บทเรียนการศึกษาที่บ้าน
การศึกษาพระคัมภีร์–ภาพรวมของพระคัมภีร์มอรมอน (หน่วย 1)
คำนำ
บทเรียนของสัปดาห์นี้เน้นความรับผิดชอบที่นักเรียนแต่ละคนมีต่อการเรียนพระกิตติคุณของตนเอง อีกทั้งเน้นบทบาทสำคัญของพระคัมภีร์มอรมอนในการช่วยนักเรียนสร้างประจักษ์พยานในพระเยซูคริสต์และศาสนจักรของพระองค์ ขณะที่ท่านสอน จงช่วยให้นักเรียนเข้าใจความสำคัญของการหมั่นศึกษาพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้และพรที่จะเติมเต็มชีวิตพวกเขาขณะทำเช่นนั้น
ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน
การศึกษาพระคัมภีร์
ท่านอาจต้องการเริ่มโดยถามนักเรียนดังนี้
-
อะไรคือความแตกต่างระหว่างคนที่อ่านพระคัมภีร์มอรมอนและได้รับประจักษ์พยานกับคนที่อ่านและไม่ได้รับประจักษ์พยาน (บางคนเพียงแค่อ่านเอาเรื่อง หลายคนอ่านด้วยศรัทธา ด้วยเจตนาแท้จริง และด้วยใจเปิดรับพระวิญญาณบริสุทธิ์)
-
บางคนเรียนรู้ความจริงทางวิญญาณอย่างไร (ท่านอาจเขียนคำตอบของนักเรียนบนกระดาน ย้อนกลับมาดูรายการนี้หลังจากอ่านคำกล่าวของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ด้านล่าง)
เขียนคำกล่าวต่อไปนี้บนกระดานโดยไม่ต้องเขียนคำที่ขีดเส้นใต้ “แสวงหาการเรียนรู้, แม้โดย การศึกษา และโดย ศรัทธา ด้วย.”
ทบทวนสิ่งที่นักเรียนเรียนรู้สัปดาห์นี้โดยเชื้อเชิญพวกเขาให้เติมคำในช่องว่าง หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือให้พวกเขาอ่านหลักคำสอนและพันธสัญญา 88:118 ถามพวกเขาว่าแสวงหาการเรียนรู้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาหมายความว่าอะไร ขณะสนทนาเรื่องนี้ พวกเขาพึงเข้าใจว่า การเรียนรู้โดยการศึกษาและโดยศรัทธาเรียกร้องความพยายามส่วนบุคคล
เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องใช้ความอุตสาหะและความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเรียนพระกิตติคุณ ให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านคำอธิบายต่อไปนี้ของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง เชื้อเชิญนักเรียนให้คอยฟังสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราทุ่มเทความพยายามให้แก่การเรียนรู้ทางวิญญาณ
“ผู้เรียนที่ใช้สิทธิ์เสรีโดยกระทำตามหลักธรรมที่ถูกต้องจะเปิดใจตนเองเพื่อรับพระวิญญาณบริสุทธิ์และเชื้อเชิญพลังการสอน การเป็นพยาน และพยานยืนยันของพระองค์ การเรียนรู้โดยศรัทธาเรียกร้องความพยายามอย่างเต็มที่ทางวิญญาณ จิตใจ และร่างกาย ไม่ใช่รับอย่างเดียว” (“แสวงหาการเรียนรู้ด้วยศรัทธา,” เลียโฮนา, ก.ย. 2007, หน้า 64)
ถามนักเรียนว่า เอ็ลเดอร์เบดนาร์บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้เรียนที่ทุ่มเทให้แก่การเรียนรู้ทางวิญญาณ
เชื้อเชิญนักเรียนให้เล่าประสบการณ์ที่พวกเขาเคยมีเมื่อพยายามเป็นพิเศษทางวิญญาณและด้วยเหตุนี้จึงรู้สึกถึงความเป็นเพื่อนเพิ่มขึ้นของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ท่านอาจต้องการเพิ่มเติมประจักษ์พยานของท่านว่า การพยายามศึกษาพระกิตติคุณร่วมกับการสวดอ้อนวอนจะอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์มาสู่กระบวนการเรียนรู้
ถามนักเรียนว่า ท่านจะทำเรื่องเฉพาะเจาะจงอะไรบ้างในปีนี้เพื่อ “แสวงหาการเรียนรู้ … โดยการศึกษาและโดยศรัทธาด้วย”
แผนแห่งความรอด
ทบทวนชื่อต่างๆ ของแผนแห่งความรอดโดยขอให้นักเรียนเขียนชื่อที่พวกเขาบันทึกไว้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของพวกเขาสำหรับงานมอบหมาย 1 ของบทเรียนวัน 2 ของพวกเขา หากต้องการความช่วยเหลือ ให้พวกเขาเปิดหน้าที่สอดคล้องกันในคู่มือศึกษาของพวกเขา
ท่านอาจต้องการถามว่า ชื่อเหล่านี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับจุดประสงค์ของแผนแห่งความรอด (แผนของพระบิดาบนสวรรค์ออกแบบไว้เพื่อนำความรอดและความสุขนิรันดร์มาให้บุตรธิดาของพระองค์)
อธิบายว่าจะมีโอกาสมากมายตลอดปีให้เรียนรู้ว่าความจริงที่เราเรียนรู้จากพระคัมภีร์มอรมอนสอดคล้องกับแผนแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์อย่างไร ท่านอาจขอให้นักเรียนมองหาและทำเครื่องหมายหลักธรรมเกี่ยวกับแผนแห่งความรอดในพระคัมภีร์ของพวกเขาขณะศึกษาปีนี้ ท่านอาจยกตัวอย่างสองสามตัวอย่างถึงสิ่งพวกเขาจะพบขณะศึกษา กระตุ้นนักเรียนให้แบ่งปันสิ่งที่พวกเขาพบกับชั้นเรียนในระหว่างปี
ปกใน คำนำ และประจักษ์พยานของพยาน
เชื้อเชิญนักเรียนให้มีส่วนร่วมในการแสดงบทบาทสมมติโดยสมมติว่าพวกเขากำลังมอบพระคัมภีร์มอรมอนให้คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของศาสนจักร
แบ่งชั้นเรียนออกเป็นสองกลุ่ม และให้แต่ละกลุ่มเตรียมบทบาทสมมติโดยสนทนาคำถามที่มอบหมายให้กลุ่มของพวกเขา อาจจะช่วยได้ถ้าเขียนคำถามไว้บนกระดานก่อนชั้นเรียนเริ่มหรือเตรียมสำเนาคำถามให้นักเรียนแต่ละคน กระตุ้นนักเรียนให้มองหาและทำเครื่องหมายข้อมูลที่พวกเขารู้สึกว่าสำคัญจนต้องแบ่งปันเมื่อสอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน
คำถามสำหรับกลุ่ม 1
-
พระคัมภีร์มอรมอนคืออะไร (ดูคำนำ ย่อหน้า 1–3)
-
อะไรคือจุดประสงค์ของพระคัมภีร์มอรมอน (ดูปกใน ย่อหน้า–2)
-
พรใดมาจากการดำเนินชีวิตตามหลักการหรือหลักธรรมที่พระคัมภีร์มอรมอนสอน (ดูคำนำ ย่อหน้า–6)
คำถามสำหรับกลุ่ม 2
-
พระคัมภีร์มอรมอนมาปรากฏอย่างไร (ดูคำนำ ย่อหน้า 4–5)
-
เราจะทราบได้อย่างไรว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง (ดูคำนำ ย่อหน้า 8)
-
เราจะทราบอะไรได้อีกบ้างโดยอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ดูคำนำ ย่อหน้าสุดท้าย)
หลังจากให้เวลานักเรียนเตรียมแล้ว ให้เลือกนักเรียนคนหนึ่งเป็นตัวแทนของผู้ไม่เป็นสมาชิกของศาสนจักร ขออาสาสมัครกลุ่มละหนึ่งคนมอบพระคัมภีร์มอรมอนให้บุคคลนั้น กระตุ้นนักเรียนให้ใช้คำตอบของคำถามที่กลุ่มของตนศึกษามาสอนนักเรียนคนแรกเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน
เมื่อพวกเขาแสดงบทบาทสมมติจบแล้ว ท่านอาจจะถามนักเรียนที่เหลือว่าพวกเขาจะแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมอะไรถ้าพวกเขาเป็นคนที่มอบพระคัมภีร์มอรมอน ท่านอาจต้องการถามด้วยว่า ท่านเรียนรู้หรือจำอะไรได้บ้างเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนในระหว่างกิจกรรมนี้
ขณะนักเรียนตอบ พวกเขาพึงเข้าใจว่า พระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ เน้นความสำคัญของการเอาใจใส่วิธีที่พระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานถึงพระเยซูคริสต์ นอกจากนี้ให้อธิบายด้วยว่าการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนจะช่วยให้พวกเขาเข้าใจหลักคำสอนและหลักธรรมแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์และเสริมสร้างประจักษ์พยานของตนเกี่ยวกับศาสนจักรของพระองค์
เตือนนักเรียนว่า ผู้เขียนพระคัมภีร์มอรมอนเห็นวันเวลาของเราและเขียนสิ่งซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อเรา (ดู มอรมอน 8:35)
ถามนักเรียนว่า ท่านเรียนรู้อะไรในสัปดาห์นี้ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีที่ท่านศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน
เชื้อเชิญนักเรียนหลายๆ คนให้แบ่งปันว่าพวกเขาวางแผนอย่างไรเพื่อให้บรรลุความรับผิดชอบของการอ่านพระคัมภีร์มอรมอนในระหว่างปีการศึกษานี้ สรุปโดยแบ่งปันความรู้สึกและประจักษ์พยานของท่านเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนและว่าการศึกษาพระคัมภีร์ดังกล่าวมีผลต่อชีวิตท่านอย่างไร
หน่วยต่อไป (1 นีไฟ 1–6, 9)
ถามนักเรียนว่าพวกเขาเคยทราบหรือไม่ว่ามีบางอย่างถูกต้องแต่การทำอย่างนั้นค่อนข้างยากหรือแม้เป็นไปไม่ได้ อธิบายว่าในสัปดาห์ที่จะมาถึงพวกเขาจะค้นพบว่านีไฟประสบการท้าทายเช่นนั้น และพวกเขาจะเรียนรู้ว่านีไฟพึ่งพาพระผู้เป็นเจ้าอย่างไรเพื่อให้บรรลุผลในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้