คลังค้นคว้า
บทที่ 111: ฮีลามัน 10


บทที่ 111

ฮีลามัน 10

บทนำ

การพิจารณาคดีเพื่อตัดสินว่าใครกระทำฆาตกรรมหัวหน้าผู้พิพากษาจบลงเมื่อการเปิดเผยของนีไฟเกี่ยวฆาตกรได้รับการยืนยัน เมื่อนีไฟหลุดพ้นจากการลงทัณฑ์ด้วยข้อกล่าวหาผิดๆ ที่มุ่งมายังเขา เขาเริ่มเดินกลับบ้าน เขาไตร่ตรองถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงแสดงแก่เขา ทั้งยังรู้สึกหดหู่เพราะความชั่วร้ายของผู้คน ในชั่วขณะของการครุ่นคิดและเศร้าใจ เขาได้ยินสุรเสียงของพระเจ้า พระเจ้าประทานพรเขาด้วยอำนาจแห่งการผนึกและบัญชาให้เขายังคงสั่งสอนเรื่องการกลับใจแก่ผู้คน นีไฟเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าในทันที

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

ฮีลามัน 10:1–11

นีไฟรับอำนาจแห่งการผนึก

เตือนนักเรียนถึงการเปิดเผยของนีไฟเกี่ยวกับการฆาตกรรมหัวหน้าผู้พิพากษาซึ่งบันทึกอยู่ใน ฮีลามัน 8–9 เชื้อเชิญให้นักเรียนจินตนาการถึงตนเองในที่นั่งของนีไฟ หลังจากที่เขาเปิดเผยว่าใครฆ่าหัวหน้าผู้พิพากษา

  • ท่านจะรู้สึกอย่างไร ท่านคาดหวังว่าผู้อื่นจะตอบสนองอย่างไร

  • ท่านอยากจะพูดอะไรกับผู้คน

  • ท่านจะรู้สึกอย่างไรถ้าผู้คนไม่ใส่ใจและปล่อยให้ท่านอยู่ตามลำพัง

อธิบายว่าหลังจากที่พ้นข้อกล่าวหาเรื่องการฆาตกรรมหัวหน้าผู้พิพากษา นีไฟเริ่มออกเดินทางกลับบ้าน เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านออกเสียง ฮีลามัน 10:1–3 ขอให้ชั้นเรียนมองหาสิ่งที่นีไฟทำขณะที่เขาเดินกลับบ้าน ท่านอาจต้องการแนะนำให้นักเรียนทำเครื่องหมายคำว่า ไตร่ตรอง ที่ปรากฎอยู่ในข้อเหล่านี้

  • เหตุใดนีไฟจึง “ใจห่อเหี่ยว”

  • เกิดอะไรขึ้นขณะที่นีไฟกำลังไตร่ตรอง (สุรเสียงของพระเจ้ามาถึงเขา) ความสัมพันธ์ระหว่างการไตร่ตรองกับการได้รับการเปิดเผยคืออะไร

ขณะที่นักเรียนตอบ ช่วยให้พวกเขาระบุถึงหลักธรรมต่อไปนี้: การไตร่ตรองเรื่องของพระเจ้าเตรียมเราให้ได้รับการเปิดเผย ท่านอาจต้องการเขียนหลักธรรมนี้บนกระดาน

ขอให้นักเรียนลองนึกถึงเรื่องราวในพระคัมภีร์หรือประวัติศาสนจักรขณะที่ผู้คนได้รับการเปิดเผยสืบเนื่องจากการไตร่ตรองเรื่องของพระเจ้า (ตัวอย่างรวมถึงนีไฟ บุตรของลีไฮ ผู้ได้รับนิมิตหลังจากปรารถนาจะเห็นเรื่องที่บิดาของเขาเห็นและ “ไตร่ตรองในใจ [เขา]” [ดู 1 นีไฟ 10:17; 11:1]; โจเซฟ สมิธ ซึ่งนิมิตแรกของท่านเกิดขึ้นหลังจากที่ท่าน “ครุ่นคิด … ครั้งแล้วครั้งเล่า” ถึง ยากอบ 1:5 [ดู โจ-เซฟ สมิธ—ประวัติ 1:11–17]; และ โจเซฟ เอฟ. สมิธ ผู้ได้รับนิมิตของการไถ่คนตายหลังจากครุ่นคิดและไตร่ตรองถึงพระวจนะของพระเจ้า [ดู คพ. 138:1–6, 11])

  • เมื่อใดที่การครุ่นคิดช่วยให้ท่านได้รับการเปิดเผยส่วนตัว (ท่านอาจจะพูดว่าการได้รับการเปิดเผยโดยปกติทั่วไปอาจไม่ตื่นตาตื่นใจเหมือนบางตัวอย่างในพระคัมภีร์ ประสบการณ์ของการเปิดเผยโดยปกติจะเป็นช่วงเวลาของการรู้แจ้งในทันที เช่นจู่ๆ เราก็เข้าใจเรื่องบางเรื่องที่เราเคยดิ้นรนมาก่อน)

  • เวลาหรือสถานการณ์ใดที่การครุ่นคิดเรื่องของพระเจ้าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมอย่างยิ่ง (ตัวอย่างเช่นในช่วงเวลาระหว่างและหลังการประชุมศีลระลึก ก่อนและหลังการสวดอ้อนวอนส่วนตัวและการศึกษาพระคัมภีร์ หลังจากที่ชมหรือฟังการประชุมใหญ่สามัญ ขณะอดอาหาร ขณะรับใช้ในพระวิหาร และขณะกำลังถวายเกียรติพระเจ้าในวันสะบาโต)

กระตุ้นให้นักเรียนมีเวลาไตร่ตรองเป็นประจำ แนะนำให้พวกเขาจดความประทับใจที่ได้รับขณะไตร่ตรอง

เพื่อเป็นการเตรียมให้นักเรียนศึกษาประสบการณ์ของนีไฟต่อไป เชื้อเชิญให้พวกเขาสมมุติว่าเพื่อนบ้านของพวกเขาจะไม่อยู่บ้านสักระยะหนึ่งและต้องการให้มีคนดูแลบ้านและทรัพย์สินของพวกเขา

  • ท่านคิดว่าเพื่อนบ้านของท่านต้องการคนประเภทใดให้มาดูแลบ้านของพวกเขา

  • ท่านจะแสดงให้เพื่อนบ้านของท่านเห็นได้อย่างไรว่าท่านพร้อมจะให้ฝากฝังหน้าที่รับผิดชอบเช่นนั้น

ขอให้นักเรียนอ่าน ฮีลามัน 10:4–5 ในใจ มองหาเหตุผลที่พระเจ้าทรงฝากฝังพรและหน้าที่รับผิดชอบอันสำคัญยิ่งให้นีไฟ (ท่านอาจต้องอธิบายคำว่า ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หมายถึงความวิริยะอุตสาหะหรือความขยันหมั่นเพียร) เชื้อเชิญให้นักเรียนรายงานสิ่งที่พวกเขาพบ

  • การรับใช้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าจะทรงฝากฝังพรและหน้าที่รับผิดชอบให้เราอย่างไร

  • การทำตามแบบอย่างของนีไฟในการไม่เกรงกลัวผู้คนช่วยให้เราพร้อมรับหน้าที่รับผิดชอบในอาณาจักรของพระเจ้าอย่างไร

  • ประโยคที่ว่า “เจ้า … ไม่ได้แสวงหาเพื่อชีวิตเจ้า” มีความหมายอย่างไรต่อท่าน

เขียนประโยคต่อไปนี้บนกระดาน: พระเจ้าทรงฝากฝังพรและหน้าที่รับผิดชอบให้เราเมื่อเรา . … ถามนักเรียนว่าพวกเขาจะเติมประโยคนี้ให้สมบูรณ์ได้อย่างไร โดยขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับนีไฟใน ฮีลามัน 10:4–5 วิธีหนึ่งที่นักเรียนจะทำประโยคนี้ให้สมบูรณ์มีดังต่อไปนี้: พระเจ้าทรงฝากฝังพรและหน้าที่รับผิดชอบให้เราเมื่อเราให้พระประสงค์ของพระองค์มาก่อนความต้องการของเราเอง ท่านอาจแนะนำให้นักเรียนเขียนความจริงนี้ในพระคัมภีร์หรือในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์

เชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้และเขียนคำตอบหนึ่งข้อของพวกเขา

  • เมื่อเร็วๆ นี้ท่านทำสิ่งใดในชีวิตเพื่อแสดงให้พระเจ้าทรงเห็นว่าพระประสงค์ของพระองค์มีความสำคัญมากกว่าความต้องการของท่านเอง

  • สิ่งหนึ่งในชีวิตท่านที่ท่านสามารถแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าได้ดีขึ้นคืออะไร

เป็นพยานถึงความเต็มพระทัยของพระเจ้าที่ประทานพรอันยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เราแสวงหาพระประสงค์ของพระองค์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์

เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่าน ฮีลามัน 10:5–7 ในใจ มองหาพรและหน้าที่รับผิดชอบซึ่งพระเจ้าประทานแก่นีไฟ ขณะที่นักเรียนกำลังอ่าน เขียนข้อความต่อไปนี้บนกระดาน

ข้อ 5

ข้อ 6

ข้อ 7

เชื้อเชิญนักเรียนสองสามคนออกมาเขียนบนกระดาน ต่อจากหมายเลขข้อที่ตรงกัน ระบุพรที่พระเจ้าทรงมอบให้นีไฟ

เน้นว่าพรอย่างหนึ่งที่ประเจ้าประทานแก่นีไฟคืออำนาจแห่งการผนึก จากนั้นเขียนความจริงต่อไปนี้บนกระดาน: อำนาจแห่งการผนึกผูกมัดและคลายบนแผ่นดินโลกและในสวรรค์ ท่านอาจแนะนำให้นักเรียนเขียนความจริงนี้ในพระคัมภีร์ใกล้กับ ฮีลามัน 10:7

ถามนักเรียนว่าพวกเขารู้จักคนอื่นนอกจากนีไฟที่ได้รับอำนาจแห่งการผนึกหรือไม่ หลังจากนักเรียนตอบ ท่านอาจเชื้อเชิญพวกเขาให้อ้างโยง ฮีลามัน 10:7 กับพระคัมภีร์ต่อไปนี้: 1 พงศ์กษัตริย์ 17:1 (เอลียาห์); มัทธิว 16:15–19 (เปโตร); หลักคำสอนและพันธสัญญา 132:46 (โจเซฟ สมิธ)

อธิบายว่ากุญแจของอำนาจเดียวกันในปัจจุบันนี้ถือโดยประธานศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เช่นเดียวกับนีไฟ ประธานศาสนจักรรับใช้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงฝากฝังพวกท่านไว้ด้วยพรและหน้าที่รับผิดชอบอันสำคัญยิ่ง เรามักจะอ้างอิงอำนาจแห่งการผนึกที่เกี่ยวข้องกับการผนึกครอบครัวผ่านศาสนพิธีพระวิหาร

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจมากขึ้นถึงอำนาจแห่งการผนึก เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านคำพูดต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง

ภาพ
เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

“พระวิหาร ศาสนพิธี พันธสัญญา เอ็นดาวเม้นท์ และการผนึกได้รับการฟื้นฟูตรงตามคำพยากรณ์ ศาสนพิธีพระวิหารเอื้ออำนวยให้เกิดการปรองดองกับพระเจ้าและผนึกครอบครัวไว้ด้วยกันตลอดกาล การเชื่อฟังพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ที่ทำในพระวิหารทำให้เรามีคุณสมบัติคู่ควรรับชีวิตนิรันดร์—ของประทานสำคัญที่สุดซึ่งพระผู้เป็นเจ้าประทานแก่มนุษย์” (“เตรียมรับพรของพระวิหาร” เลียโฮนา ตุลาคม 2010 หน้า 42)

  • ท่านได้รับพรจากความรู้ที่ว่าครอบครัวสามารถอยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ได้อย่างไร

  • ท่านสามารถแสวงหาพรจากอำนาจแห่งการผนึกได้อย่างไรในอนาคต (คำตอบอาจได้แก่นักเรียนสามารถเตรียมตัวแต่งงานในพระวิหารและพวกเขาจะทำงานพระวิหารและงานประวัติครอบครัวในเวลานี้เพื่อจะช่วยให้พวกเขาผนึกกับบรรพชนผู้ล่วงลับ)

เล่าความรู้สึกของท่านเกี่ยวกับพรจากอำนาจแห่งการผนึกและความสำคัญของการได้รับศาสนพิธีแห่งการผนึกในพระวิหาร

ฮีลามัน 10:12–19

นีไฟเชื่อฟังพระบัญชาของพระเจ้าให้สั่งสอนการกลับใจแก่ผู้คน

ถามนักเรียนว่าพวกเขาเคยประวิงเวลาเมื่อมีผู้ขอให้พวกเขาทำงานบางอย่างไหม (ตัวอย่างอาจได้แก่การผัดผ่อนเมื่อต้องทำงานบ้านหรืองานมอบหมายจากโรงเรียนหรือที่ทำงาน)

  • ข่าวสารใดที่เราส่งให้ผู้อื่นเมื่อเราประวิงเวลาทำงานที่พวกเขาขอให้เราทำ

เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านออกเสียง ฮีลามัน 10:11–12 ขอให้ชั้นเรียนดูตาม มองหาวิธีที่นีไฟตอบรับเมื่อพระเจ้าทรงบัญชาให้เขาสั่งสอนการกลับใจแก่ผู้คน

  • เราแสดงอะไรต่อพระเจ้าเมื่อเราตอบรับคำแนะนำและพระบัญชาของพระองค์อย่างรวดเร็ว

เชื้อเชิญให้นักเรียนคนหนึ่งอ่าน ฮีลามัน 10:13–14 จากนั้นขอให้นักเรียนอีกคนหนึ่งอ่านออกเสียง ฮีลามัน 10:15–17

  • แบบอย่างของนีไฟในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้สอนอะไรแก่เรา

  • พระเจ้าทรงช่วยนีไฟอย่างไร

ช่วยให้นักเรียนเห็นว่าเพราะความซื่อสัตย์ของนีไฟ พระเจ้าทรงคุ้มครองเขาและประทานพรเขาด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่ นีไฟมุ่งมั่นต่อการทำพันธกิจที่พระเจ้าประทานแก่เขาให้เกิดสัมฤทธิผล

  • ท่านจะแสดงความมุ่งมั่นในการรับใช้พระเจ้าได้อย่างไร

สนับสนุนให้นักเรียนหาวิธีที่จะให้พระประสงค์ของพระเจ้ามาก่อนความต้องการของตนเองและเชื่อฟังอย่างรวดเร็ว เป็นพยานถึงพรที่เกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อฟังพระเจ้า

ทบทวนผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์

ความยาวของบทเรียนอาจช่วยให้มีเวลาสำหรับกิจกรรมทบทวนผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ต่อไปนี้

มอบหมายข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ต่อไปนี้ให้นักเรียนแต่ละคนอ่านในใจ 1 นีไฟ 3:7; 2 นีไฟ 2:27; 2 นีไฟ 31:19–20; โมไซยาห์ 2:17 ขอให้นักเรียนอ่านข้อความที่พวกเขาได้รับมอบหมายและพิจารณาว่าสิ่งนี้ประยุกต์ใช้กับนีไฟและการปฏิบัติศาสนกิจของท่านอย่างไรดังที่บันทึกไว้ใน ฮีลามัน 10 หลังจากมีเวลาพอ เชื้อเชิญให้นักเรียนสองสามคนตอบ

พิมพ์