดีได้ง่ายขึ้น นักเรียนค้นพบว่าการเลือกปกปิดบาปของเราสามารถชักนำเราให้ทำบาปเพิ่มขึ้น อีกทั้งทำให้เกิดความเสียใจและความทุกข์ด้วย สุดท้าย นักเรียนเรียนรู้ว่าเราสามารถพัฒนาประจักษ์พยานให้เข้มแข็งได้โดยสร้างศรัทธาของเราบนรากฐานของพระเยซูคริสต์

วันที่ 2 (การออกมาของพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า)

นักเรียนค้นพบว่าพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่าเป็นหลักฐานยืนยันว่าโจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย พวกเขาเรียนเรื่องการออกมาของหนังสือของโมเสสและหนังสือของอับราฮัม นอกจากนี้ยังระบุหลักคำสอนและหลักธรรมจำนวนหนึ่งในหลักแห่งความเชื่อเช่นกัน

วันที่ 3 (ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1)

เมื่อนักเรียนศึกษาคำแถลงนโยบายเรื่องยุติการปฏิบัติการแต่งภรรยาหลายคน พวกเขาเรียนรู้ว่าพระเจ้าทรงกำกับดูแลศาสนจักรของพระองค์ผ่านการเปิดเผยต่อประธานศาสนจักรและพระเจ้าจะไม่ทรงยอมให้ประธานศาสนจักรนำศาสนจักรออกนอกลู่นอกทาง ขณะเรียนรู้เกี่ยวกับความก้าวหน้าของงานพระวิหารในทศวรรษ 1890 นักเรียนค้นพบเช่นกันว่าเราสามารถรับการผนึกกับสมาชิกครอบครัว รวมทั้งคนที่มาก่อนเราและคนที่มาหลังเราผ่านศาสนพิธีการผนึก

วันที่ 4 (หลักคำสอนและพันธสัญญา 138)

โดยศึกษาประสบการณ์ของประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธเมื่อรับการเปิดเผย นักเรียนค้นพบว่าขณะที่เราอ่านและไตร่ตรองพระคัมภีร์ เราเตรียมตัวรับการเปิดเผย นอกจากนี้ พวกเขาเรียนรู้ด้วยว่าโดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และโดยการเชื่อฟังหลักธรรมทั้งหลายของพระกิตติคุณ มนุษยชาติทั้งมวลจะได้รับการช่วยให้รอด นักเรียนเรียนรู้เช่นกันว่าโดยผ่านพระคุณของพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์ เราจะได้รับการปลดปล่อยจากสายรัดแห่งความตายและเราจะได้รับความสมบูรณ์แห่งปีติผ่านการฟื้นคืนชีวิต

คำนำ

บทนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าวิญญาณทั้งหลายในโลกวิญญาณได้รับการสอนพระกิตติคุณอย่างไร นอกจากนี้ยังช่วยให้นักเรียนเข้าใจได้ว่าพวกเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของงานอันสำคัญยิ่งของความรอดสำหรับคนตายได้อย่างไร

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ก่อนสอนบทนี้เกี่ยวกับ หลักคำสอนและพันธสัญญา 138ท่านอาจต้องการถามนักเรียนว่าพวกเขามีคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ศึกษาระหว่างสัปดาห์หรือไม่ ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่เมาน์เทนเมโดวส์หรือ ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 1

หลักคำสอนและพันธสัญญา 138

ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธเรียนรู้วิธีสั่งสอนพระกิตติคุณในโลกวิญญาณ

บอกนักเรียนว่าคนทั่วโลกมีความเชื่อต่างกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราหลังจากเราตาย ถามว่านักเรียนเคยพบคนที่มีความเชื่อต่างกันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราหลังจากเราตายหรือไม่ เชื้อเชิญให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา (จงระวังอย่างพูดในแง่ลบหรือดูถูกความเชื่อทางศาสนาของผู้อื่น)

  • เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความเชื่อใดถูกต้องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย (ท่านอาจต้องการอธิบายว่าแม้แต่วิสุทธิชนยุคสุดท้ายบางคนก็อาจจะมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย)

เพื่อเพิ่มคำตอบของนักเรียน ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

“พระคัมภีร์เป็นมาตรการทดสอบ [มาตรฐาน] ที่ใช้วัดความถูกต้องและความจริง” (“พรจากพระคัมภีร์,”เลียโฮนา, พ.ค. 2010, 41)

ยืนยันว่าเราจะรู้ความถูกต้องของความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับชีวิตหลังความตายได้โดยเปรียบเทียบความเชื่อเหล่านั้นกับความจริงที่พระเจ้าทรงเปิดเผยไว้ในพระคัมภีร์ เช่นใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 138

วาด แผนภาพที่ให้มา ไว้บนกระดาน ท่านอาจต้องการอธิบายพอสังเขปว่าในบางด้านอาจถือว่าโลกวิญญาณทั้งหมดเป็นเรือนจำวิญญาณเพราะแม้แต่คนชอบธรรมก็มองว่าการแยกจากร่างกายเป็นพันธนาการ (ดู คพ. 138:49–50)

แผนภาพเมืองบรมสุขเกษมและเรือนจำวิญญาณ

เพื่อช่วยนักเรียนทบทวนความจริงที่พวกเขาศึกษาใน ภาค 138ท่านจะมอบหมายให้นักเรียนครึ่งชั้นค้นคว้า หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:12–15, 22 เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับคนที่จะไปเมืองบรมสุขเกษมเมื่อสิ้นชีวิตและสภาพที่พวกเขาจะประสบที่นั่น มอบหมายให้อีกครึ่งชั้นค้นคว้า หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:20–22 เพื่อดูรายละเอียดเกี่ยวกับคนที่จะไปเรือนจำวิญญาณเมื่อสิ้นชีวิตและสภาพที่พวกเขาจะประสบที่นั่น ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

ชี้ให้เห็นว่าไม่เฉพาะคนชั่วและคนกบฎเท่านั้นที่จะไปเรือนจำวิญญาณ ณ เวลาสิ้นชีวิต แต่คนที่ตายในบาปโดยไม่รู้พระกิตติคุณก็จะไปที่นั่นด้วย (ดู คพ. 138:32) เตือนความจำนักเรียนว่าขณะที่ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธกำลังไตร่ตรองข้อความใน 1 เปโตรพระเจ้าทรงเปิดเผยต่อท่านว่าคนในเรือนจำวิญญาณจะมีโอกาสได้รับพรของพระกิตติคุณอย่างไร

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:29–32 ขอให้ชั้นเรียนมองหาวิธีสอนพระกิตติคุณในเรือนจำวิญญาณ ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ พวกเขาควรระบุความจริงทำนองนี้: ภายใต้การกำกับดูแลของพระเยซูคริสต์ ผู้ส่งสารที่ชอบธรรมสอนพระกิตติคุณให้ผู้ที่อยู่ในเรือนจำวิญญาณ

บนแผนภาพบนกระดาน ให้วาดลูกศรจากเมืองบรมสุขเกษมไปเรือนจำวิญญาณซึ่งจะหมายถึงผู้ส่งสารที่ชอบธรรมของพระเจ้ากำลังสั่งสอนพระกิตติคุณในเรือนจำวิญญาณ

สรุป หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:33–37 โดยอธิบายว่าบุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์จะมีโอกาสยอมรับหลักธรรมและศาสนพิธีของพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ไม่ว่าบนแผ่นดินโลกหรือในโลกวิญญาณ

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าทุกคนจะได้ยินพระกิตติคุณอย่างไร ให้อธิบายว่าถึงแม้พระผู้ช่วยให้รอดเสด็จเยือนโลกวิญญาณเพียงช่วงสั้นๆ หลังจากสิ้นพระชนม์ แต่พระองค์ทรงวางระเบียบเหล่าวิญญาณที่ชอบธรรมให้ไปสั่งสอนพระกิติคุณแก่คนในเรือนจำวิญญาณ ความพยายามนี้ดำเนินต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ เมื่อคนที่ไม่ได้ยินหรือไม่ยอมรับพระกิตติคุณในยุคสมัยของเราสิ้นชีวิต พวกเขาจะมีโอกาสได้ยินและยอมรับพระกิตติคุณในโลกวิญญาณเช่นกัน

เตือนความจำนักเรียนว่าใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:38–49ประธานโจเซฟ เอฟ. สมิธระบุชื่อวิญญาณ “ยิ่งใหญ่และทรงอำนาจ” มากมายที่ท่านเห็นในโลกวิญญาณผู้รอคอยให้พระผู้ช่วยให้รอดทรงปรากฏต่อพวกเขาหลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์บนกางเขน วิญญาณบางดวงที่พระผู้ช่วยให้รอดเสด็จเยือนคือศาสดาพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิมและในพระคัมภีร์มอรมอน เริ่มใน ข้อ 53เราอ่านว่าประธานสมิธเห็นวิญญาณเลิศเลอผู้จะออกมาในสมัยการประทานสุดท้ายด้วย รวมทั้งศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ (อาของท่าน) และไฮรัม สมิธ (บิดาของท่าน)

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:53–56 ขอให้ชั้นเรียนดูตามและมองหาว่าบุคคลเหล่านี้เอื้อประโยชน์อย่างไรขณะพวกท่านอยู่บนแผ่นดินโลกต่อความรอดของคนในเรือนจำวิญญาณ

  • ผู้นำศาสนจักรยุคสุดท้ายได้ช่วยเหล่าวิญญาณในเรือนจำอย่างไร

หลังจากนักเรียนค้นพบว่าศาสดาพยากรณ์ยุคสุดท้ายช่วยในการไถ่คนตายโดยสร้างพระวิหารและประกอบศาสนพิธีพระวิหารให้คนตาย ให้วางภาพหรือวาดภาพพระวิหารติดกับแผนภาพบนกระดาน

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:58–59 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาสิ่งที่คนตายต้องทำเพื่อรับการไถ่ ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

  • จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่กลับใจในโลกวิญญาณ (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่พวกเขาควรระบุหลักคำสอนต่อไปนี้: วิญญาณที่กลับใจจะได้รับการไถ่ผ่านการเชื่อฟังศาสนพิธีของพระวิหาร ได้รับการชำระให้สะอาดผ่านการชดใช้ และได้รับรางวัลของพวกเขา)

  • เราจะช่วยงานแห่งความรอดสำหรับคนตายได้อย่างไรขณะที่เราอยู่บนแผ่นดินโลก (โดยทำงานประวัติครอบครัวให้สำเร็จและมีส่วนร่วมในศาสนพิธีพระวิหารสำหรับคนตาย)

ชี้ให้ดูภาพพระวิหารบนกระดาน เป็นพยานว่าเมื่อเราไปพระวิหารเพื่อประกอบศาสนพิธีให้ผู้วายชนม์ เราช่วยพวกเขา—หากพวกเขาเลือกยอมรับศาสนพิธี—ให้ได้รับการไถ่จากเรือนจำวิญญาณและสมทบกับวิญญาณชอบธรรมในเมืองบรมสุขเกษม

บนแผนภาพบนกระดาน ให้วาดลูกศรจากเรือนจำวิญญาณไปเมืองบรมสุขเกษมซึ่งจะหมายถึงการไถ่วิญญาณที่กลับใจจากเรือนจำวิญญาณ

  • ความรู้นี้จะส่งผลต่อประสบการณ์ของท่านกับงานพระวิหารและประวัติครอบครัวได้อย่างไร

  • ท่านได้รับพรอย่างไรจากการมีส่วนร่วมในงานพระวิหารและประวัติครอบครัว (ท่านอาจต้องการแบ่งปันประสบการณ์ของท่านเอง)

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:60 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาประจักษ์พยานถึงความจริงที่โจเซฟ เอฟ. สมิธบันทึกไว้

กระตุ้นให้นักเรียนจัดเวลาทำงานพระวิหารและประวัติครอบครัวในสองสามสัปดาห์ถัดไป

สรุปโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระเจ้าพระเยซูคริสต์และพรของการชดใช้ที่มีให้คนเป็นและคนตาย

หน่วยถัดไป (องค์การและโปรแกรมต่างๆ ของศาสนจักร ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 2การเร่งงานแห่งความรอด ถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว และศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่)

ถามนักเรียนว่าพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าทรงกำลังนำศาสนจักรของพระองค์ในปัจจุบัน เหตุใดการมีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่จึงสำคัญ เหตุใดครอบครัวจึงสำคัญ เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาคำตอบของคำถามเหล่านี้เมื่อพวกเขาศึกษาบทเรียนในสัปดาห์ที่จะมาถึง