บทที่ 71
ยอห์น 11
คำนำ
มารีย์และมารธาส่งข่าวไปทูลพระเยซูว่าลาซารัส น้องชายของนางป่วยอยู่ พระองค์ทรงพักการเดินทางของพระองค์และเสด็จถึงหลังจากลาซารัสสิ้นชีวิตได้สี่วัน ด้วยความรักและความสงสาร พระเยซูทรงทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากตาย การแสดงพลังอำนาจจากสวรรค์อันล้ำลึกนี้ย้ำว่าพระเยซูทรงเป็นพระเมสสิยาห์ที่ได้รับเลือกและทรงมีเดชานุภาพเหนือความตาย หลังจากรู้ถึงปาฏิหาริย์นี้ พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีวางแผนจะสังหารพระเยซูและลาซารัส
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
ยอห์น 11:1–46
พระเยซูทรงทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากตาย
แจกกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้นักเรียนคนละแผ่น เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนการทดลองที่พวกเขาหรือบางคนที่พวกเขารู้จักเคยประสบมาลงในกระดาษนั้น ขณะที่นักเรียนเขียน บอกพวกเขาว่าสิ่งที่พวกเขาเขียนจะนำมาแบ่งปันกับชั้นเรียนโดยไม่บอกว่าเป็นใคร ดังนั้นพวกเขาไม่ต้องเขียนชื่อในกระดาษ เก็บกระดาษและอ่านออกเสียงการทดลองบางอย่าง (เพื่อหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะรู้ว่าเป็นนักเรียนคนใดด้วยการทดลองบางอย่าง หากท่านมีนักเรียนเพียงสองสามคน ขอให้นักเรียนเขียนการทดลองหลายๆ อย่างที่พวกเขาเห็นผู้อื่นประสบ)
-
ศรัทธาของผู้คนในพระเยซูคริสต์อาจได้รับผลกระทบเมื่อพวกเขาประสบกับการทดลองในทางใดบ้าง
เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาความจริงขณะพวกเขาศึกษา ยอห์น 11 ที่จะช่วยเพิ่มศรัทธาของเราในพระเยซูคริสต์เมื่อเราประสบกับการทดลอง
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่ง อ่าน ออกเสียง ยอห์น 11:1–3 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาการทดลองอย่างหนึ่งที่มิตรสหายบางคนของพระเยซูประสบ
-
ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 1 ลาซารัสประสบกับการทดลองอะไร นี่อาจจะเป็นการทดลองสำหรับมารีย์และมารธาด้วยอย่างไร
-
มารีย์และมารธาทำอะไรเพราะความเจ็บป่วยของลาซารัส การตอบสนองนี้บอกอะไรเกี่ยวกับพวกเธอ
ชี้ให้เห็นว่าพระเยซูประทับในเบธาบาราของเพอเรีย (ดู ยอห์น 1:28; 10:40) ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งวันจากเบธานี ดังนั้น น่าจะใช้อย่างน้อยหนึ่งวันสำหรับคนที่จะนำข่าวสารไปทูลงพระเยซูและอีกหนึ่งวันสำหรับพระเยซูที่จะเสด็จมาเบธานี
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยอห์น 11:4–7 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาวิธีที่พระเยซูทรงตอบสนองหลังจากทรงได้ยินข่าวความเจ็บป่วยของลาซารัส
-
โดยที่รู้ว่าพระเยซูทรงรักมารธา มารีย์ และลาซารัส เหล่าสานุศิษย์อาจคาดหวังว่าพระเยซูจะทรงทำอะไรทันทีที่ทรงได้ยินข่าวความเจ็บป่วยของลาซารัส (เสด็จไปเบธานีและรักษาลาซารัสทันที หรืออาจตรัสและรักษาเขาจากแดนไกล ดังที่ทรงทำให้แก่บุตรชายของข้าราชการ [ดู ยอห์น 4:46–53])
-
พระเยซูกลับทรงทำอะไร
-
ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 4 พระเยซูตรัสว่าอะไรจะสำเร็จผ่านความเจ็บป่วยของลาซารัส
เตือนนักเรียนว่าเบธานีอยู่ห่างจากเยรูซาเล็มในแผ่นดินยูเดียไม่ถึงสองไมล์( 3.22 กิโลเมตร) (ดู ยอห์น 11:18) สรุป ยอห์น 11:8–10 โดยอธิบายว่าสานุศิษย์บางคนแนะนำพระเยซูไม่ให้เสด็จกลับไปที่ยูเดียเนื่องจากผู้นำชาวยิวในเขตนั้นพยายามจะสังหารพระองค์ (ดู ยอห์น 10:31–39 และงานแปลของโจเซฟ สมิธ, ยอห์น 11:16 [คือ “แล้วโธมัสที่เรียกว่า ดิดุโมส จึงพูดกับเพื่อนสาวกว่า ให้เราไปด้วยกันกับพระองค์เพื่อจะได้ตายกับพระองค์ เนื่องจากพวกเขากลัวว่าพวกยิวจะจับพระเยซูและฆ่าพระองค์ เพราะพวกเขายังไม่เข้าใจพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า” ]) พระเยซูตรัสตอบโดยระบุว่าพระองค์จะทรงใช้เวลาที่เหลืออยู่ในพระชนม์ชีพของพระองค์เพื่อทำงานของพระองค์โดยไม่รีรอ
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยอห์น 11:11–15 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่พระเยซูตรัสเกี่ยวกับอาการของลาซารัส
-
เหล่าสานุศิษย์เชื่อผิดๆ ว่าพระเยซูพูดเกี่ยวกับอาการของลาซารัสว่าอย่างไร
-
ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 15 เหตุใดพระเยซูจึงทรงยินดีที่พระองค์ไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อรักษาลาซารัสจากความเจ็บป่วยของเขา (เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาทำเครื่องหมายข้อความ “เพื่อท่านจะได้เชื่อ” ในพระคัมภีร์ของพวกเขา)
ชี้ให้เห็นว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงระบุว่าสิ่งที่พระองค์จะทรงทำในเบธานีจะช่วยให้สานุศิษย์ของพระองค์เพิ่มศรัทธาที่พวกเขามีต่อพระองค์
สรุป ยอห์น 11:16 โดยอธิบายว่าอัครสาวกโธมัสกระตุ้นเพื่อนสานุศิษย์ของท่านให้ไปยูเดียกับพระเยซูแม้นั่นจะหมายถึงการตายกับพระองค์
เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ยอห์น 11:17 ในใจ โดยมองหาว่าลาซารัสตายไปนานเท่าใดเมื่อพระเยซูมาถึงเบธานี ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงข้อความต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้นักเรียนฟังความสำคัญของการที่ลาซารัสตายไปแล้วสี่วัน
“การเน่าเปื่อยเกิดขึ้นไปมากแล้ว ความตายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วอย่างเที่ยงแท้ … สำหรับชาวยิวช่วงเวลาสี่วันมีนัยสำคัญเป็นพิเศษ เป็นความเชื่อโดยทั่วไปในบรรดาพวกเขาว่าภายในวันที่สี่วิญญาณจะไปจากบริเวณที่ศพอยู่และในที่สุดจะกลับมาไม่ได้” (Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 1:533)
-
สำหรับชาวยิว การที่บุคคลหนึ่งตายไปสี่วันมีนัยสำคัญอย่างไร
-
หากท่านเป็นมารธาหรือมารีย์ ท่านจะคิดหรือรู้สึกอย่างไรเมื่อพระเยซูไม่ได้เสด็จมาถึงจนกระทั่งลาซารัสตายไปแล้วสี่วัน
เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก ยอห์น 11:18–27 ขอให้ชั้นเรียนมองหาสิ่งที่มารธาพูดกับพระเยซูเกี่ยวกับการทดลองนี้
แทนที่จะขอให้นักเรียนอ่าน ท่านอาจแสดงการบรรยายภาพบทสนทนานี้ระหว่างพระผู้ช่วยให้รอดกับมารธาในวีดิท้ศน์ “Lazarus Is Raised from the Dead (ลาซารัสฟื้นขึ้นจากความตาย)” จาก วีดิทัศน์พระคัมภีร์ไบเบิล พระชนม์ชีพของพระเยซูคริสต์ [นาทีที่ 2:02–3:35] วีดิทัศน์เรื่องนี้มีอยู่ที่ LDS.org
-
ข้อความใดใน ข้อ 21–27 ระบุว่ามารธาเลือกใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ระหว่างการทดลอง (ถ้าท่านฉายวีดิทัศน์ ท่านอาจต้องการให้เวลาหนึ่งนาทีกับนักเรียนเพื่อทบทวนข้อเหล่านี้)
-
ถ้อยคำใดของมารธาที่ท่านประทับใจมากที่สุด เพราะเหตุใด
-
เราสามารถเรียนรู้อะไรจากแบบอย่างของมารธาเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำได้ระหว่างการทดลองที่เราประสบ (นักเรียนอาจระบุหลักธรรมทำนองนี้ เราสามารถเลือกศรัทธาในพระเยซูคริสต์ระหว่างการทดลองของเรา)
ดึงความสนใจของนักเรียนมาที่ ยอห์น 11:25–26 อธิบายว่าวลี “ไม่ตายเลย” (ยอห์น 11:26) หมายถึงการตายครั้งที่สองหรือการตายทางวิญญาณ หรือการแยกออกจากที่ประทับและอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า
-
เราเรียนรู้ความจริงอะไรจากพระดำรัสที่พระผู้ช่วยให้รอดตรัสกับมารธา (นักเรียนอาจระบุความจริงทำนองนี้ พระเยซูคริสต์ทรงเป็นชีวิตและการฟื้นคืนชีวิต หากเราเชื่อในพระเยซูคริสต์ เราจะได้รับชีวิตนิรันดร์)
เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก ยอห์น 11:28–36 ขอให้ชั้นเรียนมองหาว่ามารีย์พูดอะไรกับพระเยซูและพระองค์ทรงตอบอย่างไร ท่านอาจต้องการอธิบายว่า “สะเทือนพระทัย” ในข้อเหล่านี้หมายถึงโศกเศร้าหรือเสียใจ
แทนที่จะให้นักเรียนอ่าน ท่านอาจแสดงการบรรยายภาพของข้อเหล่านี้ในวีดิทัศน์ “Lazarus Is Raised from the Dead” [นาทีที่ 3:36–4:50]
-
คำพูดของมารีย์ใน ข้อ 32 สะท้อนให้เห็นศรัทธาที่เธอมีต่อพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร
-
พระเยซูทรงตอบอย่างไรเมื่อพระองค์ทรงเห็นมารีย์และคนที่อยู่กับเธอร้องไห้
-
ท่านคิดว่าเหตุใดพระเยซูจึงทรงกันแสง
เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน ยอห์น 11:37 ในใจ โดยมองหาสิ่งที่ผู้คนสงสัยว่าพระเยซูจะทรงทำอะไรให้ลาซารัสได้ ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ
เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก ยอห์น 11:38–46 ขอให้ชั้นเรียนมองหาว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงทำอะไรหลังจากนั้น
แทนที่จะให้นักเรียนอ่าน ท่านอาจแสดงการบรรยายภาพของข้อเหล่านี้ในวีดิทัศน์ “Lazarus Is Raised from the Dead” [นาทีที่ 4:51–7:51]
-
ใน ข้อ 40 พระเยซูทรงเตือนมารธาเกี่ยวกับอะไรหลังจากเธอสงสัยในการเคลื่อนหินที่ปิดหลุมศพของลาซารัสออกไป
-
คำสัญญานี้เกิดสัมฤทธิผลอย่างไร (ท่านอาจจำเป็นต้องอธิบายว่าลาซารัสไม่ได้ฟื้นคืนชีวิตจากความตายและไม่ได้เป็นอมตะ ร่างทางวิญญาณของเขาถูกนำกลับคืนมาสู่ร่างกายทางกายภาพของเขา แต่ร่างกายทางกายภาพของเขายังคงเป็นมรรตัย)
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกี ขอให้ชั้นเรียนฟังจุดประสงค์สำคัญที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงบรรลุผลสำเร็จผ่านการทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากตาย
“พระองค์ทรงเตรียมการ เพื่อแสดงถึงคำสอนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งของพระองค์ตลอดกาล ว่าความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์มาโดยพระองค์ คนเหล่านั้นที่เชื่อและทำตามพระคำของพระองค์จะไม่ตายทางวิญญาณเลย” (Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 1:531)
-
ปาฏิหาริย์นี้บอกล่วงหน้าถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร
-
ปาฏิหาริย์นี้แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจของพระองค์ที่จะทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์อย่างไร
-
เราจะได้รับพรจากความเข้าใจถึงเดชานุภาพของพระผู้ช่วยให้รอดในการทำให้เกิดความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์อย่างไร
เตือนชั้นเรียนว่ามารธาและมารีย์แสดงศรัทธาในพระเยซูคริสต์ในตอนแรกโดยส่งข่าวไปทูลพระองค์เมื่อลาซารัสป่วย เธอยังคงเชื่อและวางใจในพระองค์ต่อไปแม้หลังจากลาซารัสตาย เขียนข้อความที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้บนกระดาน ถ้าเราเลือกใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ระหว่างการทดลองของเรา แล้ว …
-
ท่านจะเติมข้อความนี้ให้ครบถ้วนตามสิ่งที่เราเรียนรู้จาก ยอห์น 11 อย่างไร (หลังจากนักเรียนตอบ ให้เติมข้อความบนกระดานให้ครบถ้วนเพื่อให้อ่านได้ดังนี้ ถ้าเราเลือกใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ระหว่างการทดลองของเรา ศรัทธาของเราในพระองค์จะได้รับการยืนยันและลึกซึ้งยิ่งขึ้น)
เตือนนักเรียนว่าบางคนสงสัยว่าพระเยซูจะทรงขัดขวางไม่ให้ลาซารัสตายได้หรือไม่ (ดู ข้อ 37) แต่พระเยซูทรงรอการเสด็จมาถึงเบธานีจนกระทั่งลาซารัสตายไปแล้วสี่วัน (ดู ข้อ 17)
-
การทำให้ลาซารัสกลับมามีชีวิตอีกครั้งหลังจากตายไปสี่วันแล้วอาจยืนยันและทำให้ศรัทธาของสานุศิษย์พระเยซูตลอดจนมารธากับของมารีย์ในพระผู้ช่วยให้รอดลึกซึ้งขึ้นอย่างไร (ในการทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นหลังจากตายมาแล้วสี่วัน พระเยซูทรงแสดงว่าพระองค์ทรงมีเดชานุภาพเหนือความตายในแบบที่ชาวยิวไม่สามารถปฏิเสธและเข้าใจเป็นอย่างอื่นได้)
-
ท่านเคยใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ระหว่างการทดลองและทำให้ศรัทธาของท่านในพระองค์ได้รับการยืนยันและลึกซึ้งขึ้นเมื่อใด
เชื้อเชิญให้นักเรียนเขียนในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาว่าพวกเขาจะทำอะไรเพื่อช่วยพวกเขาเลือกใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ระหว่างการทดลองที่กำลังประสบหรืออาจจะประสบ
ยอห์น 11:47–57
พวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีปรึกษากันเพื่อสังหารพระเยซู
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยอห์น 11:47–48 ขอให้้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าพวกหัวหน้าปุโรหิตและพวกฟาริสีตอบสนองต่อรายงานเรื่องพระเยซูทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากตายอย่างไร ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ
สรุป ยอห์น 11:49–57 โดยอธิบายว่าคายาฟาส มหาปุโรหิต โฆษณาชวนเชื่อว่าต้องสังหารพระเยซูเพื่อกันไม่ให้ชาวโรมันทำลายล้างชาติของพวกเขา เขาพยากรณ์อย่างไม่รู้ตัวถึงผลกระทบจากการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูที่จะมีต่อบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า ผู้นำชาวยิวตั้งใจจะสังหารพระเยซูและสั่งว่าคนที่รู้ว่าพระองค์อยู่ที่ไหนควรบอกพวกเขาเพื่อจะได้จับกุมพระองค์
สรุปโดยเป็นพยานถึงความจริงที่สนทนาในบทนี้
บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง
ยอห์น 11:11 “ลาซารัสหลับไปแล้ว”
พระผู้ช่วยให้รอดทรงเรียกการตายของลาซารัสว่าเป็นการหลับ การหลับเป็นการเปรียบเทียบที่เหมาะสมสำหรับการตายเนื่องจากมนุษย์ทุกคนต้องหลับ การหลับเป็นสภาวะชั่วคราวซึ่งเราจะตื่นขึ้น และหลังจากหลับร่างกายก็ได้รับการฟื้นฟู ในทำนองเดียวกัน มนุษย์ทุกคนต้องตาย ความตายเป็นสภาวะชั่วคราวที่จะสิ้นสุดลงเมื่อเราฟื้นคืนชีวิต และในการฟื้นคืนชีวิตร่างกายเราจะกลับเป็นขึ้นใหม่
ลาซารัสน่าจะตายไปแล้วเมื่อพระเยซูได้รับแจ้งว่าลาซารัสป่วย จากเบธานีไปยังที่ประทับของพระเยซูในเพอเรียใช้เวลาเดินทางประมาณหนึ่งวัน (ดู ยอห์น 10:40) โดยการเลือกที่จะรอสองวันก่อนเสด็จออกเดินทางและจากนั้นเดินทางไปหนึ่งวัน พระเยซูเสด็จถึงเบธานีหลังจากลาซารัสตายไปแล้วสี่วัน
ยอห์น 11:43–44 จุดประสงค์สำคัญบรรลุผลสำเร็จในการทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากตาย
“การทำให้ลาซารัสเป็นขึ้นจากตายเป็นหนึ่งในปาฏิหาริย์ที่พิเศษในประวัติศาสตร์ ก่อนปาฏิหาริย์นี้เกิดขึ้น พระผู้ช่วยให้รอดทรงทำให้คนสองคนกลับคืนมาสู่ชีวิตได้แก่ บุตรสาวของไยรัส (ดู ลูกา 8:41–42, 49–56) และบุตรของหญิงม่ายในนาอิน (ดู ลูกา 7:11–17) อย่างไรก็ตาม การทำให้ลาซารัสฟื้นแตกต่างจากปาฏิหาริย์เหล่านี้และมีจุดประสงค์สำคัญ ดังที่อธิบายไว้โดยเอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกี (1915–1985) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ดังนี้
“‘กับ “ลาซารัสสหายของพวกเรา” นี่แตกต่าง … มีเหตุผลที่โดดเด่นสองประการ (1) เมื่อพระเจ้าของเราเข้าใกล้จุดสูงสุดของการปฏิบัติศาสนกิจขณะทรงเป็นมรรตัย พระองค์ทรงแสดงประจักษ์พยานอย่างปฏิเสธไม่ได้อีกครั้งถึงความเป็นพระเมสสิยาห์ของพระองค์ ถึงความเป็นพระบุตรแห่งสวรรค์ของพระองค์ ถึงความจริงที่ว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง และ (2) พระองค์ทรงเตรียมการ เพื่อแสดงให้เห็นคำสอนข้อหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพระองค์ตลอดกาล ว่าพระองค์ทรงเป็นการฟื้นคืนชีวิตและชีวิต ความเป็นอมตะและชีวิตนิรันดร์มาโดยพระองค์ คนเหล่านั้นที่เชื่อและทำตามพระคำของพระองค์จะไม่ตายทางวิญญาณเลย’ (Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 1:530–31)” (คู่มือนักเรียน พันธสัญญาใหม่ [คู่มือระบบการศึกษาของศาสนจักร, 2014], 236)
การทำให้ลาซารัสฟื้นขึ้นจากตายเป็นหลักฐานว่าพระเยซูทรงเป็นพระบุตรที่แท้จริงของพระผู้เป็นเจ้า พระนามที่ชาวยิวเข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับพระเมสสิยาห์ (ดู สดุดี 2:7; ยอห์น 11:41–42)
ยอห์น 11:25 “เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย”
เมื่อพระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า “เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย” พระองค์ทรงประกาศเกี่ยวกับพระอัตลักษณ์และเดชานุภาพแห่งสวรรค์ของพระองค์ โดยพระดำรัสนี้ พระเยซูทรงสอนว่าการฟื้นคืนพระชนม์และชีวิตนิรันดร์หมายถึงพระองค์เอง พระองค์ทรงเป็นแหล่งที่มาของการฟื้นคืนชีวิตและชีวิตนิรันดร์ เป็นเหตุผลที่สิ่งเหล่านี้เป็นไปได้สำหรับบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์ ดังที่เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่า “กุญแจแห่งการฟื้นคืนชีวิตวางไว้อย่างปลอดภัยกับพระเจ้าและพระอาจารย์ของเรา” (“Life after Life,” Ensign, May 1987, 10)
ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันอธิบายถึงสาเหตุที่พลังอำนาจแห่งการฟื้นคืนชีวิตอยู่ในพระผู้ช่วยให้รอดว่า
“พระองค์ทรงเป็น การฟื้นคืนชีวิต และ ชีวิต (ดู ยอห์น 11:25)
“พลังอำนาจนี้ที่จะทำให้พระชนม์ชีพของพระองค์เองฟื้นได้เนื่องจากพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้า—แม้พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ทรงมีพลังอำนาจที่จะเอาชนะความตาย มนุษยชาติทั้งปวงจะฟื้นคืนชีวิต ‘เพราะเรามีชีวิตอยู่ พวกท่านก็จะมีชีวิตอยู่ด้วย’ (ยอห์น 14:19) (“Jesus Christ: Our Savior and Redeemer,” Ensign, Nov. 1983, 7)
พระองค์ประทานชีวิตโดยการทำให้การเกิดใหม่ทางวิญญาณ (ดู ยอห์น 3:3–5) และโดยการให้อำนาจคนอื่นๆ ที่จะดำเนินชีวิตตามทางของพระองค์ ซึ่งเป็นทางสู่ชีวิตนิรันดร์ (ดู ยอห์น 14:6) คนเหล่านั้นที่เกิดใหม่ทางวิญญาณและทำตามพระผู้ช่วยให้รอดอย่างซื่อสัตย์จะได้รับการให้อภัยบาปของพวกเขา และหัวใจของพวกเขาจะค่อยๆ ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์จากบาป หากพวกเขายังคงซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พวกเขาจะออกมาในการ “เป็นขึ้นมาสู่ชีวิต” (ยอห์น 5:29) ซึ่งหมายถึงพวกเขาจะมีชีวิตนิรันดร์ ทั้งหมดนี้เป็นไปได้โดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์