บทเรียนภาคการศึกษาที่บ้าน
วิวรณ์ 1–11 (หน่วย 31)
บทนำ
บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าพระเจ้าจะทรงทำอะไรเพื่อเราเนื่องจากพระองค์ทรงรู้จักและรักเรา นอกจากนี้ บทเรียนนี้จะช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าพวกเขาต้องทำอะไรจึงจะได้ชีวิตนิรันดร์
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
วิวรณ์ 2–3
ยอห์นเขียนพระดำรัสของพระเยซูคริสต์ที่ประทานแก่ผู้นำหน่วยต่างๆ ของศาสนจักรเจ็ดหน่วย
หมายเหตุ: สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวคำแนะนำของพระเจ้าที่ประทานแก่หน่วยต่างๆ ของศาสนจักรเจ็ดหน่วยให้ดู คู่มือนักเรียน พันธสัญญาใหม่ ([คู่มือของระบบการศึกษาของศาสนจักร, 2014], 531–532)
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงเรื่องเล่าต่อไปนี้ของซิสเตอร์ซิดนีย์ เอส. เรย์โนลด์ส อดีตที่ปรึกษาในฝ่ายประธานปฐมวัยสามัญ ขอให้ชั้นเรียนฟังสิ่งที่พวกเขาสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้าจากเรื่องนี้
“ซิสเตอร์เกย์ล เคล็กก์สมาชิกคนหนึ่งในฝ่ายประธานปฐมวัยสามัญและสามีเธอเคยอยู่ในบราซิลหลายปี เมื่อไม่นานมานี้เธอได้รับมอบหมายเรื่องงานปฐมวัยในญี่ปุ่น เมื่อเธอไปโบสถ์ที่นั่นในวันอาทิตย์เธอสังเกตว่ามีครอบครัวชาวบราซิลนั่งอยู่ในหมู่วิสุทธิชนชาวญี่ปุ่น … เธอมีเวลาเพียงกล่าวทักทายครอบครัวนี้เท่านั้นและรู้สึกได้ว่าคุณแม่กับลูกๆ มีความกระตือรือร้นแต่สังเกตว่าคุณพ่อไม่ค่อยพูด ‘เธอนึกในใจขณะที่มีคนนำเธอไปนั่งด้านบนเวที ‘เดี๋ยวคงมีโอกาสพูดคุยกับครอบครัวนี้หลังการประชุม’ เธอให้ข่าวสารเป็นภาษาอังกฤษโดยมีล่ามแปลเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่แล้วเธอก็ได้รับการดลใจให้แสดงประจักษ์พยานเป็นภาษาโปรตุเกสเช่นกัน ตอนแรกเธอลังเลเพราะไม่มีล่ามภาษาโปรตุเกส และผู้เข้าประชุม 98 เปอร์เซ็นต์จะไม่เข้าใจสิ่งที่เธอพูด
“แต่เมื่อจบการประชุมคุณพ่อชาวบราซิลเดินเข้ามาหาเธอและพูดว่า ‘ซิสเตอร์ครับ ประเพณีที่นี่ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ผมรู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้ไม่อยากมาโบสถ์เพราะไม่ค่อยเข้าใจอะไร บางครั้งผมรู้สึกว่าน่าจะอยู่บ้านอ่านพระคัมภีร์ดีกว่า ผมบอกภรรยาว่า “ผมจะลองไปอีกสักครั้ง” และผมคิดว่าจะมาวันนี้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อคุณแสดงประจักษ์พยานในภาษาโปรตุเกสผมรู้สึกถึงพระวิญญาณที่สัมผัสใจผม ผมรู้ว่าผมคือคนของศาสนจักรนี้ พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบว่าผมอยู่ที่นี่และพระองค์จะทรงช่วยผม’” (“พระองค์ทรงรู้จักเรา พระองค์ทรงรักเรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2003, 92)
-
เราสามารถเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าจากประสบการณ์นี้
เขียนวลีที่ไม่ครบถ้วนต่อไปนี้บนกระดาน เพราะพระเจ้าทรงรู้จักเราแต่ละคน … เชื้อเชิญนักเรียนให้มองหาความจริงต่างๆ เมื่อพวกเขาศึกษา วิวรณ์ 2–3 ที่จะช่วยให้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าทรงทำเพื่อพวกเขาได้เพราะพระองค์ทรงรู้จักพวกเขา
อธิบายว่า วิวรณ์ 2–3 มีบันทึกของอัครสาวกยอห์นเกี่ยวกับพระวจนะของพระเยซูคริสต์ถึงหน่วยต่างๆ ของศาสนจักรเจ็ดหน่วยในเอเชียไมเนอร์ (ตุรกีในสมัยใหม่)
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง วิวรณ์ 2:1–3, 6 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงทราบเกี่ยวกับวิสุทธิชนในเมืองเอเฟซัส
-
พระเจ้าทรงทราบอะไรเกี่ยวกับวิสุทธิชนในเมืองเอเฟซัส (อธิบายว่าคำว่า พวกนิโคเลาส์ ใน ข้อ 6 อาจหมายถึงคนกลุ่มหนึ่งซึ่งสมาชิกในกลุ่มอ้างว่าพวกเขาสามารถทำบาปทางเพศได้โดยไม่ต้องรับโทษเนื่องจากพระคุณของพระผู้เป็นเจ้าจะช่วยพวกเขาให้รอด [ดู Bible Dictionary, “Nicolaitans”])
ชี้ให้เห็นว่าข้อเหล่านี้บันทึกว่าพระเจ้าทรงสรรเสริญ หรือชื่นชมวิสุทธิชนสำหรับงานดีของพวกเขา เพิ่มข้อความบนกระดานเพื่อจะอ่านได้ว่า เพราะพระเจ้าทรงรู้จักเราแต่ละคน พระองค์จะทรงชื่นชมเราเป็นการส่วนตัว …
เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง วิวรณ์ 2:4–5 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาว่าพระเจ้าทรงทราบอะไรอีกเกี่ยวกับวิสุทธิชนในเมืองเอเฟซัส
-
พระเจ้าทรงทราบอะไรอีกเกี่ยวกับวิสุทธิชนในเมืองเอเฟซัส
ชี้ให้เห็นว่าพระเจ้ากำลังประทานการแก้ไขแก่วิสุทธิชนเนื่องจากบาปของพวกเขา เติมข้อความบนกระดานให้สมบูรณ์เพื่อสื่อถึงความจริงต่อไปนี้ เพราะพระเจ้าทรงรู้จักเราแต่ละคน พระองค์จะทรงชื่นชมและประทานการแก้ไขเราเป็นการส่วนตัว
-
เราสามารถได้รับคำชื่นชมและการแก้ไขเป็นการส่วนตัวจากพระเจ้าในทางใดบ้าง (โดยผ่านคำสวดอ้อนวอนส่วนตัว การศึกษาพระคัมภีร์ คำแนะนำจากผู้นำศาสนจักร บิดามารดา และปิตุพร)
-
การรู้ว่าพระเจ้าจะทรงชื่นชมและประทานการแก้ไขส่งผลต่อวิธีที่เราปฏิบัติกับการศึกษาพระคัมภีร์และการสวดอ้อนวอนส่วนตัวของเราอย่างไร สิ่งเหล่านั้นจะส่งผลต่อวิธีที่เราตอบสนองต่อคำแนะนำของผู้นำศาสนจักรและบิดามารดาของเราอย่างไร
-
เหตุใดเราควรพยายามแสวงหาความชื่นชมและการแก้ไขเป็นการส่วนตัวจากพระเจ้า
-
ท่านเคยประสบกับการที่พระเจ้าทรงชื่นชมและแก้ไขท่านเป็นการส่วนตัวหรือไม่ ประสบการณ์นี้ช่วยให้ท่านรู้ว่าพระเจ้าทรงรู้จักท่านแต่ละคนอย่างไร (เตือนนักเรียนไม่ให้แบ่งปันประสบการณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป ท่านอาจต้องการแบ่งปันประสบการณ์ของท่านเช่นกัน)
เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองว่าการกระทำใดที่พวกเขาคิดว่าพระเจ้าอาจจะทรงชื่นชมพวกเขาเช่นเดียวกับความคิดหรือพฤติกรรมใดที่พระเจ้าอาจจะทรงแก้ไขพวกเขา กระตุ้นให้นักเรียนตั้งเป้าหมายเพื่อกลับใจเมื่อพระเจ้าทรงแก้ไขพวกเขา
เชื้อเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง วิวรณ์ 2:7 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม โดยมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญากับผู้ที่ชนะ หรืออดทนอย่างซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
-
พระเจ้าทรงสัญญาอะไรกับผู้ที่ชนะ หรือคนที่อดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ในความชอบธรรม
-
ท่านคิดว่า “กินผลจากต้นไม้ที่ให้ชีวิต” หมายความว่าอย่างไร (ข้อ 7)
-
การได้ยินพรที่สัญญาไว้นี้หลังจากได้รับการแก้ไขเป็นการส่วนตัวอาจเป็นประโยชน์ต่อวิสุทธิชนในเมืองเอเฟซัสอย่างไร
เตือนนักเรียนว่านอกเหนือจากพระดำรัสในที่ประชุมศาสนจักรในเมืองเอเฟซัส พระเจ้าทรงมีพระดำรัสกับที่ประชุมอื่นๆ ของศาสนจักรในเอเชียไมเนอร์
แบ่งชั้นเรียนออกเป็นห้ากลุ่ม และมอบหมายข้ออ้างอิงต่อไปนี้ให้กลุ่มละหนึ่งข้อ
-
วิวรณ์ 2:18–29; (แจกสำเนางานแปลของโจเซฟ สมิธ วิวรณ์ 2:26–27 ให้กลุ่มที่ได้รับข้ออ้างอิงนี้ ซึ่งอ่านว่า “และคนที่ชนะและรักษาพระบัญญัติของเราจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เราจะประทานสิทธิอำนาจเหนือบรรดาอาณาจักรกับเขา และเขาจะปกครองดูแลอาณาจักรทั้งหลายด้วยพระคำของพระผู้เป็นเจ้า และอาณาจักรทั้งหลายเขาจะอยู่ในมือเขาเหมือนอย่างหม้อกระเบื้องดินเหนียวที่อยู่ในมือของคนปั้น และเขาจะปกครองอาณาจักรทั้งหลายโดยศรัทธา ด้วยความเท่าเทียมและเป็นธรรม แม้ดังที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา”)
-
วิวรณ์ 3:1–6 (แจกสำเนางานแปลของโจเซฟ สมิธ วิวรณ์ 3:1–2 ให้กลุ่มที่ได้รับข้ออ้างอิงนี้ ซึ่งอ่านว่า “จงเขียนถึงผู้รับใช้ของคริสตจักรที่เมืองซาร์ดิสว่า พระองค์ผู้ทรงมีดาวเจ็ดดวง ซึ่งคือผู้รับใช้เจ็ดคนของพระผู้เป็นเจ้านั้น ตรัสดังนี้ว่า เรารู้จักความประพฤติของเจ้า คือเจ้าได้ชื่อว่ามีชีวิตอยู่ แต่ว่าเจ้าตายแล้ว ดังนั้นเจ้าจงตื่นขึ้นและจงเสริมกำลังให้กับคนที่เหลืออยู่ซึ่งจวนจะตายแล้วนั้น เพราะว่าเราไม่พบความประพฤติที่ครบบริบูรณ์ของเจ้าเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า”)
เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านข้อที่ได้รับมอบหมายของเขาเป็นกลุ่ม โดยมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงแนะนำให้วิสุทธิชนทำและพรที่พระองค์ทรงสัญญาว่าพวกเขาจะได้รับหากพวกเขาทำเช่นนั้น อธิบายว่าเอ็ลเดอร์ บรูซ อาร์. แมคคองกีแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “มานาที่ซ่อนอยู่” ใน วิวรณ์ 2:17 เป็น “อาหารแห่งชีวิต พระคำอันประเสริฐของพระผู้เป็นเจ้า หลักคำสอนของพระองค์ผู้เป็นอาหารแห่งชีวิต—ทั้งหมดนี้ถูกซ่อนอยู่จากใจที่มีราคะจริต [หรือฝักใฝ่ทางโลก] คนที่กินจะไม่หิวอีกเลย ชีวิตนิรันดร์เป็นมรดกของพวกเขาในท้ายที่สุด” (Doctrinal New Testament Commentary, 3 vols. [1965–73], 3:451)
หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้เชิญสมาชิกหนึ่งคนจากแต่ละกลุ่มรายงานสิ่งที่กลุ่มของเขาพบ เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งออกมาเขียนบนกระดาน (ใต้พรที่สัญญาไว้จาก วิวรณ์ 2:7) พรที่สัญญาไว้ที่แต่ละกลุ่มระบุ (ดู วิวรณ์ 2:11, 17, 26; 3:5, 12) หลังจากรายการเสร็จสมบูรณ์ ชี้ให้เห็นว่าพรที่สัญญาไว้แต่ละข้อหมายถึงการได้รับพรของความสูงส่ง ซึ่งมีเงื่อนไขอยู่ที่การอดทนอย่างซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่
-
เราสามารถระบุหลักธรรมอะไรบ้างจากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้เกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องทำเพื่อได้รับพรแห่งความสูงส่ง (ช่วยนักเรียนระบุหลักธรรมทำนองนี้ หากเราชนะ เราจะได้รับพรแห่งความสูงส่ง)
อธิบายว่าคนที่ได้รับพรแห่งความสูงส่งเป็นคนที่เอาชนะอุปสรรคที่จะปิดกั้นพวกเขาจากการกลับไปหาพระองค์ผ่านพระคุณของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงการฝักใฝ่ทางโลก การทดลอง บาป และความตาย
ขอให้นักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขาต้องเอาชนะอะไรในชีวิตพวกเขา เชื้อเชิญให้พวกเขาสวดอ้อนวอนและทูลขอความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์เพื่อเอาชนะอุปสรรคที่จะปิดกั้นพวกเขาจากการกลับไปหาพระองค์ เป็นพยานถึงพลังอำนาจของพระบิดาบนสวรรค์ที่จะช่วยเราเอาชนะอุปสรรคทุกอย่าง
หน่วยต่อไป (วิวรณ์ 12–22)
ถามนักเรียนว่าพวกเขาเคยสงสัยเกี่ยวกับการพิพากษาสุดท้ายหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตก่อนเกิดหรือไม่ อัครสาวกยอห์นเขียนอะไรเกี่ยวกับสงครามในสวรรค์ มีกี่คนที่ถูกขับออกไปพร้อมกับซาตาน การพิพากษาสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เราจะรับการพิพากษาจากอะไรเมื่อเรายืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้า ยอห์นบรรยายถึงความงดงามของซีเลสเชียลอย่างไร อธิบายว่าขณะที่พวกเขาศึกษา วิวรณ์ 12–22 ในสัปดาห์ที่จะมาถึง พวกเขาจะเรียนรู้คำตอบของคำถามเหล่านี้