คลังค้นคว้า
บทที่ 132: 3 นีไฟ 24–26


บทที่ 132

3 นีไฟ 24–26

คำนำ

พระเยซูคริสต์ทรงทำตามพระบัญชาจากพระบิดาบนสวรรค์ให้แบ่งปันคำพยากรณ์บางอย่างจากศาสดาพยากรณ์มาลาคีแก่ชาวนีไฟ (ดู 3 นีไฟ 26:2) คำพยากรณ์เหล่านี้สอนว่าสมาชิกของเชื้อสายแห่งอิสราเอลต้องกลับใจและกลับมาหาพระเจ้าเพื่อเตรียมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ทรงอรรถาธิบาย “เรื่องทั้งหมด, แม้นับจากกาลเริ่มต้นจนถึงเวลาที่พระองค์จะเสด็จมาในรัศมีภาพของพระองค์” แก่ชาวนีไฟเช่นกัน (3 นีไฟ 26:3) มอรมอนสอนว่าคนที่เชื่อพระคัมภีร์มอรมอนจะมีเรื่องที่ยิ่งใหญ่กว่าประจักษ์แก่พวกเขา (ดู 3 นีไฟ 26:9)

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

3 นีไฟ 24:1–6

พระเยซูคริสต์ทรงอ้างคำพยากรณ์ของมาลาคีเกี่ยวกับการเสด็จมาครั้งที่สอง

เริ่มชั้นเรียนโดยชูไม้ขีดไฟกับสบู่หนึ่งก้อน (หรือวาดรูปไฟหรือสบู่บนกระดาน) ถามนักเรียนว่าไฟกับสบู่มีอะไรเหมือนกัน (สบู่กับไฟสามารถใช้เป็นสิ่งที่ทำให้สะอาดหรือบริสุทธิ์ได้)

อธิบายว่าพระเยซูคริสต์ทรงทำตามพระบัญชาจากพระบิดา 3 นีไฟ 26:2)ให้บอกชาวนีไฟเกี่ยวกับคำพยากรณ์บางอย่างของมาลาคีศาสดาพยากรณ์สมัยพันธสัญญาเดิมผู้มีชีวิตอยู่ในแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ราว 170 ปีหลังจากลีไฮกับครอบครัวออกจากเยรูซาเล็ม ขอให้นักเรียนอ่าน 3 นีไฟ 24:1–3 ในใจโดยมองหาคนที่มาลาคีเปรียบกับ “ไฟของคนถลุงแร่” และ “สบู่ของช่างฟอก”

  • ไฟของคนถลุงแร่และสบู่ของช่างฟอกเปรียบกับใคร (พระเยซูคริสต์)

  • เหตุการณ์ใดบรรยายไว้ในข้อเหล่านี้ (“วันแห่งการเสด็จมาของพระองค์” อีกนัยหนึ่งคือ การเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์ เพื่อช่วยนักเรียนตอบคำถามนี้ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้พวกเขาอ่านหัวบทหรือเชิงอรรถอย่างถี่ถ้วน)

  • การเปรียบเทียบพระเยซูคริสต์กับไฟและสบู่บอกเป็นนัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ณ การเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ (นักเรียนอาจใช้คำพูดต่างกัน แต่พวกเขาควรระบุความจริงต่อไปนี้ ณ การเสด็จมาครั้งที่สอง พระเยซูคริสต์จะทรงทำให้โลกบริสุทธิ์ ท่านอาจต้องการเชื้อเชิญนักเรียนให้เขียนความจริงนี้ไว้ในพระคัมภีร์ของพวกเขาใกล้กับ 3 นีไฟ 24:2–3)

อธิบายว่าคนถลุงแร่ใช้ไฟทำให้โลหะเช่นเงินหรือทองร้อนจนอยู่ในสถานะของเหลว กระบวนการให้ความร้อนทำให้กากหรือสิ่งไม่บริสุทธิ์ขึ้นมาอยู่บนผิวโลหะที่เป็นของเหลว เพื่อให้คนถลุงแร่ตักออกได้ ด้วยเหตุนี้จึงกำจัดสิ่งไม่บริสุทธิ์ออกจากโลหะ ช่างฟอกคือคนที่ใช้สบู่ทำความสะอาดหรือทำให้ผ้าขาว ท่านอาจต้องอธิบายด้วยว่า “บุตรของเลวี” คือผู้ดำรงฐานะปุโรหิตในอิสราเอลสมัยโบราณ ปัจจุบันวลีดังกล่าวหมายถึงผู้ดำรงฐานะปุโรหิตยุคปัจจุบัน (ดู คพ. 84:33–34)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 3 นีไฟ 24:5–6 ขอให้ชั้นเรียนดูตามและระบุว่าใครจะถูกเผาไหม้หรือถูกทำลาย ณ การเสด็จมาครั้งที่สองของพระผู้ช่วยให้รอดและใครจะไม่ถูกเผาไหม้ (ท่านอาจต้องการอธิบายว่าวลี “บุตรของยาโคบ” หมายถึงผู้คนแห่งพันธสัญญาของพระเจ้าในเชื้อสายแห่งอิสราเอล)

  • ตามที่กล่าวไว้ใน 3 นีไฟ 24:5 พระเยซูคริสต์จะทรงทำอะไร ณ การเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์ (แม้นักเรียนจะใช้คำพูดต่างกัน แต่พวกเขาควรระบุความจริงต่อไปนี้ พระเยซูคริสต์จะทรงทำลายคนชั่วร้าย ณ การเสด็จมาครั้งที่สองของพระองค์)

3 นีไฟ 24:7–18

พระเยซูคริสต์ทรงอ้างคำสอนของมาลาคีในเรื่องที่ว่าเชื้อสายแห่งอิสราเอลจะกลับมาหาพระเจ้าได้อย่างไร

เชื้อเชิญนักเรียนให้จินตนาการว่าพวกเขามีเพื่อนสนิทหรือสมาชิกครอบครัวที่กำลังพยายามมากเพื่อให้รู้สึกถึงความรักและอิทธิพลของพระเจ้าและรักษาประจักษ์พยานในพระกิตติคุณ

  • ท่านจะพยายามทำอะไรเพื่อช่วยบุคคลคนนี้

เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่าน 3 นีไฟ 24:7 ในใจ และขอให้พวกเขาระบุคำแนะนำที่พระเจ้าประทานแก่คนที่เริ่มออกห่างจากพระองค์และจากการรักษาพันธสัญญากับพระองค์

  • ท่านคิดว่าผู้คนได้ “ไป” จากศาสนพิธีของพระเจ้าหมายความว่าอะไร (พวกเขาไม่รักษาพันธสัญญาและศาสนพิธีแห่งพระกิตติคุณอีกต่อไป)

  • พระเจ้าประทานสัญญาอะไรกับคนที่ไม่รักษาพันธสัญญาของพวกเขา (“จงกลับมาหาเราและเราจะกลับไปหาเจ้า”)

  • ท่านคิดว่า “กลับมา” หาพระเจ้าหมายความว่าอย่างไร ท่านคิดว่าพระเจ้าจะทรง “กลับไปหา” คนที่จะกลับมาหาพระองค์หมายความว่าอย่างไร

เขียนหลักธรรมต่อไปนี้บนกระดาน: ถ้าเราจะกลับมาหาพระเจ้า พระองค์จะทรงกลับไปหาเรา

  • หลักธรรมนี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์

เขียนบนกระดานว่า กลับมาหาพระเจ้า เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่าน 3 นีไฟ 24:8–12 ในใจโดยมองหาวิธีหนึ่งที่พระเจ้าทรงบอกผู้คนให้กลับมาหาพระองค์ ขณะที่นักเรียนตอบ ให้เขียน จ่ายส่วนสิบและเงินบริจาค ใต้ กลับมาหาพระเจ้า

  • การเต็มใจจ่ายส่วนสิบเป็นการชี้บอกว่าคนๆ นั้นถวายความรักของพวกเขาแด่พระเจ้าอย่างไร

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์

“เรา สามารถจ่ายส่วนสิบของเราได้ นี่ไม่ได้เป็นเรื่องของเงินมากเท่ากับเป็นเรื่องของศรัทธา” (“Let Us Move This Work Forward,” Ensign, Nov. 1985, 85)

  • การที่เราเต็มใจจ่ายส่วนสิบและเงินบริจาคเป็นการชี้บอกศรัทธาที่เรามีต่อพระเจ้าอย่างไร

ให้เวลานักเรียนทบทวน 3 นีไฟ 24:10–12 ในใจ ขอให้พวกเขาระบุสัญญาของพระเจ้ากับคนที่จ่ายส่วนสิบอย่างซื่อสัตย์เต็มจำนวน

  • ท่านเคยได้รับพรด้านใดบ้างเนื่องด้วยการจ่ายส่วนสิบของท่าน ตัวอย่างเหล่านี้เป็นการเปิด “หน้าต่างสวรรค์” ให้ท่านอย่างไร

สรุป 3 นีไฟ 24:13–18 โดยอธิบายว่าในข้อเหล่านี้พระเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่าบางคนในอิสราเอลสมัยโบราณสงสัยเรื่องความจำเป็นของการปฏิบัติศาสนพิธีแห่งพระกิตติคุณ พวกเขาบ่นว่าคนจองหองและคนชั่วดูเหมือนรุ่งเรืองทั้งที่ไม่ชอบธรรม ใน 3 นีไฟ 24:16 พระเจ้าตรัสตอบว่าจะมีการเก็บ “หนังสือแห่งความทรงจำ” ซึ่งจะเขียนชื่อคนซื่อสัตย์ไว้ในนั้น (ดู คพ. 85:7–9; 128:6–7; โมเสส 6:5–8) พระเจ้าตรัสต่อจากนั้นว่าเมื่อพระองค์เสด็จมาอีกครั้ง พระองค์จะทรงปกปักรักษาคนซื่อสัตย์และทรงสงวนพวกเขาไว้เป็นสมบัติของพระองค์ หรือ “รวบรวมเครื่องเพชร [ของพระองค์]”

  • การรู้ว่าพระเจ้าจะทรงปกปักรักษาคนซื่อสัตย์และทำให้พวกเขาเป็นสมบัติของพระองค์เป็นพรอย่างไร

  • ใน 3 นีไฟ 24:16 วลีใดพูดถึงคนที่พระเจ้าจะทรงปกปักรักษาไว้เป็นสมบัติของพระองค์ (“คนที่เกรงกลัวพระเจ้า” และ “นึกถึงพระนามของพระองค์”)

เขียน เกรงกลัวพระเจ้า และ นึกถึงพระนามของพระเจ้า ใต้ กลับมาหาพระเจ้า (ท่านอาจต้องการอธิบายว่าในบริบทนี้ คำว่า เกรงกลัว หมายถึงความคารวะหรือความเคารพ) เชื้อเชิญนักเรียนให้ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์

  • พิจารณาว่าท่านเป็นอย่างไรในด้านการจ่ายส่วนสิบและเงินบริจาคและการนึกถึงพระคริสต์บ่อยๆ ท่านสามารถ “กลับ” มาหาพระองค์หรือปรับปรุงในด้านเหล่านี้ได้อย่างไร

3 นีไฟ 25

พระเยซูคริสต์ทรงอ้างคำพยากรณ์ของมาลาคีว่าเอลียาห์จะกลับมาก่อนการเสด็จมาครั้งที่สอง

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 3 นีไฟ 25:1–3 ขอให้ชั้นเรียนดูตามโดยมองหาเหตุผลว่าทำไมการเสด็จมาครั้งที่สองจึงเป็นพรสำหรับคนที่ซื่อสัตย์ต่อพระเยซูคริสต์ เชิญนักเรียนรายงานสิ่งที่พบ ท่านอาจต้องอธิบายว่าใน 3 นีไฟ 25:1 คำว่า ราก น่าจะหมายถึงบรรพชนและคำว่า กิ่ง หมายถึงลูกหลาน ดังนั้น ในชีวิตหน้า คนชั่วจะไม่ได้รับพรของการผนึกกับบรรพชนและลูกหลานของพวกเขา ใน 3 นีไฟ 25:2 วลี “ลูกวัวในคอก” หมายถึงลูกวัวที่ปลอดภัย ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี และได้รับการดูแล พระเจ้าทรงสัญญาว่าพระองค์จะทรงคุ้มครองและดูแลคนที่ “เกรงกลัวพระนาม [ของพระองค์]” ในทำนองเดียวกัน

อธิบายว่ามาลาคีพยากรณ์เกี่ยวกับการเหตุการณ์หนึ่งซึ่งจะเกิดขึ้นก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองและจะเกี่ยวข้องกับเอลียาห์ศาสดาพยากรณ์สมัยพันธสัญญาเดิม เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 3 นีไฟ 25:5–6 ขอให้ชั้นเรียนมองหาสิ่งที่เอลียาห์จะทำเพื่อช่วยเตรียมโลกให้พร้อมรับการเสด็จมาของพระเจ้า

ถามนักเรียนว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับการกลับมาแผ่นดินโลกของเอลียาห์อันเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูพระกิตติคุณ ท่านอาจต้องการเสริมคำตอบของพวกเขาโดยอธิบายว่า วันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1836 เอลียาห์ปรากฏต่อโจเซฟสมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีในพระวิหารเคิร์ทแลนด์ที่เพิ่งได้รับการอุทิศ (ดู คพ. 110:13–16) เวลานั้นเอลียาห์ฟื้นฟูกุญแจฐานะปุโรหิตที่จำเป็นต่อการผนึกครอบครัวเพื่อนิรันดรในพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า โดยผ่านการค้นคว้าประวัติครอบครัว เราระบุชื่อสมาชิกครอบครัวเพื่อจะสามารถประกอบศาสนพิธีพระวิหาร

  • ท่านคิดว่าเอลียาห์จะ “หันใจบรรพบุรุษมาหาลูกหลาน, และใจลูกหลานมาหาบรรพบุรุษของพวกเขา” หมายความว่าอย่างไร

  • การรู้ว่าท่านสามารถได้รับการผนึกกับครอบครัวท่านชั่วนิรันดร์เป็นพรอย่างไร

เป็นพยานว่า เมื่อใจเราหันไปหาบรรพบุรุษผ่านงานพระวิหารและประวัติครอบครัว เรากำลังช่วยเตรียมแผ่นดินโลกให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์

3 นีไฟ 26:1–12

พระเยซูคริสต์ทรงอรรถาธิบายพระคัมภีร์ และมอรมอนสอนสิ่งที่ต้องทำเพื่อได้รับเรื่องยิ่งใหญ่กว่าที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงเปิดเผย

สรุป 3 นีไฟ 26:1–5 โดยอธิบายว่าหลังจากพระผู้ช่วยให้รอดทรงแบ่งปันคำพยากรณ์ของมาลาคี พระองค์ทรงสอนผู้คนให้รู้ “เรื่องทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นบนพื้นพิภาพ” ตั้งแต่การสร้างโลกจนถึงการพิพากษาครั้งสุดท้าย (3 นีไฟ 26:3–4)

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง 3 นีไฟ 26:6–8 ขอให้ชั้นเรียนดูว่าสิ่งที่พระเยซูทรงสอนบันทึกไว้ในพระคัมภีร์มอรมอนมากเพียงใด จากนั้นให้เชิญนักเรียนอ่าน 3 นีไฟ 26:9–11 ในใจ โดยมองหาเหตุผลที่มอรมอนไม่รวมทุกเรื่องที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนชาวนีไฟไว้ในความย่อของเขา เน้นว่าคำว่า เชื่อ ในข้อเหล่านี้บอกเป็นนัยว่าเราต้องปฏิบัติตามหลักคำสอนและหลักธรรมที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยและไม่เพียงหวังว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นความจริง

  • ตามที่กล่าวไว้ใน 3 นีไฟ 26:9 พระเจ้าทรงสัญญาอะไรกับคนที่เชื่อและปฏิบัติตามสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผย (ขณะที่นักเรียนตอบ ให้เน้นว่า เมื่อเราเชื่อและปฏิบัติตามสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผย เท่ากับเราเตรียมตัวเราให้พร้อมรับการเปิดเผยที่ยิ่งใหญ่กว่า)

  • ท่านคิดว่าเหตุใดเราจึงจำเป็นต้องเชื่อในความจริงที่เราได้รับแล้วก่อนจึงจะสามารถรับความจริงเพิ่มเติมได้

  • เราจะแสดงให้เห็นได้อย่างไรว่าเราเชื่อสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยแล้ว

สัญญากับนักเรียนว่าเมื่อพวกเขาศึกษาและประยุกต์ใช้หลักธรรมในพระคัมภีร์มอรมอนอย่างซื่อสัตย์ พวกเขาจะเข้าใจพระกิตติคุณเพิ่มขึ้น ช่วยนักเรียนไตร่ตรองว่าพวกเขากำลังรับความจริงในพระคัมภีร์มอรมอนดีเพียงใดโดยเชื้อเชิญพวกเขาให้ตอบคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดจดหรือสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ (ท่านอาจต้องการเขียนคำถามเหล่านี้ไว้บนกระดาน)

  • ท่านกำลังทำอะไรในชีวิตท่านที่แสดงให้เห็นความเชื่อของท่านในพระคัมภีร์มอรมอน

  • การอ่านพระคัมภีร์มอรมอนด้วยเจตนาแท้จริงนำท่านให้ได้รับการเปิดเผยส่วนตัวเมื่อใด

3 นีไฟ 26:13–21

พระผู้ช่วยให้รอดทรงสิ้นสุดการปฏิบัติศาสนกิจบนแผ่นดินโลกในบรรดาชาวนีไฟ และเหล่าสานุศิษย์ทำตามแบบอย่างของพระองค์ในการปฏิบัติศาสนกิจของพวกเขา

อธิบายว่าใน 3 นีไฟ 26 มอรมอนสรุปการปฏิบัติศาสนกิจที่เหลือของพระผู้ช่วยให้รอดในบรรดาชาวนีไฟ เชื้อเชิญนักเรียนให้อ่าน 3 นีไฟ 26:13–16 ในใจ ท่านอาจต้องการเสนอแนะให้พวกเขาทำเครื่องหมายบางสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงทำซึ่งมอรมอนเลือกเน้น

หากเวลาเอื้ออำนวย ให้นักเรียนทบทวนและไตร่ตรองหมายเหตุและการทำเครื่องหมายพระคัมภีร์ของพวกเขาจากการศึกษา 3 นีไฟ 11–25 กระตุ้นพวกเขาให้มองหาคำสอนและเหตุการณ์จากการปฏิบัติศาสนกิจของพระผู้ช่วยให้รอดในบรรดาชาวนีไฟที่สำคัญต่อพวกเขาหรือพึงจดจำ เชิญนักเรียนสองสามคนแบ่งปันความคิดความรู้สึกเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจของพระผู้ช่วยให้รอดในบรรดาชาวนีไฟ

ข้อคิดเห็นและข้อมูลภูมิหลัง

3 นีไฟ 24:11 พรสำหรับการเชื่อฟังกฎส่วนสิบ

ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ สอนว่า

“พระเจ้าทรงสัญญาว่าพระองค์จะทรงตำหนิผู้กลืนกินเพื่อเห็นแก่เรา … การตำหนิผู้กลืนกินจะประยุกต์ใช้กับความพยายามและข้อกังวลส่วนตัวต่างๆ ของเราได้หรือไม่

“มีพรอันสำคัญยิ่งของปัญญา ของความรู้ แม้ทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ของความรู้ เราได้รับสัญญาว่าแผ่นดินที่น่าชื่นชมจะเป็นของเราถ้าเราจะดำเนินวิถีชีวิตในการเชื่อฟังกฎนี้ ข้าพเจ้าจะตีความคำ แผ่นดิน ว่าเป็นผู้คน คนที่ดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟังจะเป็นผู้คนที่น่าชื่นชม การเป็นผู้คนที่น่าชื่นชมซึ่งคนอื่นๆ จะเรียกว่าผู้เป็นสุขนับเป็นสภาพที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง!” (“Tithing: An Opportunity to Prove Our Faithfulness,Ensign, May 1982, 40)

3 นีไฟ 25:1–6 “เราจะส่งเอลียาห์มาหาเจ้า”

ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปรากฏของเอลียาห์ต่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ และออลิเวอร์ คาวเดอรีดังนี้

“น่าสนใจที่รู้ว่าในวันที่สามเดือนเมษายน ค.ศ. 1836 ชาวยิวฉลองเทศกาลปัสกา และเปิดประตูบ้านของพวกเขาเพื่อรับการมาของเอลียาห์ ในวันนั้นเอลียาห์มา แต่ไม่ได้มาบ้านชาวยิว ท่านมาที่พระวิหารในหมู่บ้านเคิร์ทแลนด์ … มาหาผู้รับใช้ที่อ่อนน้อมถ่อมตนสองคนของพระเจ้า” (Church History and Modern Revelation, 4 vols. [1946], 3:84)

ในคำกล่าวครั้งนี้ ประธานสมิธอ้างถึงประเพณีปฏิบัติของชาวยิวผู้เชื่อคำพยากรณ์ของมาลาคีเกี่ยวกับการกลับมาของเอลียาห์ (ดู มาลาคี 4:5–6) ปัสกาแต่ละครั้ง ครอบครัวชาวยิวที่ซื่อสัตย์หลายครอบครัวรับประทานอาหารปัสกาและจัดที่พิเศษไว้ให้เอลียาห์ที่โต๊ะอาหาร พวกเขาเปิดประตูบ้านทิ้งไว้เผื่อเอลียาห์ตัดสินใจจะมาร่วมรับประทานอาหารกับพวกเขา

เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายนัยสำคัญของการเยือนพระวิหารเคิร์ทแลนด์ของเอลียาห์ดังนี้

“การกลับมาสู่โลกของเอลียาห์เกิดขึ้นที่พระวิหารแห่งแรกที่สร้างขึ้นในสมัยการประทานนี้ ภายใต้การนำของพระเจ้า ท่านและบรรดาทูตสวรรค์ได้มอบกุญแจพิเศษของอำนาจฐานะปุโรหิตให้แก่ศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟู …

“เอลียาห์ไม่เพียงมากระตุ้นการค้นหาบรรพชนเท่านั้น แต่ท่านมาเพื่อทำให้ครอบครัวได้รับการเชื่อมโยงนิรันดร์นอกเหนือขอบเขตของความเป็นมรรตัยด้วย แน่นอนว่าโอกาสที่จะให้ครอบครัวได้รับการผนึกชั่วนิรันดร์คือเหตุผลที่แท้จริงสำหรับการค้นคว้าของเรา” (ดู “ช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยวครั้งใหม่,” เลียโฮนา, ก.ค. 1998, 39)

3 นีไฟ 25:1–6 “เรียนรู้และประสบกับวิญญาณของเอลียาห์”

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า

“ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้เยาวชนของศาสนจักรเรียนรู้และมีประสบการณ์ในวิญญาณแห่งเอลียาห์ ข้าพเจ้ากระตุ้นท่านให้ศึกษา ค้นหาบรรพชนของท่าน และเตรียมตนเองให้พร้อมประกอบบัพติศมาแทนญาติพี่น้องผู้วายชนม์ ของท่าน ในพระนิเวศน์ของพระเจ้า (ดู คพ.124:28–36) ข้าพเจ้าขอให้ท่านช่วยคนอื่นๆ ค้นหาประวัติครอบครัวของพวกเขาเช่นกัน

“เมื่อท่านขานรับคำเชื้อเชิญนี้ด้วยศรัทธา ใจของท่านจะหันไปหาบรรพบุรุษ คำสัญญาที่ทำไว้กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบจะฝังอยู่ในใจท่าน ปิตุพรของท่านพร้อมด้วยคำประกาศเชื้อสายในนั้นจะเชื่อมโยงท่านกับบรรพบุรุษเหล่านี้และจะมีความหมายต่อท่านมากขึ้น ความรักความกตัญญูที่ท่านมีต่อบรรพชนจะเพิ่มพูน ประจักษ์พยานและการเปลี่ยนใจเลื่อมใสที่ท่านมีต่อพระผู้ช่วยให้รอดจะลึกซึ้งและยั่งยืน ข้าพเจ้าสัญญาว่าท่านจะได้รับความคุ้มครองจากอิทธิพลที่รุนแรงขึ้นของปฏิปักษ์ เมื่อท่านรักและมีส่วนร่วมในงานศักดิ์สิทธิ์นี้ ท่านจะได้รับความคุ้มครองในวัยเยาว์และตลอดชีวิตท่าน” (“ใจของลูกหลานจะหันไป,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 32–33)

3 นีไฟ 25:6 ใจลูกหลานจะหันมาหาบรรพบุรุษของพวกเขา

ประมาณ 430 ปี ก่อนคริสตกาล ศาสดาพยากรณ์มาลาคีพยากรณ์ว่าเอลียาห์จะกลับมาแผ่นดินโลก “ก่อนวันแห่งพระยาห์เวห์ คือวันที่ใหญ่ยิ่งและน่าสะพรึงกลัวจะมาถึง” (มาลาคี 4:5) คำพยากรณ์ดังกล่าวมีความสำคัญมากถึงขนาดพบในพระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอน พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา และพระคัมภีร์ไข่มุกอันล้ำค่า (ดู มาลาคี 4:5–6; 3 นีไฟ 25:5–6; คพ. 2:1–3; โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:37–39) คำพยากรณ์นี้เปิดเผยว่าจุดประสงค์หนึ่งของการกลับมาของเอลียาห์คือเพื่อหันใจลูกหลานมาหาบรรพบุรุษของพวกเขา

ประธานโจเซฟ ฟิลดิงก์ สมิธอธิบายบางด้านซึ่งใจลูกหลานจะหันมาหาบรรพบุรุษของพวกเขา

บรรพบุรุษ คือบรรพชนที่ล่วงลับของเราผู้เสียชีวิตโดยปราศจากสิทธิพิเศษของการได้รับพระกิตติคุณ แต่ได้รับสัญญาว่าเวลาจะมาถึงเมื่อพวกเขาจะได้รับสิทธิพิเศษนั้น ลูกหลาน คือคนที่มีชีวิตอยู่เวลานี้ผู้กำลังเตรียมข้อมูลลำดับเชื้อสายและกำลังประกอบศาสนพิธีแทนผู้วายชนม์ในพระวิหาร

การหันใจลูกหลานมาหาบรรพบุรุษคือการมอบหรือปลูกฝังความรู้สึกและความปรารถนานั้นไว้ในใจลูกหลานซึ่งจะดลใจพวกเขาให้ค้นหาบันทึกของผู้วายชนม์ นอกจากนี้การปลูกฝังความปรารถนาและแรงบันดาลใจไว้ในใจพวกเขาถือว่าจำเป็นเช่นกัน พวกเขาต้องมีสิ่งนี้เพื่อพวกเขาจะเข้าไปในพระนิเวศน์ของพระเจ้าและทำงานที่จำเป็นแทนบรรพบุรุษของพวกเขาผู้สิ้นชีวิตโดยปราศจากความรู้เรื่องพระกิตติคุณ หรือปราศจากสิทธิพิเศษของการได้รับความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณ” (Doctrines of Salvation, ed. Bruce R. McConkie, 3 vols. [1954–56], 2:127–28)