โมไซยาห์ 11–12:17

คำนำ

เพราะความจองหองและการใช้ชีวิตมัวเมาของกษัตริย์โนอาห์นำคนเป็นอันมากไปสู่ความชั่วร้าย พระเจ้าจึงทรงส่งศาสดาพยากรณ์อบิ-นาไดมาเตือนโนอาห์กับผู้คนของเขา อบินาไดเตือนพวกเขาว่าพวกเขาจะตกเป็นทาสถ้าไม่กลับใจ ผู้คนเลือกไม่เอาใจใส่คำเตือน และกษัตริย์โนอาห์สั่งให้นำตัวอบินาไดไปคุมขังในเรือนจำ

ปรับบทเรียนตามความต้องการของนักเรียน

บทเรียนส่วนใหญ่มีความจริงจากพระคัมภีร์มากเกินกว่าจะสอนได้หมดในเวลาที่ให้ ขณะที่ท่านศึกษาพระคัมภีร์และหลักสูตร จงแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้รู้ว่าหลักคำสอนและหลักธรรมใดสำคัญที่สุดที่นักเรียนต้องเรียนรู้และสนทนาในบทเรียน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยท่านปรับบทเรียนแต่ละบทตามความต้องการของนักเรียน

ข้อเสนอแนะสำหรับการสอน

โมไซยาห์ 11:1–19

กษัตริย์โนอาห์นำผู้คนไปสู่ความชั่วร้าย

เขียนคำถามต่อไปนี้ไว้บนกระดานก่อนเริ่มชั้นเรียน

ท่านจะตอบสนองอย่างไรถ้าบิดามารดาบอกว่าเพื่อนบางคนของท่านกำลังมีอิทธิพลที่ไม่ดีต่อท่าน

ท่านจะตอบสนองอย่างไรถ้าผู้นำศาสนจักรบอกว่ากิจกรรมโปรดอย่างหนึ่งของท่านกำลังขัดขวางการเติบโตทางวิญญาณของท่าน

ท่านจะตอบสนองอย่างไรถ้าศาสดาพยากรณ์พูดต่อต้านความบันเทิงอย่างหนึ่งที่ท่านชื่นชอบ

เชื้อเชิญนักเรียนให้ไตร่ตรองคำถามสามข้อนี้ในใจ จากนั้นให้ถามว่า

เหตุใดสถานการณ์เหล่านี้จึงน่าท้าทาย
ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อทำตามคำแนะนำของบิดามารดาหรือผู้นำในสถานการณ์เช่นนี้
เหตุใดคนชอบธรรมจึงเต็มใจทำตามคำแนะนำแม้สิ่งนั้นจะเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงที่ยุ่งยากในชีวิตพวกเขา

อธิบายว่าในบทนี้ นักเรียนจะเรียนเรื่องคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ยอมทำตามคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์

เพื่อให้บริบทสำหรับบทเรียนนี้ เตือนนักเรียนว่าซีนิฟฟ์นำคนกลุ่มหนึ่งไปแผ่นดินแห่งนีไฟ ที่ซึ่งพวกเขาถูกชาวเลมันนำไปเป็นทาส ถึงแม้ความมุ่งหวังมากเกินไปของซีนิฟฟ์จะทำให้เขาถูกชาวเลมันหลอก แต่เขาก็เป็นคนดีและสอนผู้คนให้วางใจในพระเจ้า ก่อนซีนิฟฟ์สิ้นชีวิต เขามอบอาณาจักรให้โนอาห์บุตรชาย (ดู โมไซยาห์ 9–10)

อธิบายว่าโนอาห์เป็นคนชั่วร้าย เพื่อแสดงให้เห็นว่าความชั่วร้ายของเขามีอิทธิพลต่อผู้คนของเขาอย่างไร ให้แบ่งนักเรียนออกเป็นสองกลุ่ม ขอให้กลุ่มที่หนึ่งอ่าน โมไซยาห์ 11:1–2, 5–7 และขอให้กลุ่มที่สองอ่าน โมไซยาห์ 11:14–19 เชื้อเชิญทั้งสองกลุ่มให้หารายละเอียดว่าความชั่วร้ายของกษัตริย์โนอาห์มีอิทธิพลต่อผู้คนอย่างไร ช่วยนักเรียนวิเคราะห์ข้อเหล่านี้โดยถามคำถามดังต่อไปนี้

ท่านคิดว่าเหตุใดผู้คนจึงเต็มใจสนับสนุนโนอาห์ในความชั่วร้ายของเขา
เหตุใด “คำพูดที่ไร้ประโยชน์และคำป้อยอ” จึงทำให้ผู้คนถูกหลอกได้ (ขณะนักเรียนสนทนาคำถามนี้ ท่านอาจต้องการชี้ให้เห็นว่าคำป้อย้อคือการแสแสร้งยกย่อง โดยมักจะทำเพื่อเป่าหูคนที่ได้รับยกย่อง)
จากเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คนของโนอาห์ เราสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้างเกี่ยวกับวิธีที่เราควรตอบสนองต่อคำพูดที่ไร้ประโยชน์และคำพูดป้อยอ (เมื่อเราเชื่อคำพูดที่ไร้ประโยชน์และคำพูดป้อยอของผู้อื่น เท่ากับเราเปิดตัวเราให้เขาชักนำเราไปในทางที่ผิด)
เราจะทำอะไรได้บ้างเมื่อคนที่อยู่รอบข้างเราดำเนินชีวิตอย่างไม่ชอบธรรม

โมไซยาห์ 11:20–12:17

อบินาไดเตือนผู้คนว่าพวกเขาจะถูกนำไปสู่ความเป็นทาสถ้าพวกเขาไม่กลับใจ

เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง โมไซยาห์ 11:20

พระเจ้าทรงทำอะไรเพื่อช่วยผู้คนของโนอาห์ (พระองค์ทรงส่งศาสดาพยากรณ์มาบอกพวกเขาให้กลับใจ)

เขียนหลักธรรมต่อไปนี้บนกระดาน: พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งศาสดาพยากรณ์มาช่วยให้เรากลับใจและหลีกเลี่ยงความเศร้าหมอง อธิบายว่าพระเจ้าทรงส่งอบินาไดมาเตือนผู้คนสองครั้ง

ลอกแผนภูมิต่อไปนี้ไว้บนกระดาน เว้นช่องว่างให้มากพอจะเขียนสรุปไว้ใต้พระคัมภีร์อ้างอิงแต่ละข้อ

	ข่าวสารของอบินาได	การตอบสนองของผู้คน
การเตือนครั้งที่หนึ่ง	โมไซยาห์ 11:20–25	โมไซยาห์ 11:26–29
การเตือนครั้งที่สอง	โมไซยาห์ 12:1–8	โมไซยาห์ 12:9–17

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจข่าวสารของอบินาได ขอให้นักเรียนครึ่งหนึ่งอ่าน โมไซยาห์ 11:20–25 ซึ่งพูดถึงการเตือนครั้งแรกของอบินาได และขอให้นักเรียนอีกครึ่งหนึ่งอ่าน โมไซยาห์ 12:1–8 ซึ่งพูดถึงการเตือนครั้งที่สอง เชื้อเชิญนักเรียนในแต่ละกลุ่มให้สรุปข่าวสารของอบินาไดขณะที่นักเรียนคนหนึ่งเขียนสรุปบนกระดานใต้ข้ออ้างอิงที่เหมาะสม

เชื้อเชิญนักเรียนให้เขียนบนกระดาน

เมื่อนักเรียนเขียนบนกระดาน ท่านสามารถหันหน้าเข้าหาชั้นเรียนและดำเนินการสนทนาต่อไป โดยดึงความสนใจของนักเรียนมาที่กระดานและกระตุ้นการมีส่วนร่วม เตือนนักเรียนว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องเขียนคำตอบทั้งหมด—แค่คำสำคัญเพียงไม่กี่คำจากความเห็นของคนในกลุ่ม เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมท่านอาจจะเชิญนักเรียนคนหนึ่งมาเขียนสักสองสามนาทีแล้วให้อีกคนหนึ่งมีโอกาสทำหน้าที่เป็นผู้จด

ท่านเห็นความแตกต่างอะไรบ้างระหว่างการเตือนสองครั้งของอบินาได

เพื่อช่วยให้นักเรียนเห็นความแตกต่างเหล่านี้ ท่านอาจดึงความสนใจของพวกเขามาที่ โมไซยาห์ 11:20–25 และข้อความที่ซ้ำกัน “เว้นแต่พวกเขาจะกลับใจ” และ “เว้นแต่คนพวกนี้จะกลับใจ” ท่านอาจต้องการกระตุ้นพวกเขาให้ทำเครื่องหมายข้อความเหล่านี้ จากนั้นกระตุ้นพวกเขาให้หาความแตกต่างระหว่างการใช้คำในข้อความเหล่านี้กับการใช้คำใน โมไซยาห์ 12:1–8 ท่านอาจเสนอแนะให้นักเรียนเอาใจใส่คำว่า จะ ในข้อเหล่านี้เป็นพิเศษ (ช่วยให้นักเรียนเห็นว่าผู้คนจะหนีรอดจากผลเหล่านี้ได้ถ้าพวกเขากลับใจหลังจากการเตือนครั้งแรก เพราะพวกเขาไม่ยอมกลับใจ ผลจึงแน่นอนและรุนแรงขึ้นในการเตือนครั้งที่สองของอบินาได)

ความแตกต่างเหล่านี้สอนอะไรท่านเกี่ยวกับผลของการไม่เอาใจใส่คำเตือนของศาสดาพยากรณ์
อะไรคืออันตรายของการดึงดันในบาปของเราและไม่กลับใจ

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจการตอบสนองของผู้คนต่อข่าวสารของอบินาได ขอให้นักเรียนครึ่งห้องอ่าน โมไซยาห์ 11:26–29 โดยสังเกตการตอบสนองที่ผู้คนและกษัตริย์ของพวกเขามีต่อข่าวสารครั้งแรกของอบินาได ขอให้นักเรียนอีกครึ่งห้องอ่าน โมไซยาห์ 12:9–17 โดยสังเกตการตอบสนองต่อข่าวสารครั้งที่สองของอบินาได ขอให้นักเรียนในแต่ละกลุ่มสรุปการตอบสนองต่างๆ ขณะที่นักเรียนคนหนึ่งเขียนสรุปลงในแผนภูมิ

ท่านคิดว่าเหตุใดผู้คนจึงตอบสนองด้วยการโกรธอบินาไดผู้กำลังพยายามช่วยพวกเขา ท่านคิดว่าเหตุใดพวกเขาจึงปกป้องกษัตริย์โนอาห์ผู้กำลังนำพวกเขาไปสู่ความเศร้าหมอง
ใน โมไซยาห์ 11:29 เราอ่านว่า “ดวงตาของผู้คนมืดบอด” คนเหล่านี้มืดบอดต่อความจริงอย่างไร

ขณะที่นักเรียนสนทนาคำถามนี้ จงช่วยให้พวกเขายอมรับหลักธรรมต่อไปนี้: บาปสามารถทำให้เรามืดบอดไม่ยอมรับความจริงในถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ อธิบายว่าในความมืดบอดของพวกเขา ผู้คนคิดว่าโนอาห์เป็นมิตรและอบินาไดเป็นศัตรูทั้งที่ฝ่ายตรงข้ามพูดความจริง ขอให้นักเรียนไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้ในใจ

ท่านเคยโกรธหรือปกป้องความผิดของท่านเมื่อมีคนติเพื่อก่อหรือไม่ แม้จะรู้ว่าพวกเขาพูดถูก
ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อยอมรับคำแนะนำของสมาชิกครอบครัว ผู้นำศาสนจักรในท้องที่ และศาสดาพยากรณ์เมื่อพวกเขาแนะนำท่านให้ทำตามพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า

ชี้ให้เห็นว่าคนมากมายกระตุ้นเราให้ดำเนินชีวิตตามพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า เพื่อช่วยให้นักเรียนตรึกตรองมากขึ้นว่าจะตอบสนองอย่างเหมาะสมอย่างไรต่อคนที่แนะนำเราให้เปลี่ยนแปลงหรือกลับใจ ให้กลับไปที่คำถามสามข้อที่ท่านเขียนไว้บนกระดานก่อนชั้นเรียนเริ่ม ขอให้นักเรียนตอบคำถามหนึ่งข้อลงในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์หรือสมุดจดในชั้นเรียนของพวกเขา เมื่อพวกเขามีเวลาเขียนมากพอแล้ว ให้เชิญสองสามคนพูดถึงช่วงเวลาที่พวกเขาได้รับพรเพราะทำตามคำแนะนำจากบิดามารดาและผู้นำ กระตุ้นพวกเขาให้แสวงหาและทำตามคำแนะนำของบิดามารดา ผู้นำศาสนจักรในท้องที่ และศาสดาพยากรณ์

การทบทวนผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์

การเข้าใจข้อพระคัมภีร์ของนักเรียนจะเพิ่มขึ้นเมื่อพวกเขาตั้งคำถามของตนเองเกี่ยวกับข้อนั้น เชื้อเชิญนักเรียนให้ทำงานด้วยกันในชั้นหรือในกลุ่มเล็กเพื่อเขียนคำไขที่ชี้บอกผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ข้อใดข้อหนึ่ง (ท่านอาจต้องการเลือกกลุ่มข้อพระคัมภีร์ที่ท่านประสงค์จะให้นักเรียนเรียนรู้หรือทบทวน) จากนั้นให้พวกเขาอ่านคำไขให้ท่านฟัง ท่านจะได้คะแนนถ้าท่านทายข้อผู้เชี่ยวชาญพระคัมภีร์ได้อย่างถูกต้อง นักเรียนจะได้คะแนนถ้าท่านทายผิด

หมายเหตุ: ถ้าท่านไม่มีเวลาใช้กิจกรรมนี้ให้เป็นส่วนหนึ่งของบทเรียนนี้ ท่านอาจจะใช้ในวันอื่น ดูกิจกรรมทบทวนอื่นๆ ในภาคผนวกท้ายคู่มือเล่มนี้