คลังค้นคว้า
บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน: ยากอบ 2–1 เปโตร 5 (หน่วย 29)


บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน

ยากอบ 21 เปโตร 5 (หน่วย 29)

การเตรียมเนื้อหาสำหรับครูภาคการศึกษาที่บ้าน

สรุปบทเรียนประจำวันภาคการศึกษาที่บ้าน

ใจความสรุปเหตุการณ์ หลักคำสอน และหลักธรรมต่อไปนี้ที่นักเรียนเรียนรู้ขณะที่พวกเขาศึกษา ยากอบ 21 เปโตร 5 (หน่วย 29) ไม่ได้มีเจตนาจะให้สอนเป็นส่วนหนึ่งในบทเรียนของท่าน บทเรียนที่ท่านสอนเน้นไปที่หลักคำสอนและหลักธรรมเหล่านี้เพียงไม่กี่ข้อ ทำตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ขณะพิจารณาความต้องการของนักเรียน

วันที่ 1 (ฮีบรู 2-3)

จากงานสอนของยากอบในบทเหล่านี้ นักเรียนเรียนรู้ว่าสานุศิษย์ที่ซื่อสัตย์ของพระเยซูคริสต์รักทุกคนไม่ว่าสภาพการณ์ของพวกเขาจะเป็นอย่างไรและหากเราทำบาปแม้เพียงอย่างเดียว เรามีความผิดต่อพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาเรียนรู้ด้วยว่าศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์แสดงให้เห็นจากงานที่ชอบธรรมของเรา เมื่อพวกเขาศึกษาคำสอนของยากอบเกี่ยวกับการควบคุมคำพูดของเรา นักเรียนค้นพบว่าการเรียนรู้ที่จะควบคุมสิ่งที่เราพูดจะมีผลอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตเราและผู้ติดตามของพระผู้เป็นเจ้าพยายามใช้ภาษาของพวกเขาเพื่อจุดประสงค์ที่ชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อแพร่ความชั่ว

วันที่ 2 (ยากอบ 4-5)

เมื่อนักเรียนศึกษาบทเหล่านี้ในยากอบ พวกเขาเรียนรู้ความจริงต่อไปนี้ เมื่อเราเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงเข้าใกล้เรา ถ้าเรารู้ว่าอะไรเป็นความดีที่ต้องทำ แต่เลือกที่จะไม่ทำ เราย่อมทำบาป โดยผ่านคำสวดอ้อนวอนแห่งศรัทธาและอำนาจฐานะปุโรหิต ผู้ป่วยจะได้รับการรักษา

วันที่ 3 (1 เปโตร 1–2)

ในการศึกษาเกี่ยวกับคำสอนของเปโตร นักเรียนเรียนรู้ความจริงต่อไปนี้ แม้ว่าเราจะประสบกับการทดลอง เราสามารถชื่นชมยินดีในการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และพรในอนาคตที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาว่าจะประทานให้เรา ศรัทธาของเราในพระเยซูคริสต์ได้รับการทดสอบและหล่อหลอมเมื่อเราอดทนต่อการทดลองอย่างซื่อสัตย์ เราได้รับการไถ่ด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพระเยซูคริสต์ พระเยซูคริสต์ทรงดำเนินพระชนม์ชีพที่ปราศจากบาป พระองค์ทรงสามารถสละพระองค์เองเป็นเครื่องพลีบูชาที่ดีพร้อมเพื่อเรา พระเยซูคริสต์ทรงได้รับแต่งตั้งล่วงหน้าให้เป็นพระผู้ไถ่ของเรา พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกวิสุทธิชนของพระองค์ให้แยกตนและแตกต่างจากโลกเพื่อว่าคนอื่นจะเห็นแบบอย่างของพวกเขาและสรรเสริญพระองค์ เราสามารถทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดในการยืนหยัดอดทนต่อการทดลอง

วันที่ 4 (1 เปโตร 3–5)

จากการที่เปโตรให้กำลังใจวิสุทธิชนในสมัยของเขา นักเรียนเรียนรู้ว่าในฐานะผู้ติดตามของพระเยซูคริสต์ เราควรมุ่งมั่นอยู่เสมอที่จะพร้อมแบ่งปันและปกป้องความเชื่อของเราด้วยความอ่อนน้อมและความคารวะ นักเรียนเรียนรู้ด้วยว่ามีการสั่งสอนพระกิตติคุณแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วเพื่อว่าพวกเขาจะมีโอกาสเหมือนกับผู้ที่ได้ยินพระกิตติคุณในความเป็นมรรตัย เปโตรสอนว่าผู้นำศาสนจักรมีความรับผิดชอบที่จะดูแลปกป้องฝูงแกะของพระผู้เป็นเจ้าด้วยความรักและโดยแบบอย่าง

บทนำ

อัครสาวกยากอบชี้แจงความเข้าใจผิดบางอย่างในบรรดาวิสุทธิชนเกี่ยวกับความหมายของศรัทธาที่แท้จริง เขาสอนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างศรัทธากับงานด้วย

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ยากอบ 2:14–26

ยากอบสอนเกี่ยวกับบทบาทของศรัทธาและงานในความรอดของเรา

เชื้อเชิญให้นักเรียนสมมติว่าเยาวชนชายคนหนึ่งตระหนักว่าเขาทำบาป เขาเชื่อในการชดใช้ของพระเยซูคริสต์และในความสามารถของพระผู้ช่วยให้รอดที่จะช่วยเขาให้รอด เขาบอกว่าทั้งหมดที่เขาต้องทำคือเชื่อและพระเจ้าจะทรงให้อภัยเขา โดยไม่ต้องทำความพยายามอื่นใดในส่วนของเขา

ขอให้นักเรียนพิจารณาว่าความเชื่อของเยาวชนชายคนนี้อย่างเดียวเพียงพอสำหรับเขาที่จะได้รับการอภัยบาปของเขาหรือไม่

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยากอบ 2:14 ขอให้นักเรียนที่เหลือดูตาม โดยมองหาสิ่งที่ยากอบถามวิสุทธิชนเกี่ยวกับศรัทธา

  • ยากอบถามอะไรวิสุทธิชนเกี่ยวกับศรัทธา

  • ท่านคิดว่างานประเภทใดที่ยากอบหมายถึง

เตือนนักเรียนว่าเมื่อพวกเขาศึกษาบทเรียนของ ยากอบ 2 พวกเขาเรียนรู้ว่าอัครสาวกยากอบกำลังแก้ไขแนวคิดผิดๆ เกี่ยวกับศรัทธา บางคนเข้าใจผิดว่าศรัทธาเป็นเพียงการประกาศความเชื่อด้วยวาจาเท่านั้น ในบริบทของ ยากอบ 2:14 ยากอบใช้คำว่า ประพฤติ ต่างจากวิธีที่อัครสาวกเปาโลใช้ เมื่อเปาโลใช้คำว่า ประพฤติ เขาหมายถึงการประพฤติตามกฎของโมเสส เมื่อยากอบใช้คำว่า ประพฤติ เขาหมายถึงการกระทำแห่งการอุทิศตนหรืองานแห่งความชอบธรรม

อธิบายว่ายากอบใช้การเปรียบเทียบเพื่อแสดงคำตอบต่อคำถามของเขาใน ข้อ 14

เชิญนักเรียนสองคนออกมาที่หน้าชั้นเรียน ขอให้นักเรียนคนหนึ่งแสดงเป็นคนขอทานที่กำลังขออาหาร เสื้อผ้า และที่พักพิงเพื่อความอยู่รอด เชื้อเชิญนักเรียนอีกคนหนึ่งให้แสดงเป็นคนที่สามารถช่วยขอทานคนนั้นได้ เชื้อเชิญให้นักเรียนคนที่สามอ่านออกเสียง ยากอบ 2:15–16 ขณะนักเรียนอีกสองคนแสดงบทบาทตามที่บรรยายในข้อเหล่านี้

  • เกิดอะไรขึ้นกับการตอบสนองที่ให้แก่นักเรียนที่เป็นขอทาน

  • การตอบสนองของนักเรียนอีกคนหนึ่งพอที่จะช่วยคนขอทานหรือไม่

เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนอ่านออกเสียงหรือท่อง ยากอบ 2:17–18 พร้อมกัน โดยมองหาสิ่งที่ยากอบสอนเกี่ยวกับศรัทธา เตือนพวกเขาว่า ยากอบ 2:17–18 เป็นข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์

  • ท่านคิดว่าประโยคนี้ “ความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว” (ข้อ 17) หมายถึงอะไร

  • การเปรียบเทียบของยากอบเกี่ยวกับขอทานช่วยให้เราเข้าใจความหมายของประโยคนี้อย่างไร

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 17 ยากอบสอนความจริงอะไรเกี่ยวกับศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์ (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกันแต่ควรระบุความจริงทำนองนี้ ศรัทธาที่แท้จริงในพระเยซูคริสต์แสดงให้เห็นประจักษ์โดยงานที่ชอบธรรมของเรา เขียนความจริงนี้ไว้บนกระดาน)

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง ยากอบ 2:19–20 อธิบายว่างานแปลของโจเซฟ สมิธ ยากอบ 2:19 กล่าวว่า “ท่านเชื่อว่าพระเจ้ามีเพียงองค์เดียว นั่นก็ดี แม้พวกผีก็เชื่อและกลัวจนตัวสั่น ท่านทำตัวท่านเหมือนพวกมัน โดยไม่ได้ถูกชำระให้ชอบธรรม” ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาตัวอย่างที่ยากอบใช้เพื่อแสดงว่าการเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าไม่จำเป็นต้องรวมถึงการมีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

  • ตัวอย่างอะไรที่ยากอบใช้เพื่อแสดงว่าการเชื่อในพระผู้เป็นเจ้าไม่จำเป็นต้องรวมถึงการมีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ภาพ
เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์

“ศรัทธาที่แท้จริงมีศูนย์รวมอยู่ที่พระเจ้าพระเยซูคริสต์และมักจะนำไปสู่การประพฤติชอบ … การประพฤติอย่างเดียวไม่ใช่ศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอด แต่การประพฤติสอดคล้องกับหลักธรรมที่ถูกต้องเป็นองค์ประกอบสำคัญของศรัทธา ดังนั้น ‘ความเชื่อ ถ้าไม่มีการปฏิบัติ ก็เป็นสิ่งที่ตายแล้ว’ (ยากอบ 2:20)” (“ทูลขอด้วยศรัทธา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2008, 114–117)

  • ตามคำกล่าวของเอ็ลเดอร์เบดนาร์ อะไรคือ “องค์ประกอบสำคัญของศรัทธา”

  • เหตุใดจึงสำคัญที่จะเข้าใจว่าศรัทธาในพระเยซูคริสต์หมายรวมถึงการเชื่อในพระองค์และการปฏิบัติตามหลักธรรมที่ถูกต้อง

เตือนนักเรียนถึงเยาวชนชายในสถานการณ์สมมติในช่วงเริ่มต้นของหมวดนี้ในบทเรียน

  • การเข้าใจว่าศรัทธาประกอบด้วยความเชื่อและการกระทำอาจช่วยบางคนที่แสวงหาการให้อภัยบาปของเขาอย่างไร

สรุป ยากอบ 2:21–26 โดยอธิบายว่ายากอบพูดถึงอับราฮัมและราหับเพื่อเป็นแบบอย่างสองเรื่องของผู้คนที่ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าแสดงให้เห็นประจักษ์ในงานของพวกเขา (เรื่องราวของนางราหับผู้กล้าหาญมีอยู่ใน โยชูวา 2:1–22)

เชื้อเชิญให้นักเรียนใช้สมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาเขียนเกี่ยวกับเวลาที่พวกเขาแสดงศรัทธาในพระเยซูคริสต์ผ่านงานของพวกเขาและพวกเขาได้รับพรในการทำเช่นนั้นอย่างไร กระตุ้นให้นักเรียนรวมประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและวิธีที่พวกเขาจะแสดงความเชื่อนั้นผ่านการกระทำของพวกเขา ขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเขียนกับชั้นเรียน

เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาร่วมกับการสวดอ้อนวอนว่าพวกเขาจะใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ให้เต็มที่มากขึ้นโดยการเชื่อฟังพระองค์อย่างไร กระตุ้นให้พวกเขาทำตามการกระตุ้นเตือนทางวิญญาณที่พวกเขาได้รับ

หน่วยต่อไป (2 เปโตรยูดา)

ถามนักเรียนว่าพวกเขาคิดว่าเหตุใดผู้คนจึงเลือกทำบาปแม้จะรู้ว่าผิด เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาความจริงเมื่อพวกเขาศึกษา 2 เปโตร ถึง ยูดา ระหว่างสัปดาห์หน้า ที่จะช่วยพวกเขาตอบคำถามต่อไปนี้ เราจะหลีกเลี่ยงการถูกหลอกจากหลักคำสอนเท็จอย่างไร ยอห์นบอกว่าอะไรจะขจัดความกลัว เราควรแสดงความรักของเราต่อพระผู้เป็นเจ้าอย่างไร คุณลักษณะเหมือนอย่างพระเจ้าที่เราต้องพัฒนาเพื่อได้รับชีวิตนิรันดร์เป็นมรดกคือคุณลักษณะอะไร คำเตือนอะไรที่ให้ไว้เกี่ยวกับคนที่เราเลือกคบหาสมาคม

พิมพ์