2 นีไฟ 11 และ 16

คำนำ

ใน 2 นีไฟ 11 นีไฟแสดงความรักต่อถ้อยคำของอิสยาห์ เขาเป็นพยานด้วยว่าเจคอบและอิสยาห์เห็น “พระผู้ไถ่…, แม้ดังที่ข้าพเจ้าเห็นพระองค์” (2 นีไฟ 11:2) 2 นีไฟ 16 มีเรื่องราวของอิสยาห์เกี่ยวกับการชำระบาปของท่านและได้รับเรียกเป็นศาสดาพยากรณ์เมื่อท่าน “เห็น … พระเจ้าทรงนั่งอยู่บนพระราชบัลลังก์” (ดู 2 นีไฟ 16:1, 5–8) ทั้งนีไฟและเจคอบสอนคุณค่าของการเปรียบงานเขียนของอิสยาห์กับตัวเรา (ดู 1 นีไฟ 19:23; 2 นีไฟ 6:5; 11:2) และพระเจ้าทรงประกาศว่า “ถ้อยคำของอิสยาห์ยิ่งใหญ่” (3 นีไฟ 23:1) 2 นีไฟ 11 มีคำอธิบายบางส่วนของนีไฟเพื่อสรุปคำพยากรณ์ของอิสยาห์ในบันทึกของเขา ด้วยเหตุนี้จึงถือเป็นคำนำของถ้อยคำของอิสยาห์ใน 2 นีไฟ 12–24 2 นีไฟ 25 ถือเป็นการสรุปบทเหล่านี้โดยมีคำแนะนำของนีไฟเกี่ยวกับวิธีเข้าใจถ้อยคำของอิสยาห์ (ดูบทที่ 35 ในคู่มือเล่มนี้)

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

2 นีไฟ 11

นีไฟแสดงความเบิกบานในการเป็นพยานว่าความรอดผ่านมาทางพระเยซูคริสต์

เชื้อเชิญนักเรียนให้เขียนคนละหนึ่งประโยคเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อชั้นเรียนพบกันครั้งสุดท้าย อย่าให้นักเรียนเปรียบเทียบหรือสนทนาสิ่งที่พวกเขากำลังเขียน เพื่ออธิบายข้อดีของการมีพยานมากกว่าหนึ่งปาก ให้นักเรียนสามคนอ่านออกเสียงประโยคที่พวกเขาเขียน หลังจากนักเรียนคนแรกอ่านประโยคของตนแล้ว ถามชั้นเรียนว่านั่นบอกได้ครบถ้วนหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในชั้นเรียนครั้งที่แล้ว จากนั้นให้นักเรียนคนที่สองแบ่งปันประโยคของเขา และถามว่านั่นบอกได้ครบถ้วนหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นในชั้นเรียนครั้งที่แล้ว หลังจากนักเรียนคนที่สามอ่านแล้ว ให้ถามคำถามเดียวกัน

การมีพยานหลายๆ ปากมีข้อดีอะไรบ้าง

อธิบายว่าพระเจ้าทรงเรียกเหล่าศาสดาพยากรณ์ให้เป็นพยานของพระองค์ต่อโลก กระตุ้นนักเรียนให้ไตร่ตรองว่าการได้ฟังเหล่าศาสดาพยากรณ์เป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์มีความหมายต่อพวกเขาอย่างไร

เขียนข้อความต่อไปนี้บนกระดาน: โดยศึกษาประจักษ์พยานของเหล่าศาสดาพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เราสามารถเสริมสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์และชื่นชมยินดีในพระองค์

การเข้าใจอิสยาห์

ครูและนักเรียนอาจจะพบว่าถ้อยคำของอิสยาห์ในพระคัมภีร์มอรมอนเข้าใจได้ยาก ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองยอมรับว่าเมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน บทเหล่านี้อาจดูเหมือนเป็นอุปสรรค ท่านกล่าวต่อจากนั้นว่า “อย่าหยุดอ่าน! อ่านบทที่เข้าใจยากเหล่านั้นต่อไป … ถึงแม้ท่านจะเข้าใจน้อยมากก็ตาม จงอ่านต่อไปแม้ทั้งหมดที่ท่านทำคืออ่านผ่านๆ และค่อยๆ สะสมความประทับใจทีละน้อย” (“The Things of My Soul,” Ensign, May 1986, 61)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่าน 2 นีไฟ 11:2–3

ตามที่กล่าวไว้ในข้อเหล่านี้ นีไฟ อิสยาห์ และเจคอบประสบอะไรที่ทำให้พวกท่านสามารถเป็นพยานพิเศษของพระเยซูคริสต์ได้
ท่านคิดว่าเหตุใดจึงสำคัญที่ต้องมีพยานของพระเยซูคริสต์จากศาสดาพยากรณ์หลายท่าน (ดู โมไซยาห์ 13:33–35)

เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่านบรรทัดแรกของแต่ละข้อใน 2 นีไฟ 11:4–6 โดยมองหาข้อความที่นีไฟกล่าวย้ำในแต่ละข้อ

“เบิกบานใน” บางสิ่งหมายความว่าอะไร (ท่านอาจจะอธิบายว่าคำว่า เบิกบาน บ่งบอกความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าชอบหรือสนใจบางสิ่งบางอย่าง บอกเป็นนัยถึงประสบการณ์ที่มีปีติและความพอใจ)

ให้นักเรียนอ่าน 2 นีไฟ 11:4–7 ในใจโดยระบุสิ่งที่ทำให้นีไฟเบิกบาน จากนั้นแบ่งนั่งเรียนเป็นคู่ๆ ขอให้พวกเขาแบ่งปันข้อความที่ทำให้พวกเขาประทับใจมากที่สุดและเพราะเหตุใด เชื้อเชิญพวกเขาให้แบ่งปันเช่นกันว่าอะไรทำให้พวกเขาเบิกบานหรือทำให้พวกเขาชื่นชมยินดีเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์

อ่านออกเสียง 2 นีไฟ 11:8 และให้นักเรียนมองหาเหตุผลว่าเหตุใดนีไฟจึงรวมงานเขียนของอิสยาห์ไว้ในบันทึกของเขา

นีไฟหวังให้ผู้คนของเขาและผู้อ่านพระคัมภีร์มอรมอนในอนาคตประสบอะไรเมื่อพวกเขาอ่านถ้อยคำของอิสยาห์

รายการต่อไปนี้ให้ตัวอย่างว่าเหตุใดนีไฟจึงรวมงานเขียนของอิสยาห์ไว้ในบันทึกของเขา

อิสยาห์เคยเห็นพระผู้ช่วยให้รอดเช่นเดียวกับนีไฟและเจคอบ (ดู 2 นีไฟ 11:2–3; ดู 2 นีไฟ 16:1–5 ด้วยซึ่งรวมคำพรรณนาของอิสยาห์เกี่ยวกับนิมิตที่เขาเห็นพระผู้ช่วยให้รอดไว้ในนั้น
นีไฟเบิกบานในการเป็นพยานถึงพระคริสต์ และอิสยาห์เป็นพยานถึงพระคริสต์เช่นกัน (ดู 2 นีไฟ 11:4, 6; ดู 2 นีไฟ 17:14 และ 19:6–7 ด้วย ตัวอย่างทั้งสองข้อในคำพยากรณ์ของอิสยาห์เกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด)
นีไฟเบิกบานในพันธสัญญาของพระเจ้า (ดู 2 นีไฟ 11:5) คำพยากรณ์ของอิสยาห์เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาของพระเจ้า ตัวอย่างเช่น เขาพยากรณ์ถึงงานพระวิหารยุคสุดท้าย (ดู 2 นีไฟ 12:1–3)

อธิบายว่าในบทนี้และสามบทถัดไป นักเรียนจะศึกษาและสนทนาถ้อยคำของอิสยาห์ใน 2 นีไฟ 12–24 กระตุ้นพวกเขาให้มองหาความจริงในบทเหล่านี้ที่เสริมสร้างประจักษ์พยานของพวกเขาในพระผู้ช่วยให้รอดและช่วยให้พวกเขาชื่นชมยินดีในพระองค์ เชื้อเชิญนักเรียนให้แบ่งปันข้อโปรดบางข้อจากบทเหล่านี้กับสมาชิกครอบครัวและเพื่อนๆ

2 นีไฟ 16

อิสยาห์ได้รับเรียกให้รับใช้เป็นศาสดาพยากรณ์

อธิบายว่าชั้นเรียนจะศึกษา 2 นีไฟ 16 ต่อไปเพราะในนั้นบรรจุเรื่องราวของอิสยาห์เกี่ยวกับนิมิตที่เขาได้รับการเรียกเป็นศาสดาพยากรณ์ เพื่อช่วยให้นักเรียนเตรียมเข้าใจนิมิตนี้ ให้อธิบายว่างานเขียนของอิสยาห์มีภาษาสัญลักษณ์ด้วย พระคัมภีร์มีสัญลักษณ์ รูปแบบ และอุปมาโวหารมากมาย ชี้ให้เห็นว่าในข้อหนึ่งที่พวกเขาอ่านก่อนหน้านี้ นีไฟกล่าวว่า “สิ่งทั้งปวงที่พระผู้เป็นเจ้าประทาน,ให้มนุษย์, นับจากกาลเริ่มต้นของโลก, เป็นการแสดงสัญลักษณ์ถึง [พระเยซูคริสต์]” (2 นีไฟ 11:4) การใช้สัญลักษณ์และรูปแบบเป็นวิธีหนึ่งที่พระคัมภีร์ใช้สอนเราเกี่ยวกับพันธกิจการช่วยให้รอดของพระเจ้า

เขียนคำและวลีต่อไปนี้บนกระดาน: ชายฉลองพระองค์ เสราฟิม (เหล่าเทพ) มีปีกหกปีก ควัน ถ่านหินลุกแดง

ถามนักเรียนว่าพวกเขามีความคิดอะไรบ้างเมื่อเห็นหรือได้ยินคำเหล่านี้ หลังจากสนทนาพอสังเขปแล้ว ให้อธิบายว่าอิสยาห์ใช้คำเหล่านี้ในเรื่องราวการเรียกเขาเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า (พยายามช่วยให้นักเรียนเข้าใจความหมายที่อิสยาห์ตั้งใจไว้ จงระวังอย่าวิเคราะห์ความหมายของภาษาสัญลักษณ์มากเกินไป แต่ช่วยให้นักเรียนเห็นว่าข่าวสารของอิสยาห์ประยุกต์ใช้กับชีวิตพวกเขาอย่างไร)

ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่าน 2 นีไฟ 16:1 (ถ้านักเรียนมีพระคัมภีร์ไบเบิลคิงเจมส์ฉบับวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ท่านอาจต้องการให้พวกเขาเปิดไปที่ อิสยาห์ 6 ซึ่งมีเชิงอรรถและสิ่งช่วยศึกษาที่จะเสริมความเข้าใจข้อความพระคัมภีร์ที่อยู่ในบทนี้)

อธิบายว่าในข้อนี้ คำว่า ชายฉลองพระองค์ หมายถึงขอบหรือชายเสื้อคลุมยาว

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 นีไฟ 16:2–3 อธิบายว่า “เสราฟิม” คือเหล่าเทพที่พำนักในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า (ดู Bible Dictionary, “Seraphim”)

ปีกหกปีกของเสราฟิมหมายถึงอะไร (ท่านอาจเสนอแนะให้นักเรียนอ่าน หลักคำสอนและพันธสัญญา 77:4 เพื่อหาคำตอบ ภาพลักษณ์ของปีกเป็นสัญลักษณ์แสดงพลังความสามารถในการเคลื่อนไหวและกระทำ)
คำใดบ่งบอกเจตคติที่เสราฟิมมีต่อพระเจ้า
ท่านรู้สึกมีเจตคติคล้ายกันนี้ต่อพระผู้เป็นเจ้าเมื่อใด

ให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 นีไฟ 16:4 และ วิวรณ์ 15:8 ขอให้ชั้นเรียนมองหาความหมายของวลี “เต็มไปด้วยควัน” (ท่านอาจต้องช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าควันหมายถึงการประทับ เดชานุภาพ และรัศมีภาพของพระเจ้า) ท่านอาจเสนอแนะให้นักเรียนเขียน วิวรณ์ 15:8 ตรงช่องว่างริมหน้าใกล้กับ 2 นีไฟ 16:4

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 2 นีไฟ 16:5 ขอให้ชั้นเรียนมองหาข้อความที่แสดงว่าอิสยาห์รู้สึกอย่างไรเมื่ออยู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า (ถ้ามีพระคัมภีร์ไบเบิลคิงเจมส์ฉบับวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ให้นักเรียนค้นหา อิสยาห์ 6:5, เชิงอรรถ a และ b)

ท่านคิดว่าอิสยาห์หมายถึงอะไรเมื่อเขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนที่ริมฝีปากไม่สะอาด” (ท่านอาจต้องอธิบายว่าใน อิสยาห์ 6:5 คำว่า พินาศแล้ว แปลจากคำภาษาฮีบรูที่หมายถึง “ตัดขาด” และวลี ริมฝีปากไม่สะอาด หมายถึงการที่อิสยาห์สำนึกบาปของตนและบาปในผู้คนของเขา อิสยาห์กำลังบอกว่าเขารู้สึกไม่มีค่าควรจะอยู่ในที่ประทับของพระเจ้า)

ให้นักเรียนไตร่ตรองชั่วครูว่าเหตุใดอิสยาห์จึงรู้สึกแบบนี้ อธิบายว่าศาสดาพยากรณ์หลายท่านบอกว่าพวกท่านรู้สึกไม่คู่ควรเมื่อได้รับการเรียก ประธานสเป็นเซอร์ดับเบิล ยู. คิมบัลล์เล่าเรื่องที่ประธานเจ. รูเบ็น คลาร์ก จูเนียร์แห่งฝ่ายประธานสูงสุดโทรศัพท์บอกท่านว่าท่านได้รับเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง ดังนี้

“‘โอ้ บราเดอร์คลาร์ก! ไม่ใช่ผมกระมังครับ ท่านไม่ได้หมายถึงผมใช่ไหมครับ จะต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่นอน คงไม่ใช่อย่างที่ผมได้ยินท่านพูด’ ข้าพเจ้าทรุดจากเก้าอี้ลงไปที่พื้น …

“‘โอ้ บราเดอร์คลาร์ก! ดูไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ ผมอ่อนแอมาก ไม่ใช่คนสำคัญ มีขีดจำกัด และไร้ความสามารถ’” (Edward L. Kimball and Andrew E. Kimball Jr., Spencer W. Kimball: Twelfth President of The Church of Jesus Christ of Latter-day Saints [1977], 189)

ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าอิสยาห์ ชายที่ชอบธรรม รู้สึก “พินาศแล้ว” และ “ไม่สะอาด” ต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า ใครในพวกเราไม่อยากรู้สึกว่าไม่คู่ควรจะยืนอยู่เบื้องพระพักตร์พระผู้เป็นเจ้าบ้าง

เขียนความจริงต่อไปนี้บนกระดาน เราสามารถรับการชำระให้สะอาดจากความไม่มีค่าควรได้โดยผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

หากอยู่ในวิสัยที่ทำได้ ให้นักเรียนดูถ่านหรือไม้ที่ถูกไฟเผา ถามพวกเขาว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเพิ่งเอาถ่านหรือไม้ออกจากไฟ

จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่แตะถ่านหินร้อนๆ

อ่านออกเสียง 2 นีไฟ 16:6–7 ขอให้นักเรียนอ่านตามในใจโดยมองหาประสบการณ์ของอิสยาห์เกี่ยวกับถ่านหินลุกแดง (ถ้ามีพระคัมภีร์ไบเบิลคิงเจมส์ฉบับวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ให้นักเรียนค้นหา อิสยาห์ 6:6, เชิงอรรถ a และ อิสยาห์ 6:7, เชิงอรรถ a และ b.)

ตามที่กล่าวไว้ใน 2 นีไฟ 16:7 หมายความว่าอย่างไรเมื่อเทพนำถ่านหินลุกแดงมาแตะริมฝีปากของอิสยาห์ (ท่านอาจต้องอธิบายว่าถ่านหินลุกแดงเป็นสัญลักษณ์ของการชำระให้สะอาด เมื่อเทพในนิมิตของอิสยาห์นำถ่านหินมาแตะริมฝีปากของเขา นั่นหมายถึงพระเจ้าทรงชำระอิสยาห์ให้สะอาดจากความไม่มีค่าควรและให้อภัยบาปของเขา)

ให้เวลานักเรียนสักครู่เพื่อใคร่ครวญเวลาที่พวกเขารู้สึกถึงอำนาจของการชำระให้สะอาดในการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่าน 2 นีไฟ 16:8–13 ในใจ เชิญนักเรียนคนหนึ่งสรุปสิ่งที่พระเจ้าตรัสเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจของอิสยาห์ในบรรดาผู้คน (ท่านอาจต้องอธิบายว่าพระเจ้าทรงแจ้งอิสยาห์ว่าการสั่งสอนชาวอิสราเอลที่กบฏส่วนมากจะถูกเพิกเฉยแต่เขาควรสั่งสอนต่อไปจนกว่า “แผ่นดินรกร้างสิ้น” อีกนัยหนึ่ง พระเจ้าจะทรงทำพันธกิจแห่งความรอดของพระองค์อย่างงดงามต่อไปผ่านผู้รับใช้ของพระองค์ “ตราบเท่าที่วันเวลาจะมีอยู่, หรือแผ่นดินโลกจะยังอยู่, หรือจะมีคนเดียวบนพื้นพิภพที่จะได้รับการช่วยให้รอด” [โมโรไน 7:36])

อธิบายว่าอิสยาห์กลายเป็นพยานผู้เปี่ยมด้วยพลังของพระเจ้าพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ เป็นพยานว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงดำรงอยู่จริงและทรงสามารถให้อภัยบาปของเราได้ และเมื่อเราประสบเดชานุภาพแห่งการชดใช้ในชีวิต เราย่อมสามารถเป็นพยานของพระผู้ช่วยให้รอดได้เช่นกัน

ข้อคิดเห็นและข้อมูลภูมิหลัง

2 นีไฟ 16:2–3 เหล่าเทพมีปีกหรือไม่

“เทพของพระผู้เป็นเจ้าไม่มีปีก” (โจเซฟ สมิธใน History of the Church, 3:392) แล้วเหตุใดอิสยาห์จึงบอกว่าเหล่าเทพมีปีก เอ็ลเดอร์บรูซ อาร์. แมคคองกีอธิบายว่าคำบรรยายนี้เป็นสัญลักษณ์ “ข้อเท็จจริงที่เขาเห็นว่าสัตภาวะศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มีปีกเป็นเพียงสัญลักษณ์แสดงถึง ‘พลังอำนาจที่จะเคลื่อนไหว กระทำ ฯลฯ’ ในนิมิตที่คนอื่นได้รับก็เช่นกัน (คพ. 77:4)” (Mormon Doctrine, 2nd ed. [1966], 703)