บทเรียนการศึกษาที่บ้าน

กิจการของอัครทูต 6–12 (หน่วย 18)

การเตรียมเนื้อหาสำหรับครูภาคการศึกษาที่บ้าน

สรุปบทเรียนประจำวันภาคการศึกษาที่บ้าน

ใจความสรุปเหตุการณ์ หลักคำสอน และหลักธรรมต่อไปนี้ที่นักเรียนเรียนรู้ขณะศึกษา กิจการของอัครทูต 6–12 (หน่วย 18) ไม่ได้มีเจตนาจะให้สอนเป็นส่วนหนึ่งในบทเรียนของท่าน บทเรียนที่ท่านสอนเน้นไปที่หลักคำสอนและหลักธรรมเหล่านี้เพียงไม่กี่ข้อ ทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขณะพิจารณาถึงความต้องการของนักเรียน

วันที่ 1 (กิจการของอัครทูต 6–7)

นักเรียนเรียนรู้ว่าสมาชิกที่มีค่าควรของศาสนจักรได้รับเรียกให้ปฏิบัติต่อความต้องการของผู้อื่น ขณะเรียนรู้คำพูดและการถูกสังหารเป็นมรณสักขีของสเทเฟน พวกเขาค้นพบความจริงต่อไปนี้ การต่อต้านพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำไปสู่การปฏิเสธพระผู้ช่วยให้รอดและศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ พระบิดาบนสวรรค์ พระเยซูคริสต์ และพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระสัตภาวะที่แยกกันสามพระองค์ หากเรายังคงชื่อสัตย์ต่อพระเยซูคริสต์ในยามยากลำบาก พระองค์จะทรงอยู่กับเรา

วันที่ 2 (กิจการของอัครทูต 8)

ในการศึกษา กิจการของอัครทูต 8 นักเรียนเรียนรู้ว่าของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้รับการประสาทหลังจากบัพติศมาผ่านการวางมือโดยผู้ดำรงฐานะปุโรหิตที่มีสิทธิอำนาจ ฐานะปุโรหิตได้รับการประสาทตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าและมาตรฐานความมีค่าควร เมื่อเราฟังการกระตุ้นเตือนจากพระผู้เป็นเจ้า เราสามารถรับโอกาสที่จะช่วยนำทางผู้อื่นมาหาพระเยซูคริสต์

วันที่ 3 (กิจการของอัครทูต 9)

ใน กิจการของอัครทูต 9นักเรียนเรียนรู้ว่าพระเจ้าทอดพระเนตรเราดังที่เราจะเป็นและพระองค์ทรงเห็นศักยภาพของเราในการช่วยเหลือพระองค์ในงานของพระองค์ พวกเขาเรียนรู้หลักธรรมต่อไปนี้เช่นกัน ถ้าเรายอมต่อพระประสงค์ของพระเจ้า เราจะเปลี่ยนแปลงและจะทำให้ศักยภาพที่พระองค์ทรงเห็นในเราเกิดสัมฤทธิผล โดยการปฏิบัติต่อผู้อื่น เราสามารถช่วยให้ผู้คนหันมาหาพระเจ้าและเชื่อในพระองค์

วันที่ 4 (กิจการของอัครทูต 10–12)

นักเรียนศึกษานิมิตของเปโตรเกี่ยวกับการสั่งสอนพระกิตติคุณแก่คนต่างชาติ และเรียนรู้ว่าเมื่อเรารู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงนำผู้ที่ควบคุมศาสนจักร เราสามารถสนับสนุนและทำตามพวกเขาได้อย่างมั่นใจ พวกเขาเรียนรู้ความจริงต่อไปนี้ด้วย หากเราพยายามทำให้คนอื่นพอใจแทนที่จะทำให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย เราจะถูกนำไปสู่บาปมากขึ้น คำสวดอ้อนวอนที่จริงใจและกระตือรือร้นของเราเชื้อเชิญปาฏิหาริย์และพรเข้ามาสู่ชีวิตเราและชีวิตผู้อื่น

บทนำ

พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยต่อเปโตรผ่านนิมิตว่าควรสั่งสอนพระกิตติคุณแก่คนต่างชาติ เปโตรสอนพระกิตติคุณแก่โครเนลิอัสและครัวเรือนของเขา หลังจากนั้นได้แก้ไขความขัดแย้งของวิสุทธิชนชาวยิวเกี่ยวกับการสั่งสอนพระกิตติคุณแก่คนต่างชาติ

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

กิจการของอัครทูต 10

พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยต่อเปโตรในนิมิตว่าควรสั่งสอนพระกิตติคุณแก่คนต่างชาติ

เชื้อเชิญให้นักเรียนจินตนาการว่ามีเพื่อนคนหนึ่งถามว่า “ฉันได้ยินว่าในปี 1978 ศาสนจักรของคุณเปลี่ยนจุดยืนให้ชายทุกคนได้รับฐานะปุโรหิตไม่ว่าจะมีเชื้อชาติไหน หากคุณเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงนำศาสนจักรของคุณ และพระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นพระสัตภาวะที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง แล้วสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร

ขอให้นักเรียนเขียนในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาว่าพวกเขาจะตอบคำถามเพื่อนคนนี้อย่างไร (หมายเหตุ: ให้แน่ใจว่านักเรียนตอบคำถามเรื่องการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติในศาสนจักรแทนที่จะคาดการณ์ถึงเหตุผลที่เป็นไปได้ในการจำกัดฐานะปุโรหิต นอกจากนี้ ระหว่างการสนทนาของท่าน อย่าคาดเดาว่าเหตุใดจึงมีการจำกัดฐานะปุโรหิต เพราะว่าเหตุผลในเรื่องนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย [ดู ข้อประกาศอย่างเป็นทางการ 2])

เมื่อพวกเขาศึกษา กิจการของอัครทูต 10 เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาความจริงที่จะช่วยพวกเขาตอบคำถามว่าพระเจ้าทรงนำ นำทาง เปลี่ยนแปลง และกำกับดูแลศาสนจักรของพระองค์อย่างไร

อธิบายว่าเมื่อถึงจุดนี้ในสมัยพันธสัญญาใหม่ มีการสั่งสอนพระกิตติคุณแก่ชาวยิวเท่านั้นโดยมีข้อยกเว้นอยู่ไม่กี่ครั้งตามที่ได้รับการกำกับดูแลจากพระผู้ช่วยให้รอด (ดู มัทธิว 10:5–6) อย่างไรก็ตาม ใน กิจการของอัครทูต 10 เราอ่านเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวิธีที่ศาสนจักรดำเนินการเรื่องนี้

เชื้อเชิญให้นักเรียนสรุปสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จากการศึกษาของพวกเขาเกี่ยวกับคนต่างชาติที่ชื่อโครเนลิอัส (เขาเป็นทหารในกองทัพโรมัน เขาและครัวเรือนของเขาเป็นผู้ที่เชื่อและเป็นผู้ที่เกรงกลัวพระเจ้า เพราะเป็นคนต่างชาติ เขาไม่สามารถเข้าร่วมกับศาสนจักรของพระคริสต์ได้หากไม่เปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่ศาสนายิวก่อน)

สรุป กิจการของอัครทูต 10:3–8 โดยอธิบายว่าเนื่องจากความซื่อสัตย์ของโครเนลิอัส ทูตสวรรค์มาปรากฏต่อเขาและบอกให้เขาส่งชายสามคนไปหาเปโตรที่ยัฟฟา ขณะคนรับใช้ของโครเนลิอัสเดินทางไปยัฟฟา เปโตรมีนิมิตที่น่าอัศจรรย์ขณะอยู่บ้านของชายที่ชื่อว่าซีโมน

เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก กิจการของอัครทูต 10:9–16 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปโตรเห็นอะไรในนิมิต (เพื่อความหลากหลาย ท่านอาจต้องการแจกกระดาษให้นักเรียนคนละแผ่นเพื่อทำกิจกรรมวาดรูป เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน กิจการของอัครทูต 10:9–16 ในใจและวาดภาพนิมิตของเปโตรดังที่บรรยายไว้ในข้อเหล่านี้ หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ขอให้นักเรียนใช้ภาพของพวกเขาอธิบายให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนฟังว่าเกิดอะไรขึ้นในนิมิตของเปโตร) หลังจากทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง ให้ถามว่า

• ในนิมิตนี้ เปโตรได้รับบัญชาให้กินอะไร

• ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 14 อะไรคือปฏิกิริยาแรกของเปโตรต่อพระบัญชานี้ (อธิบายว่าภายใต้กฎของโมเสส ชาวยิวถูกห้ามกินเนื้อสัตว์ที่กำหนดว่าเป็นสัตว์ธรรมดาหรือไม่บริสุทธิ์ [ดู เลวีนิติ 11])

• ตามที่กล่าวไว้ใน กิจการของอัครทูต 10:15 พระเจ้าตรัสอะไรเกี่ยวกับสัตว์ที่ไม่บริสุทธิ์ซึ่งพระองค์ทรงบัญชาให้เปโตรกิน

สรุป กิจการของอัครทูต 10:17–28 โดยอธิบายว่าในตอนแรกเปโตรไม่เข้าใจความหมายของนิมิตนั้น ขณะเขากำลังไตร่ตรองนิมิตของเขา คนรับใช้ของโครเนลิอัสมาถึงและบอกเปโตรเกี่ยวกับนิมิตของโครเนลิอัส วันต่อมา เปโตรและสานุศิษย์คนอื่นๆ ไปหาโครเนลิอัสกับพวกเขา แม้ในข้อเท็จจริง ชาวยิวส่วนใหญ่คิดว่าเป็นการผิดกฎที่จะคบหาสมาคมหรือไปเยี่ยมเยียนคนต่างชาติ แต่เปโตรก็เข้าไปในบ้านของโครเนลิอัส

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 10:28 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาเหตุผลที่เปโตรให้เกี่ยวกับการคบหาสมาคมหรือการไปเยี่ยมเยียนคนต่างชาติ

• เปโตรให้เหตุผลอะไรเกี่ยวกับการคบหาสมาคมหรือการไปเยี่ยมเยียนคนต่างชาติ

สรุป กิจการของอัครทูต 10:29–33 โดยอธิบายว่าโครเนลิอัสบอกเปโตรเกี่ยวกับนิมิตของเขา โครเนลิอัสรวบรวมครอบครัวและเพื่อนๆ ของเขามาให้เปโตรสอนด้วย

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 10:34–35 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เปโตรเรียนรู้

• ท่านจะสรุปสิ่งที่เปโตรเรียนรู้ว่าอย่างไร (ท่านอาจต้องอธิบายว่าถึงแม้พระผู้เป็นเจ้าไม่ทรงโปรดปรานผู้คนโดยดูจากความโดดเด่นของเชื้อชาติหรือสถานะทางสังคม แต่พระองค์ทรงตัดสินทุกคนจากงานของพวกเขาและประทานพรคนที่เชื่อฟังพระองค์ ท่านอาจพบว่าบทความ “Race and the Church: All Are Alike unto God” [mormonnewsroom.org/article/race-church] เป็นประโยชน์เช่นกัน)

สรุป กิจการของอัครทูต 10:36–43 โดยอธิบายว่าเปโตรสอนโครเนลิอัสและครัวเรือนของเขาเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และงานดี การตรึงกางเขน และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ เปโตรเป็นพยานว่าคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์จะได้รับการปลดบาปของพวกเขา

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 10:44–48 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาผลจากการที่เปโตรสอนคนต่างชาติเหล่านี้ อธิบายว่าวลี “บรรดาคนเข้าสุหนัต” ใน ข้อ 45 หมายถึงสานุศิษย์ชาวยิวที่มาจากยัฟฟากับเปโตร

• ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 44–46 การสอนของเปโตรมีผลอะไรต่อครัวเรือนของโครเนลิอัส (ท่านอาจจำเป็นต้องอธิบายว่าวลี “พระวิญญาณบริสุทธิ์” ใน ข้อ 45 หมายถึง อำนาจ ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งลงมาบนคนต่างชาติเหล่านี้ อำนาจนี้แตกต่างจาก ของประทาน แห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งเราได้รับผ่านศาสนพิธีแห่งการยืนยันหลังจากบัพติศมา [ดู กิจการของอัครทูต 8:14–17; คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ (2007), 104])

• เหตุใดชาวยิวที่อยู่ในเหตุการณ์นี้จึงประหลาดใจ

• โดยผ่านประสบการณ์ของเปโตรที่บันทึกใน กิจการของอัครทูต 10พระเจ้าทรงเปิดเผยอะไรต่อเขาเกี่ยวกับคนต่างชาติ

เพื่อช่วยนักเรียนระบุหลักคำสอนที่เราสามารถเรียนรู้จาก กิจการของอัครทูต 10 แบ่งนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละสองหรือสามคน จัดเตรียมสำเนา เอกสารแจกต่อไปนี้ให้แต่ละกลุ่ม หรือเขียนคำถามเหล่านี้ไว้บนกระดาน เชื้อเชิญให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่มเพื่อตอบคำถาม

เอกสารแจก

กิจการของอัครทูต 10

คู่มือครูเซมินารี พันธสัญญาใหม่—บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน (หน่วย 18)

• เราสามารถเรียนรู้ความจริงอะไรจากเรื่องราวของเปโตรและโครเนลิอัสเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้าทรงนำศาสนจักรของพระองค์ (จดจำว่าเปโตรเป็นประธานศาสนจักร)

• เราสามารถเรียนรู้ความจริงอะไรจากข้อเท็จจริงที่ว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงต่อเปโตรตลอดเวลา แทนที่จะเปิดเผยทั้งหมดครั้งเดียว

• เราสามารถเรียนรู้ความจริงอะไรจากเรื่องราวนี้เกี่ยวกับสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำกับคำแนะนำที่พระองค์ประทานไว้ในอดีต

© 2015 by Intellectual Reserve, Inc. All rights reserved.

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนหลายๆ คนมาที่กระดานเพื่อเขียนความจริงต่างๆ ที่กลุ่มพวกเขาระบุ ให้แน่ใจว่ามีการสะท้อนความจริงต่อไปนี้ในสิ่งที่พวกเขาเขียน

พระผู้เป็นเจ้าทรงนำศาสนจักรของพระองค์โดยการเปิดเผยต่อศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ อัครสาวกอาวุโส

เราอาจค่อยๆ ได้รับการเปิดเผยและความเข้าใจขณะที่เราเชื่อฟังพระเจ้า

พระผู้เป็นเจ้าอาจทรงเปลี่ยนหรือเพิ่มคำแนะนำที่พระองค์ประทานไว้ในอดีตโดยขึ้นอยู่กับพระปรีชาญาณของพระองค์และตามความต้องการของบุตรธิดาของพระองค์

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้ชั้นเรียนฟังว่าความจริงข้อที่สามที่พวกเขาระบุสะท้อนอยู่ในคำกล่าวของเอ็ลเดอร์คริสทอฟเฟอร์สันอย่างไร

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

“ด้วยประสบการณ์และการเปิดเผยที่เปโตรได้รับ พระเจ้าทรงปรับเปลี่ยนวิธีปฏิบัติของศาสนจักรและทรงเปิดเผยความเข้าใจทางหลักคำสอนให้สมบูรณ์มากขึ้นแก่สานุศิษย์ของพระองค์ ด้วยเหตุนี้การสั่งสอนพระกิตติคุณจึงขยายออกไปยังบรรดามนุษยชาติอย่างทั่วถึง” (“หลักคำสอนของพระคริสต์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2012, 88)

ให้เวลานักเรียนทบทวนสิ่งที่พวกเขาเขียนเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาจะตอบคำถามของเพื่อนเรื่องการเปลี่ยนระเบียบปฏิบัติในศาสนจักร กระตุ้นให้พวกเขาเขียนความคิดเห็นเพิ่มเติมที่พวกเขาได้รับขณะศึกษา กิจการของอัครทูต 10 และให้พวกเขาแบ่งปันความคิดเห็นเหล่านี้กับชั้นเรียน

ท่านอาจต้องชี้แจงว่าถึงแม้พระผู้เป็นเจ้าจะทรงเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติของศาสนจักรและเพิ่มความเข้าใจด้านหลักคำสอนของเราผ่านการเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง (ดู หลักแห่งความเชื่อ 1:9) แต่พระอุปนิสัยอันสูงส่ง พระคุณลักษณะ พันธสัญญา หลักคำสอน และแผนของพระองค์ไม่เคยเปลี่ยน การรู้สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าและมั่นใจว่าพระองค์จะทรงนำศาสนจักรของพระองค์ตามพระประสงค์ของพระองค์และตามความต้องการของบุตรธิดาของพระองค์

สรุปโดยเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขาถึงความจริงที่พวกเขาเรียนรู้

หน่วยต่อไป (กิจการของอัครทูต 13–19)

เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาคำตอบและพิจารณาคำตามต่อไปนี้ระหว่างการศึกษา กิจการของอัครทูต 13–19 เปาโลทำสิ่งใดต่อเอลีมาสนักเล่นคาถาอาคม ท่านคิดว่าท่านจะมีปฏิกิริยาอย่างไรถ้ามีคนเชื่อว่าท่านเป็นพระเจ้า เหตุใดเปาโลและบารนาบัสได้รับการสรรเสริญว่าเป็นพระเจ้า พวกเขาตอบรับอย่างไร มีปัญหาอะไรในบรรดาสมาชิกศาสนจักรเกี่ยวกับเรื่องการเข้าสุหนัต และเหตุใดเรื่องนี้จึงต้องส่งไปให้อัครสาวกพิจารณา พวกเขาตัดสินว่าอย่างไร เมื่อเปาโลไปเยือนกรุงเอเธนส์ เขาสั่งสอนจากเนินเขามาร์สเกี่ยวกับพระเจ้าที่ไม่รู้จัก เขาสอนอะไรแก่ผู้คน