คลังค้นคว้า
บทที่ 141: ยากอบ 2


บทที่ 141

ยากอบ 2

คำนำ

ยากอบกระตุ้นให้วิสุทธิชนเอื้อมออกไปช่วยคนที่ต่ำต้อยและสอนว่าผู้ติดตามที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์จะไม่ลำเอียงให้คนมั่งมีมากกว่าคนยากจน ยากอบสอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างศรัทธากับงาน

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ยากอบ 2:1–13

ยากอบสอนผู้ติดตามของพระคริสต์ไม่ให้แสดงความลำเอียงกับคนมั่งมี

สุ่มเลือกนักเรียนคนหนึ่ง และให้ขนมเล็กๆ น้อยๆ แก่นักเรียนคนนี้ บอกชั้นเรียนว่าท่านให้ขนมนักเรียนคนนี้เนื่องจากเหตุผลที่ท่านเลือกตามใจชอบ (ตัวอย่างเช่น เนื่องจากนักเรียนคนนั้นแต่งกายด้วยสีที่ท่านชอบหรือเพราะเขานำสิ่งของบางอย่างมาที่ชั้นเรียน)

  • การปฏิบัติของฉันต่อนักเรียนคนนี้ทำให้คนที่เหลือรู้สึกอย่างไร

  • เหตุใดผู้คนจึงลำเอียงในบางครั้ง

เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงเวลาที่พวกเขาเห็นบางคนได้รับการปฏิบัติดีกว่าคนอื่นและให้พิจารณาว่าสิ่งที่เห็นทำให้พวกเขารู้สึกอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยากอบ 2:1–4 อธิบายว่างานแปลของโจเซฟ สมิธ ยากอบ 2:1 กล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า, ท่านไม่สามารถมีศรัทธาในพระเจ้า พระเยซูคริสต์ของเรา, พระเจ้าแห่งรัศมีภาพ, และยังเลือกที่รักมักที่ชัง.” ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่ายากอบเตือนวิสุทธิชนเกี่ยวกับอะไร

  • ยากอบเตือนวิสุทธิชนเกี่ยวกับอะไร

ชี้ให้เห็นว่าการ “ลำเอียง” (งานแปลของโจเซฟ สมิธ, ยากอบ 2:1) หมายถึงการแสดงความชื่นชอบคนคนหนึ่งหรือคนกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษขณะที่ปฏิบัติกับคนอื่นไม่ดีเนื่องจากสภาพการณ์หรือบุคลิกภาพของพวกเขา

  • ยากอบแบ่งปันตัวอย่างอะไรบ้างเกี่ยวกับการลำเอียง

  • มีแบบอย่างอะไรบ้างในสมัยของเราที่บุคคลแสดงความลำเอียงต่อคนบางคนขณะที่ปฏิบัติต่อคนอื่นไม่ดีเนื่องจากสภาพการณ์หรือบุคลิกภาพของพวกเขา

สรุป ยากอบ 2:5–7 โดยอธิบายว่ายากอบยังคงตำหนิวิสุทธิชนที่แสดงความลำเอียงให้คนมั่งมีต่อไป เขาสอนคนเหล่านั้นว่าพระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกคนจนให้มั่งมีในศรัทธาและเป็นทายาทอาณาจักรของพระองค์ ยากอบเตือนวิสุทธิชนด้วยว่าคนมั่งมีเป็นคนที่กดขี่พวกเขาและลบหลู่พระเจ้า

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ยากอบ 2:8 ในใจ โดยมองหาสิ่งที่ยากอบเตือนวิสุทธิชนให้ทำซึ่งจะช่วยพวกเขาขจัดความลำเอียง

  • ยากอบเตือนวิสุทธิชนให้ทำอะไร

  • ท่านคิดว่าเหตุใดพระบัญญัตินี้จึงเรียกว่าเป็น “ธรรมบัญญัติของพระเจ้า” (ยากอบ 2:8)

  • เราสามารถเรียนรู้หลักธรรมอะไรจากข้อเหล่านี้เกี่ยวกับวิธีที่สานุศิษย์ผู้ซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์ปฏิบัติต่อผู้คน (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกันแต่ควรระบุหลักธรรมทำนองนี้ สานุศิษย์ที่ซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์รักทุกคนไม่ว่าสภาพการณ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร เขียนหลักธรรมนี้ไว้บนกระดาน)

  • ระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจในความเป็นมรรตัย พระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นแบบอย่างด้วยวิธีใดในการรักผู้อื่นไม่ว่าสภาพการณ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร

ขอให้นักเรียนนึกถึงคนบางคนที่พยายามรักทุกคน เชื้อเชิญให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันกับชั้นเรียนถึงคนที่พวกเขานึกถึงและเหตุผล

ขอให้นักเรียนพิจารณาว่าพวกเขาปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไร กระตุ้นให้พวกเขามองหาโอกาสที่จะทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดในการรักผู้อื่น

เชื้อเชิญให้นักเรียนจินตนาการว่า หลังจากได้ยินคำสอนของยากอบเกี่ยวกับการรักทุกคน พวกเขาได้ยินบางคนพูดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่หากเราจะลำเอียงให้บางคนมากกว่าขณะที่ปฏิบัติกับคนอื่นไม่ดี คนนี้พูดด้วยว่าเราอาจทำเรื่องที่แย่กว่านี้อีกมาก

  • ปัญหาอะไรที่อาจเกิดจากการมีความคิดแบบนี้

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยากอบ 2:9–10 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเหตุใดจึงเป็นเรื่องร้ายแรงในการไม่รักทุกคนไม่ว่าสภาพการณ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร

  • เหตุใดจึงเป็นเรื่องร้ายแรงในการไม่รักทุกคนไม่ว่าสภาพการณ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไร

  • เราสามารถเรียนรู้ความจริงอะไรจากคำสอนของยากอบในข้อเหล่านี้ (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่ให้แน่ใจว่าพวกเขาควรระบุความจริงทำนองนี้ หากเราทำบาปแม้แต่บาปเดียว เรามีความผิดต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ยากอบ 2:10 อะไรคือผลนิรันดร์ของการละเมิดแม้แต่พระบัญญัติข้อเดียวของพระผู้เป็นเจ้า (เราจะเป็นเหมือนเรา “ผิดธรรมบัญญัติทั้งหมด” ซึ่งเราจะไม่สะอาดและด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า [ดู 1 นีไฟ 10:21])

  • เหตุใดเรายังคงมีความหวัง แม้การไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าทำให้เราไม่สะอาดที่จะอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า

เชื้อเชิญนักเรียนอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุด

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“แต่ยังไม่สิ้นหวัง

“พระคุณของพระผู้เป็นเจ้าคือความหวังที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนของเรา

“โดยผ่านการพลีพระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ แผนแห่งความเมตตาทำให้พอแก่ข้อเรียกร้องของความยุติธรรม [ดู แอลมา 42:15] ‘และ [นำ] มาซึ่งหนทางให้มนุษย์เพื่อพวกเขาจะมีศรัทธาสู่การกลับใจ’ [แอลมา 34:15]

“ถึงบาปของเจ้าเป็นเหมือนสีแดงเข้ม ก็จะขาวอย่างหิมะ [ดู อิสยาห์ 1:18] เพราะพระผู้ช่วยให้รอดอันเป็นที่รักของเรา ‘ประทานพระองค์เองให้เป็นค่าไถ่สำหรับทุกคน’ [1 ทิโมธี 2:6] ทางเข้าสู่อาณาจักรนิรันดร์ของพระองค์เตรียมไว้สำหรับเรา [ดู 2 เปโตร 1:11]” (“ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 108)

  • เราต้องทำอะไรเพื่อมีค่าควรเข้าสู่อาณาจักรของพระเจ้าผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

  • หลักธรรมที่เราระบุใน ข้อ 10 อาจช่วยให้เราซาบซึ้งกับการชดใช้ของพระเยซูคริสต์เต็มที่มากขึ้นได้อย่างไร

สรุป ยากอบ 2:11–13 โดยอธิบายว่ายากอบให้ตัวอย่างของหลักคำสอนที่สอนใน ข้อ 10 จากนั้นเขากระตุ้นให้ผู้เชื่อปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างมีเมตตา เพราะคนที่ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่มีเมตตาจะถูกพิพากษาอย่างปราศจากความเมตตา

ยากอบ 2:14–26

ยากอบสอนเกี่ยวกับบทบาทของศรัทธาและการทำงานในความรอดของเรา

เชื้อเชิญให้นักเรียนสมมติว่าเยาวชนชายคนหนึ่งตระหนักว่าเขาทำบาป เขาเชื่อในการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และในความสามารถของพระผู้ช่วยให้รอดที่จะช่วยเขาให้รอด เขาบอกว่าทั้งหมดที่เขาต้องทำคือเชื่อและพระเจ้าจะทรงให้อภัยเขา โดยไม่ต้องทำความพยายามอื่นใดในส่วนของเขา

ขอให้นักเรียนพิจารณาว่าความเชื่อของเยาวชนชายคนนี้อย่างเดียวเพียงพอสำหรับเขาที่จะให้รับอภัยบาปของเขาหรือไม่

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยากอบ 2:14 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่ยากอบถามวิสุทธิชนเกี่ยวกับศรัทธา

  • ยากอบถามอะไรวิสุทธิชนเกี่ยวกับศรัทธา

  • ท่านคิดว่ายากอบพูดถึงงานประเภทใด

อธิบายว่ายากอบกำลังแก้ไขแนวคิดผิดๆ เกี่ยวกับศรัทธา บางคนเข้าใจผิดว่าศรัทธาเป็นแค่การพูดออกมาว่าเชื่อเท่านั้น ในบริบทของ ยากอบ 2:14 ยากอบใช้คำว่า ประพฤติ ต่างจากวิธีที่อัครสาวกเปาโลใช้ เมื่อเปาโลใช้คำว่า ประพฤติ เขาหมายถึงการประพฤติตามกฎของโมเสส เมื่อยากอบใช้คำว่า ประพฤติ เขาหมายถึงการกระทำแห่งการอุทิศตนหรืองานแห่งความชอบธรรม

ดังที่บันทึกใน ยากอบ 2:15–16 ยากอบใช้การเปรียบเทียบเพื่อแสดงคำตอบต่อคำถามของเขาใน ข้อ 14 เชิญนักเรียนสองคนออกมาที่หน้าชั้นเรียน ขอให้นักเรียนคนหนึ่งแสดงเป็นคนขอทานโดยขออาหาร เสื้อผ้า และที่พักพิงที่ต้องการเพื่อมีชีวิตรอด เชื้อเชิญนักเรียนอีกคนให้แสดงเป็นคนที่สามารถช่วยคนขอทานนั้นได้ เชื้อเชิญให้นักเรียนคนที่สามอ่านออกเสียง ยากอบ 2:15–16 ขณะนักเรียนอีกสองคนแสดงดังที่บรรยายในข้อเหล่านี้

  • การตอบสนองที่ให้แก่นักเรียนที่ขอทานผิดปกติอย่างไร การตอบสนองของนักเรียนอีกคนหนึ่งพอที่จะช่วยคนขอทานหรือไม่

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่ง อ่าน ออกเสียงยากอบ 2:17–18 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่ยากอบสอนเกี่ยวกับศรัทธา

  • ท่านคิดว่าประโยคนี้ “ความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว” (ข้อ 17) หมายความว่าอย่างไร

  • การเปรียบเทียบของยากอบเกี่ยวกับขอทานช่วยให้เราเข้าใจความหมายของประโยคนี้อย่างไร

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 17 ยากอบสอนความจริงอะไรเกี่ยวกับศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์ (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกันแต่ควรระบุความจริงทำนองนี้ ศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์แสดงให้เห็นประจักษ์โดยงานที่ชอบธรรมของเรา เขียนความจริงนี้ไว้บนกระดาน)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยากอบ 2:19–20 อธิบายว่างานแปลของโจเซฟ สมิธ ยากอบ 2:19 กล่าวว่า “ท่านเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงองค์เดียว นั่นก็ดี แม้พวกผีก็เชื่อและกลัวจนตัวสั่น ท่านทำตัวท่านเหมือนพวกมัน โดยไม่ได้ถูกชำระให้ชอบธรรม” ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาตัวอย่างที่ยากอบใช้เพื่อแสดงว่าการเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าไม่จำเป็นต้องรวมถึงการมีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

  • ยากอบใช้ตัวอย่างอะไรเพื่อแสดงว่าการเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าไม่จำเป็นต้องรวมถึงการมีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

“ศรัทธาที่แท้จริงมีศูนย์รวมอยู่ที่พระเจ้าพระเยซูคริสต์และมักจะนำไปสู่การประพฤติชอบ … การปฏิบัติอย่างเดียวไม่ใช่ศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอด แต่การปฏิบัติสอดคล้องกับหลักธรรมที่ถูกต้องเป็นองค์ประกอบสำคัญของศรัทธา” (“ทูลขอด้วยศรัทธา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 114)

  • ตามคำกล่าวของเอ็ลเดอร์เบดนาร์ อะไรคือ “องค์ประกอบสำคัญของศรัทธา”

  • เหตุใดจึงสำคัญที่จะเข้าใจว่าศรัทธาในพระเยซูคริสต์หมายรวมถึงการเชื่อในพระองค์และการปฏิบัติตามหลักธรรมที่ถูกต้อง

เตือนนักเรียนถึงเยาวชนชายในสถานการณ์สมมติช่วงเริ่มต้นของหมวดนี้ในบทเรียน

  • การเข้าใจว่าศรัทธาหมายรวมถึงความเชื่อและการกระทำอาจช่วยบางคนที่แสวงหาการให้อภัยบาปของเขาอย่างไร

สรุป ยากอบ 2:21–26 โดยอธิบายว่ายากอบพูดถึงอับราฮัมและราหับเพื่อเป็นแบบอย่างสองเรื่องของผู้คนที่ศรัทธาของพวกเขาในพระผู้เป็นเจ้าแสดงให้ประจักษ์ในงานของพวกเขา (เรื่องราวของนางราหับผู้กล้าหาญมีอยู่ใน โยชูวา 2:1–22)

เชื้อเชิญให้นักเรียนใช้สมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาเขียนเกี่ยวกับเวลาที่พวกเขาแสดงศรัทธาในพระเยซูคริสต์ผ่านงานของพวกเขาและพวกเขาได้รับพรในการทำเช่นนั้นอย่างไร กระตุ้นให้นักเรียนรวมประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและวิธีที่พวกเขาจะแสดงความเชื่อนั้นผ่านการกระทำของพวกเขาด้วย ขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเขียนกับชั้นเรียน

เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าพวกเขาจะใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ให้เต็มที่มากขึ้นโดยการเชื่อฟังพระองค์อย่างไร กระตุ้นให้พวกเขาทำตามการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณที่พวกเขาได้รับ

ไอคอนผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์
ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์—ยากอบ 2:17–18

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจความจริงที่สอนในข้อผู้เชี่ยวชาญนี้ ให้แจกกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้พวกเขาแต่ละคน เชื้อเชิญให้พวกเขาเขียนคำของข้อความนี้บนด้านหนึ่งของกระดาษ จากนั้นขอให้พวกเขาเติมประโยคต่อไปนี้ให้ครบถ้วนบนอีกด้านหนึ่งของกระดาษ ฉันจะแสดงให้พระเจ้าเห็นศรัทธาของฉันในพระองค์โดย … กระตุ้นให้นักเรียนเก็บกระดาษแผ่นนี้ในกระเป๋าของพวกเขาตลอดทั้งวันและให้เขียนรายการความคิดในการแสดงศรัทธาที่พวกเขามีต่อพระเจ้าไปเรื่อยๆ เมื่อพวกเขาเพิ่มในรายการ พวกเขาสามารถทบทวนข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ กระตุ้นให้พวกเขาวางกระดาษไว้ในที่ซึ่งพวกเขาจะเห็นได้บ่อยๆ และเตือนพวกเขาถึงเป้าหมายที่วางไว้

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ยากอบ 2:10 หากเราทำผิดบาปหนึ่งข้อ เราทำผิดทุกข้อจริงหรือ

คำสอนของยากอบดังที่บันทึกใน ยากอบ 2:10 เป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้าใจแต่ก็สามารถเข้าใจผิดได้ง่ายด้วย ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธสอนเกี่ยวกับข้อนี้

“ยากอบกล่าวในสาส์นของเขาว่า ‘เพราะว่าใครที่รักษาธรรมบัญญัติทั้งหมด แต่ผิดอยู่ข้อเดียว คนนั้นก็ทำผิดธรรมบัญญัติทั้งหมด [ยากอบ 2:10] ดูเหมือนเป็นการพูดที่รุนแรง แต่นั่นเป็นความจริง กฎซึ่งปกครองอาณาจักรซีเลสเชียลดีพร้อมและก่อนที่เราจะเข้าไปที่นั่น เราต้องทำตัวของเราให้สอดคล้องกับกฎทั้งหมดนั้น บุคคลที่กบฎต่อพระบัญญัตินิรันดร์ข้อใดข้อหนึ่งไม่สามารถได้รับการชำระให้ชอบธรรมและไม่สามารถเข้าไปในอาณาจักรซีเลสเชียล หากเขาได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้นเขาจะนำความสับสนเข้าไปในอาณาจักรนั้น และสภาพเช่นนั้นไม่สามารถชำระให้ชอบธรรมได้” (“The Standards of the Church,Improvement Era, July 1957, 506)

ยากอบ 2:14–18 เรารอดไม่ได้โดยงานของเรา

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุดชี้แจงว่าเป็นการเชื่อฟังพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าที่ช่วยให้เรารอด

“ความรอดไม่สามารถซื้อได้ด้วยสกุลเงินแห่งการเชื่อฟัง แต่ซื้อได้ด้วยพระโลหิตของพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า [ดู กิจการของอัครทูต 20:28] การคิดว่าเราสามารถแลกเปลี่ยนงานดีของเรากับความรอดได้ก็เหมือนการซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วทึกทักเอาว่าเราเป็นเจ้าของสายการบิน หรือการคิดว่าหลังจากจ่ายค่าเช่าบ้านแล้วเราถือกรรมสิทธิ์ของแผ่นดินโลกทั้งหมด” (“ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 109)

ยากอบ 2:18–26 “ข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านเห็นความเชื่อของข้าพเจ้าโดยการประพฤติ”

“ยากอบพูดเพื่อรายงานถึงผู้คนที่พูดอย่างง่ายๆ ว่าศรัทธาเป็นสิ่งที่ไม่เกี่ยวกับการกระทำหรือ ‘การประพฤติ’ ของคน (ดู ยากอบ 2:14–26) …

“… ยากอบไม่ได้สอนว่าศรัทธาไม่มีอำนาจในการช่วยให้รอด เขากำลังสอนว่าความเชื่อที่ไม่ปฏิบัติตามไม่ใช่ศรัทธาที่ช่วยให้รอดอย่างแท้จริง เมื่อยากอบท้าทายผู้อ่านของเขาเพื่อ ‘แสดงให้ข้าพเจ้าเห็นความเชื่อของท่านโดยไม่มีการประพฤติซิ’ (ยากอบ 2:18) เขาชี้ให้เห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่คนๆ หนึ่งจะแสดงศรัทธาเว้นแต่โดยศรัทธาของคนนั้น—ศรัทธาที่แท้จริงไม่สามารถมีอยู่ได้โดยปราศจากงานที่ชอบธรรม” (คู่มือนักเรียน พันธสัญญาใหม่ [คู่มือของระบบการศึกษาของศาสนจักร, 2014], 495)

ยากอบพูดถึงอับราฮัมและราหับเพื่อเป็นแบบอย่างสองประการเกี่ยวกับคนที่แสดงศรัทธาของพวกเขาในพระเยซูคริสต์ให้ประจักษ์โดยงานของพวกเขา ยากอบอธิบายว่าอับราฮัมและราหับ “ถูกชำระให้ชอบธรรม” การถูกชำระให้ชอบธรรมหมายถึง “ได้รับการอภัยโทษจากบาปและประกาศว่าไม่มีความผิด บุคคลได้รับการชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระผู้ช่วยให้รอดผ่านศรัทธาในพระองค์ ศรัทธานี้แสดงให้เห็นโดยการกลับใจและการเชื่อฟังกฎและศาสนพิธีทั้งหลายของพระกิตติคุณ” (Guide to the Scriptures, Justification,scriptures.lds.org) ดังนั้น อับราฮัมและราหับไม่ได้รอดเพราะงานของพวกเขา แต่เพราะว่างานและการเชื่อฟังพระเจ้าแสดงว่าพวกเขามีศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์และในพลังอำนาจของพระองค์เพื่อช่วยให้รอด