คลังค้นคว้า
บทที่ 131: 2 ทิโมธี 1–2


บทที่ 131

2 ทิโมธี 1–2

คำนำ

ในจดหมายฉบับที่สองของเปาโลถึงทิโมธี เขาสอนว่าความกลัวไม่ได้มาจากพระผู้เป็นเจ้าและแนะนำทิโมธีไม่ให้อับอายในประจักษ์พยานของเขาถึงพระเยซูคริสต์ เปาโลให้กำลังใจทิโมธีอดทนต่อการทดลองด้วยความซื่อสัตย์และแนะนำให้เขาสอนวิสุทธิชนให้กลับใจ

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

2 ทิโมธี 1

เปาโลแนะนำทิโมธีไม่ให้อับอายในพระกิตติคุณ

เขียนคำว่า กลัว บนกระดานและขอให้นักเรียนพิจารณาว่าความกลัวมีอิทธิพลต่อเราอย่างไร เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

ภาพ
ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“ในบรรดาพวกเรามีใครจะพูดได้ว่าเขาไม่เคยรู้สึกกลัว ข้าพเจ้าไม่รู้จักใครที่ไม่เคยพูดแบบนั้น แน่นอนว่าบางคนประสบความกลัวมากกว่าคนอื่นๆ บ้างก็สามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว แต่หลายคนติดกับและถูกความกลัวดึงลงไปจนถึงกับต้องยอมแพ้ เราเป็นทุกข์เพราะกลัวการหัวเราะเยาะ กลัวความล้มเหลว กลัวความเหงา กลัวความไม่รู้ บางคนกลัวปัจจุบัน บางคนกลัวอนาคต บ้างก็แบกภาระของบาปและจะยอมสละแทบทุกอย่างเพื่อปลดโซ่ตรวนของภาระเหล่านั้นแต่กลัวไม่กล้าเปลี่ยนชีวิตตนเอง” (God Hath Not Given Us the Spirit of Fear, Oct. 1984, 2)

  • ตามที่ประธานฮิงค์ลีย์กล่าวไว้ ความกลัวมีอิทธิพลต่อเราอย่างไร

  • ความกลัวส่งผลต่อความสามารถของเราในการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณอย่างไร

เชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาหลักธรรมขณะที่พวกเขาศึกษา 2 ทิโมธี 1 ที่จะช่วยพวกเขาเอาชนะความกลัว

อธิบายว่าไม่นานก่อนเปาโลสิ้นชีวิต เขาเขียนสาส์นฉบับที่สองถึงทิโมธีขณะถูกคุมขังในกรุงโรม สรุป 2 ทิโมธี 1:1–5 โดยอธิบายว่าเปาโลแสดงความปรารถนาของเขาที่จะพบกับทิโมธีและยังจำได้ถึงศรัทธาที่จริงใจของทิโมธี

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 ทิโมธี 1:6 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปาโลเตือนทิโมธีให้ทำอะไร

  • เปาโลเตือนทิโมธีให้ทำอะไร

อธิบายว่า “ของประทานของพระเจ้า” ที่ได้รับโดยผ่านการวางมือน่าจะหมายถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ การ “ทำให้รุ่งเรือง” หมายถึงก่อขึ้นใหม่หรือทำให้มีชีวิตอีกครั้ง เปาโลแนะนำให้ทิโมธีจุดไฟของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ขึ้นใหม่ หรือตั้งใจมั่นที่จะมีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่กับเขา

เขียนข้อความที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้บนกระดาน เมื่อเราตั้งใจมั่นที่จะมีพระวิญญาณอยู่กับเรา …

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 ทิโมธี 1:7–8 ขอให้นักเรียนที่เหลือดูตาม โดยมองหาพรที่จะมาจากการมีพระวิญญาณอยู่กับเรา

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 7 พรอะไรที่จะมาจากการมีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่กับเรา

  • พรเหล่านี้ช่วยเราเอาชนะอะไร

อธิบายว่าเปาโลพูดถึงความกลัวทางโลก ซึ่งทำให้เกิดความกังวล ความไม่แน่นอน ความตระหนกและความแตกต่างจากสิ่งที่พระคัมภีร์เรียกว่า “ความยำเกรงพระยาห์เวห์” (สุภาษิต 9:10) การยำเกรงพระเจ้าเป็น “การรู้สึกถึงความคารวะและความยำเกรงพระองค์และเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์” (คู่มือพระคัมภีร์, “ความกลัว,” scriptures.lds.org)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 8 เปาโลเชื้อเชิญทิโมธีให้ทำอะไรด้วยความเข้าใจว่าพระวิญญาณจะช่วยเขาเอาชนะความกลัว

ถามนักเรียนว่าพวกเขาจะเติมข้อความที่ไม่ครบถ้วนบนกระดานโดยใช้คำสอนของเปาโลใน ข้อ 7–8 ว่าอย่างไร โดยใช้คำพูดของนักเรียน เติมข้อความให้ครบถ้วนเพื่อสื่อถึงหลักธรรมต่อไปนี้ เมื่อเราตั้งใจมั่นที่จะมีพระวิญญาณอยู่กับเรา เราจะเอาชนะความกลัวและไม่อับอายประจักษ์พยานของเราในพระเยซูคริสต์

  • พลังอำนาจจากสวรรค์ ความรัก และวิจารณญาณที่ดีที่เราได้รับผ่านพระวิญญาณจะช่วยเราเอาชนะความกลัวได้อย่างไร

  • เราสามารถแสดงว่าเราไม่อับอายประจักษ์พยานของเราในพระเยซูคริสต์ในทางใดบ้าง

  • พระวิญญาณเคยช่วยท่านเอาชนะความกลัวหรือประทานความกล้าหาญให้ท่านเพื่อยืนหยัดในประจักษ์พยานถึงพระเยซูคริสต์เมื่อใด

ขอให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขาจะทำอะไรได้เพื่ออัญเชิญพระวิญญาณให้อยู่กับพวกเขาเพื่อเอาชนะความกลัวและไม่อับอายประจักษ์พยานของตนในพระเยซูคริสต์

สรุป 2 ทิโมธี 1:9–18 โดยอธิบายว่าเปาโลแนะนำให้ทิโมธียังคงซื่อสัตย์ต่อหลักคำสอนที่แท้จริง เปาโลยืนยันด้วยว่าการแพร่กระจายของการละทิ้งความเชื่อกำลังเกิดขึ้นในศาสนจักร (ดู 2 ทิโมธี 1:15)

2 ทิโมธี 2

เปาโลแนะนำให้ทิโมธีอดทนต่อความยากลำบาก

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน 2 ทิโมธี 2:1 ในใจ โดยมองหาคำแนะนำที่เปาโลให้แก่ทิโมธี

  • เปาโลแนะนำให้ทิโมธีทำอะไร (อธิบายว่าเราเข้าถึงพระคุณหรือความช่วยเหลือของสวรรค์จากพระเยซูคริสต์ผ่านความเชื่อของเรา [ดู โรม 5:2])

  • เหตุใดบางคนอาจพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะยังเข้มแข็งในศรัทธาที่เขามีต่อพระเยซูคริสต์

อธิบายว่าเปาโลแนะนำให้ทิโมธีเข้มแข็งผ่านพระคุณของพระเยซูคริสต์เนื่องจากเขารู้ว่าทิโมธีจะประสบกับความทุกข์และการข่มเหงในฐานะสานุศิษย์ของพระคริสต์

วาด ภาพ ทหาร นักกีฬา และชาวนา (หรือท่านอาจเชื้อเชิญนักเรียนมาวาดภาพสามคนนี้บนกระดาน)

ภาพ
ภาพลายเส้น ทหาร นักวิ่งข้ามรั้ว ชาวนา

อธิบายว่าเปาโลใช้คำเปรียบเทียบถึงทหาร นักกีฬา กสิกร (หรือชาวนา) เพื่อสอนทิโมธีถึงวิธีที่ยังคงเข้มแข็งในศรัทธาแม้มีความยากลำบาก

ลอกแผนภูมิต่อไปนี้ไว้บน กระดาน เชื้อเชิญให้นักเรียนลอกลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขา หรือแจกเป็นเอกสารแจก

คำเปรียบเทียบ

คำอธิบาย

คำเปรียบเทียบนี้สอนเกี่ยวกับการยังคงซื่อสัตย์ในศรัทธาอย่างไร

ทหาร





นักกีฬา





กสิกร (ชาวนา)





เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 ทิโมธี 2:3–6 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าเปาโลบรรยายถึงทหาร นักกีฬา และชาวนาว่าอย่างไร อธิบายว่าคำว่า ความทุกข์ยาก (ข้อ 3) หมายถึงความยากลำบากหรือความทุกข์ และคำว่า “แข่งขัน” (ข้อ 5) หมายถึงการแข่งกีฬา

  • ตามคำสอนของเปาโลใน ข้อ 3–4ทหารที่ดีทำอะไร (เขียนสิ่งต่อไปนี้ในช่องแรกใต้คำว่า “คำอธิบาย” ในแผนภูมิ ทหารที่ดีอดทนต่อความทุกข์ยากเพราะเป็นหน้าที่และละทิ้งเรื่องอื่นๆ ไว้เพื่อทำให้ผู้บังคับบัญชาพอใจ)

  • ใน ข้อ 5 ที่ว่านักกีฬาจะไม่ได้ “รับรางวัล” ยกเว้นเขาจะพยายามหรือแข่งขัน “ตามกติกา” (เขียนสิ่งต่อไปนี้ในช่องที่สองใต้คำว่า “คำอธิบาย” นักกีฬาจะชนะได้หากเขาทำตามกติกาเท่านั้น)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน ข้อ 6 รางวัลของชาวนาที่ทำงานหนักเพื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตของเขาคืออะไร (เขียนสิ่งต่อไปนี้ในช่องที่สามใต้คำว่า “คำอธิบาย” ชาวนาต้องตรากตรำทำงานหนักเพื่อได้รับผลผลิตจากการทำงานของเขา)

เชื้อเชิญ ให้นักเรียนเติมแผนภูมิให้ครบถ้วนโดยเขียนในช่องที่สามว่าคำเปรียบเทียบแต่ละอย่างสอนเกี่ยวกับการยังคงเข้มแข็งในศรัทธาอย่างไร ขอให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันคำตอบของพวกเขา

อธิบายว่าเปาโลพูดว่าเขาประสบกับการทดลองหลายอย่างในการเป็นสานุศิษย์ของพระคริสต์ (ดู 2 ทิโมธี 2:9) เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 ทิโมธี 2:10–12 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่เปาโลพูดเกี่ยวกับสาเหตุที่เขาอดทนต่อความทุกข์ยากเหล่านั้น อธิบายว่า “พวกที่ทรงเลือกไว้” (ข้อ 10) หมายถึงสมาชิกศาสนจักรที่ซื่อสัตย์และคำว่า สู้ทน ใน ข้อ 12 หมายถึงการอดทนและยังคงมั่นคง

  • ตามคำสอนของเปาโลใน ข้อ 10 และ 12 เหตุใดเขาถึงเต็มใจอดทนความทุกข์ยากและยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเยซูคริสต์

  • เราสามารถเรียนรู้หลักธรรมอะไรจากเปาโลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราอดทนต่อความทุกข์ยากและยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกันแต่ควรระบุหลักธรรมทำนองนี้ เมื่อเราอดทนต่อความทุกข์ยากและยังคงซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า เราจะช่วยให้ตนเองและผู้อื่นได้รับความรอดผ่านพระเยซูคริสต์ เขียนหลักธรรมนี้ไว้บนกระดาน)

  • การอดทนอย่างซื่อสัตย์ต่อการทดลองของเราช่วยให้ผู้อื่นได้รับความรอดผ่านพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร

สรุป 2 ทิโมธี 2:13–19 โดยอธิบายว่าเปาโลแนะนำให้ทิโมธีเตือนวิสุทธิชนให้หลีกเลี่ยงความขัดแย้งและให้ “ละทิ้งความชั่ว” (ข้อ 19)

ให้ดูภาพภาชนะต่างๆ เช่นชาม ถ้วย หรือแจกัน เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 ทิโมธี 2:20 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาชนิดของภาชนะที่อยู่ “ในบ้านหลังใหญ่”

  • ตามที่เปาโลกล่าว ภาชนะชนิดใดที่อยู่ “ในบ้านหลังใหญ่”

อธิบายว่าเปาโลใช้ภาชนะชนิดต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบสมาชิกในครัวเรือน หรือศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 ทิโมธี 2:21 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่ทำให้บางคนเป็น “ภาชนะ … ที่เจ้าของจะใช้เป็นประโยชน์” อย่างเหมาะสม

  • ตามที่เปาโลกล่าว เราสามารถทำอะไรเพื่อให้เหมาะ “ที่เจ้าของจะใช้เป็นประโยชน์”

ชี้ให้เห็นว่าวลี “ชำระตัวเองให้พ้นจากความชั่วเหล่านี้” (ข้อ 21) หมายถึงการทำตนให้สะอาดหมดจดจากความชั่ว (ดู ข้อ 19)

  • ตามที่เปาโลใช้ภาชนะในการเปรียบเทียบ เราสามารถเรียนรู้หลักธรรมอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำได้ดีมากขึ้นเพื่อรับใช้พระเจ้า (นักเรียนควรระบุหลักธรรมทำนองนี้ ถ้าเราชำระตนเองให้พ้นจากความชั่ว เราจะรับใช้พระเจ้าได้ดีขึ้น)

  • เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อชำระตนเองให้พ้นจากความชั่ว

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน 2 ทิโมธี 2:22 ในใจ โดยมองหาว่าเราทำอะไรได้อีกเพื่อชำระตนเองให้พ้นจากความชั่ว ขอให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พบ

  • ชำระตนเองให้พ้นจากความชั่วช่วยให้เรารับใช้พระเจ้าได้ดีขึ้นอย่างไร

เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ขอให้นักเรียนฟังดูว่าหลักธรรมนี้ประยุกต์ใช้กับคนที่รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาให้พระเจ้าได้อย่างไร

ภาพ
เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์

“ไม่มีผู้สอนศาสนาคนใดที่ไม่กลับใจจากการล่วงละเมิดทางเพศหรือใช้ภาษาไม่สุภาพหรือหมกมุ่นอยู่กับสื่อลามกและจากนั้นหวังว่าจะท้าทายผู้อื่นให้กลับใจจากสิ่งเดียวกัน ท่านไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ พระวิญญาณจะไม่อยู่กับท่านและเมื่อท่านพูดสิ่งเหล่านี้ท่านจะพูดได้ไม่เต็มปาก ท่านไม่สามารถเดินบนเส้นทางที่ลีไฮเรียกว่า ‘ทางที่ต้องห้าม’ [1 นีไฟ 8:28] และคาดหวังจะแนะนำผู้อื่นไป ‘ทางคับแคบและแคบ’ [2 นีไฟ 31:18] —สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้

“… ไม่ว่าท่านจะเป็นใครและไม่ว่าท่านเคยทำสิ่งใดท่านสามารถได้รับการให้อภัย … สิ่งนี้คือปาฏิหาริย์ของการให้อภัย ปาฏิหาริย์แห่งการชดใช้ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ แต่ท่านจะทำไม่ได้หากไม่มีคำมั่นสัญญาอันแข็งขันต่อพระกิตติคุณและท่านจะทำไม่ได้หากไม่กลับใจในเรื่องที่จำเป็น ข้าพเจ้าขอให้ท่าน … จงแข็งขันและสะอาด หากจำเป็นข้าพเจ้าขอให้ท่าน เป็นคน เข้มแข็งและ เป็นคน ที่สะอาด” (“เราผองต้องถูกเกณฑ์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 57)

  • เหตุใดจึงจำเป็นที่ต้องสะอาดจากบาปเมื่อประกาศพระกิตติคุณ

สรุปโดยเป็นพยานถึงความจริงของหลักธรรมนี้ เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองบาปใดที่พวกเขาจำเป็นต้องกลับใจเพื่อพวกเขาจะรับใช้พระเจ้าได้ดีขึ้น

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

2 ทิโมธี 1:7 “เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา”

ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์สอนเกี่ยวกับแหล่งที่มาและผลของความกลัวดังนี้

“ขอให้เรารับรู้ว่าความกลัวไม่ได้มาจากพระผู้เป็นเจ้า แต่องค์ประกอบที่คอยบ่อนทำลายและทำให้วิตกกังวลนี้มาจากปฏิปักษ์ของความจริงและความชอบธรรม ความกลัว [ตรงข้าม] โดยสิ้นเชิงกับศรัทธา ผลของมันกัดกร่อน แม้ทำให้ถึงตาย

“‘เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานใจที่ขลาดกลัวแก่เรา แต่ประทานใจที่ประกอบด้วยฤทธานุภาพ ความรัก และการบังคับตนเองแก่เรา” [2 ทิโมธี 1:7]

“หลักธรรมเหล่านี้เป็นยาถอนพิษที่ดีเยี่ยมสำหรับความกลัวซึ่งขโมยความเข้มแข็งจากเราและบางครั้งทำให้เราพ่ายแพ้ หลักธรรมเหล่านี้ให้พลังอำนาจแก่เรา

“พลังอำนาจอะไร พลังอำนาจของพระกิตติคุณ พลังอำนาจของความจริง พลังอำนาจของศรัทธา และพลังอำนาจของฐานะปุโรหิต” (God Hath Not Given Us the Spirit of Fear, Oct. 1984, 2)

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่าความยำเกรงพระเจ้าแตกต่างจากความกลัวทางโลก

“ความกลัวที่แตกต่างแต่เกี่ยวข้องกับความกลัวที่เรารู้สึกบ่อยครั้ง ในพระคัมภีร์อธิบายว่าเป็น ‘ความยำเกรง (พระเจ้า)’ (ฮีบรู 12:28) หรือ ‘“ความยำเกรงพระยาห์เวห์’ (โยบ 28:28; สุภาษิต 16:6; อิสยาห์ 11:2–3) ไม่เหมือนกับความกลัวทางโลกที่สร้างความหวาดผวาและความวิตกกังวล ความยำเกรงพระเจ้า คือบ่อเกิดแห่งสันติสุข ความวางใจ และความเชื่อมั่น

“แต่สิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับความกลัวจะจรรโลงใจหรือเป็นประโยชน์ทางวิญญาณได้อย่างไร

“ความกลัวอันชอบธรรมที่ข้าพเจ้าพยายามอธิบายหมายรวมถึงความคารวะ ความเคารพ และความยำเกรงพระเจ้าพระเยซูคริสต์อย่างลึกซึ้ง (ดู สดุดี 33:8; 96:4) การเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ (ดู เฉลยธรรมบัญญัติ 5:29; 8:6; 10:12; 13:4; สดุดี 112:1) และการมุ่งหวังรอคอยการพิพากษาครั้งสุดท้ายและความยุติธรรมที่พระหัตถ์ของพระองค์” (“ฉะนั้นพวกเขาจึงข่มความกลัว,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 48–9)

2 ทิโมธี 1:7–8 “เพราะฉะนั้นอย่าอับอายที่เป็นพยานขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”

ซิสเตอร์บอนนี่ แอล. ออสคาร์สัน ประธานเยาวชนหญิงสามัญ แบ่งปันเรื่องเล่าต่อไปนี้เกี่ยวกับมารี แมเดไลน์ คาร์ดอน ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสสาวในอิตาลีที่แสดงความกล้าหาญในการปกป้องความเชื่อใหม่ของเธอดังนี้

“ไม่นานมานี้ดิฉันได้อ่านเรื่องราวของ มารี แมเดไลน์ คาร์ดอนผู้ได้รับข่าวสารเกี่ยวกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ที่ได้รับการฟื้นฟูจากผู้สอนศาสนาคู่แรกที่ได้รับเรียกให้รับใช้ในอิตาลีเมื่อปี 1850 พร้อมกับครอบครัว เมื่อครอบครัวของเธอรับบัพติศมาเธอเป็น เยาวชนหญิงอายุประมาณ 17 หรือ 18 ปี วันอาทิตย์วันหนึ่งขณะครอบครัวจัดให้มีพิธีนมัสการในบ้านของพวกเขาซึ่งอยู่สูงขึ้นไปในเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือของอิตาลี ฝูงชนที่เกรี้ยวกราดกลุ่มหนึ่ง รวมทั้งนักเทศน์ในท้องที่บางคนมาชุมนุมกันรอบบ้านและเริ่มตะโกนโห่ร้องและเรียกร้องให้นำผู้สอนศาสนาออกมา ดิฉันไม่คิดว่าพวกเขากระวนกระวายที่จะเรียนพระกิตติคุณ—แต่หากต้องการทำร้ายร่างกายด้วย สาวน้อยมารีคือคนที่เดินออกจากบ้านไปเผชิญหน้ากับฝูงชน

“ฝูงชนยังคงโห่ร้องอย่างเกรี้ยวกราดและเรียกร้องให้ส่งผู้สอนศาสนาออกมา มารียกพระคัมภีร์ไบเบิลในมือของเธอขึ้นและบัญชาให้พวกเขาหลบไป เธอบอกว่าเอ็ลเดอร์เหล่านี้อยู่ในการปกป้องของเธอและฝูงชนจะไม่อาจทำอันตรายแม้ผมเส้นเดียวบนศีรษะของพวกเขา ลองฟังคำพูดของเธอเอง ‘ทุกคนยืนตะลึง … พระผู้เป็นเจ้าอยู่กับดิฉัน พระองค์ทรงวางถ้อยคำเหล่านี้ในปากดิฉัน ไม่เช่นนั้นดิฉันจะพูดอย่างนั้นไม่ได้ ทุกคนอยู่ในความสงบทันที ร่างกายอันแข็งแรงแกร่งกร้าวของผู้ชายยืนโดยไม่สามารถทำอะไรได้ต่อหน้าเด็กสาวผู้อ่อนแอตัวสั่นแต่ไร้ความหวาดกลัว’ นักเทศน์ขอให้ฝูงชนกลับไป ซึ่งพวกเขาทำอย่างเงียบสงบ แต่ในความละอาย กลัวและสำนึกผิด แกะฝูงน้อยประชุมเสร็จสมบูรณ์ในความสุขสงบ

“ท่านนึกภาพสตรีสาวที่กล้าหาญคนนั้นได้หรือไม่ คนที่อายุไล่เลี่ยกับท่านหลายคน เธอยืนขึ้นต่อหน้าฝูงชนและปกป้องความเชื่อที่เพิ่งค้นพบของเธอด้วยความกล้าและความ เชื่อมั่น” (“ผู้ปกป้องถ้อยแถลงครอบครัว,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 14)

พิมพ์