คลังค้นคว้า
บทที่ 83: กิจการของอัครทูต 2


บทที่ 83

กิจการของอัครทูต 2

คำนำ

สานุศิษย์เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันเพ็นเทคอสต์และได้รับพรด้วยของประทานแห่งการพูดภาษาเมื่อพวกเขาสั่งสอนพระกิตติคุณ เปโตรประกาศว่าพระเยซูทรงเป็น “ทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระคริสต์” (กิจการของอัครทูต 2:36) และเชื้อเชิญให้ผู้คนกลับใจ รับบัพติศมา และรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในวันนั้นผู้คนประมาณสามพันคนเปลี่ยนใจเลื่อมใสและรับบัพติศมา หลังจากนั้นพวกเขายังคงซื่อสัตย์ในศาสนจักรต่อไป

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

กิจการของอัครทูต 2:1–13

สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์เปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในวันเพ็นเทคอสต์

ขอให้นักเรียนนึกถึงโอกาสล่าสุดที่พวกเขาได้พูดในศาสนจักร สอนบทเรียน หรือแบ่งปันพระกิตติคุณกับบางคน

  • อะไรเป็นสิ่งท้าทายเกี่ยวกับการพูด สอน หรือเป็นพยานกับผู้อื่นเกี่ยวกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาความจริงเมื่อพวกเขาศึกษา กิจการของอัครทูต 2:1–13 ที่จะช่วยพวกเขาเมื่อพวกเขารู้สึกประหม่าหรือกลัวเกี่ยวกับการสอนและการเป็นพยานกับผู้อื่นเกี่ยวกับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู

อธิบายว่าประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากพระผู้ช่วยให้รอดเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ ชาวยิวจากหลายประเทศมาที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อเข้าร่วมเทศกาลเพ็นเทคอสต์ นมัสการที่พระวิหารและน้อมขอบพระทัยพระเจ้า เทศกาลเลี้ยงฉลองนี้เกิดขึ้น 50 วันหลังจากเทศกาลปัสกาและเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวครั้งแรกของฤดูกาล (ดู คู่มือพระคัมภีร์, “เพ็นเทคอสต์,” scriptures.lds.org)

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 2:1–3 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ประสบในวันเพ็นเทคอสต์

  • สานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์ประสบกับอะไรในวันเพ็นเทคอสต์ (การเสด็จมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์)

  • มึคำอธิบายอย่างไรเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระวิญญาณบริสุทธิ์

อธิบายว่าวลี “ลิ้นแผ่กระจาย” (ข้อ 3) หมายถึงลิ้นที่แยกหรือแตกออกหรือมีลักษณะเหมือนเปลวไฟ ในสมัยโบราณ ไฟเป็นเครื่องหมายของการประทับอยู่หรืออิทธิพลจากสวรรค์ นี่เป็นเครื่องหมายว่าสานุศิษย์ได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ดังที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสัญญาไว้

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 2:4–8 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อสานุศิษย์เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 4เกิดอะไรขึ้นเมื่อสานุศิษย์เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (พระวิญญาณ “ทรงให้พูด” และทำให้พวกเขาสามารถพูดในภาษาอื่นๆ ได้)

  • เหตุใดชาวยิวจากประเทศต่างๆ จึงประหลาดใจในสิ่งที่พวกเขาได้ยิน

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน กิจการของอัครทูต 2:9–11 คร่าวๆ และนับจำนวนคนกลุ่มต่างๆ หรือประเทศต่างๆ ที่ได้ยินสานุศิษย์พูดในภาษาอื่นๆ โดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้พวกเขารายงานสิ่งที่พบ ท่านอาจให้นักเรียนดู แผนที่ ประกอบเพื่อช่วยให้นักเรียนนึกภาพออกว่าชาวยิวเหล่านี้มาจากไหน

ภาพ
แผนที่ เมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก

ชี้ให้เห็นว่าตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 11 แต่ละกลุ่มเหล่านี้ได้ยิน “กิจการที่ยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้า” ที่สานุศิษย์สอนในภาษาของพวกเขาเอง ท่านอาจต้องการอธิบายว่าพวกที่เข้ารีตเป็นคนต่างชาติที่เข้านับถือศาสนายิว

  • ดังที่แสดงผ่านประสบการณ์ของสานุศิษย์ในวันเพ็นเทคอสต์ อะไรที่จะช่วยเราสอนและเป็นพยานกับคนอื่นได้ (หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เขียนหลักธรรมต่อไปนี้บนกระดาน เมื่อเราเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์จะทรงช่วยเราสอนและเป็นพยานกับคนอื่น)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจหลักธรรมนี้ นำแก้วเปล่าสองใบ เหยือก และถาดเปล่ามาที่ชั้นเรียน ให้วางแก้วสองใบไว้บนถาดเพื่อว่าถาดจะรองน้ำที่หกออกจากแก้ว จากนั้นให้ปิดปากแก้วใบหนึ่งด้วยกระดาษหรือฝาเพื่อไม่ให้เทน้ำลงในแก้วได้ และวางวัตถุ (เช่นก้อนหิน) ในแก้วอีกใบจนแก้วเกือบเต็มไปด้วยวัตถุนั้น เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งพยายามเติมน้ำจากเหยือกลงในแก้ว

  • หากแก้วหมายถึงตัวเราและน้ำหมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ กระดาษ (หรือฝา) และหินจะหมายถึงอะไร พฤติกรรมและเจตคติอะไรสามารถกีดกั้นเราจากการเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์

  • เราสามารถทำอะไรเพื่อเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพระองค์จะทรงช่วยเราสอนและเป็นพยานต่อคนอื่นได้

  • พระวิญญาณบริสุทธิ์เคยช่วยท่านสอนพระกิตติคุณหรือแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านกับคนอื่นในทางใดบ้าง

เป็นพยานถึงหลักธรรมที่เขียนบนกระดาน และเชื้อเชิญให้นักเรียนประยุกต์ใช้หลักธรรมนี้โดยแสวงหาความเป็นเพื่อนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพวกเขาจะสอนและเป็นพยานต่อคนอื่นได้

สรุป กิจการของอัครทูต 2:12–13 โดยอธิบายว่าชาวยิวบางคนประหลาดใจกับสิ่งที่พวกเขาได้ยิน ในขณะที่บางคนเยาะเย้ยสานุศิษย์โดยกล่าวหาพวกเขาว่าดื่มเหล้าองุ่นมากเกินไป

กิจการของอัครทูต 2:14–47

เปโตรเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์และสอนว่าจะได้รับความรอดอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 2:14 ขอให้ชั้นเรียนมองหาว่าใครเริ่มสอนฝูงชน เชื้อเชิญให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

ขอให้นักเรียนจินตนาการว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ของเปโตรซึ่งกำลังยืนอยู่ต่อหน้าฝูงชน

  • หากท่านอยู่ในสถานการณ์ของเปโตร ความจริงใดของพระกิตติคุณที่ท่านจะสอนและเป็นพยานถึง เพราะเหตุใด

สรุป กิจการของอัครทูต 2:15–35 โดยอธิบายว่าเปโตรประกาศว่าเหตุการณ์เรื่องของประทานแห่งการพูดภาษาและการเปิดเผยอื่นๆ ของพระวิญญาณในบรรดาสานุศิษย์เป็นสัมฤทธิผลและความหมายอย่างหนึ่งในคำพยากรณ์ของโยเอล (ดู โยเอล 2:28–32) จากนั้นเปโตรสอนและเป็นพยานต่อผู้คนโดยใช้พระดำรัสของกษัตริย์ดาวิดและบทเพลงสดุดี

เขียนพระคัมภีร์อ้างอิงและคำถามต่อไปนี้ไว้บน กระดาน

กิจการของอัครทูต 2:22–24, 29–33, 36

เปโตรสอนและเป็นพยานถึงความจริงที่สำคัญอะไรบ้าง

อะไรที่ท่านคิดว่าน่าสนใจเกี่ยวกับประจักษ์พยานของเปโตรต่อชาวยิว

แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ เชื้อเชิญนักเรียนแต่ละคู่ศึกษาข้ออ้างอิงพระคัมภีร์แต่ละข้อบนกระดานและสนทนาคำตอบของคำถามประกอบ หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันคำตอบของพวกเขากับชั้นเรียน

แสดง ภาพ ที่บรรยายการปฏิเสธพระผู้ช่วยให้รอดของเปโตร (ตัวอย่างเช่น การปฏิเสธของเปโตร โดยคาร์ล ไฮน์ริค บลอค ซึ่งมีอยู่ที่ LDS.org) เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งสรุปสิ่งที่เปโตรพูดและทำเมื่อมีผู้ถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับพระเยซูในคืนที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงถูกจับกุม (ดู ลูกา 22:54–62)

ภาพ
การปฏิเสธของเปโตร

การปฏิเสธของเปโตร โดยคาร์ล ไฮน์ริค บลอค เอื้อเฟื้อโดย National History Museum ที่ Frederiksborg Castle ใน Hillerød Denmark ไม่อนุญาตให้ทำสำเนา

  • คำพูดและการกระทำของเปโตรในวันเพ็นเทคอสต์แตกต่างจากพฤติกรรมของเขาในคืนที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงถูกจับกุมอย่างไร

  • ท่านคิดว่าอะไรส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ในตัวเปโตร

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่ง อ่าน ออกเสียงกิจการของอัครทูต 2:37 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าคำพูดของเปโตรส่งผลต่อฝูงชนอย่างไร

  • คำพูดของเปโตรส่งผลต่อฝูงชนอย่างไร

ท่านอาจต้องการเชื้อเชิญให้นักเรียนทำเครื่องหมายวลี “แปลบปลาบใจ” อธิบายว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้ใจคนแปลบปลาบเมื่อพวกเขาได้ยินประจักษ์พยานของเปโตร คำว่า แปลบปลาบ ในที่นี้หมายถึง “เสียดแทงส่วนลึก” และบอกว่าคนรู้สึกเสียใจเพราะชาวยิวเป็นผู้คนและชนชาติที่ตรึงกางเขนพระเยซูคริสต์ พระเจ้าของพวกเขา เปโตรไม่ได้บอกว่ากลุ่มชาวยิวจากประเทศต่างๆ ที่เขากำลังสอนในวันเพ็นเทคอสต์เป็นคนรับผิดชอบต่อการตรึงกางเขนพระเยซูคริสต์

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 37 ผู้คนถามคำถามอะไร

  • คำถามนี้เปิดเผยอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในใจของผู้คน (คนเหล่านั้นกำลังเริ่มประสบกับการเปลี่ยนแปลงของใจ)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง กิจการของอัครทูต 2:38–41 ขอให้นักเรียนที่เหลือดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เปโตรบอกให้ผู้คนทำ อธิบายว่า คดโกง หมายถึงกบฏ ดื้อรั้น หรือทุจริต

  • เปโตรบอกให้ผู้คนทำอะไร

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 41ผู้คนตอบสนองคำสอนและคำเชื้อเชิญของเปโตรให้กลับใจและรับบัพติศมาอย่างไร

เขียนข้อความที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้ไว้บนกระดาน เมื่อเรารับพระคำของพระผู้เป็นเจ้าโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ …

เชื้อเชิญนักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียงจาก กิจการของอัครทูต 2:42–47 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่สู่ศาสนจักรทำหลังจากพวกเขาได้รับความจริงโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์และรับบัพติศมา อธิบายว่าวลี “หักขนมปัง” (ข้อ 42) หมายถึงการเข้าร่วมศาสนพิธีศีลระลึกและการมี “ทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง” (ข้อ 44) หมายถึงวิสุทธิชนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและดำเนินชีวิตตามกฎแห่งการอุทิศถวาย

  • ตามที่กล่าวไว้ในข้อเหล่านี้ การกระทำใดที่แสดงออกว่าคนที่ได้รับบัพติศมาเปลี่ยนใจเลื่อมใสอย่างแท้จริง (ดู 3 นีไฟ 26:17–21ด้วย) (เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งเขียนคำตอบของชั้นเรียนบนกระดาน)

เตือนนักเรียนว่าก่อนที่ชาวยิวจะได้ยินและประพฤติตามคำพูดของเปโตร พวกเขาไม่ได้ยอมรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา และพวกเขาไม่ได้ทำตามคำสอนของพระองค์ด้วย เชื้อเชิญให้พวกเขาพิจารณาว่าผู้คนเปลี่ยนไปอย่างไร

  • เราสามารถเรียนรู้หลักธรรมอะไรจาก กิจการของอัครทูต 2:37–47 เกี่ยวกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อเรารับพระคำของพระผู้เป็นเจ้าโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (โดยใช้คำพูดของนักเรียนเอง เติมข้อความบนกระดานให้สมบูรณ์เพื่อสื่อถึงความจริงต่อไปนี้ เมื่อเรารับพระคำของพระผู้เป็นเจ้าโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ใจเราจะเปลี่ยนและเราจะเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาสู่พระเยซูคริสต์)

  • เราทำอะไรได้เพื่อรับพระคำของพระผู้เป็นเจ้าโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

เชื้อเชิญให้นักเรียนทบทวนการกระทำที่เขียนไว้บนกระดานของคนที่รับบัพติศมาและเปลี่ยนใจเลื่อมใส

  • เมื่อท่านบากบั่นเรียนรู้และดำเนินชีวิตตามความจริงของพระกิตติคุณ พระวิญญาณช่วยให้ท่านเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนใจเลื่อมใสมาสู่พระเยซูคริสต์อย่างไร (ท่านอาจต้องการแบ่งปันประสบการณ์จากชีวิตของท่านเองเช่นกัน)

เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองสิ่งที่พวกเขาทำได้ดีขึ้นเพื่อรับพระคำและคำสอนของพระผู้เป็นเจ้าโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ กระตุ้นให้พวกเขาทำตามการกระตุ้นเตือนทุกครั้งที่ได้รับ

ภาพ
ไอคอนผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์
ผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์—กิจการของอัครทูต 2:36–38

เชื้อเชิญให้นักเรียนเปรียบเทียบ กิจการของอัครทูต 2:36–38 กับ หลักแห่งความเชื่อข้อที่สี่ ขอให้นักเรียนระบุคำใน กิจการของอัครทูต 2:36–38 ที่แสดงถึงหรือสอนหลักธรรมและศาสนพิธีแรกของพระกิตติคุณ จากนั้นให้แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ ขอให้แต่ละคู่สนทนาว่าแต่ละหลักธรรมและศาสนพิธีเหล่านี้ช่วยให้เรารับพรอันสมบูรณ์จากการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดอย่างไร หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้ถามว่า

  • พรอะไรที่เปโตรบอกว่าผู้คนจะได้รับอันเป็นผลมาจากการกลับใจและการรับบัพติศมา

  • ตามความเข้าใจของท่านจาก กิจการของอัครทูต 2:38 เราต้องทำอะไรเพื่อเตรียมรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ (โดยใช้คำพูดของพวกเขาเอง นักเรียนควรระบุความจริงทำนองนี้ เมื่อเรามีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ กลับใจ และรับบัพติศมา เราจะพร้อมรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขียนความจริงนี้ไว้บนกระดาน)

  • ศรัทธา การกลับใจ และบัพติศมาเตรียมบางคนเพื่อรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์อย่างไร

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

กิจการของอัครทูต 2:1–4 “ในทันใดนั้นมีเสียงจากฟ้าเหมือนเสียงพายุแรงกล้าดังก้อง”

“ประสบการณ์เพ็นเทคอสต์ที่ยิ่งใหญ่นี้ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เทลงมาบนการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก มีความคล้ายคลึงกับประวัติศาสตร์วิสุทธิชนยุคสุดท้าย ในช่วงพิธีอุทิศพระวิหารเคิร์ทแลนด์ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ … สวดอ้อนวอนขอการเทพระวิญญาณเป็นพิเศษจากเบื้องบนว่า ‘ขอให้เกิดสัมฤทธิผลบนพวกเขา, ดังที่เกิดบนคนเหล่านั้นในวันเพ็นเทคอสต์,’ ท่านวิงวอนแทนวิสุทธิชน ‘ขอทรงเทของประทานแห่งการพูดภาษามายังผู้คนของพระองค์, แม้ลิ้นที่พลิ้วไหวดังเปลวไฟ, และการแปลความหมายนั้น และขอทรงให้พระนิเวศน์ของพระองค์เต็มเปี่ยม, ดังด้วยลมอันมีพลังแรง, ด้วยรัศมีภาพของพระองค์’ (คพ. 109:36–37) คำวิงวอนนี้เกิดสัมฤทธิผล ไม่เพียงแค่ครั้งเดียว แต่หลายครั้งในหลายๆ วันหลังจากพิธีอุทิศในตอนแรก ครั้งหนึ่งโจเซฟ สมิธบันทึกว่า ‘มีเสียงเหมือนเสียงพายุแรงกล้า ซึ่งดังก้องพระวิหาร [เคิร์ทแลนด์] และทุกคนในที่ประชุมยืนขึ้นพร้อมเพรียงกัน โดยที่ได้รับแรงกระตุ้นจากอำนาจที่มองไม่เห็น หลายคนเริ่มพูดในภาษาต่างๆ และพยากรณ์ บางคนเห็นนิมิตอันรุ่งโรจน์ และข้าพเจ้าเห็นพระวิหารเต็มไปด้วยเทพ ซึ่งข้าพเจ้าได้ประกาศบอกที่ประชุมเกี่ยวกับความจริงนั้น’ (ใน History of the Church, 2:428)” (คู่มือนักเรียน พันธสัญญาใหม่ [คู่มือของระบบการศึกษาศาสนจักร, 2014], 278)

กิจการของอัครทูต 2:3 ลิ้นแผ่กระจาย

“ลิ้นแผ่กระจาย” อาจหมายความว่าพระวิญญาณที่เทลงมาอย่างมากนี้ได้กระจายไปทั่วผู้คนซึ่งอยู่ที่นั่นในวันนั้น—พวกเขาแต่ละคนรู้สึกและประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าว คำว่า อยู่บน ใน กิจการของอัครทูต 2:3 ถูกเปลี่ยนเป็น อยู่กับ ในงานแปลของโจเซฟ สมิธ

กิจการของอัครทูต 2:4–6 ของประทานแห่งการพูดภาษา

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนถึงจุดประสงค์เกี่ยวกับของประทานแห่งการพูดภาษาว่า

“ของประทานแห่งการพูดภาษาโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในศาสนจักรมีไว้เพื่อประโยชน์ของผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อสั่งสอนคนไม่เชื่อ เช่นที่สั่งสอนในวันเพ็นเทคอสต์” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 413–414)

กิจการของอัครทูต 2:16–21 สัมฤทธิผลแห่งคำพยากรณ์ของโยเอล

ในสมัยการประทานของเรา โมโรไนอ้างข้อพระคัมภีร์เดียวกันเหล่านี้กับศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและบอกท่านว่าพระคัมภีร์เหล่านี้ยังไม่เกิดสัมฤทธิผลแต่จะเกิดสัมฤทธิผลในไม่ช้า (ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:41) เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า โยเอล 2:28–32 เป็นตัวอย่างหนึ่งของพระคัมภีร์ที่สามารถมีหลายความหมายและเกิดสัมฤทธิผลหลายอย่าง

“คำพยากรณ์และข้อความที่เป็นหลักคำสอนหลายอย่างในพระคัมภีร์มีหลายความหมาย …

“ตัวอย่าง [หนึ่ง] ของความหมายหลายอย่างเกี่ยวกับคำพยากรณ์ในหนังสือของโยเอลว่าในยุคสุดท้ายพระเจ้าจะทรงเทพระวิญญาณของพระองค์ลงบนมนุษย์ทุกคนและว่าบุตรของเราและธิดาของเราจะพยากรณ์ (ดู โยเอล 2:28) ในวันเพ็นเทคอสต์ อัครสาวกเปโตรประกาศว่าเหตุการณ์ที่พวกเขาเห็นเกิดขึ้น ‘ตามคำที่โยเอลผู้เผยวจนะกล่าวไว้’ (กิจการของอัครทูต 2:16) หนึ่งพันแปดร้อยปีต่อมา เทพโมโรไนอ้างคำพยากรณ์เดิมนี้และกล่าวว่า ‘เรื่องนี้ยังไม่เกิดสัมฤทธิผล, แต่จะเกิดสัมฤทธิผลในไม่ช้า’ (โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:41)” (Scripture Reading and Revelation, ม.ค. 1995, 8)

ดังนั้น ทั้งเปโตรและโมโรไนกล่าวแก้ไขว่าคำพยากรณ์ที่ให้ไว้โดยศาสดาพยากรณ์โยเอลเกิดสัมฤทธิผลแล้ว ทั้งความหมาย และการนำมาใช้กับวันเพ็นเทคอสต์และในยุคสุดท้ายตามลำดับ

กิจการของอัครทูต 2:27 “เพราะพระองค์จะไม่ทรงละข้าพระองค์ไว้ในแดนคนตาย”

เกี่ยวกับมรดกนิรันดร์ของกษัตริย์ดาวิด เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่าดาวิด “ได้รับสัญญาว่าจิตวิญญาณของพระองค์จะไม่ถูกทิ้งในนรก พระองค์จะไม่ทรงเป็นบุตรแห่งหายนะ พระองค์จะไม่ถูกโยนออกไปชั่วนิรันดร์กับมารและเทพของเขา แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เมื่อความตายและนรกส่งคืนคนตายที่อยู่ในนั้น พระองค์จะออกมาจากหลุมศพและรับมรดกที่พระองค์สมควรได้รับ ดู วิวรณ์ 20:11–15” (Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 2:39)

กิจการของอัครทูต 2:37 “รู้สึกแปลบปลาบใจ”

เอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนดังนี้

“การเปลี่ยนใจเลื่อมใสที่แท้จริงมาโดยอำนาจของพระวิญญาณ เมื่อใดที่พระวิญญาณสัมผัสจิตใจ เมื่อนั้นจิตใจก็จะเปลี่ยน เมื่อบุคคล … รู้สึกว่าพระวิญญาณทำงานกับเขา หรือเมื่อพวกเขาเห็นหลักฐานของความรักและพระเมตตาของพระเจ้าในชีวิต เขาจะได้รับการสร้างสรรค์และมีพลังทางวิญญาณและศรัทธาของเขาในพระองค์จะเพิ่มขึ้น ประสบการณ์เหล่านี้กับพระวิญญาณเกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อบุคคลเต็มใจทดลองพระคำ ด้วยการนี้เราจะ รู้สึก ว่าพระกิตติคุณเป็นความจริง” (“บัดนี้ถึงเวลาแล้ว,” เลียโฮนา, ม.ค. 2001, 104–5)

พิมพ์